Event Club
เราทั้งห้าคน (กระเจี๊ยบไม่มาเพราะนางไม่ชอบเที่ยวกลางคืน) เดินทางมาถึงคลับที่มีชื่อเสียงระดับหนึ่งประมาณสามทุ่มเศษ
และถ้าหากทุกๆ คนกำลังสงสัยว่าอีนังเด็กทั้งห้าที่อายุไม่ถึงสิบแปดปีนี้มันได้รับสิทธิพิเศษอะไร จะบอกให้ก็ได้ว่าลุงของฉัน (พี่ชายของพ่อ) แกมีหุ้นส่วนร่วมอยู่กับคลับนี้+เจ้าของคลับเป็นเพื่อนของลุงด้วย จึงทำให้เด็กใจแตกอย่างเราๆ นั้นมีโอกาสได้เข้ามาท่องเที่ยวในแหล่งอโคจรนี้ตั้งแต่สมัยที่ไม่ทันจะจบมอสามกันนู่นแหนะ
*ช่วยเก็บผ้าเช็ดหน้าของฉันหน่อยได้มั๊ย เพราะฉันทำมันตก*
"อีแนน กูไปเยี่ยวนะ" ฉันบอกยันแนนซี่ที่ในตอนนี้กำลังอวดลวดลายอยู่กับผู้ชายหล่อๆ คนนึง ก่อนจะแยกตัวออกมาในทันทีที่เห็นว่ามันกดหน้าลงว่ารับรู้แล้ว
"ขอโทษนะ น้องใช่เสน่ห์ปะ" ฉันหันไปมองตามต้นเสียงก็เจอกับผู้ชายผมเกรียนสกินเฮด ที่ตัวโคตรขาวและมีลูกตาสีน้ำตาลที่ดูซุกซนจนส่งผลให้มันเข้ากันได้เป็นอย่างดีกับจมูกที่โด่งเป็นสันนั้น รูปปากรีสวยได้รูปสีแดงเรื่อที่ได้เห็นปุ๊บก็คิดอยากที่จะชิมปั๊บว่ามันหอมหวานมากแค่ไหน ฮ่าๆ รูปร่างที่ผอมและสูงซักประมาณ190ปลายๆ น่าจะได้
เพราะจุดขายดีเด่นที่มีในนครศรีธรรมราชไม่ถึงสิบคนนี้ทำให้ฉันจำเขาได้แทบจะทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาคิดให้นาน 'พี่จ้าวโฮป' นั่นเอง
เราสองคนเคยคุยกันหลายปีมาแล้วแหละ ว่าแต่..ไม่เจอนานหล่อขึ้นเยอะแฮะ
"อ้อ!ใช่ค่ะ สบายดีนะคะพี่โฮป"
"สบายดีครับสวยขึ้นเยอะเลยนะ พี่ขอเบอร์..."
วิถีเสือสาวไม่ต้องรอให้เขาขอจนจบประโยคหรอก ก็ให้ไปเลยสิคะ คิคิ
"ได้สิคะ"
ตุ๊บ พลั่ก!
"กรี๊ด!"
"เฮ้ย! เหี้ยไรวะ" ร่างสูงใหญ่ของเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่มีชื่อเสียงเรียงนามว่าจ้าวโฮปถึงกับกระดอนไปชนเข้ากับเคาท์เตอร์อ่างล้างมือ หลังจากที่มีกำหมัดประเคนเข้าใส่ใบหน้าขาวใสสะอาดนั้นเสียจนเต็มแรง
"ไอ้อั๋น!"
"คนนี้เด็กกูไอ้จ้าว!"
"อ้าวเฮ้ย! อั๋น อีเหน่! เกิดอะไรขึ้น" กลุ่มเพื่อของฉันที่คงจะมีความตั้งใจจะตามมาดูฉัน ร้องพร้อมกันอย่างตื่นตระหนกเพราะพวกมันก็คงจะคิดไม่ถึงว่าแฟนของฉันที่โดยปกติแล้วค่อนข้างจะเป็นผู้ชายขี้อายจะกลายเป็นคนที่มีอารมณ์ร้ายได้มากขนาดนี้
แต่อย่าว่าแต่พวกมันเลย ฉันเองก็ไม่อยากที่สายตาของตัวเองเห็นเหมือนกันนั่นแหละ... ชักจะเริ่มกลัวผู้ชายคนนี้ขึ้นมาซะแล้วสิฉัน...
"ใช่...ครับ อั๋นเอง" แฟนของฉันตอบรับสั้นๆ ก่อนที่ฉันจะเห็นเขาหันไปออกคำสั่งกับผู้ชายสองคนที่ยืนควบคุมสถานการณ์อยู่ด้านหลัง
"พวกมึงมาจับตัวมันไว้ดิ"
"ครับคุณหนู"
และนั่นก็เป็นสิ่งทำให้ฉันเกิดรู้สึกสังหรณ์ใจอย่างพิกลว่าบางทีอีเว้นท์อาจจะเป็นคลับของชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าแฟนของฉันก็เป็นได้!
"นะนี่...นี่ร้านอั๋นงั้นเหรอ" ฉันเอ่ยถามแฟนหนุ่มของตัวเองขณะพยายามกลืนน้ำลายที่มันเหนียวหนืดเสียจนไหลลงคอไปได้อย่างยากลำบาก
"ร้านป๊าของฉัน" เขาว่าตอบอย่างเย็นชา มันช่างแตกต่างกับบุคลิกเด็กหนุ่มขี้อายเมื่อตอนเช้าอย่างสิ้นเชิงจนทำให้ฉันเริ่มที่จะรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
"เธอไปรอฉันที่ลานจอดรถ คูมาเรียล ป้ายทะเบียน อส 9999" ก่อนจะออกคำสั่งให้ฉันที่ในตอนนี้ตัวลีบหดอยู่ตรงเคาท์เตอร์อ่างล้างมือเพราะยังตกใจไม่หาย
"เชิญทุกคนสนุกกันต่อได้เลยนะครับผมเลี้ยงเอง ส่วนผม...มีเรื่องต้องคุยกับแฟนผมนิดหน่อย"
บอกตามตรงฉันกลัวสายตาของเขาในตอนนี้มากจริงๆ ก็ใครมันจะไปคิดละว่าเด็กที่มันนิ่มๆ และใสๆ อย่างเขามันจะน่ากลัวได้มากถึงขนาดนี้ในตอนที่กำลังโมโห
เฮ้อ! เวรกรรมอะไรของอีเหน่นักหนานะ
"มันเป็นใคร" เขาตั้งคำถามทันทีหลังจากที่เราสองคนก้าวขึ้นมาบนรถ โดยมีคนขับรถคนหนึ่งที่นั่งประจำอยู่ที่นั่งคนขับ
"อ๋อ...เขาชื่อพี่โฮป เราเคยมีโอกาสรู้จักตอนไปแข่งวิชาการน่ะ แต่ว่ามันก็หลายปีมาแล้วแหละ" ฉันตอบด้วยความสัตย์จริงพร้อมด้วยรอยยิ้มจริงใจ เพราะว่าที่บิกออกไปมันล้วนแล้วแต่เป็นความจริง
"กูไม่ชอบอะจบนะ อย่าให้มีแบบนี้อีกแล้วกัน ไอ้บิลลี่ ออกรถ"
"ครับคุณหนู"
เขาตอบสั้นๆ อย่างเย็นชาและหันไปสั่งให้คนขับรถของเขาออกรถโดยที่ไม่มีทีท่าว่าจะถามสักคำว่าบ้านของฉันต้องขับไปทางไหน...
วิถีอีเหน่ผู้น่าสงสาร... สงสัยแค่ไหนแต่ก็ไม่กล้าพอที่จะเอ่ยถาม แต่ถึงจะกล้าถามก็น่าจะไม่ได้รู้ถึงคำตอบอยู่ดีแหละ เพราะดูเหมือนเขาคงไม่อยากที่จะรอฟังคำถามหรือข้อแก้ต่างที่ฉันอยากจะพูดออกไปอีกแล้วละ...
ประมาณสิบห้านาทีต่อมา ในที่สุดรถคันหรูที่มีสารถีส่วนตัวของแฟนฉันเป็นคนขับก็ถูกจอดเทียบเข้าตรงประตูรั้วหน้าบ้านของน้องเสน่ห์คนที่สวยๆ และรวยมากๆ ฮ่าๆ
"กลับไปนอน แล้วอย่าคิดที่จะมีลูกไม้อะไรในการหนีออกไปเที่ยวเพราะฉันรู้ทันเธอทุกอย่าง อย่าดื้อกับฉันเสน่ห์ฉันไม่ชอบ" เราสองคนทยอยกันลงมาจากรถโดยมีคนของเขาเปิดประตูให้ ก่อนเขาจะออกคำสั่งกับฉันด้วยน้ำเสียงที่ฟังยังไงก็ข่มขู่! ไอ้คนใจร้าย!
"อย่าเดินหนีฉันเสน่ห์ ตอบมาก่อนว่าเธอเข้าใจในสิ่งที่ฉันพึ่งจะออกคำสั่งไปทุกประการ"
"เข้าใจแล้วจ้าพ่อ!" ฉันว่าอย่างประชดประชันและส่งสายตาให้เขาเลิกบีบต้นแขนของฉันสักที กูเจ็บค่ะไอ้หนุ่ม!
"ขยับมานี่" ไม่รอให้ฉันขยับเขาก็ก้มตัวลงต่ำก่อนจะขโมยหอมแก้มลูกสาวชาวบ้านไปหนึ่งที
พรึ่บ!
"หอมฉันหน่อย ฉันเสียขวัญนะ" ฉันมองหน้าผู้ชายหน้าหนาที่มันยกฉันขึ้นมาอุ้มแถมยังบังคับให้ฉันหอมแก้มมันอีกต่างหาก ไอ้คนฉวยโอกาส!
แล้วที่ว่าเสียขวัญนะใคร! มันควรจะเป็นฉันไม่ใช่หรือไงกันเล่าคนบ้า!
ฟอด..
สุดท้ายฉันก็ยินยอมที่จะหอมลงไปบนแก้มนุ่มๆ หอมๆ นั้นแต่โดยดี
"วันหลังไม่ทำแบบนี้อีกนะ เรากลัว" และได้ทีร้องขอให้เขาไม่กระทำการป่าเถื่อนอย่างในวันนี้อีก
"เธอผิดนะเสน่ห์ เธอเกือบจะให้เบอร์มันเลยนะ นอกจากจะไม่สลดแล้วเธอยังจะมากล้าต่อรองกับฉันจะเกือบจะถูกแฟนสวมเขาอย่างนั้นนะเหรอ? ฝันไปเถอะ!" เขาวางฉันลงและออกแรงผลักหน้าผากประมาณสิบไร่เศษของฉันอย่างอยากที่จะตอกย้ำว่าต้นเรื่องทั้งหมดมันเกิดมาจากฉัน ก่อนที่จะขึ้นรถคูมาเรียลคันหรูพร้อมออกคำสั่งให้คนที่ชื่อบิลลี่ออกรถในทันที
"เออ...ผิดแล้วไง ไม่ยอมรับซะอย่าง" ฉันกล่าวทิ้งท้ายใส่รถคันนั้นที่เคลื่อนตัวออกไปจนสุดสายตา และหมุนตัวเดินกลับเข้าบ้านของตัวเองในเวลาต่อมา...
แฟนของใครๆ ก็หวง เนอะอั๋นเนอะ แม่ทีมลูกชายจ้ะครั้งนี้
ป.ล. ใครเกลียดไอ้จ้าวไอ้อั๋นต่อยปากมันให้แล้วนะ ฮ่าๆๆ