1 - พบเจอ

1519 คำ
หลังจากที่คุยเรื่องงานเสร็จ น้าเพ็ญก็พาฉันมาที่ห้องพัก เป็นห้องของน้าเพ็ญเอง น้าเพ็ญจะย้ายตามคุณหญิงไปที่ฮ่องกงเลยยกห้องนี้ให้ฉัน ห้องพักอยู่ตรงข้ามกับโรงแรมที่ฉันทำงานด้วยสะดวกดีจริงๆ แถมห้องก็ใหญ่โตเอามากๆ หลังจากที่ขนของเข้าห้องจัดห้องเสร็จแล้ว ตกเย็น ฉันก็จัดการโทรนัดปลายให้มารับฉันที่โรงแรม ขืนให้ฉันไปหามันคงหลงแน่นอน ปลายคือเพื่อนสนิทของฉัน เราเรียนด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ เพิ่งจะมาห่างกันก็ตอนที่ปลายมาทำงานกรุงเทพ จึงไม่ได้เจอหน้ากันเลย แต่ก็ยังคุยแชตด้วยกันอยู่เรื่อยๆ ฉันนั่งรอปลายที่หน้าหอพักไม่นานปลายก็มาถึง เมื่อเห็นรถที่เพื่อนขับมาฉันก็ถึงกับอ้าปากค้างเพราะว่าปลายมันขับรถคันหรูมาจอดตรงหน้า ภายในรถ... “ปลาย นี่ไม่เจอกันแค่ปีเดียวไปรวยอะไรมาเนี่ย” ฉันมองการแต่งตัวของปลาย ทั้งนาฬิกา โทรศัพท์ ของที่ใช้ดูมีราคามากๆ “อยากทำงานแบบกูไหมล่ะ” “งานอะไรหรอ ?” “งานNน่ะ เอ็นเตอร์เทน รายได้ดีมากๆ เลยแหละ” ฉันก็พอรู้อยู่บ้างว่างานเอ็นเตอร์เทนเป็นยังไง แต่ฉันพูดไม่เก่ง การเข้าหาคนอื่นเท่ากับศูนย์ คงไม่เหมาะกับงานนี้ “ฉันอยากให้แกมาทำด้วยกันนะ เลิศมาก” “ไม่เอาอะฉันคุยไม่เก่ง” “แต่แกสวย แค่สวยนั่งเฉยๆ ก็ได้ทิปแล้วนะ ฉันทำได้เงินหลักหมื่นทุกวันเลยนะแก” “ไม่เอา ฉันขี้อายแกก็รู้” “แกนี่น้า” ปลายส่ายหน้าไปมาเมื่อชวนฉันไม่สำเร็จ ปลายพาฉันแวะซื้อของก่อนจะพามาที่คอนโดของนาง คอนโดปลายใหญ่โตหรูหรามาก “ปะ ปลายทำไมคอนโดแกถึงใหญ่โตขนาดนี้” “ปะ! ขึ้นห้องกัน” ปลายจูงมือฉันเดินขึ้นลิฟต์ไปยังห้องของตัวเอง ภายในห้อง... “ฉันเอาเงินที่ได้จากการทำงานมาผ่อนน่ะ แล้วก็มีลูกค้าที่เอ็นดูฉันช่วยจ่ายให้ด้วย” “เขาใจดีขนาดนั้นเลยเหรอแก ?” “อื้อ บางคนถ้าเขาถูกใจเรา เขาก็ทุ่มให้เราเต็มที่เลย” “คนที่บ้านชอบเอาเรื่องแกไปพูด วะ ว่าแกขายตัว แต่ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นเลยนะ” ฉันรีบบอกเพราะกลัวปลายจะคิดมาก ยังไงเธอก็เป็นเพื่อน “ใครอยากจะพูดอะไรก็พูดไปสิ! ฉันไม่ได้เป็นแบบนั้นสักหน่อย งานที่ฉันทำคือเอ็นเตอร์เทนแขก ไม่ใช่ไปอ้าขาให้เขาเอาแบบนั้นสักหน่อย” “ดีแล้วที่แกไม่สนใจคำพูดชาวบ้าน อย่าเก็บมาใส่ใจเลยคนอยากจะพูดอะไรก็พูดไป” “กินข้าวเถอะหิวแล้ว” ปลายเดินไปหยิบจานกับช้อนมาวางไว้ที่โต๊ะ จากนั้นฉันกับปลายก็กินข้าวกันคุยกันตามประสาคนที่ไม่ได้เจอกันนาน หลังจากกินข้าวเสร็จปลายก็มาส่งฉันที่ห้อง เช้าวันถัดมา.... ฉันรีบตื่นอาบน้ำแต่งตัว วันนี้เป็นวันแรกที่จะไปทำงานจะสายไม่ได้เป็นอันขาด #โรงแรม ฉันอยู่ในชุดยูนิฟอร์มของโรงแรมที่น้าเพ็ญเบิกมาให้เมื่อวาน และน้าเพ็ญก็บอกให้ฉันมาหาผู้หญิงที่ชื่อเพียงดาว เขาจะสอนงานฉันเอง คุณเพียงดาวเป็นผู้ช่วยผู้จัดการ ตำแหน่งรองจากอีตาขี้เก๊กนั่นแหละ “มาขอพบคุณเพียงดาวค่ะ นัดไว้แล้ว” “สักครู่นะคะ” พนักงานยกโทรศัพท์ขึ้นแล้วพูดไม่กี่คำ ไม่นานก็มีผู้หญิงอายุรุ่นราวคราวเดียวกับฉันเดินออกมาจากห้องแล้วเดินตรงมาที่ฉัน “เหมยใช่หรือเปล่า” เธอถามแล้วมองหน้าฉัน “ค่ะๆ ใช่ค่ะ” “งั้นตามฉันมานี่เลยค่ะ” ท่าทางเป็นมิตรดีแฮะ ฉันไม่คิดว่าผู้ช่วยผู้จัดการจะหน้าเด็กขนาดนี้ อายุยังน้อยอยู่เลยด้วย “นี่คือห้องทำงานของบอส และนี่ที่นั่งทำงานของเธอ งานที่เธอต้องทำคือจดตารางงานและคอยตามบอสไปทุกที่ แล้วก็ต้องอยู่ที่บริษัทจนกว่าบอสจะกลับเข้าใจใช่ไหม ?” “ค่ะๆ” พยักหน้ารับรู้รัวๆ “นี่งานวันนี้ของบอสฉันจดให้เรียบร้อย อย่าผิดพลาดล่ะ” “ค่ะ ^_^” “แล้วเธออายุเท่าไหร่ ?” “ยี่สิบสี่ ^_^” “อายุเท่าฉันเลย ไม่ต้องเกร็งนะเฮียซันเขาใจดีกับผู้หญิง” พูดจบแล้วเพียงดาวเธอก็เดินไป ได้ยินเพียงดาวบอกแบบนั้นฉันก็ชักอยากจะรู้แล้วล่ะสิว่าบอสของฉันเนี่ยจะหน้าตาเป็นยังไง ฉันนั่งลงที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ซึ่งอยู่หน้าห้องทำงานของผู้บริหาร แถมรอบๆ ก็ไม่มีใครเลย ชั้นนี้เป็นชั้นของผู้บริหาร จะมีแค่โต๊ะฉันที่เป็นเลขา ฉันนั่งก้มหน้าดูตารางงานของบอสในวันนี้อย่างตั้งใจ ก่อนจะได้ยินเสียงฝีเท้าใครสักคนเดินมาแล้วหยุดตรงโต๊ะทำงานฉัน “....เลขาคนใหม่สินะ ไหนเงยหน้าขึ้นมาให้ฉันดูหน่อย” ฉันค่อยๆ เงยหน้าขึ้น แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าผู้ชายตรงหน้าคือคนที่ปากไม่ดีใส่ฉันเมื่อวาน ไม่ใช่แค่ฉันที่ตกใจ เขาเองก็ตกใจไม่ต่างกัน เขาคือบอสซัน ลูกชายของคุณหญิงสินะ “เธอ !!” “ว่าไงคะบอส ^_^” ฉันฉีกยิ้มกว้าง เหอะ! ไม่คิดว่าโลกจะกลมได้ขนาดนี้ ไม่อยากเจอผู้ชายแบบนี้อีกแล้วแท้ๆ แต่ก็ยังต้องมาเจอกันอีก บอสซันถอนหายใจออกมาแล้วก็ทำหน้าหงุดหงิด จากนั้นก็เดินเข้าห้องทำงานไปเลย อีตาบ้า!! ฉันพูดในใจหรอกนะคำนี้ ขืนพูดออกมาเสียงดังเจอไล่ออกขึ้นมาตัวเองจะลำบากเปล่าๆ ถึงจะไม่อยากทำงานกับผู้ชายที่ปากแบบนี้ แต่ฉันก็ไม่มีทางเลือก งานไม่ได้หาง่ายๆ ยิ่งงานที่ได้เงินเดือนเยอะแบบนี้แล้วล่ะก็ ใครจะยอมปล่อยให้หลุดมือไปล่ะ เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมง กริ๊ง~ โทรศัพท์บนโต๊ะทำงานฉันดังขึ้น “ฮัลโหลค่ะ” “...เข้ามาพบฉันในห้อง ตอนนี้” ปลายสายกดเสียงต่ำออกคำสั่ง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร ฉันวางสายจากนั้นก็ลุกขึ้นเดินไปเกาะห้องของผู้บริหาร ก่อนจะเปิดประตูแล้วเดินไปหยุดที่หน้าโต๊ะทำงานของบอสซัน “วันนี้ฉันต้องไปไหนทำอะไรบ้าง ?” “วันนี้ตอนสิบโมงครึ่งบอสมีคุยงานกับบริษัทccค่ะ” “เลื่อนนัด...” เขาพูดพร้อมกับปัดมือ “ตอนเที่ยงบอสมีนัดกินข้าวและคุยงานกับคุณหญิงโฉมที่ห้องอาหารโรงแรม” “เลื่อนนัด..” เขาบอกอีกครั้ง “ตอนสี่โมงสี่สิบมีประชุมค่ะ” “เลื่อนนัดให้หมดวันนี้ฉันไม่ว่าง” ฉันได้แต่ถอนหายใจออกมา เขาเป็นผู้บริหารที่แย่ที่สุด ไม่แปลกใจแล้วแหละที่คุณหญิงจะหนักใจกับลูกชายของตัวเองแบบนั้น “เลื่อนไม่ได้ค่ะบอส” “ทำไมจะไม่ได้ ฉันสั่ง!!” “การที่บอสเลื่อนนัดแบบนั้น มันจะทำให้โรงแรมเราไม่น่าเชื่อถือนะคะ แล้วอย่างนี้ใครจะกล้ามาลงทุนด้วยในโอกาสต่อๆ ไป” “ฉันไม่ว่าง” “จะไม่ว่างได้ไงคะบอส ในเมื่อตารางงานฉันจดไว้หมดแล้ว” “นี่เธอ!!” บอสซันมองหน้าฉันอย่างหัวเสีย “สิบโมงครึ่งนะคะบอส ดิฉันจะเตรียมเอกสารรอ ^_^” พูดจบก็เดินสวยๆ ออกจากห้อง บอสซันคงจะหัวเสียมากที่ถูกขัดใจ ฟังจากที่น้าเพ็ญเล่าให้ฟังคงจะเสือไม่เบา ที่ไม่ว่างคงจะนัดสาวไว้ล่ะสิ รู้ทันหรอก พอกลับมาที่โต๊ะทำงานฉันก็เตรียมเอกสารเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการออกไปเจอลูกค้า เวลาผ่านไปสามสิบนาที “....เธอกล้าดียังไงมาสั่งห้ามบอสไม่ให้เลื่อนนัดฮะ!” เสียงยัยนี่เเสบแก้วหูชะมัดเลย ฉันเงยหน้ามอง ผู้หญิงคนนี้แต่งตัวดูดีหน้าตาสวยที่เสื้อมีป้ายพีอาร์ อ๋อคงจะเป็นฝ่ายพีอาร์เมเนเจอร์ของโรงแรมสินะ “มันเป็นหน้าที่ค่ะ” “หน้าที่อะไร เพิ่งมาทำงานวันแรกอย่ามาทำอวดดีหน่อยเลย คิดจะใช้นมไต่เต้าล่ะสิเธอน่ะ” ได้ยินแบบนี้ก็ขึ้นสิคะ ฉันไม่ยอมให้มาว่าฉันฝ่ายเดียวหรอก “เอาเวลาที่มายืนว่าฉันไปทำงานดีกว่านะคะ หน้าที่การงานก็ดี ไม่น่าปาก…หมา…แบบนี้เลย” “แก!!!” แกร็ก! ประตูห้องผู้บริหารถูกเปิดออก “มีอะไรกัน” บอสซันถามแล้วมองหน้าฉันกับยัยนั่นสลับกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม