“แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้วละค่ะ อืดอาดยืดยาดอยู่ได้” มัสลินปรายตามองทนายอีกฝ่ายที่ยื่นเอกสารโอนกรรมสิทธิ์ทั้งบ้านและเช็คเงินสดให้กับเธออย่างพึงพอใจ
“งั้นก็รีบเซ็นเถอะ ผมจะได้กลับไปทำงานต่อ”
“ยังค่ะ”
“คุณจะเล่นแง่อะไรอีกมัสลิน!” องศาเอ่ยอย่างเยือกเย็น ใบหน้าหล่อเหลาของพระเอกหนุ่มทำเอามัสลินหงุดหงิด เธอแบมือไปตรงหน้าเขาก่อนจะกำ ๆ แบ ๆ ฝ่ามือด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย
“แหวนค่ะ”
“อะไรนะ!”
“คุณไม่ได้อ่านข้อตกลงข้อที่ห้าเหรอคะ แหวนหมั้นและแหวนแต่งงานมัสเป็นคนซื้อ เอาคืนมาด้วย”
“แหวน...อ่อ ครับ” เขาเม้มปากแน่นด้วยความอับอายพลางถอดแหวนที่อยู่บนนิ้วนางออกอย่างอ้อยอิ่ง มัสลินจึงถือวิสาสะเอื้อมไปกระชากมันออกมาแทน
“นี่ช้าอะไรคะเนี่ย ถอดเร็ว ๆ สิ คิดยังไงใส่แหวนแต่งงานมาหย่า แถมยังพาชู้มาอีก ชาติชั่ว!!!”
“เป็นการหมิ่นประมาทซึ่งหน้านะครับคุณมัสลิน” เสียงดุดันราบเรียบของทนายประจำตัวขององศาเอ่ยขึ้น ทำเอาคนที่ไม่เคยคิดกลัวตวัดตาขึ้นมองเขา
“เงียบเถอะค่ะคุณทนาย ฉันอารมณ์ไม่ดี ลูกความคุณไม่ฟ้องมัสหรอกค่ะ”
“แต่ผมคิดว่าเราควรให้เกียรติกันดีกว่านะครับ”
“แต่ฉันไม่ให้ค่ะ ขอบคุณสำหรับความคิดเห็น” มัสลินยิ้มกว้างแล้วหุบฉับอย่างยียวน
เช่นเดียวกับเลขาหนุ่มที่ปรายตามองทนายหนุ่มนิ่ง แต่ในใจของเขากลับขุ่นมัวเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
เขาเห็นพิชชาลูกพี่ลูกน้องของมัสลินมาด้วยก็สงสัยมากพอแล้ว เพราะมัสลินกับพิชชาไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น เรียกว่าญาติห่าง ๆ ที่แทบไม่เห็นหน้า แต่พอเห็นเธอยืนตีหน้าเศร้าอยู่กับองศา สมชายถึงรู้สึกสงสารมัสลินจับใจ
“พี่มัสลินจะหย่ากับคุณองศาจริง ๆ น่ะเหรอคะ ลูกพีชอยากให้พี่มัสลองคิดอีกที มันเป็นความผิดลูกพีชเองแต่พี่กำลังเข้าใจผิดนะคะ คืนนั้นไม่ได้มีอะไรเลยค่ะ”
“หุบปาก”
“มัสลิน คุณหัดฟังคนอื่นบ้างได้ไหม” องศาขึ้นเสียง
เขาอยากหย่าก็จริงแต่เขาอยากให้เธอฟังเขาบ้าง
เขากับพิชชาไม่ได้เลยเถิดจนถึงขั้นมีอะไรกัน
หากแต่มัสลินกลับไม่ให้โอกาสเขาแก้ตัวเลย
“หรือคุณไม่อยากให้มัสหย่า อยากให้มัสยื้อคุณไว้ไหมคะองศา”
“ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น” เขารอคอยสิ่งนี้มาตลอด ทำไมเขาถึงจะไม่อยากหย่า
ฝ่ามือที่กำแน่นจิกปลายเล็บลงในฝ่ามือตนเอง
คนมองได้แต่ถอนหายใจ นิสัยจะร้ายก็ร้ายไม่สุด จะดีก็ดีไม่ได้ของพวกตัวเอกนี่น่ารำคาญชะมัด
“งั้นคุณ คุณ และคุณก็เงียบไปเลย ฉันคิดมาดีแล้ว เพราะแม่เธอให้หุ้นของพาดากรุปส่วนของเธอคืนมาเป็นค่าหย่าน่ะ” มัสลินตอบพิชชาอย่างร่าเริง
“หุ้นของลูกพีชเหรอคะ”
พิชชาหน้าเสียเธอไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน ของขวัญที่พาดาให้เพื่อรับขวัญเธอในวันเกิดตอนอายุยี่สิบ เงินปันผลที่ได้รับก็ใช่ว่าจะน้อย แต่ตอนนี้กลับถูกเอาคืนไปเพราะความโลภแม่ของตน
องศาเองก็ปิดปากเงียบหากแต่ความเคลือบแคลงปรากฏอยู่ในดวงตาของเขา พรรณนารียอมคืนหุ้นให้มัสลินง่าย ๆ ไม่ใช่แค่เพราะรุ้สึกผิดแน่
“ถึงจะแค่สองเปอร์เซ็นต์ก็เถอะ ต่อไปถ้าจะพาสามีชาวบ้านไปนอนที่โรงแรมในเครือก็จ่ายเงินด้วยแล้วกัน” มัสลินป้องปากกระซิบ แต่ดวงตาที่เบิกกว้างและซี้ดปากของเจ้าหน้าที่ในอำเภอก็ทำเอาเธอแอบสะใจไม่น้อย
เธอไม่อายทำไมต้องอายด้วย เธอไม่ใช่คนนอกใจสักหน่อย
“พี่มัสพูดแบบนี้ได้ยังไงคะ”
“พอเถอะ” องศาได้แต่กัดฟันข่มอารมณ์
“นี่ก็เป็นการหมิ่น...”
“บอกให้เงียบไงคะคุณทนาย หน้าที่ของคุณมีแค่เป็นพยานไม่ใช่เหรอคะ”
พวกตัวเอกนี่มีคนคอยปกป้องน่าโมโหจริง ๆ เลย
“พอเถอะครับ รีบมาทำให้มันเสร็จ ๆ ดีกว่า” องศารีบเอ่ยห้าม แต่พอเขากำลังจะถึงเอกสารไปลงนาม มัสลินก็กระชากกระดาษออกจากมือเขา
“มัสจะเซ็นก่อนค่ะ”
“เชิญครับ”
“ส่วนแหวนนี่นายเอาไปนะสมชาย แต่งงานเมื่อไหร่ก็เอาไปปรับขนาดเอา ฉันเลือกเองเพราะฉะนั้นรสนิยมฉันดีมาก นายก็รู้ใช่ไหม” มัสลินวางแหวนใส่มือเลขา
เพียงแค่นั้นดวงตาวาวโรจน์ขององศาก็ตวัดมองเธออย่างเกรี้ยวกราด “มัสลินนั่นมันแหวนผมนะ คุณทำบ้าอะไรของคุณถึงเอาแหวนแต่งงานผมไปให้ผู้ชายคนอื่น”
“มัสจะทิ้งถังขยะหรือให้คนอื่นคุณเกี่ยวอะไรด้วย หรืออยากได้เป็นที่ระลึกคะ โอนเงินเข้าบัญชีมัสอีกสิบล้านสิคะ แล้วเอาไปเลย”
“คุณมันบ้าไปแล้ว”
“งั้นสมชายนี่เป็นของนาย”
“ครับ?”
หญิงสาวหันไปมองด้านขวาของตัวเอง หางตาที่เห็นชื่อของตัวเองที่ถูกลงนามในใบสำคัญหย่ากำลังถูกดึงไปอีกฝั่ง แค่เห็นผ่านหางตาน้ำตาก็เอ่อในดวงตา แล้วหยดลงบนหลังมือของเลขาหนุ่มที่เธอกำลังสวมแหวนให้เขา
“จะทำอะไรครับ”
“ลองใส่ดูสิต้องปรับอะไรไหม”
“ไม่ต้องดีกว่าครับ ขนตาคุณหลุดผมเช็ดให้นะครับ” น้ำเสียงอ่อนโยนเอ่ย เขาเห็นน้ำตาเธอร่วงลงมาเพียงหยดเดียวจึงควักผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาให้เธอ
กลิ่นมัสก์นุ่มนวลและเย้ายวนฟุ้งกระจายใต้จมูกของมัสลิน
เธอเงยหน้ามองเจ้าของกลิ่นพลันน้ำตาที่เอ่อล้นก็แห้งเหือด ชายหนุ่มที่สวมแว่นตลอดเวลาในตอนนี้มีเพียงดวงตาสีน้ำตาลทองกำลังจ้องมองเธอราวกับไร้ความรู้สึก คิ้วคมตัดแต่งเป็นทรง กับขนตายาวที่ขยับพลิ้วเมื่อเขากะพริบตา จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากกระจับสีชมพูอ่อนที่บางเฉียบดูชุ่มชื้นเพราะเคลือบด้วยลิปปาล์มราคาแพง
ความเศร้าที่มีถูกความหล่อของเลขาหนุ่มแผดเผาระเหยหายไปในอากาศ
แล้วทำไมตัวประกอบที่เธอจำหน้าไม่ได้ด้วยซ้ำ ถึงหล่อขนาดนี้เนี่ย!!!
“มีอะไรรึเปล่าครับ” ทำไมถึงได้จ้องเขาขนาดนั้น
ชายหนุ่มขยับตัวอย่างอึดอัด
‘เปล่าไม่มีอะไรหรอก’
“โลกนี้ไม่ยุติธรรมรึไงทำไมไอ้บ้านั่นได้ชื่อองศา แล้วคนหล่อขนาดนี้ชื่อสมชายล่ะ”
“...”
“โอ๊ะ! ฉันน่าจะพูดสลับกับสิ่งที่คิดน่ะ”