หาทางออก

837 คำ
ตอนที่2 หาทางออก “พี่ภัส...” “อย่าเพิ่งขยับตัวนะ!” พรลภัสรีบเข้าจับตัวน้องชายไม่ให้ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วตามที่หมอสั่ง ณัฐดนัยยังมึนงงความทรงจำล่าสุดหมอบอกว่าไส้ติ่งอักเสบ ชายหนุ่มก้มมองตัวเองพลางเอามือคลำหน้าท้อง “ณัฐยังไม่ตายเหรอ” “ยัง แต่ก็เกือบนะทำไมถึงทนปวดขนาดนั้น” “ณัฐคิดว่าปวดท้องโรคกระเพาะ” ณัฐดนัยตอบพี่สาวเสียงแหบก่อนจะกวาดสายตามองรอบห้องที่มันดูหรูหรา และนึกขึ้นได้ว่าคุณครูเอาตนมาส่งที่โรงพยาบาลไหน “พี่ภัส ค่ารักษาไม่บานเลยเหรอ” “ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวพี่หาทางเอง” คนพี่ปลอบใจทั้งที่ยังไม่มีทางออกของเรื่องนี้ด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่ได้จะตำหนิคุณครูเพราะถ้ามัวรอไปโรงพยาบาลที่มีสิทธิ์รักษาก็ไม่รู้ว่าต้องรอจนน้องชายแย่ไปกว่านี้หรือเปล่า ‘มันฉุกเฉินจริง ๆ’ “จะเอาเงินจากไหนมาจ่าย คงจะเป็นแสนมั้ย” “น่าจะ แต่นอนเถอะพูดมากเดี๋ยวหิวน้ำตอนนี้ยังกินอะไรไม่ได้นะ” หญิงสาวลูบอกของน้องชายแผ่วเบา และมันทำให้คนที่ยังงัวเงียผล็อยหลับลงอีกครั้งได้ พอณัฐดนัยหลับ หญิงสาวก็เดินออกจากห้องตรงไปที่ฝ่ายการเงินของชั้นล่าง สีหน้าของเธอมีแต่ความกังวลตั้งแต่ก้าวขาเข้ามามาที่นี่ไม่คลายลงแม้แต่นาทีเดียว “สอบถามค่ารักษาของนายณัฐดนัย เลิศปัญญาค่ะ” “สักครู่นะคะ” “ค่ะ” “ตอนนี้ค่ารักษาอยู่ที่หนึ่งแสนแปดหมื่นบาท ยังไม่ทราบว่าคุณณัฐดนัยต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อให้ยาฆ่าเชื้ออีกกี่คืน ซึ่งการนอนคิดคืนละหนึ่งหมื่นสองพันบาทไม่รวมค่ายานะคะ” “ตะ..ตอนนี้หนึ่งแสนแปดหมื่นแล้วใช่มั้ยคะ” “ใช่ค่ะ กฏของโรงพยาบาลญาติต้องชำระไว้ครึ่งหนึ่งระหว่างที่ยังนอนพักรักษาตัว สะดวกชำระตอนนี้เลยมั้ยคะ” พรลภัสหน้าเจื่อนเมื่อถูกทวงเงินทางอ้อม ที่มีอยู่ก็แค่สามหมื่นไว้จ่ายค่าบ้าน ค่าเรียนสมัครของณัฐดนัยนั่นเอง “ขอเวลาก่อนนะคะ” พรลภัสไม่อยากเอาสีหน้าอมทุกข์ขึ้นไปให้น้องชายเห็นจึงเดินไปนั่งพักหน้าห้องตรวจที่เธอเข้าไปเมื่อตอนบ่าย คิดว่าคงไม่มีหมอหรือใครอยู่แล้วเพราะตอนนี้ก็เกือบจะสี่ทุ่ม แอด... “พี่สาวของณัฐดนัยหนิ มีอะไรหรือเปล่า” “เปล่าค่ะ น้องภัสแค่หาที่นั่งรบกวนหมอเหรอคะขอโทษนะคะ” หญิงสาวลุกขึ้นเตรียมย้ายที่แต่หมอนพดลก็เดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้าจนเธอไม่กล้าขยับตัวไปไหนนั่งลงที่เดิม “มีอะไรหรือเปล่าคะ” “มีปัญหาอะไรลองบอกหมอซิ” พรลภัสก้มหน้าลงไม่กล้าสบตาคนอายุมากกว่า สองมือประสานบนหน้าตักแน่นก่อนจะยอมพูดปัญหาออกไปเผื่อหมอช่วยให้ผ่อนค่ารักษาได้ “น้องภัสยังไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาให้น้องเลยค่ะ เป็นไปได้มั้ยคะถ้าหนูจะจ่ายก่อนสามหมื่นแล้วหามาผ่อนกับโรงพยาบาล” ตืด.. ตืด.. หัวใจดวงน้อยเต้นรัวเป็นกลองชุดเมื่อหมอยังไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาก็มีสายโทรเข้าหาเขาเสียก่อน “กูกำลังจะออกไป” “รู้ รอก่อนแค่แป๊บเดียว” “ค่ารักษารวมแล้วน่าจะเกินสองแสนห้านะ สามหมื่นยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งเลย” หลังวางสายหมอก็ก้มหน้าลงคุยกับหญิงสาวต่อ ก่อนจะรู้สึกคุ้นหน้าเธอขึ้นมา “แต่สามหมื่นก็คือหมดตัวแล้วค่ะ” พรึ่บ พรลภัสเงยหน้าขึ้นมองเมื่อมีคนเดินมานั่งที่เก้าอี้ห่างกันสองตัว กลิ่นน้ำหอมอย่างดีก็โชยมาให้เธอได้กลิ่นเข้าอย่างจัง พร้อม ๆ กับหมอตรงหน้าที่หันมองเขา ผู้ชายคนนั้นเหวี่ยงสายตามองเธอหัวจรดเท้า แต่เธอหาได้สนใจเขามากกว่าคนตรงหน้า “กูบอกให้รอก่อน” “ลีลา” หมอนพดลโดนเพื่อนตอกกลับสั้น ๆ แต่ก็ไม่ได้สวนอะไรกลับไป “ที่นี่ไม่มีให้ผ่อนค่ารักษาเหรอคะ” “มีนะ แต่มันก็แค่สามเดือนหนูจะหามาจ่ายไหวมั้ยล่ะ” หญิงสาวส่ายหน้าทั้งที่ยังมองตาหมอหนุ่มไม่ละ แววตาเหมือนเธอกำลังออดอ้อนเขาอยู่อย่างไม่รู้ตัว “ถ้าอย่างนั้นทำยังไงดีล่ะ ยังไงก่อนออกก็ต้องจ่ายเกินครึ่งนะ” “คืนนี้ไปคิดมาก่อนว่าจะเอายังไง พรุ่งนี้หมอเข้าหลังสิบโมงเช้ามาหาได้ไม่ต้องจองคิว” พูดจบหมอนพดลก็เดินไปหยุดตรงหน้าเพื่อนก่อนที่เขาจะลุกขึ้นและพากันเดินจากหญิงสาวไป ปล่อยให้เธอมองตามด้วยสายตาหม่นเศร้า ‘จะเอายังไงกับชีวิตดี’
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม