เมืองเหิงเตี้ยน
Hengdian World Studios
โรงถ่ายทำที่เมืองเหิงเตี้ยนถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีส์ย้อนยุคใหญ่ที่สุดในประเทศจีนและในโลกเลยก็ว่าได้ สถานที่ถ่ายทำในเมืองเหิงเตี้ยนนั้นกว้างใหญ่เท่ากับเมืองหนึ่งในยุคอดีต แต่ละสถานที่ใช้เวลานานนับสัปดาห์กว่าจะไปครบทุกจุด ซึ่งภายในนั้นจะสร้างเป็นเมืองในยุคโบราณทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือนของผู้คนในสมัยโบราณ
ทั้งนี้เพื่อสะท้อนการใช้ชีวิตและความเป็นอยู่ของคนในยุคอดีต ตลอดจนถึงพระราชวังหลวงในสมัยโบราณ วังหลังซึ่งแยกเป็นตำหนักต่างๆ อุทยานหลวง จวนของเหล่าขุนนางและคหบดีผู้ร่ำรวย ตลอดจนถึงสร้างเมืองในยุคเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ก็อยู่ในโรงถ่ายนี้ด้วยเช่นกัน ทุกอย่างเหมือนจริงดั่งเช่นยุคโบราณไม่มีผิดเพี้ยน
และสถานที่ถ่ายทำเหิงเตี้ยนก็ได้เปิดเมืองเพื่อต้อนรับการถ่ายทำซีรีส์เรื่องยาว “นางมารร้ายตำหนักบูรพา” ฝีมือผู้กำกับชื่อดังเกาหยวนจาง ซึ่งได้ฉายาว่าผู้กำกับหมื่นล้าน เพราะลงมือกำกับเรื่องไหนเรื่องนั้นดังเป็นพลุแตก มียอดวิวในระดับหมื่นล้านวิวทุกเรื่อง ส่งผลให้ทัพดารานักแสดงจนถึงตัวประกอบต่างโด่งดังกันทั่วหน้า
กองทัพนักข่าวต่างเฝ้ารอทำข่าวซีรีส์เรื่องนี้กันตั้งแต่เช้า ภายหลังจากทำพิธีบวงสรวงและเปิดกล้องไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อสามวันก่อน และวันนี้เป็นการถ่ายทำครั้งแรก ซึ่งนักแสดงที่มีคิวถ่ายทำต่างเดินทางมาอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา และนักแสดงหลักๆ ซึ่งมีคิวถ่ายทำในวันนี้กำลังพากันนั่งแต่งตัวตามห้องที่ถูกจัดเอาไว้ และเฉินวาวาก็กำลังรอช่างแต่งหน้ามารับช่วงต่อหลังจากช่างทำผมจัดการกับทรงผมที่จะต้องถ่ายทำฉากในวันนี้
ดวงตาคู่สวยไร้สิ้นเครื่องสำอาง เปิดเปลือยผิวขาวอมชมพูนวลเนียน ดวงหน้าเงางาม คิ้วโก่งได้รูปสวยมิต้องเสียเวลาวาดแต่งเติมแม้แต่น้อย ริมฝีปากเรียวอวบอิ่มสีแดงอมชมพูไม่ต้องแต่งคนสวยยังไงก็เอาอยู่ ดวงหน้างามสะท้อนอยู่บนกระจกเงาบานใหญ่ในห้องแต่งตัวเพื่อเพ่งพิศตัวเอง
“เหยียนเหยียน ฉากวันนี้ที่จะต้องถ่ายทำเป็นพิธีแต่งงานในสมัยโบราณ ต้องเกล้าผมสูงขนาดนี้เลยเหรอทำไมฉันรู้สึกคุ้นๆ จังเลยกับการเกล้าผมแบบนี้” หญิงสาวเอ่ยกับเพื่อนรัก
“แกนี่ถ้าจะบ้าแล้ววาวา นี่เป็นซีรีส์จีนโบราณเรื่องแรกของแกที่จะต้องเกล้าผมเพื่อสวมมงกุฎเจ้าสาว เรื่องอื่นที่เคยเล่นมามีพิธีแต่งงานแบบนี้ด้วยเหรอ นึกให้ดีสิเพิ่งจะเป็นดาราแค่สองสามปีเอง มีซีรีส์โบราณกี่เรื่องยะที่เคยเล่นและสวมชุดแต่งงาน” ชิงเหยียนเอ่ยทบทวนความจำให้เพื่อนสนิทได้ล่วงรู้
“แหม...ถามนิดเดียวแม่ตอบยาวเป็นประเทศเลย ก็แค่คุ้นๆ ก็เลยถาม” หญิงสาวกล่าวพลางก้มหน้าก้มตาอ่านบทที่จะต้องเข้าฉากถ่ายทำในวันนี้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นเมื่อช่างแต่งหน้าและฝ่ายจัดเสื้อผ้าก้าวเข้ามาในห้อง
“คุณวาวาแต่งหน้าเจ้าสาวก่อนนะคะ แล้วค่อยสวมชุดเข้าฉาก” เจ้าหน้าที่กองถ่ายบอกกับเธอ
หญิงสาวพยักหน้าขึ้นลงติดๆ กันพร้อมส่งยิ้มหวานให้อย่างเป็นมิตรเมื่อช่างแต่งหน้าเริ่มเข้ามาทำหน้าที่ของตน
เวลาผ่านไปนานกว่าหนึ่งชั่วโมง ใบหน้างามลึกล้ำถูกเนรมิตด้วยฝีมือช่างแต่งหน้าจนหญิงสาวต้องกะพริบตาติดต่อกันเมื่อเห็นตัวเองในกระจกเงา กับใบหน้างามอย่างมีมิติเพื่อให้รับกับชุดเจ้าสาว
“สวยไม่มีที่ติเลยค่ะคุณวาวา บอกตรงๆ ว่าคุณเป็นนางร้ายที่สวยกว่านางเอกของเรื่องเชียวนะ” ช่างแต่งหน้าซึ่งเป็นอาจารย์จากสถาบันการสอนเทคนิคแต่งหน้าการละครกล่าวอย่างชื่นชม
“มันต้องแน่นอนอยู่แล้วละค่ะ นางร้ายหน้าสวยโคตรๆ ต้องยกให้เฉินวาวา บทนางเอกนางไม่เล่นเพราะนางเล่นแต่บทร้ายและตีแตกกระจุย จนกวาดรางวัลมานับไม่ถ้วนเลย” ชิงเหยียนกล่าวเสริมยกยอเพื่อนตัวเอง
“พอเหอะเหยียนเหยียน! พูดดังเดี๋ยวก็โดนคนอื่นเขม่น เกิดมีประเด็นดราม่าขึ้นมาฉันขี้เกียจจะมาตอบคำถามนักข่าวแทนแกที่ขยันสร้างเรื่องรู้ไหม” หญิงสาวปรามเพื่อนรัก
ยังมิทันที่อู๋ชิงเหยียนจะตอบโต้เพื่อนสาว ฝ่ายคัดสรรเสื้อผ้าก็เดินถือชุดเจ้าสาวพร้อมเครื่องประดับเข้ามาภายในห้องพลางส่งยิ้มหวานให้
“ชุดเจ้าสาวสำหรับเข้าฉากแต่งงานมาแล้วค่ะ ตัดเย็บรับกับรูปร่างของคุณวาวาไม่ต้องกลัวว่าจะสวมไม่พอดีนะคะ” ฝ่ายเสื้อผ้ากล่าวอธิบายพร้อมกับชุดคลุมของเจ้าสาวเข็นเข้ามาในห้อง
ดวงตากลมโตมองชุดคลุมเจ้าสาวสีขาวประกายมุก ปักลวดลายหงส์กางปีกผงาด พร้อมหันไปมองตัวชุดด้านในซึ่งเป็นสีขาวเช่นกัน กำลังเตรียมจะสวมบนร่างระหงของเธอ
“ดะ...เดี๋ยว...นี่ชุดเจ้าสาวอย่างนั้นเหรอ!”หญิงสาวถามย้ำอีกครั้ง
และคำถามของเธอทำให้ทุกคนต่างหันกลับมามองหน้ากันด้วยความสงสัยเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“ชุดเจ้าสาวก็ต้องเป็นแบบนี้แหละค่ะคุณวาวา สงสัยอะไรเหรอคะ” เจ้าหน้าที่ฝ่ายงานเสื้อผ้านักแสดงถามกลับไปด้วยความงุนงง
“อะ... เอ่อ... มะ... ไม่ใช่สีแดงหรอกเหรอ ปกติพิธีแต่งงานของจีนโบราณสวมชุดสีแดงทั้งนั้น” หญิงสาวถามกลับไปด้วยความสงสัยระคนแปลกใจ
และนั่นทำให้ฝ่ายออกแบบเสื้อผ้าต้องอธิบายให้กับนักแสดงสาวตัวแม่ให้ล่วงรู้ข้อมูลเบื้องต้น
“อ่อ! คุณวาวาคงจะยังไม่ได้รับบทละครฉบับปรับปรุง เรื่องการปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สอดคล้องกับเนื้อเรื่อง ตอนแรกทางผู้กำกับจะให้เป็นสีแดงแต่ทางเจ้าของบทประพันธ์มีความเห็นแย้งในเรื่องนี้ ก็เลยต้องปรับเปลี่ยนกะทันหัน ทางเจ้าของบทประพันธ์ต้องการให้เหมือนจริงตามท้องเรื่องซึ่งเป็นยุคสมัยที่มีกษัตริย์ปกครองแต่ละแคว้น ในสมัยนั้นพิธีสมรสนิยมใช้สีขาวเข้าพิธีแต่งงานค่ะ”
ใบหน้างามพยักขึ้นลงติดต่อกันเมื่อได้ยินคำอธิบายเช่นนั้น
“อ่อ... อย่างนั้นเหรอคะ วาวาก็เพิ่งรู้จากคุณนี่แหละว่ายุคสมัยนั้นใช้สีขาว นึกว่าสวมชุดสีแดงตั้งแต่โบราณมาเลย” หญิงสาวตอบกลับไปในสิ่งที่เธอล่วงรู้มา ทำให้ฝ่ายเสื้อผ้าได้แต่ยืนอมยิ้มเมื่อได้ยินเช่นนั้นก่อนจะอธิบายกลับไป
“ในช่วงต้นๆ ของยุคโบราณนับตั้งแต่ราชวงศ์เซี่ย ราชวงศ์ซาง จะใช้สีดำสลับแดงในพิธีแต่งงาน ซึ่งสีดำในสมัยนั้นหมายถึงอำนาจอันยิ่งใหญ่ ต่อมาในราชวงศ์โจวตะวันตกจะใช้สีดำสำหรับเข้าพิธี แต่พอมาถึงยุคโจวตะวันออกใช้สีขาวในพิธีแต่งงาน และใช้สีขาวเรื่อยมามาจนถึงยุคชุนชิวและยุคจ้านกว๋อค่ะ”เจ้าหน้าที่ฝ่ายเสื้อผ้าอธิบายเสียยืดยาว
ใบหน้างามลึกล้ำส่งยิ้มแหยๆ กลับไปเมื่อได้ยินคำอธิบาย
“แหะๆ... วาวาขอบคุณมากนะคะที่อธิบายเกร็ดประวัติศาสตร์ให้รู้ แย่มากๆ เลยเป็นลูกหลานเชื้อสายจีนเสียเปล่า แต่กลับไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับบรรพบุรุษ”
“คนไม่รู้ย่อมไม่ผิดค่ะ คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ก็คิดเหมือนกับคุณวาวาเช่นกัน ยิ่งเกิดและโตในต่างประเทศแบบคุณด้วยแล้วยากที่จะทราบนอกจากจะศึกษาประวัติศาสตร์เป็นการส่วนตัว หรือเรียนทางด้านประวัติศาสตร์มา” เจ้าหน้าที่ฝ่ายดูแลเสื้อผ้าส่งยิ้มให้ด้วยความเอ็นดู ก่อนจะกล่าวสำทับตามติดมา
“รีบสวมชุดแต่งงานเถอะค่ะ เดี๋ยวจะต้องเดินทางไปถ่ายทำฉากแรกแล้ว” กล่าวพร้อมรีบหยิบชุดเจ้าสาวโบราณคลี่ออกกว้างเพื่อสวมบนร่างงามอย่างรวดเร็ว
ชุดเจ้าสาวในสมัยโบราณสวมใส่ถึงแปดชั้นเลยทีเดียวเล่นเอาเฉินวาวารู้สึกหนักและอึดอัดไปทั้งตัว เมื่อชั้นสุดท้ายเป็นชุดคลุมปักลวดลายหงส์กางปีกผงาดสีทองอร่ามลงบนเนื้อผ้าสีขาวประกายมุกถูกสวมลงบนเรือนร่างงาม และนั่นทำให้ร่างระหงโดดเด่นสวยงามอลังการ พร้อมมงกุฎหงส์เครื่องหมายของภรรยาเอกในยุคสมัยนั้นค่อยๆ บรรจงวางลงบนเส้นผมที่เกล้าเอาไว้
มงกุฎหงส์ทำมาจากทองคำแท้ ลวดลายวิจิตรประณีตด้วยฝีมือของช่างสมัยใหม่ที่ถูกถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษจนสร้างสรรค์เครื่องประดับในยุคโบราณได้สมตามความตั้งใจ
“โอ้โฮ!มงกุฎหงส์ทำไมหนักจังเลยคะ ใส่ไปนานๆ คอจะหักไหม” หญิงสาวบ่นรำพึงออกมาทันที เมื่อมงกุฎหงส์ถูกสวมลงบนศีรษะของเธอที่เกล้าสูงรองรับเอาไว้อย่างพอดิบพอดี
“อย่าบ่นเลยวาวา... ตรงกันข้ามแกโคตรสวยเลยว่ะ ขนาดฉันเป็นผู้หญิงแท้ๆ เห็นแกอยู่ในชุดแบบนี้อยากแต่งงานด้วยขึ้นมาทันที ไม่ต้องบอกนะว่า พ่อพระเอกเรื่องนี้พอเห็นแกแล้วจะไม่ตะลึงตาค้าง เห็นว่ากำลังดังมาแรงแซงทางโค้งเลยไม่ใช่เหรอ อายุก็เพิ่งจะยี่สิบห้าเองมันน่า...”
ชิงเหยียนกล่าวยังไม่ทันจบก็ต้องเงียบเสียงลงไปทันที เมื่อถูกสายตาพิฆาตของเพื่อนรักกำราบเธอจนดวงตากลมโตแทบจะถลนออกมาเลยทีเดียว ก่อนจะได้ยินเสียงของเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวแทรกขึ้น
“คุณวาวาจะไม่หนักได้ยังไงล่ะคะ ก็ในเมื่อมงกุฎหงส์ทำมาจากทองคำแท้ๆ เครื่องประดับของตัวละครหลักของเรื่องนี้โดยเฉพาะวังหลัง มีสปอนเซอร์สนับสนุนเรื่องเสื้อผ้าและเครื่องประดับตลอดทั้งเรื่อง และเครื่องประดับทุกชิ้นที่อยู่บนตัวคุณวาวาได้รับการออกแบบและถูกจัดส่งมาจาก JCS GOLD MASTER บริษัทจิวเอลรียักษ์ใหญ่ที่อยู่ในเครือของ JCS โพรดักชันค่ะ”
เจ้าหน้าที่ฝ่ายดูแลเสื้อผ้านักแสดงบอกเธอก่อนจะเอี้ยวตัวพร้อมเปิดกล่องกำมะหยี่หยิบป้ายหยกสีเขียวมรกตยื่นส่งให้หญิงสาว
“ป้ายหยกที่จะต้องใช้เข้าฉากค่ะ เป็นหยกจักรพรรดิของแท้นะคะรักษาให้ดี สลักชื่อตัวละครที่คุณวาวาสวมบทบาท สนับสนุนจาก JCS GOLD MASTER เช่นเดียวกันค่ะ เป็นการโปรโมตบริษัทไปในตัว เพราะเดี๋ยวออกจากห้องแต่งตัวก็เจอนักข่าวรอบันทึกภาพแล้ว และจะต้องบันทึกภาพเพื่อปล่อยทีเซอร์ของตัวซีรีส์ออกไป รบกวนพรีเซนต์เครื่องประดับให้ด้วยนะคะ” เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเอ่ยกำชับ
“อ่อ... อย่างนั้นเหรอคะ... ดะ... ดีเนอะ... ทำมาหากินครบวงจรเลย นี่ถ้าเกิดเครื่องประดับบนตัวหายขึ้นมาละก็... ฉันต้องซวยแน่ๆ เลย” ประโยคสุดท้ายหญิงสาวรำพึงลอดไรฟันออกมาเบาๆ ก่อนจะส่งยิ้มหวานกลับไป
ร่างงามระหงค่อยๆ หันกลับไปมองตัวเองในกระจกเงาเต็มตัว ซึ่งถูกนำมาวางไว้ตรงหน้าเธอเพื่อให้สาวเจ้าสำรวจความเรียบร้อยอีกครั้งก่อนจะต้องเดินทางออกไปถ่ายทำฉากแรกของซีรีส์
“แต่จะว่าไปนี่เป็นครั้งแรกที่ได้สวมชุดเจ้าสาวในสมัยโบราณ สวยแปลกตาไปอีกแบบเหมือนกัน ถ้าเทียบกับชุดเจ้าสาวสีแดงที่เห็นในความฝัน ชุดนี้สวยอลังการกว่าเยอะเลย ก็แน่แหละในเมื่อนี่มันคือเรื่องจริงแต่นั่นคือความฝันจะไปเหมือนกันได้ยังไง” หญิงสาวรำพึงรำพันอยู่ภายในใจด้วยความรู้สึกสบายใจและผ่อนคลายลงไปมากเลยทีเดียว เมื่อเธอได้สวมชุดเจ้าสาวโบราณซึ่งผิดแปลกไปจากความฝันที่เคยเห็นอย่างสิ้นเชิง
ความกังวลเลือนหาย อาการวิตกถูกปล่อยวางลงไปโดยพลันเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น หามีสิ่งใดคล้ายคลึงกับสิ่งที่เธอฝันเห็นแม้แต่น้อย และนั่นจึงทำให้เฉินวาวารู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีเพราะความฝันไม่มีทางที่จะเป็นจริง!
และแล้วการถ่ายทำฉากแรกก็มาถึงนักแสดงหลักๆ และที่ต้องเข้าฉากในวันนี้ต่างมากันอย่างพร้อมเพรียง เฉินวาวาในชุดเจ้าสาวสมัยโบราณถูกนักข่าวล้อมหน้าล้อมหลังเพื่อบันทึกภาพความงดงามของหญิงสาวที่ถูกถ่ายทอดมาพร้อมกับชุดเจ้าสาวสีขาวอลังการ เสียงชื่นชมของสายข่าวดังเอ็ดอึงเลยทีเดียว
“ผู้กำกับเกาตาแหลมจริงๆ เลย ที่คว้าเฉินวาวามารับบทนี้ แบบนี้เขาเรียกว่าคัดเลือกตัวละครได้ดีกว่าในนิยายที่บรรยายเอาไว้เสียอีกนะ เจ้าของบทประพันธ์ยังชมเลยว่าคัดเลือกได้เกินความคาดหมายจริงๆ”
บรรดาสื่อมวลชนยักษ์ใหญ่ต่างวิจารณ์กันอย่างคับคั่ง เล่นเอานางร้ายหน้าสวยจากต่างแดนที่เพิ่งได้รับบทเด่นในซีรีส์เรื่องยาวของจีนแผ่นดินใหญ่เป็นครั้งแรกได้แต่ยืนนิ่งก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ กับเสียงวิจารณ์ของสื่อ และเสียงถอนหายใจของเธอ แม่เพื่อนรักก็ดันได้ยินเสียนี่
“เป็นอะไรวาวา! ทำไมถอนหายใจออกมาแบบนั้น แกไม่ดีใจเหรอที่สื่อมวลชนของจีนชื่นชมกันยกใหญ่ ฉันยังหน้าบานแทนแกเลยนะเว้ย” ชิงเหยียนบอกเพื่อนพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“แกไม่รู้เหรอว่ายิ่งสื่อวิจารณ์แบบนี้ เข้าข่ายยิ่งสูงยิ่งหนาว ถ้าฉันแสดงไม่เข้าถึงบทบาทสิ่งที่จะได้รับกลับมาจะตรงกันข้ามกับตอนนี้เลย แม่คงสับเละจนฉันกลายเป็นโจ๊กแน่ๆ” หญิงสาวบ่นพึมพำกับเพื่อนรัก
“แล้วแกกลัวเหรอ” ชิงเหยียนถามกลับไปทันที
และนั่นทำให้เฉินวาวาหันกลับมามองเพื่อนสนิทพลางเชิดใบหน้าสวยยกขึ้นสูงทันใด
“มีอะไรในโลกนี้ที่คนอย่างเฉินวาวากลัวอย่างนั้นเหรอ... ไม่มี๊... ไม่มีเลย” หญิงสาวยืนกรานเสียงแข็งกลับไป
“นั่นแหละคือตัวแกเพราะฉะนั้นเรื่องอะไรต้องกลัวจริงไหมเพื่อน” ชิงเหยียนบอกเพื่อนรัก ก่อนจะเหลือบมองไปทางด้านหลังเมื่อทีมถ่ายทำกำลังเดินตรงมาหาพวกเธอ
“คุณวาวา... เดี๋ยวขึ้นรถที่เตรียมเอาไว้เดินทางไปเข้าฉากได้เลยครับ” ทีมงานถ่ายทำบอกกับเธอ
และนั่นทำให้หญิงสาวรีบยกบทละครฉบับปรับปรุงที่เพิ่งได้รับยกขึ้นมาอ่านทันใด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง
“เอ้า! เพิ่มฉากเข้ามาเหรอนี่ ทำไมอ่านก่อนหน้านั้นไม่เห็นมีฉากนี้” หญิงสาวยืนคิดอยู่เพียงครู่ก่อนจะหันกลับไปมองหน้าเพื่อนสาว
“ผู้กำกับเกาเปลี่ยนมาถ่ายทำฉากที่จะต้องไปนอกสถานที่ก่อน หลังจากถ่ายฉากนอกสถานที่หมดแล้วก็จะเริ่มถ่ายฉากที่อยู่ในโรงถ่ายเหิงเตี้ยน จะได้ไม่ต้องยกกองออกข้างนอกบ่อยๆ คราวนี้เข้าใจหรือยังเฉินวาวา” ชิงเหยียนอธิบายให้เพื่อนสาวฟังด้วยน้ำเสียงประชด
“อ่อ... แหะๆ ลืมไปว่าผู้กำกับเกาเพิ่งมีนโยบายถ่ายทำฉากนอกสถานที่ก่อนเป็นอันดับแรก” หญิงสาวพูดพลางหันกลับไปมองเพื่อนรักที่กำลังยืนมองเธอตาเขม็งเลยทีเดียว
“เป็นอะไรวาวา! นี่แกอย่าบอกนะว่าประสาทเสื่อม หลงๆ ลืมๆ บทละครฉบับปรับปรุงก็ได้รับมาตั้งแต่วันทำพิธีบวงสรวงเปิดกล้องแล้ว ยังจะสงสัยอะไรอีกอย่างนั้นเหรอ” ชิงเหยียนถามกลับไปด้วยความสงสัย
และนั่นทำให้วาวายืนนิ่งไปชั่วขณะเมื่อถูกเพื่อนถามกลับมาเช่นนั้น
“อ่อ... ฉันลืมน่ะแก... แต่ตอนนี้จำได้แล้ว” หญิงสาวตอบเสียงอ่อยๆ พลางส่งยิ้มแห้งๆ กลับไป
“เออนั่นแบบนี้ก็มีด้วย... เอ้า! รีบไปขึ้นรถดิ เดี๋ยวก็ไปเข้าฉากไม่ทันหรอก” ชิงเหยียนพูดพร้อมเดินตรงดิ่งเข้าไปคว้าชายผ้าคลุมของเพื่อนรักพร้อมยกขึ้นสูงเพื่อมิให้ลากไปตามพื้นจนสกปรกเป็นการบังคับให้วาวารีบเดินตามไปอย่างรวดเร็ว