เจ้าสาวจากแคว้นฉู่ / 6

2080 คำ
วังหลวง พิธีอภิเษกสมรสขององค์รัชทายาท พระวรกายงามขององค์หญิงจากห้าแคว้น ซึ่งเดินทางมาแต่งงานตามสนธิสัญญาสงบศึกอยู่ในฉลองพระองค์เจ้าสาวสีขาวพร้อมด้วยองค์รัชทายาทจื่อถงในฉลองพระองค์เจ้าบ่าวสีขาวเช่นเดียวกัน เจ้าสาวทั้งห้ายืนเรียงหน้ากระดานโดยมีองค์รัชทายาททรงยืนอยู่ตรงกลางด้วยสีพระพักตร์งอง้ำ รัชทายาทหนุ่มจำต้องรับพระราชทานองค์หญิงต่างแคว้นด้วยความรู้สึกไม่เต็มพระทัยเพราะขัดพระประสงค์ของพระราชบิดาไม่ได้ จึงรับองค์หญิงแล้วให้เป็นเพียงพระชายารองเท่านั้น ส่วนพระชายาเอกทรงมิยอมยกย่องผู้ใดขึ้นรั้งตำแหน่งนี้ด้วยเพราะยังไม่พบสตรีที่ต้องพระทัย พิธีกราบไหว้ฟ้าดินเป็นไปตามขั้นตอนทุกอย่างต่อหน้าพระพักตร์ฟางหยางฮ่องเต้ จวบจนกระทั่งเสร็จพิธี พร้อมกันนี้ยังมีพิธีเลี้ยงฉลองงานอภิเษกสมรสให้กับองค์รัชทายาทและองค์หญิงทั้งห้าแคว้นในวันเดียวกัน ซึ่งนอกจากฟางหยางฮ่องเต้จะทรงประทับเป็นประธานในพิธียังมีชินอ๋องพระอนุชา ซึ่งถูกเชิญให้มาร่วมงานพิธีอภิเษกสมรสขององค์รัชทายาทด้วยเช่นกัน ทว่าพระองค์กลับไม่เสด็จมาร่วมงานตั้งแต่ช่วงเช้าและในงานเลี้ยงฉลองก็ยังมิเสด็จมาร่วมงาน “นี่ชินอ๋องยังไม่มาร่วมงานตามคำเชิญของข้าอย่างนั้นรึ! พิธีช่วงเช้าก็ไม่มา แม้แต่งานเลี้ยงฉลองไม่เห็นแม้เพียงเงา ช่างหยามข้ายิ่งนัก!” ฟางหยางฮ่องเต้รับสั่งด้วยความขุ่นเคืองพระทัย ในขณะที่องค์รัชทายาทซึ่งประทับอยู่บนตั่งพระที่นั่งไม่ห่างจากพระบิดา รีบหันกลับไปแก้ต่างให้กับชินอ๋องทันที “เสด็จพ่ออย่าเพิ่งทรงกริ้วไปเลยพ่ะย่ะค่ะ เสด็จอาทรงไม่ชอบงานครึกครื้นทุกคนก็ทราบดี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทรงประทับอยู่ที่ชายแดนมาโดยตลอด และต้องรีบเข้าวังหลวงเพื่อติดตามบุคคลต้องสงสัย ย่อมต้องเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางไกลพ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ” ฟางหยางฮ่องเต้หันกลับไปทอดพระเนตรพระโอรสพลางส่ายพระพักตร์ไปมา “ไม่ว่าข้าจะพูดอะไรเกี่ยวกับชินอ๋องดูเจ้าจะเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเสียจริงนะถงเอ๋อร์” รับสั่งถามพระโอรสกลับไป องค์รัชทายาทแย้มพระโอษฐ์กว้างครั้นทรงได้ยินเช่นนั้น “ลูกไม่ได้เข้าข้างเสด็จอาเลยพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่เข้าใจความรู้สึกว่าทรงเป็นอย่างไร อีกอย่างลูกนับถือในพระปรีชาสามารถของเสด็จอายิ่งนักที่ทรงทำศึกสงครามนำกองทหารต้านทัพศัตรูรวมไปถึงตีแคว้นน้อยใหญ่มาเป็นของเทียนโจวมาไว้ใต้อาณัติมากมาย ออกรบคราใดไม่เคยพบกับความพ่ายแพ้แม้แต่น้อยทำให้เทียนโจวมั่งคั่งและยิ่งใหญ่กว่าแคว้นอื่นใดในเวลานี้ ทำให้เสด็จพ่อแผ่พระบารมีไปทั่วทุกแคว้นเลยนะพ่ะย่ะค่ะ” องค์รัชทายาทรับสั่งด้วยความชื่นชม ครั้นฟางหยางฮ่องเต้ทรงได้ยินเช่นนั้น พระองค์มีพระอาการฮึดฮัดเป็นการใหญ่ด้วยความริษยาพระอนุชาที่เก่งกล้าเกินคน ในขณะที่พระองค์เทียบไม่ได้แม้แต่น้อย ออกสนามรบคราใดแพ้ทุกครา “เทเหล้า!” รับสั่งสุรเสียงห้วนพร้อมยกแก้วเสวยซึ่งเพิ่งเทน้ำจัณฑ์ลงไป ยกเสวยรวดเดียวจนหมดด้วยความพิโรธ ก่อนจะกวาดสายพระเนตรไปทั่วบริเวณงาน “ไห่ถัง! องค์หญิงจากแคว้นเยว่ที่ชินอ๋องเลือกนางเป็นพระชายามาร่วมงานเลี้ยงตามคำเชิญหรือไม่” รับสั่งถามหัวหน้าขันทีซึ่งคอยถวายการรับใช้อยู่ใกล้ๆ “องค์หญิงจากแคว้นเยว่เสด็จมาร่วมงานเลี้ยงแล้วพ่ะย่ะค่ะ ประทับอยู่บนตั่งพระที่นั่งด้านซ้าย แถวที่สามพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท” หัวหน้าขันทีกราบทูลรายงานกลับไป ทันทีที่ทรงได้ยินเช่นนั้นสายพระเนตรหันกลับไปทอดพระเนตรองค์หญิงจากแคว้นเยว่ที่พระอนุชาเลือกให้มาเป็นพระชายา ซึ่งเหนือความคาดหมายของพระองค์ยิ่งนักที่อนุชาเลือกคู่ครองภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว “ไม่คิดว่าชินอ๋องจะเลือกสตรีที่มีความงามด้วยรูปโฉม องค์หญิงจากแคว้นเยว่ก็มีความงดงามไม่น้อยหน้าผู้ใดเลยทีเดียวผิดคาดข้ายิ่งนัก” รับสั่งด้วยความแปลกพระทัย “เหตุใดฝ่าบาทจึงทรงคิดว่าชินอ๋องจะเลือกพระชายาด้วยลักษณะอื่น บุรุษย่อมพึงใจสตรีที่มีความงดงามเป็นอันดับแรกอยู่แล้ว องค์หญิงจากแคว้นเย่วทรงมีความงามเป็นที่เลื่องลือว่าทรงเป็นหญิงงามล่มเมืองเลยทีเดียว มิแปลกที่ชินอ๋องจะทรงเลือกให้เป็นพระชายา” หัวหน้าขันทีนามว่าไห่ถังกราบทูลถามกลับไป “เจ้าคิดเช่นนั้นรึ! แต่สำหรับข้าคิดว่าชินอ๋องไม่ได้หาคู่ครองเพียงแค่ความงามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ต้องมีบางอย่างที่ไม่เหมือนผู้ใดด้วย ถ้ามีความงามเพียงอย่างเดียวมีหรือจะทำให้อนุชาของข้าผู้นี้เลือกนางได้อย่างรวดเร็วต้องมีอย่างอื่นนอกเหนือจากนั้น” รับสั่งพร้อมยกแก้วสุราขึ้นเสวยพลางทอดพระเนตรองค์หญิงจากแคว้นเยว่อยู่ตลอดเวลา ในขณะที่องค์หญิงจากแคว้นเยว่ ซึ่งมีพระนามเยว่วาวา ทรงประทับนั่งบนตั่งด้วยมาดนางพญา พระพักตร์สวยเต็มไปด้วยรอยแย้มเยือน เมื่อภายในงานต่างพากันริษยาในความโชคดีของพระนางที่ถูกชินอ๋องอันลือเลื่องถึงความเก่งกล้าจนถูกยกย่องให้ทรงเป็นเทพสงคราม อีกทั้งยังทรงเป็นบุรุษที่มากด้วยสิริโฉมอย่างยิ่งยวด “ข้าอยากรู้จริงๆ เลยว่าองค์หญิงจากแคว้นเยว่ มีเวทมนตร์คาถาใดจึงทำให้ชินอ๋องทรงเลือกเป็นพระชายา” “เห็นลือกันว่าพอชินอ๋องทรงได้ทอดพระเนตรภาพเหมือนของพระนางก็ทรงตัดสินพระทัยทันทีไม่มีรีรอแม้แต่น้อย” “แต่จะว่าไปองค์หญิงผู้นี้มีความงามที่ลือไปทุกแคว้นว่า ทรงเป็นหญิงงามล่มเมืองเชียวนะ ไม่แปลกหรอกถ้าหากชินอ๋องจะทรงเลือกให้เป็นพระชายา” เสียงวิพากษ์วิจารณ์เอ็ดอึงดังไปทั่วงาน ล้วนเป็นเรื่องของชินอ๋องทรงเลือกพระชายาด้วยกันทั้งสิ้น และผู้โชคดีที่ทำให้สตรีทั่วหล้าต่างพากันสะเทือนใจไปจนถึงตับไตไส้พุง พากันกินข้าวกันไม่ลงไปหลายวัน นั่นก็คือองค์หญิงเยว่วาวาจากแคว้นเยว่นั่นเอง พระพักตร์งามเชิดขึ้น ประทับนั่งตัวตรง ชูพระศอขึ้นมากยิ่งไปกว่าเดิมเมื่อทรงได้ยินเช่นนั้น “องค์หญิงเพคะทรงได้ยินหรือไม่ ว่าผู้คนในงานต่างพากันพูดถึงเรื่องชินอ๋องทรงเลือกพระนางเป็นชายากันอย่างถ้วนหน้า ทรงรู้ไหมเพคะว่าสตรีทั่วหล้าต่างพากันอิจฉายิ่งนัก” “ข้ารู้ว่าพวกนางต้องอิจฉาข้า! แต่ช่วยไม่ได้ในเมื่อชินอ๋องทรงชื่นชมในความงามของข้าและเลือกข้าให้เป็นพระชายาของพระองค์ พวกนางจะทำเช่นไรได้! นอกจากยอมรับความจริง และข้าก็ไม่มีทางให้สตรีใดก้าวมาเป็นพระชายารองชูคอเสนอหน้าเคียงข้างกายชินอ๋องอย่างเด็ดขาด”สุร เสียงรับสั่งจริงจัง พระหัตถ์ค่อยๆ กรีดกรายยกแก้วสุราขึ้นจิบน้อยๆ พอเป็นพิธีอย่างงดงาม “ชินอ๋องเสด็จ!!!” เสียงทหารรักษาวังดังก้องขึ้น ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้นสายตาทุกคู่หันกลับไปที่หน้าประตูเป็นจุดเดียวกัน เมื่อพระวรกายสูงใหญ่ทะมึนในฉลองพระองค์สีนิลกาฬ อันเป็นสีเอกลักษณ์ประจำพระองค์ ทรงพระดำเนินมาถึงงานเลี้ยงฉลอง พระเกศาสีเงินยวงถูกเกล้าขึ้นเป็นมวยก่อนจะพับครึ่งไปด้านหลังเสียบปิ่นหยก พระเกศาส่วนที่เหลือปล่อยยาวสยายจนถึงบั้นพระองค์ รับกับพระพักตร์หล่อเหลาปราศจากหน้ากากทองคำอำพราง “ตุบ!” แก้วเสวยที่อยู่ในพระหัตถ์ขององค์หญิงเยว่วาวาจากแคว้นเยว่ร่วงหล่นลงพื้นทันทีเมื่อได้ประสบพักตร์ของชินอ๋องเป็นครั้งแรก “โอ้โฮ! องค์หญิงเพคะชินอ๋องทรงมากด้วยสิริโฉมจริงๆ งามมาก... งามที่สุดเลยเพคะ สมคำเล่าลือจริงๆ” นางกำนัลคนสนิทถึงกับเพ้อออกมาทันที องค์หญิงเยว่วาวาทรงตกตะลึงกับสิริโฉมของว่าที่พระสวามีเป็นยิ่งนัก พระนางค่อยๆ แย้มพระโอษฐ์ออกกว้างด้วยความยินดีอย่างที่สุดเมื่อพระนางได้ถูกเลือกให้เป็นพระชายาของบุรุษที่หล่อเหลาดั่งเทพสวรรค์ลงมาจุติ ในขณะที่สีพระพักตร์ของจอมมารยังคงเรียบเฉยอยู่เช่นนั้นดั่งเดิม พระเนตรเหลือบไปทอดพระเนตรองค์หญิงจากแคว้นเย่วอยู่เพียงครู่ก่อนจะละสายพระเนตรไปทางอื่น และนั่นทำให้องค์หญิงเยว่วาวา พระพักตร์เสียออกมาทันทีครั้นทรงถูกเมินเช่นนั้น “อะไรนี่! เหตุใดพระองค์จึงทอดพระเนตรข้าราวกับว่าไม่มีตัวตนเช่นนั้น” พระนางรับสั่งอยู่ในพระทัย ในขณะที่พระวรกายสูงใหญ่ของจอมมารเสด็จพระดำเนินก้าวไปเข้าไปภายในงาน ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่ตรงพระพักตร์ของฟางหยางฮ่องเต้ พร้อมยกพระหัตถ์ประสานเข้าหากันถวายคำนับ “ถวายพระพรฝ่าบาท กระหม่อมขออภัยที่มาร่วมงานล่าช้า” ครั้นฟางหยางฮ่องเต้ทรงทอดพระเนตรพระอนุชาทรงยืนอยู่พระพักตร์และได้ยินเช่นนั้น พระองค์จะทำเช่นไรต่อไปได้นอกจากแสร้งทำเป็นพระเชษฐาผู้มีน้ำพระทัยงามต่อไป “ตามสบายเถิดชินอ๋องไม่ต้องมากพิธี ข้ารู้ว่าเจ้ามิชอบงานครึกครื้น แต่ก็มาร่วมงานเลี้ยงฉลองสมรสของถงเอ๋อร์ รู้ไหมหลานชายของเจ้าดีใจมากแค่ไหน” ทันทีที่ฟางหยางฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งเช่นนั้น องค์รัชทายาทจื่อถงทรงยกพระหัตถ์ประสานเข้าหากันทันที “ขอบพระทัยเสด็จอาที่ทรงมาร่วมงานเลี้ยงฉลองวันนี้พ่ะย่ะค่ะ” จอมมารก้มพระพักตร์ลงเพียงนิดเมื่อองค์รัชทายาทรับสั่งเช่นนั้น “เจ้าเป็นหลานข้า... สมควรที่จะต้องมาร่วมแสดงความยินดีกับเจ้าอยู่แล้วถงเอ๋อร์” รับสั่งพร้อมพระดำเนินตรงไปยังตั่งที่ประทับพลางทรุดพระวรกายลงนั่งติดกับฟางหยางฮ่องเต้ ตามลำดับฐานันดรศักดิ์ที่ทรงได้รับ พร้อมเสียงของฟางหยางฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งถามขึ้น “เจ้ามิเคยมาร่วมงานเลี้ยงใดๆ เลย แต่ครั้งนี้กลับมาเห็นทีเป็นเพราะต้องการอยากมาเห็นว่าที่พระชายาของเจ้าเสียกระมังว่าจะเป็นเช่นไรใช่หรือไม่” ฟางหยางฮ่องเต้รับสั่งถามไปตรงๆ จอมมารหนุ่มคลี่พระโอษฐ์ยิ้มออกมาบางๆ ครั้นทรงได้ยินเช่นนั้น “ก็มีส่วนอยู่พ่ะย่ะค่ะ! แต่สำคัญยิ่งกว่าคือมาร่วมแสดงความยินดีกับถงเอ๋อร์และเหล่าพระชายา” รับสั่งได้ใจความไม่ยืดเยื้อเข้าใจง่าย ถ้อยรับสั่งของจอมมารทำให้องค์หญิงจากแคว้นเยว่ทรงมีสีพระพักตร์แดงเรื่อด้วยความเขินอายขึ้นมาทันที ครั้นทรงได้ยินเช่นนั้น เป็นที่อิจฉากับบรรดาองค์หญิงน้อยใหญ่ที่มาร่วมงานเลี้ยงฉลองในวันนี้ พร้อมพระสุรเสียงของฟางหยางฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งดังขึ้น “ถ้าเช่นนั้นก็ดี! ว่าที่พระชายาของเจ้าอยู่ฝั่งตรงกันข้ามอย่างไรเล่า ถือโอกาสวันนี้จะได้ปรึกษาหารือว่าจะจัดพิธีอภิเษกสมรสให้กับเจ้าเป็นวันไหนดี องค์หญิงแคว้นเยว่... เจ้ามาหาข้า!” รับสั่งหาว่าที่พระชายาของพระอนุชา พระเนตรสีนิลกาฬหันกลับไปทอดพระเนตรองค์หญิงจากแคว้นเยว่ทันที ในขณะที่องค์หญิงเยว่วาวาเสด็จพระดำเนินออกจากที่ประทับของพระนาง ก่อนจะพระดำเนินมาหยุดยืนอยู่ตรงพระพักตร์องค์ฮ่องเต้ “เยว่วาวาขอถวายพระพรฝ่าบาทเพคะ” รับสั่งพร้อมย่อพระวรกายถวายคำนับ ทันทีที่องค์หญิงจากแคว้นเยว่มีรับสั่งออกมาเช่นนั้น พระขนงคมเข้มได้รูปสวยของจอมมารทรงขมวดเข้าหากันทันใดด้วยเพราะพระองค์จดจำเสียงของเสี่ยววาวาได้อย่างแม่นยำ “เหตุใดเสียงของนางจึงเปลี่ยนไป เสียงของเสี่ยววาวาไม่ใช่แบบนี้” รับสั่งรำพึงอยู่ในพระทัย พร้อมสุรเสียงของฟางหยางฮ่องเต้ทรงมีรับสั่ง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม