หานหลินปิงรู้สึกพอใจกับการแสดงออกเช่นนี้มาก จนเผลอที่จะเผยรอยยิ้มออกมาเสียไม่ได้ พร้อมกับแสดงท่าทางของผู้ที่เหนือกว่า จนอนุภรรยาทั้งสองแทบอยากจะกรีดร้องออกมาเสียงดัง เหตุใดทิศทางลมถึงได้เปลี่ยนทิศเร็วยิ่งนัก สตรีผู้นี้อยู่ดีๆ ก็มีความกล้าขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด พวกนางได้แต่จดจำความแค้นในครั้งนี้เอาไว้ เพราะถึงอย่างไรฮูหยินผู้เฒ่าจ้าว ก็ให้ความโปรดปรานกับพวกนางอยู่ไม่น้อยไม่ใช่หรือ ถึงแม้ตำแหน่งจะเป็นเพียงอนุภรรยา แต่พวกนางก็หาได้เป็นเพียงแค่บุตรสาวชาวบ้านธรรมดา พวกนางเป็นถึง บุตรของขุนนางขั้น 3 ในราชสำนัก ถึงแม้จะเป็นเพียงบุตรอนุ แต่ก็สามารถสนับสนุนสามีได้อยู่ไม่น้อย ดังนั้นหากผู้คนตระกูลจ้าวที่เป็นเพียงครอบครัวคหบดีธรรมดา คิดจะทำสิ่งใด ก็ควรที่จะไว้หน้าพวกนางอยู่เช่นกัน
"ความแค้นในวันนี้ ข้าจะต้องเอาคืนเจ้าให้สาสม"
ถึงแม้นว่าจะถูกตบจนเลือดกลบปาก แต่สายตาที่ไม่ยินยอมและอาฆาตแค้นก็ยังคงจ้องมองไปที่หานหลินปิงอย่างไม่ลดละ แต่หญิงสาวกลับทำเพียงนั่งยิ้มอย่างอารมณ์ดีอยู่บนที่นั่งของตนเอง ชมการลงโทษนี้อย่างพอใจ
จ้าวฝูหมิงก็รับรู้ได้ในทันที ว่าอี้เหนียงทั้งสองคนของเขาไม่เคยให้ความเคารพหานหลินปิงที่ตำแหน่งเหนือกว่าแต่อย่างใด ที่เป็นเช่นนี้คงเพราะ มีผู้หนุนหลังพวกนางให้กำเริบเสิบสานได้ถึงเพียงนี้ใช่หรือไม่ ไม่ต้องบอกให้มากความ เขาก็รู้ในทันทีว่าเป็นผู้ใด เหตุใดท่านแม่ถึงไม่เข้าใจเรื่องราวเลยสักนิดเล่า ปัจจุบันนี้มารดาของเขายังคงพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อให้เขารับฮูหยินรองเข้ามา ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็วิธีหนึ่ง
แต่เรื่องมาถึงตรงนี้จะให้เขายอมละทิ้งความตั้งมั่นของตนเอง ที่จะชดเชยความผิดทั้งหมดได้อย่างไรจริงอยู่ที่บุรุษสามารถมีมากภรรยาได้ แต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ กระนั้นหรือ หากมากภรรยาแล้วจะต้องทำให้สตรีอันเป็นที่รักของตนเองต้องรู้สึกเจ็บปวด เขาก็ไม่คิดที่จะทำมันอีกต่อไป ดูได้จากท่าทีที่เปลี่ยนไปของนาง เขาก็พอจะรับรู้ได้แล้วว่าที่ผ่านมานางหาได้มีความสุขอันใดในจวนแห่งนี้
….
ดูเหมือนว่าเรื่องราวทุกอย่างดูจะสงบผิดปกติ ฮูหยินผู้เฒ่าจ้าวไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ในช่วงนี้ จึงทำให้จ้าวฝูหมิงรู้สึกหายใจหายคอได้โล่งขึ้น รวมถึงอี้เหนียงทั้ง 2 ที่อยู่อย่างสงบเสงี่ยม หลังจากถูกลงโทษไปในวันนั้น จะมีก็แต่เพียงหานหลินปิงเท่านั้น ที่คิดว่าความสงบในครั้งนี้ อีกไม่นานคงจะมีคลื่นใต้น้ำปรากฏขึ้นให้เห็นอย่างแน่นอน
นางจึงได้ออกคำสั่งให้กับคนสนิทของตนเองคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของผู้คนในจวนอย่างลับๆ
"ฮูหยินเป็นไปอย่างที่ท่านได้คิดเอาไว้ดูเหมือนว่าฮูหยินผู้เฒ่าจ้าว ได้ส่งคนไปรับหลานสาวจากตระกูลเดิมผู้นั้นมาอย่างลับๆ เกรงว่าคงจะคิดทำแผนการอันใดเป็นแน่"
"อืม… มันต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว ด้วยพื้นเพเดิมของหญิงชราผู้นั้น มีหรือจะยอมแพ้โดยง่าย เมื่อเห็นท่าทีที่ไม่ยินยอม และปฏิเสธแข็งขันของบุตรชายตนเองเช่นนี้ นางคงคิดที่จะรวบหัวรวบหาง เพื่อทำแผนการบางอย่างโดยที่ทำให้บุตรชายไม่สามารถปฏิเสธได้โดยง่ายเป็นแน่"
แต่หากจะทำเช่นนั้นได้ อันดับแรก ต้องกีดกันนางออกไปที่ใดสักแห่งเสียก่อน หานหลินปิงได้แต่นั่งยิ้มอย่างพอใจ เมื่อคิดถึงแผนการที่กำลังจะเกิดขึ้น หญิงชราผู้นี้หากไม่สั่งสอนให้รู้จักสำนึกเสียบ้าง คงคิดว่าตนเองอยู่เหนือกว่าผู้อื่นอยู่ร่ำไป เช่นนี้นางคงต้องสั่งสอนให้หญิงชราผู้นั้นได้รู้จักคำว่าผิดหวังบ้างเสียแล้ว เมื่อคิดถึงแผนการของตนเองขึ้นมา หญิงสาวจึงได้แต่ก้มลงไปกระซิบบอกแผนการของตนเองกับคนสนิท
"ขอรับ" จูเฉิงหนิงที่คนทั่วไปคิดว่าเป็นเพียงบ่าวรับใช้คนสนิทที่มาจากตระกูลเดิมของหานหลินปิงพยักหน้ารับ แต่แท้ที่จริงแล้วเขาคือองครักษ์ที่มีวรยุทธ์เป็นเลิศผู้หนึ่ง ที่คอยติดตามมารับใช้ผู้เป็นนายด้วยความซื่อสัตย์
ที่ผ่านมาเพราะผู้เป็นนายไม่ได้ให้เขาออกไปสืบความใด ให้อยู่อย่างเงียบๆ ในที่ของตนเอง จนเขาแทบจะลืมความสามารถของตนเองไปเสียแล้ว เมื่อในวันนี้มีคำสั่งจากผู้เป็นนาย ให้ออกไปสืบความอย่างที่ตนถนัด เขาก็ไม่รีรอไปปฏิบัติหน้าที่ของตนเองด้วยดวงตาเป็นประกาย ที่ในที่สุดก็ได้ทำในสิ่งที่ตนเองถนัดเสียที ดีกว่ากลายเป็นคนที่ไร้ประโยชน์อยู่ในจวนแห่งนี้มานานแสนนาน เขาจากไปด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า อย่างที่หาดูได้ยาก
หานหลินปิงหลังจากที่ได้สั่งความคนสนิทของตนเองไปแล้ว ก็หันมาให้ความสนใจกับการปักผ้าที่อยู่ในมือต่อ ท่าทีที่ไร้ซึ่งความวิตกกังวลใดเช่นนี้ ช่างต่างกันกับท่าทีที่ดูเศร้าสร้อยในวันวานเสียเหลือเกิน สตรีที่มีทั้งยศฐาบรรดาศักดิ์และอำนาจในมือ มีผู้คนที่มีความสามารถอยู่รายล้อม กลับไม่เคยคิดที่จะใช้อำนาจเหล่านี้ของตนเองมากำราบผู้คนที่คอยคิดจะเอารัดเอาเปรียบนางแต่อย่างใด ด้วยหวังว่าการอยู่อย่างอ่อนน้อมถ่อมตนในที่ของตนเองเช่นนี้ จะทำให้ครอบครัวของผู้เป็นสามีเห็นอกเห็นใจและเห็นถึงความจริงใจของนางในสักวัน
แต่มีสิ่งหนึ่งที่หานหลินปิงคนเก่าไม่เคยรับรู้เลยนั่นก็คือ ความเป็นจริงของนิสัยมนุษย์นั้นจะยิ่งรู้สึกได้ใจกับสิ่งที่ตนเองได้มา จนไม่รู้จักขอบเขตของความเป็นจริงเมื่อมีครั้งหนึ่งได้ ก็จะเรียกร้องครั้งต่อๆ ไปอย่างไม่รู้จักพอ…
"ฮูหยินน้อย ฮูหยินผู้เฒ่าจ้าวให้ข้ามาแจ้งว่าในอีก 3 วันข้างหน้า จะไปไหว้พระที่วัดอานจิ้ง ให้ฮูหยินน้อยเตรียมตัวให้พร้อมด้วย"
"มีผู้ใดไปบ้างหรือ"
"ฮูหยินผู้เฒ่าแจ้งมาว่า ทุกคนในตระกูลเจ้าค่ะ" หมัวมัวคนสนิทของฮูหยินผู้เฒ่าจ้าวชี้แจงรายละเอียดออกไปอย่างไม่มีขาดตกตามหน้าที่ที่ได้รับคำสั่งมา
หลังจากที่หานหลินปิงได้ทราบรายละเอียดทั้งหมดแล้วนางก็ทำได้เพียงพยักหน้ารับ และรับปากว่าจะเตรียมตัวให้พร้อมอย่าได้กังวล เมื่อหมัวมัวผู้นั้นได้จากไปแล้ว จากใบหน้าที่ยิ้มแย้มก่อนหน้าได้แปรเปลี่ยนเป็นความเฉยชา สายตาของนางดำดิ่งลึกลงไปคล้ายกับก้นมหาสมุทรที่ยากจะหยั่งถึง
"แผนการคงเริ่มแล้วสินะ" หญิงสาวจับกำไลที่อยู่บนข้อมือไปมา คล้ายกับใช้ความคิดบางอย่าง...
เพียงไม่นานก็ครบกำหนดวันที่จะต้องเดินทางไปไหว้พระยังวัดอานจิ้ง ทุกคนตื่นมารวมกันที่หน้าจวนตั้งแต่เช้าอย่างพร้อมเพียงขาดก็แต่เพียงหานหลินปิงและจ้าวฝูหมิงผู้เป็นสามี ซึ่งเรื่องนี้ได้สร้างความแปลกใจให้กับเหล่าข้ารับใช้ที่ยืนรออยู่ที่หน้าจวนเป็นอย่างมากเพราะโดยปกติแล้ว หานหลินปิงมักจะเป็นคนแรกที่ออกมายืนรอผู้อื่นอยู่เสมอเหตุใดครั้งนี้ฮูหยินน้อย ถึงได้ทำให้พวกเขาคาดไม่ถึงได้เช่นนี้เล่า
แต่ดูเหมือนว่าท่าทีเช่นนั้นจะไม่ได้มีผลอันใดกับฮูหยินผู้เฒ่าจ้าว คล้ายกับว่านางรู้อยู่แล้วว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะต้องเกิดขึ้น นางจึงทำได้เพียงส่งคนออกไปถามถึงความล่าช้าในครั้งนี้ โดยไร้ซึ่งท่าทีเคืองขุ่นใดๆ อย่างที่ผู้อื่นคาดว่าจะได้พบเจอ
"เรียนฮูหยินผู้เฒ่า ฮูหยินน้อยฝากความมาบอกว่าเนื่องด้วยว่าคุณชายเกิดล้มป่วยกระทันหัน คุณชายมีอาการถ่ายหนักอย่างรุนแรงจึงไม่อาจที่จะร่วมเดินทางไปยังวัดอานจิ้งในครั้งนี้ได้ ฮูหยินน้อยจึงได้อาสาดูแล คุณชายด้วยตนเอง ให้ฮูหยินผู้เฒ่าล่วงหน้าไปก่อนได้เลย"
"จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร หมิงเอ๋อร์เหตุใดถึงได้ล้มป่วยกระทันหัน แล้วเขาเป็นอันใดมากหรือไม่"
"ไม่ขอรับ ตอนนี้ได้ให้ท่านหมอมาดูแล้ว ไม่มีอาการน่าเป็นห่วงใด มีฮูหยินน้อยคอยดูแลเกรงว่าอีกไม่นานก็คงจะกลับมาหายเป็นปกติ"
"เป็นเช่นนั้นหรือ ถึงอย่างไรหมิงเอ๋อร์ก็ปลอดภัยแล้ว กว่าตระกูลเราจะมีโอกาสได้ไปไหว้พระทั้งครอบครัวเช่นนี้ช่างหาได้ยาก เอาคำสั่งของข้าไปบอกกับฮูหยินน้อย ให้นางเดินทางไปกับพวกเราในครั้งนี้ด้วยและให้บ่าวรับใช้คอยอยู่ดูแลหมิงเอ๋อร์ก็พอ"
บ่าวรับใช้ผู้นั้นทำหน้าคล้ายกับเห็นผี เพราะคำเรียกขานเมื่อสักครู่นี้ของฮูหยินผู้เฒ่าจ้าวที่มีต่อนายหญิงของตน แต่นั่นยังไม่แปลกเท่ากับผู้เป็นมารดาห่วงไปขอพรไหว้พระมากกว่าอาการเจ็บป่วยของบุตรชายเพียงคนเดียวนี้สิ ที่ทำให้พวกเขายากจะเชื่อหู...
บ่าวรับใช้ผู้นั้นทำท่ากระอักกระอ่วนใจ แต่ก็ยอมรับคำของฮูหยินผู้เฒ่าจ้าวกลับไปบอกข่าวกับนายของตนเอง เขาเป็นเพียงบ่าวรับใช้ผู้ต่ำต้อย จะสามารถทัดทานคำสั่งนี้ได้อย่างไรเล่า
เมื่อหานหลินปิงได้ยินถ้อยคำที่ฝากมาถึงตน นางก็ได้แต่เลิกคิ้วขึ้น พร้อมกับพยักหน้ารับและหันไปบอกกับสามีของตนเองที่นอนใบหน้าซีดเผือดอยู่บนเตียง ด้วยท่าทีเหนื่อยอ่อน "ท่านพี่ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะให้มู่หลันคอยอยู่รับใช้ท่านถึงจะวางใจได้ หากมีเรื่องเร่งด่วนอันใด ให้รีบส่งคนไปบอกกับข้าเข้าใจหรือไม่"
หานหลินปิงทำหน้าที่ภรรยาที่ดี คล้ายห่วงใยสามีอย่างสุดซึ้ง แต่มีเพียงนางเท่านั้นกระมัง ที่รู้ว่าการแสดงออกเช่นนี้ เป็นเพียงการแสดงละคร เพื่อตบตาผู้คนเพียงเท่านั้น หญิงสาวหาได้มีความรู้สึกอันใดกับบุรุษผู้นี้ ที่รังแต่จะสร้างความเดือดเนื้อร้อนใจให้กับเจ้าของร่างเดิม นางรู้สึกไม่ชอบใจเสียด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่สามารถแสดงมันออกมาได้เพราะตนเองยังอยู่ในร่างของ ผู้เป็นภรรยาอันเป็นที่รักของบุรุษผู้นี้อยู่
จ้าวฝูหมิงยกมือขึ้นมากุมมือของภรรยาตนเองเอาไว้ พร้อมกับกล่าวออกมาด้วยเสียงที่แหบพร่าจากความเหนื่อยอ่อน "หลินเอ๋อร์ วางใจเถิด ข้ารู้สึกไม่เป็นอันใดมากแล้ว แค่เหนื่อยอ่อนเพียงนิดหน่อย เจ้าก็ไปทำตามคำสั่งของท่านแม่เถิด ดูเหมือนว่า ช่วงนี้ท่านแม่เอง ก็พยายามที่จะปรับตัว ทำดีกับเจ้าอยู่ไม่น้อยเช่นกัน เป็นเช่นนี้ข้าก็รู้สึกวางใจแล้ว"
"เจ้าค่ะ" หานหลินปิง ทำเพียงพยักหน้ารับ พร้อมกับส่งยิ้มละมุนไปให้กับผู้เป็นสามีอย่างอ่อนโยน….
ปรับตัวเพื่อทำความเข้าใจกับข้ากระนั้นหรือ สตรีที่มากเล่ห์ผู้นั้นมีหรือแค่เพียงเวลาชั่วข้ามคืน จะรู้จักเปลี่ยนแปลงตนเองได้เช่นนี้ ต่อจากนี้ต่างหากเล่าถึงจะเป็นการประกาศสงครามระหว่างหญิงชราผู้นั้นกับนางอย่างแท้จริง
เกรงว่าจากนี้ต่อไปหญิงชราผู้นั้น คงจะรู้แล้วถึง ฤทธิ์เดชของนาง และคงจะไม่ยอมอยู่เฉย เพื่อที่จะเป็นผู้ถูกกระทำเพียงฝ่ายเดียวเป็นแน่ แต่มีหรือที่นางจะรู้สึกกลัว การสั่งสอนหญิงชราผู้นั้น ถือว่าเป็นหน้าที่หลักอีกหน้าที่หนึ่ง ที่นางจะสามารถตอบแทนให้กับเจ้าของร่างผู้นี้ได้เช่นกัน