แรกพบสบตา

1136 คำ
โรงเรียนธัญศิลาวิทยา,จังหวัดนครศรีธรรมราช "สวัสดีค่ะดอกทองทั้งหลาย" ฉันวางกระเป๋านักเรียนของตัวเองลงบนโต๊ะม้าหินอ่อนก่อนจะรีบเดินเข้าไปช่วยเหลือเพื่อนๆ ทำเขตที่ต้องรักษาความสะอาดด้วยกัน "นี่อีเหน่! มึงสายอีกแล้วนะ มึงควรจะมาให้ทันช่วยคนอื่นเขาบ้างนะ!!" บ่นเก่งๆ แบบนี้มีอยู่ไม่กี่คนหรอก ไม่คุณนายโสนที่เป็นแม่ของฉันก็นังกระเจี๊ยบที่กำลังยืนสองมือเท้าเอวพร้อมส่งสายตาพิฆาตมาที่ฉันนี่แหละ และแน่นอนว่าสิ่งที่ฉันเลือกที่ทำก็คือแสร้งว่าเป็นผู้พิการทาวหูไปชั่วขณะก่อนจะห่อปากเข้าหากันและเป่าออกมาเป็นเพลงอย่างจงใจที่จะกวนประสาทมัน "เฮ้ย! ช่างมันเหอะน่าอีเจี๊ยบ ตอนนี้กูหิวมากเลยกูว่าเราไปหาอะไรลงพุงที่โรงอาหารกันดีกว่า" กินเก่งๆ แบบนี้มีแค่คนเดียวในกลุ่มเพื่อนค่ะ ยัยน้ำหวานนั้นเอง พอพูดจบมันก็เดินแบกร่างเนื้อแน่นๆ นั้นมาแทรกกลางระหว่างฉันกับยัยกระเจี๊ยบก่อนจะเดินนำหน้าไปยังแคนทีนก่อนใครเพื่อนเขาเลยค่ะทุกคน! "มึงก็เป็นอยู่อย่างนี้ไงอีช้าง นิ่งเป็นหลับขยับเป็นแดก แล้วก็อย่ามาบ่นให้กูได้ยินว่าอ้วนอีกนะ กูจะด่าซ้ำให้มึงคอยดู" กระเจี๊ยบที่ยังคงอารมณ์คลุกกรุ่นไม่หายเพราะฉันเสือกไปกวนประสาทมันได้ทีในการเหน็บแหนมยัยน้ำหวานด้วยน้ำเสียงหวีดแหลมอย่างหาที่ระบายอารมณ์ ฮ่าๆๆ "เก็บปากของมึงไว้กินของอร่อยเถอะอีเจี๊ยบ อย่าเที่ยวปล่อยมันยื่นออกมาให้ชาวบ้านตบเลยว่ะ" ปากแจ๋วแบบนี้ก็คงจะไม่พ้นยัยฟ้าใส ซึ่งยัยฟ้าใสเนี่ยมันเป็นไม้เบื่อไม้เมากับกระเจี๊ยบมานานและละคะ ตั้งแต่แรกเห็นกันนู่นแหละ! อ้อ!ไม่ต้องตกใจไปหรอกนะฮะเพราะคู่นี้เขากัดกันแลลเจ็บๆ คันๆ แบบนี้เป็นเรื่องปกตินั่นเองจ้า "อ้าวอีนี่หนิ! บวกกับกูหน่อยเป็นไงละมึง" "อ๊ะๆ หยุดเลยค่ะดอกทั้งคู่เลย ไปค่ะหาแดก เดี๋ยวเข้าแถวอีก" นางฟ้าประจำกลุ่มอย่างยัยซันนี่ที่เห็นท่าไม่ดีก็รีบเข้าไปห้ามทัพทันที ก่อนที่ฉันจะได้เห็นว่ามันดึงมือกระเจี๊ยบที่กำลังง้างอยู่กลางอากาศให้ลดลงต่ำและเดินตามยัยน้ำหวานกันไปอีกสองคน เข้าแถว "พวกมึง ดูน้องที่พึ่งมาใหม่คนนั้นดิ งานดี" กลุ่มสาวสวยจำนวนห้าชีวิตที่เหลือถึงกับอดกลั้นเสียงหัวเราะกันเอาไว้ไม่ได้หลังจากที่ได้ยินประโยคดังกล่าวออกมาจากริมฝีปากแดงเรื่องของเสน่ห์ ด้วยว่าเป็นเพื่อนสนิทกันมานานหลายปีจึงเป็นที่รู้กันดีว่า 'งานดี' ของเพื่อนรักอย่างเสน่ห์นั้นเป็นแบบไหน CLASS 4/1 หญิงไทยใจกล้าไม่แพ้ชาติใดในโลกอย่างน้องเสน่ห์ก็แว๊บมาหาผู้ชายกันถึงห้องไปเลยสิฮะ ก็นะ...เราแม่หญิงสายรุกซะอย่าง คิคิ "หวัดดีจ้ะ ชื่อไรเอ่ยพ่อหนุ่ม? เรียกพี่ว่าเสน่ห์นะ ห้องมอห้าทับหนึ่งจ้ะน้องชาย ถ้าหากน้องชายขัดข้องปรึกษาพี่ได้นะ... เพื่อนพี่เป็นหลานเจ้าของโรงเรียนจ๊ะ" ฉันบอกผู้บ่าวหุ่นหมีน่าฟัดน่ากอดที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะหันไปขยิบตากับซันนี่และเหล่าเพื่อนสาวที่ยังคงพากันหัวเราะฉันกันอย่างไม่หยุดหย่อน "เอ่อ...ชื่ออั๋นครับ" หนุ่มน้อยคนนั้นเอ่ยตอบในสิ่งที่ฉันเอ่ยถาม เขาเป็นเด็กผู้ชายชั้นมัธยมสี่ที่ค่อนข้างจะสูงใหญ่ค่ะ ผมรองทรงดำสนิทและผิวสีเข้มๆ นั้นเข้ากันได้ดีกับดวงตานิลคู่นั้นของเขา ละฉันจะบอกให้ก็ได้ว่าในตอนนี้หน้าของเขากำลังแดงอย่างรุนแรงเพราะพิษความเขินมันกำลังเล่นงานเขาอยู่นั่นเอง ฮ่าๆ น่ารักจังเลย~ "โสดมั๊ย" ฉันถามรุกเรียบๆ อย่างไม่นึกสนใจเสียงหัวเราะที่เริ่มหัวเราะดังขึ้นของอีพวกไก่กาอาราเล่ที่อยู่ข้างหลัง "ฮะ!" เด็กชายที่ได้หัวใจของน้องเสน่ห์คนนี้ไปครอบครองนับตั้งแต่วินาทีแรกที่เรามีโอกาสได้พบและสบตากัน เปิดลูกกะตาคู่นั้นขึ้นมาคล้ายว่าจะไม่อยากจะเชื่อว่ายัยรุ่นพี่คนนี้มันจะบ้านดีเดือดได้ถึงขนาดนี้ ฮ่าๆ ซึ่งฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเขาจะรู้ตัวบ้างไหมว่าไอ้ท่าทีแบบนั้นมันทำให้เขาดูน่ารักขึ้นมาเป็นกอง เขาน่ารักมากเลยค่ะทุกคน~ "ก็ถามว่าเธออะ...โสดปะ มาลองคบกันดูป่าว" ฉันยื่นกรอบหน้าเจ้าเสน่ห์ของตัวเองเข้าไปหาหนุ่มน้อยในระยะประชิด ก่อนจะช้อนเปลือกตาสีขึ้นสบตากับว่าที่แฟนหนุ่มของตัวเองในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้านี้... ถ้าเขาไม่ออกปากปฏิเสธฉันอย่างไร้ซึ่งเยื่อใยไปซะก่อนอะนะ ฮ่าๆ "โสดครับ เอ่อ...พี่พูดเล่นหรือเปล่าครับ" พ่อคนหล่อดำม่อต้อของฉันตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเบาหวิวจนเกือบกระซิบพร้อมด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยไว้วางใจในตัวอีเสน่ห์คนนี้ที่ที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าตัวเองสักเท่าไหร่ ก็พอรู้อยู่ว่าประวัติในการหลอกลวงของตัวเองมันช่ำชอง แต่ของแบบนี้ไม่ลองกับตัวมันก็ไม่รู้หรอกนะจริงไหมละ! สิบปากว่ารึจะเท่าได้สัมผัสเอง ฮิ้ว~ "หน้าตาฉันเหมือนคนกะล่อนตอแหลรึไงจ๊ะพ่อหนุ่ม ตกลงยังไงคะ? คบมั๊ยก็ว่ามาถ้าไม่ฉันจะกลับห้องของตัวเองสักที คนสวยรมณ์เสีย!" ฉันเริ่มเสียงดังใส่เขาเพราะความรู้สึกหงุดหงิดอยู่กลายๆ พร้อมกับสับสองลำแข้งเพื่อจะเดินกลับไปยังห้องเรียนของตัวเอง หมับ! "ครับ คบครับ" เจ้าของร่างสูงที่เห็นท่าไม่ดีจึงรีบตรงเข้ามาคว้าต้นแขนของน้องเสน่ห์คนสวยที่กำลังจะเดินหนีไปเพราะรู้สึกความอับอายเมื่อคิดขึ้นได้ว่าเขากำลังหักหน้าฉันด้วยการปฏิเสธกลายๆ "งั้นดีเลย~ เดี๋ยวเที่ยงไปกินข้าวพร้อมกันน้าตัวเอง~" ฉันว่าพร้อมฉีกรอยยิ้มฉ่ำที่แสนจะจริงใจ (ประชด ฮ่าๆ) ไปให้เด็กผู้ชายที่ได้ชื่อว่า 'แฟนคนแรก' ก่อนจะเดินออกมาจากห้องน้องมอสี่และอดไม่ได้ที่จะหลุดขำอีพวกผู้ป่วยโรคคลุ้มคลั่งบางกลุ่มที่มันยังคงยืนหน้าเหวอกันเป็นแถบๆ ~ นิยายเรื่องแรกที่เหยินหัดเขียน อาจจะดูเบียวๆ ไปนิดนึงต้องขออภัยด้วยจ้ะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม