ตอนที่ 10

1633 คำ
"นน ถ้าเพลียเหนื่อย แล้วลูกก็อึดอัดกับสายตาของประชาชน ลูกเป็นศิลปิน หลบไปในรถก็ได้ลูก ทางนี้พ่อดูแลแม่เอง” เขาสบายใจ เมื่อเข้าไปในรถคันหรูได้เปิดแอร์เย็นๆ อยากจะชวนพ่อลงมาด้วยอยู่หรอก แต่พ่อคงห่วงแม่ เขารู้ความหวังดีและความรักของพ่อที่มีต่อเขาเสมอ เรื่องรักใคร่ถูกสลัดพ้นจากหัวสมอง เขาต้องทำงานและเก็บเงินก่อน ประมาณสักห้าปี ค่อยคิดถึงเรื่องแต่งงาน กนินทร์คิดแบบนี้ พี่ชายคนโตของเขา ยังไม่แต่งเลย "คุณเดชา กำจรใช่มั้ยครับ" เสียงใครคนหนึ่งทักคุณกัมปนาท ขณะที่ท่านกำลังก้มอ่านหนังสือพิมพ์ เพื่อฆ่าเวลารอผลของภรรยา เขาเงยหน้าที่สวมแว่นอยู่ ตอบแฟนคลับคนนั้น "ครับ ขอบคุณที่จำได้" "คุณหายไปจากวงการนานเหลือเกินไม่เห็นกลับมาสักทีเมื่อสมัยวัยรุ่นผมชื่นชอบฝีมือคุณมาก" คุณกัมปนาทหรือนามการแสดง เดชา กำจรตอบ "ขอบคุณนะที่เคยติดตามผลงานของผม" "เรื่องจอมเดือดบู๊แหลก คุณแสดงเก่งมาก ผมชอบการเตะต่อยตีของคุณ" คุณกัมปนาทยิ้มรับกับแฟนคลับวัยไล่เลี่ยกัน "แล้ววันนี้มาทำอะไรที่นี่ครับ "อ๋อคนในครอบครัวผมไม่สบายเลยมาเฝ้าไข้นะ" คุณกัมปนาทตอบ เมื่อแฟนคลับท่านนั้นเข้าใจ เขายื่นปากกาพร้อมกับกระดาษสมุดมาให้ใบหนึ่งบอก "ช่วยเขียนลายเซ็นให้ผมหน่อยได้มั๊ย ผมอยากได้" "ได้ครับ" คุณกัมปนาท รับสมุดจากมือแล้วเซ็นให้ แฟนคลับคนนั้นดีใจ ก่อนจะลา “ชอบคุณครับ วันหลังคงได้เจอกันอีก” จากนั้นคุณกัมปนาทหันสนใจหนังสือพิมพ์ต่อ การรอคอยถือว่านาน ประมาณบ่ายสามโมง หมอทำการผ่าตัดผ่านไปแล้วจึงเดินออกมาแจ้งญาติ "ยินดีกับญาติผู้ป่วยด้วยนะ ผ่าตัดเสร็จแล้ว รอพักฟื้นจนกว่าแผลจะแห้ง แล้วกลับมาหาหมอใหม่ ตอนนี้กลับบ้านได้" กนินทร์หันมายิ้มให้กับคุณพ่อ รอรับตัวคุณแม่ ก่อนอื่นจัดการกับค่ารักษาทั้งหมดซึ่งกนินทร์เป็นคนจัดการ คุณพ่อตรงเข้าบีบที่ข้อมือคุณแม่ พร้อมเงยหน้ายิ้มให้ “กลับบ้านเราเถอะคุณ” “ค่ะ” กนินทร์เข้ามาเข็นรถวีลแชร์ให้มารดาแทนพนักงาน "ดีขึ้นแล้วใช่มั๊ยครับ แม่หายดีแล้วแต่หมอบอกให้แม่ต้องพักฟื้นนานเป็นเดือน” นางแค่พยักหน้า นนเข้าใจ ต่อไปเรื่องภายในบ้านพวกเราและคุณพ่อ ต้องช่วยกันจัดการ ส่วนหน้าที่ดูแลบ้านให้คนใช้ดูแล เข้าครัว ทำอาหาร ส่วนคุณแม่ต้องพักฟื้นห้ามเคลื่อนไหว เพื่อให้แผลนั้นสมานโดยเร็ว ถึงบ้านเราแล้ว ในช่วงกลางทางคุณพ่อสลับนนขอขับรถแทน เลยนั่งอยู่กับคุณแม่ คอยดูแลท่าน อย่างใกล้ชิดที่สุด ลงจากรถก็พยุงท่าน และเข็นวีลแชร์ ที่โรงพยาบาลนำมาให้ใช้ แต่ไม่สามารถเข้าในบ้านได้ คุณพ่อจึงอุ้มร่างของท่าน วางลงบนโซฟา กนินทร์มีเวลาอยู่กับครอบครัวได้เพียงสองสามวันเท่านั้นตามที่ตกลงกับผู้จัดละครในกองถ่าย แล้วจะเริ่มงานเต็มที่ พักกินนอนอยู่ในกอง ผู้บริหารชองช่องจัดให้ ตลอดสามสี่เดือน เอรินีหรือ รินี น้องสาวคนเล็กสุดเพิ่งกลับมาจากโรงเรียนในเวลานั้นพอดี พอเปิดประตูออกมาได้เด็กหญิงก็ตรงเข้าใกล้มารดา แต่พี่ชายบอกว่า "รินี ยังกอดคุณแม่ไม่ได้ แม่เจ็บอยู่" "ค่ะ พี่นน" เมื่อได้รับการผ่าตัด บริเวณช่องท้องและหัวใจนั้นดีขึ้น หายใจสั่น ที่บางครั้งแขนขาอ่อนแรง ก็หายไป "แม่คะ แม่หายดีแล้วใช่มั๊ย รินีดีใจเหลือเกิน" เด็กหญิงกล่าวกับมารดาอย่างอ้อน ลูกสาวคนเล็ก ที่อยากจะปลูกฝังให้เป็นแบบเธอ เอรินีเเป็นที่รักใคร่แบบสุดๆ ของบรรดาพี่ชายทั้งสอง เวลานี้พี่ชายคนกลาง เป็นคนมีชื่อเสียง เพื่อนๆที่โรงเรียนพากันกล่าวขานถึง และเอรินีนำข่าวไปบอกพ่อแม่ เป็นท็อปสตาร์ ชนะเลิศในการประกวด จะมีงานละครในเร็วๆนี้ เอรินีจึงหันไปทางพี่ชายคนรอง หรือกลางของเธอ "พี่นนคะ รินีดีใจแทนพี่นนด้วยนา เพื่อนๆกรี๊ดกันใหญ่เลย ฝากมาขอลายเซ็นกับพี่นนด้วย" "ได้สิจ้ะ แต่ไม่ใช่เวลานี้" พี่ชายบอก อีกหน่อยก็ทานข้าวร่วมกันครอบครัวแล้ว ให้แม่บ้านและเด็กรับใช้ทำ แทนมารดาที่พักฟื้นอยู่ รวมทั้งไปจ่ายตลาด ปกติหน้าที่นี้ จะเป็นคุณแม่ที่ไปคัดสรรเลือกซื้อของเองด้วยมือ "ขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำเถอะแล้วค่อยลงมาทานข้าวกัน รอพี่วุฒิมา อีกหน่อยคงถึง" "ค่ะ" เด็กหญิงพยักหน้าอย่างว่าง่าย เพราะเชื่อพี่ชาย นนหรือกนินทร์ได้ให้คุณแม่ ทานยาก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง อาหารที่เรียบง่าย สำหรับคุณแม่ในยามนี้ คือข้าวต้มปลา ที่แม่บ้านทำให้ นนเป็นคนป้อนมารดาให้เองกับมือ จนท่านอิ่มแล้ว ทานหมดชาม จากนั้นจึงเตรียมยาหลังอาหารให้ท่านทันที เวลานั้นพี่ชายคนโต กลับมาถึงบ้านแล้ว โผล่หน้าข้ามายิ้มทักทายคนในครอบครัว "ชักหิวแล้วสิ" ภาวุฒิเอ่ยบอกหลังจากสะพายกระเป๋าหนังสีน้ำตาลส่วนตัวเข้ามา เดินไปหาแม่ก่อน ท่านกำลังนั่งอยู่ที่โซฟากว้างเตี้ย นั่งดูทีวีไปพลางๆที่ลูกชายคนรองเปิดให้ อยากให้ท่านผ่อนคลายจากอาการเจ็บปวด และนึกถึงเรื่องต่างๆ ให้ท่านยิ้มแย้ม คลายเครียดกับการดูสารคดีสัตว์ป่า พวกนกต่างๆที่ท่านชอบและนกแก้วจากแอฟริกาที่ท่านชอบดู การผ่าตัดคุณแม่ที่ผ่านไปด้วยดี เท่าไหร่เท่ากัน โชคดีที่ได้เงินมาจากรางวัลการประกวดช่วยเหลือให้ครอบครัวเรา ไว้ได้ถือว่าเป็นบุญเป็นบุญจริงๆ นนถือว่าเป็นลิขิตจากฟ้าเบื้องบนที่เมตตาแก่ครอบครัว นนหรือกนินทร์นั่งครุ่นคิด อยู่ริมหน้าต่างที่เก้าอี้ มองออกไปทางหน้าต่าง อาหารของคุณแม่ และอย่างอื่น ลูกๆทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว พ่อคอยดูแลและพยุงท่านเข้าไปพักในห้องนอน ป่านนี้คงหลับแล้ว กำชับพ่อด้วย "พ่อครับ อย่าลืมให้แม่ทานยาก่อนนอนด้วยนะ" พ่อพยักหน้า บอก ท่านจะจัดการเอง สองทุ่มเข้าแล้วที่บ้านของปอง บ้านหลังเก่าที่อยู่กันมานานถึงยี่สิบปี ปองขวัญคุ้นเคยอย่างดี แม้ในใจเคยมีความคิดว่า อยากจะรื้อถอนออกมาทั้งหมด แล้วสร้างใหม่ เพราะห้องของเธอนั้น เมื่อขึ้นไปดูรู้สึกว่าแคบ พ่อแม่อยากได้ ตัดขัดอยู่ที่เรื่องเงินนี่แหละ ตัวเจ้าปัญหา พ่อก็บอก "ให้พ่อถูกรางวัลลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งก่อนเถอะปอง แล้วพ่อจะสร้างบ้านตึกหลังใหม่ให้สวยงามไปเลยพูด" คำพูดของพ่อเธอรู้ดี คงผ่านไปกับสายลม เธอยิ่งรู้มากกว่านั้นเพราะฐานะของครอบครัวที่รู้ดี พ่อพูดเพื่อให้กำลังใจเท่านั้น เพื่อให้ดูดี และปลอบเธอ จนปองขวัญคิดว่า หากมีเงินเก็บได้จำนวนก้อนหนึ่ง หลังจากเข้าวงการไปแล้วสักสองสามปี ถ้าเธอมีเงินเก็บสะสมเป็นจำนวนมาก ก็อาจจะพาพ่อกับแม่ไปอยู่ที่อื่น ด้วยการซื้อบ้านหลังใหม่ อาจจะเป็นทาวเฮาส์นั่นแหละ ส่วนที่ดินตรงนี้และบ้าน ก็เก็บเอาไว้นั่นล่ะ ระลึกความทรงจำในวัยเด็ก คงจะรื้อถอนแล้วออกมาสร้างใหม่ แต่เรื่องนี้สุดแท้แต่พ่อกับแม่ เพราะปองขวัญตัดสินใจไม่ได้ เธอกดเบอร์ไปหาพี่ชายใหญ่ ในวงการที่สนิทสนมกันแล้วตั้งแต่เข้าค่ายการแสดงร่วมกัน และจะต้องมาแสดงละครร่วมกันเป็นครั้งแรก ในบทคู่รองของพระเอกกับนางเอก "พี่นนเหรอ" "อือ ว่าไง ปอง ยังไม่หลับเหรอ" "ยังเลย ปองมาถึงบ้านราวสามโมงครึ่ง พี่นนเมื่อวานนี้" "แล้วพี่นนล่ะ" ปองขวัญถามอีก "หลังจากที่พี่ชายพี่มารับก็ถึงบ้านราว สี่โมงกว่า" "ได้เจอหน้าพ่อกับแม่ ดีใจมาก แต่ว่า อีกสองวัน ปองก็ต้องออกไปทำงานเหมือนกัน" "พี่ก็เหมือนกัน พวกเรามาสู้ๆๆๆเอ้า" กนินทร์พูดให้กำลังใจน้อง และเขาก็เช่นกันที่อยู่ในวงการบันเทิงเต็มตัวก็คราวนี้ และไม่มีอะไรมาก นอกจากจากกำลังใจให้กันและกันเท่านั้น "ปองไม่สบายหรือเปล่า น้ำเสียงดูเปลี่ยนๆ" นนสังเกตน้ำเสียงของน้อง "เปล่า ที่เสียงปองหาย อาจจะเหนื่อยแล้วเพลีย" "พี่เองเพิ่งไปรับคุณแม่กลับมาจากโรงพยาบาลด้วย ตอนนี้ดีใจมากที่คุณแม่กลับมาเป็นปกติแล้ว" เธอพอจะรับทราบจากพี่ชายใหญ่ ในวงการคนนี้เพราะตอนที่อยู่ค่ายด้วยกันเขาพูดถึงเรื่องนี้ ทำให้เพื่อนๆรับรู้ในเรื่องราวนี้ด้วย "เหรอคะ ปองดีใจด้วยนะคะ ที่แม่ของพี่นนหายแล้ว" "ขอบใจจ้ะ เพราะต่อไปพี่คงจะทำงานได้สะดวกไม่ต้องกังวล เพราะคุณแม่ปลอดภัยกลับมาอยู่กับพวกเราแล้ว" "เห็นว่าบ้านพี่นนเปิดร้านกาแฟด้วยนี่คะ" "จ้ะ ต้องให้ลูกจ้างประจำทำแทนไปก่อน จนกว่าคุณแม่จะหายดี" "ที่บ้านพี่นนดีนะคะ มีกิจการหลายอย่าง ทำให้ดูแลตัวเองได้ มีสภาพคล่องทางการเงิน"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม