ผู้มาเยือน

1438 คำ
เช้าวันใหม่ที่แสนสดใสกับน้องเสน่ห์คนสวยที่ยังคงรับบทเป็นแม่บ้านแม่เรือนอย่างเช่นทุกๆ วัน ก่อนที่คู่ใบหูน่ารักๆ ของน้องเสน่ห์นั้นจะแว่วได้ยินใครบางคนที่กำลังกดกริ่งหน้าบ้านของหนูอยู่~ ก็คงไม่ต้องเดาให้เสียเวลาหรอกจริงไหมว่าเป็นใคร ก็ถ้าชีวิตของคนเรามันจะว่างมากถึงขนาดนี้อะนะ เหอะๆ "อ้าว... ไม่ใช่นายละใครวะเนี่ย" ฉันเริ่มที่จะรู้สึกหวาดระแวงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้เมื่อเห็นว่ารถไจน่าแปงรุ่นแปดที่นั่งที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนได้จอดอยู่ตรงหน้าบ้านของฉันในตอนนี้ "ไฮ พุดเดิ้ล" "เฮ้ย! ไอ้จอนมามึงมาไงวะเนี่ย!" แต่พอได้เห็นชัดๆ ว่าเป็นใครที่ก้าวเท้าลลมาจากรถคันนั้นฉันก็ไม่รอช้าที่จะกระโดดเข้าใส่ไอ้ผู้ชายผอมสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้าของตัวอย่างแรงด้วยความคิดถึงอย่างสุดหัวใจในแทบจะทันที และผู้ชายคนนี้ที่น้องเสน่ห์คิดถึงก็คือ! 'อัครพล อภัยสุขแสน หรือจอนนี่' โดยที่ไอ้จอนเนี่ย! มันเป็นลูกชายของลุงของฉัน หรือ...พี่ชายของคนที่ฉันไม่อยากเรียกว่าพ่อนั่นเองจ้ะ "นั่งรถมาดิ" ไอ้หมอนี่มันไม่เคยคิดที่จะทิ้งลายกวนอวัยวะเบื้องล่างไปเลยสินะ ยิ่งโตแม่งก็ยิ่งเก่งในเรื่องแกว่งปากหาส้นเท้าดีจริงๆ! "แล้วนี่...น้าโสนไปไหน" "ไปทำธุระเรื่องเปิดซุปเปอร์มาร์เก็ตสาขาใหม่ที่ภูเก็ตอะ ว่าแต่...เราไปคุยกันในบ้านมันจะดีกว่าปะ" "รวยใหญ่แล้ว" จอนนี่เหย้าหยอกให้กับความสำเร็จอีกขั้นของคุณนายแม่คนสวยของฉัน ก่อนที่มันจะเดินมากอดเอวฉันอย่างที่มันชอบทำเป็นประจำจนฉันเองก็รู้สึกคุ้นชินไปแล้วแหละ "อ่ะน้ำ" ฉันรับบทเป็นเจ้าบ้านที่ดีโดยการยกน้ำเย็นๆ มาเสิร์ฟให้กับแขกผู้มาเยือนก่อนจะออกปากถามสารทุกข์สุกดิบของอีตาจอนนี่ "แล้วนี่ยังไง? มึงจะย้ายมาอยู่ในเมืองหรือกลับพิปูน?" "ก็มาเรียนธัญศิลาตามที่มึงชวนไง" "ไอ้นี่ก็บอกกูว่าลุงไม่ให้มา" คิดมาถึงตรงนี้แล้วอดไม่ได้ที่จะหมั่นไส้ใครบางคนที่ยืนกรานนักหนาว่าไม่มีทางที่จะย้ายเข้ามาเรียนโรงเรียนเดียวกับฉันแน่นอน ก่อนจะทำการเปิดกะโหลกมันไปหนึ่งครั้งแบบเน้นๆ "ก็ตอนนั้น...พ่อไม่ให้มาจริงๆ นี่หว่า แต่...ตอนนี้กูไม่มีพ่อแล้วนี่..." "มึงหมายความว่าอะไรไอ้จอน..." "พ่อ... พ่อกูหย่ากับแม่กูเขาหย่ากันแล้ว" "อะไรนะ!" "มึงฟังไม่ผิดหรอก คือพ่อกูเขาไปติดหญิงใหม่ที่รุ่นราวคราวเดียวกับพวกเรานี่แหละ แล้วก็แอบเอามาซุกไว้ในคอนโดใกล้ๆ มหาลัยพ่อ ทีนี้พอแม่รู้ พ่อก็ขอหย่า...เลยได้หย่ากัน" จอนห์นี่พูดด้วยท่าทีสบายใจ แต่มันก็จริงอย่างที่ใครเขาบอกนั่นแหละว่า 'สายตามันหลอกกันไม่ได้' เขากำลังเจ็บปวด...ฉันรู้ เพราะถ้าหากเป็นฉันเองก็คงจะรู้สึกแบบเดียวกันนั้นไม่ต่างไปจากเขา... "จอนมึง...โอเคปะวะ" "เฮ้ยไม่เป็นไรเลยกูโอเค" สิ้นเสียงคำว่าโอเค น้ำตาลูกผู้ชายของจอนนี่ก็ไหลรินลงมา จนฉันเองก็พลอยน้ำตาเล็ดไหลไปด้วยเพราะความรู้สึกเห็นใจและสงสารเขา... "แม่เสียใจมากจนคิดสั้นจะฆ่าตัวตาย โชคดีฉันเข้าไปช่วยเอาไว้ได้ทัน ไอ้จอร์จก็หนีออกจากบ้าน เจย์เดนที่ทำงานอยู่ญี่ปุ่นยังไม่รู้ ไม่มีใครกล้าบอก" "ไอ้จอน... กูว่าเราไปเที่ยวกันสักหน่อยเอาไหมละ ไปกินไก่ทอดตรงสี่แยกไฟแดงเป็นไงเจ้านั้นอร่อยมากเลยนะ แล้วก็ไปทะเลกันกูรู้จักอยู่รีสอร์ทนึง วิวสวยเว่อร์...กูเลี้ยงเอง" "..." "แก๊งกูมีห้าคน โสดสาม" ตบปากตัวเองร้อยครั้งพันครั้งเดี๋ยวนี้อีเสน่ห์! โอ๊ย! ฉันอยากจะบ้าตายกับตัวเองที่เสือกไปกล่าววาจากระจุกหนวดเสือผู้หญิงอย่างไอ้จอน! ใช่ค่ะ! ไอ้เวรนี่มันเป็นคนเจ้าชู้และฉันก็พลั้งปากออกไปให้มันได้ยินเอาซะได้ว่าเพื่อนฉันโสด! เวรเถอะอีเหน่! ตัดปากทิ้งเถอะถ้ามึงจะพล่อยมากขนาดนี้อะอีเวร! "ตกลง! แต่มึงต้องชวนเพื่อนมึงไปด้วยนะ" "เอ่อ...คิดดูอีกทีเพื่อนกูมันก็คงจะไม่ว่างกันหรอกไอ้จอน... แหะๆ ไปกับกูสองคนก็...ก็สนุกเหมือนกันน้า~" ท้ายที่สุดแล้วฉันก็ต้องยอมรับผลจากการปากพล่อยของตัวเองไปตามระเบียบ และในตอนนี้น้าบุญรวย ผู้ซึ่งเป็นคนขับรถของไอ้จอนก็ได้พาพวกเรามาจนถึงบ้านของยัยแนนซี่เพื่อที่จะรับมันไปเที่ยวเล่นตามที่ได้นัดกันเอาไว้เมื่อประมาณครึ่งชั่วโมงที่แล้ว "คนที่ชื่อแนนซี่นี่โสดปะ" "มันมีแฟนแล้ว...คนที่กูบอกว่าโสดไม่ใช่คนนี้" ฉันรีบออกตัวแทนแนนซี่ที่กำลังจะโดนไอ้จอนลวงหลอกแบบสุดฤทธิ์เพราะยัยคนนี้มันไม่เคยมีความรักมาก่อน! และฉันก็ไม่ปรารถนาที่จะให้ยัยแนนมันพบรักครั้งแรกกับผีห่าซาตานอย่างไอ้จอน! "มึงโกหกพุดเดิ้น "อีแนนมันไม่เอาหรอก... น้ำหน้าหมาๆ สันดานเสียอย่างมึงอะไอ้จอน" ฉันจงใจที่จะใช้คำพูดแรงๆ เพื่อหวังที่จะให้มันหมดความมั่นใจและล้มเลิกความคิดที่จะจีบยัยแนนซี่ไป "คอยดูเถอะเดี๋ยวกูจะจีบคนนี้ให้มึงดู" มันว่าอย่างหมายมั่นในขณะที่หัวอกหัวใจของคนปากพล่อยอย่างอีเหน่ถึงกับเต้นไม่เป็นส่ำกันเลยทีเดียว ขอให้ยัยแนนซี่โปรดมองเห็นผีเปรตที่ซุกซ่อนอยู่ในตังของไอ้จอนด้วยเถอะนะ สาธุ... "เชิญมึงไปนั่งที่นั่งข้างคนขับครับอีพุดเดิ้ล... เพราะที่ตรงนี้ข้างๆ กูมันจะมีไว้สำหรับผู้หญิงที่ชื่อแนนซี่เท่านั้น!" "เออไอ้เวร!" เขาไล่ขนาดนั้นฉันก็ต้องลงสิคะ จะให้หน้าด้านหน้าทนนั่งเฉยมันก็กระไรอยู่ จริงไหมละ! "ขอบคุณค่ะ" เสียงของยัยแนนซี่ดังขึ้นในโสตประสาทของฉันในนาทีต่อมาหลังจากที่ไอ้จอนลงทุนไปเปิดประตูรถให้กับมัน "หวัดดีอีเหน่" ก่อนที่มันจะชะโงกหน้ามาเล็กน้อยเพื่อทักทายฉันที่นั่งประจำอยู่ที่นั่งข้างคนขับ "เออ..." ฉันตอบรับอย่างซังกะตายและยังไม่วายที่จะแอบภาวนาอยู่ในใจว่าขออย่าให้ยัยแนนมันมีความสนใจต่อผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างมันในตอนนี้... "จะไปไหนวะปุบปับจัง แล้วมึงจะไม่แนะนำไอ้หัวทองนี่ให้พวกกูรู้จักหน่อยเหรอวะ" หลังจายัยแนนนั่งประจำที่แล้วน้าบุญรวยก็มุ่งหน้าไปรับซันนี่เป็นคนไปในทันที ถัดมาก็แวะรับน้ำหวาน และปิดท้ายด้วยฟ้าใสที่ในตอนนี้กำลังเอียงคอถามในสิ่งที่ทำให้มันรู้สึกสงสัย "ทุกคนนี่จอห์นนี่เป็นลูกพี่ลูกน้องฉันเอง เขาจะย้ายมาธัญศิลาปีนี้" ฉันพยายามตอบรวบรัดเพราะจอห์นนี้มันขึงตาขู่ฉันอยู่! จะบอกให้ก็ได้ค่ะไอ้จอนว่าถ้าหากไม่เป็นเพราะยัยฟ้ามันปากหมาตัวแม่ตัวมารดาที่เป็นคนตั้งคำถามนี้ขึ้นมา อีเหน่เองก็ไม่ได้อยากที่จัพูดถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของไอ้จอมกะล่อนอย่างมึงหรอกค่ะจอนนี่! "แค่นี้เองเหรอวะ?" "เอ่อ...จอน ที่นั่งข้างหลังมึง คนที่ผอมๆ หน่อยเนี่ยฟ้าใส ถัดไปคนที่ขาวอมชมพูน่ะซันนี่ เป็นหลานเจ้าของธัญศิลา ส่วนคนข้างหลังสุดที่ถักเปียน่ะอีช้าง หรือถ้าจะเรียกให้เพราะพริ้งหน่อยก็น้องน้ำหวาน ส่วนคนที่นั่งข้างมึงอ่ะแนนซี่..." รู้สึกสงสารแนนซี่ล่วงหน้าจัง แต่ยัยแนนมันก็คงไม่ชอบผู้ชายทรงแบดไอ้จอนหรอก...มั้งนะ "เราชื่อแนนซี่ ที่แปลว่าโสดนะ..." น้องแนน...ชอบคนเลวสินะนังหนู 🫢 โชคดีมีชัยจ้ะสาว 🥹🥹🥹
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม