“เรียกอะไรนักหนา คุณเพิ่งรู้จักชื่อฉันวันนี้คุณก็เรียกชื่อฉันจนฉันเริ่มรำคาญชื่อตัวเองแล้วนะ หรือว่าชอบชื่อฉันมากกว่าชื่อเมียตัวเอง ระวังเรียกมาก ๆ แล้วจะติดปากจนเผลอครางชื่อฉันตอนยัยนี่ขย่มอยู่บนตัวนะคะคุณฟรังซ์”
ผู้หญิงคนนี้กำลังทำให้ผมปวดหัว อันธพาลแล้วก็ปากร้ายสิ้นดี ผมไม่รู้หรอกว่าสองคนนี้มีเรื่องบาดหมางอะไรกันมา อาจจะเป็นเรื่องงาน เรื่องผู้ชายที่ชื่อกายอะไรนั่นหรือเรื่องอื่นแต่การที่เธอบุกเข้ามาตบคนอื่นยามวิกาลแบบนี้มันเกินไป
“พี่ฟรังซ์ช่วยซีด้วยค่ะ” ซีแนมก็โดนตบจนล้มผมแค่จะเข้าไปลากผู้หญิงคนนี้ออกไปจากห้องแต่เธอดันตาไวคว้ามีดปอกผลไม้มาเป็นอาวุธซะก่อน
“ออกไปซะเพลงขวัญ อย่ามาบ้าแถวนี้ก่อนที่ฉันจะเรียกตำรวจ”
“ก็เรียกสิคุณคิดว่าฉันกลัวเหรอ แลกกับการได้ตบเมียคุณจะโดนกี่กระทงฉันก็รู้สึกคุ้ม” สุดยอดจริง ๆ เอามีดชี้หน้าปากกล้าแล้วยักคิ้วให้ผมอีกต่างหาก
“แกมันบ้าเพลงขวัญ!”
“ฉันไม่บ้าแบบนี้แน่นอนถ้าไม่มีอีหมาลอบกัดส่งข้อความไปด่าฉัน แน่จริงทำไมไม่เคลียร์ให้จบตั้งแต่แรกฮะ! หรือเห็นผัวเก่าแล้วเกรงใจผัวใหม่จนต้องรีบกลับ”
“พูดอะไรของเธอ อย่าไปฟังนะคะพี่ฟรังซ์” ผมไม่ได้แปลกใจอะไรหรอกครับกับการที่เธอพูดเรื่องผัวเก่าผัวใหม่ มันก็ไม่ได้แปลกอะไรสักนิด ซีแนมก็ไม่ได้บริสุทธิ์มาจากไหน เรื่องแบบนี้มันธรรมดาสำหรับผมมาก เพราะผมก็ไม่ได้บริสุทธิ์มากจากไหน และที่สำคัญผมไม่ใช่ผัวซีแนม
“เฮ้อ! ออกไปซะเพลงขวัญ มีดแค่นั้นเอามาขู่ไม่ให้ฉันเข้าไปลากตัวเธอออกไปไม่ได้หรอก” มีดเล็ก ๆ แค่นั้นทำอะไรผมไม่ได้หรอกครับ
“หึ! อย่ามาขู่ ฉันไม่ได้กลัวคุณเข้ามาลากฉันเลยสักนิดแต่ฉันไม่อยากถูกเนื้อต้องตัวผัวอีซีแนม!”
“เพลงขวัญ!” มันชักจะมากเกินไปแล้วจริง ๆ โตมายังไงทำไมถึงได้นิสัยเสียขนาดนี้วะ
“หุบปากไปเลยไม่ต้องเรียกชื่อฉัน ฉันรู้จักชื่อตัวเองดี รู้ยันนามสกุลและวันเกิด แล้วก็ไม่ต้องมายุ่งเรื่องผู้หญิงทะเลาะกัน ฉันแค่มาเช็คบิลที่อีนี่มันส่งข้อความไปด่าฉันเมื่อกี้ ถ้ายัยนี่ไม่ด่าหยาบยิ่งกว่าหน้าด้าน ๆ ของตัวเองฉันไม่มาเหยียบห้องนี้หรอก!” เอาปากร้าย ๆ ออกไปจากหน้าสวย ๆ ของเธอได้ไหมครับ มันมีวิธีไหนบ้างผมจะทุ่มเงินไปหมดหน้าตักเลย ผมเสียดายหน้าตาสวยหวานแต่มีปากเหมือนปีศาจของเธอจริง ๆ
“แกต้องการอะไรเพลงขวัญ ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้!”
“ต้องการอะไร? ถามมาได้นะซีแนม ฉันต้องการเข้ามาบอกราตรีสวัสดิ์แกมั้ง ก็ประกาศอยู่โต้ง ๆ ว่าเข้ามาตบ!”
“อีเพลง!”
“แอ๊บหลุด”
ปวดหัวโว้ย! ค่ำคืนที่ผมจะได้กินของหวานชิ้นโต ๆ ทำไมผมต้องมาเจอกับยัยปีศาจคนนี้ด้วยวะ!
“พี่ฟรังซ์คะซีว่าพี่ฟรังซ์กลับไปก่อนเถอะนะคะอย่าอยู่รับรู้การกระทำของผู้หญิงไร้สติแบบนี้เลย” คราวนี้กลับกลายเป็นซีแนมที่ไล่ผมกลับ ผมก็เซ็งนิดหน่อยแต่ก็เข้าใจครับว่าผมกับเธอยังใหม่อยู่ เธอคงไม่อยากให้ผมเห็นด้านอื่นในตัวเธอไปมากกว่านี้
“เขายังถือมีดแล้วพี่จะปล่อยซีให้อยู่แบบนี้ได้ยังไง”
ตุบ!
“ปล่อยแล้ว ออกไปสิฉันกับอีนี่จะได้ตบกันให้มันหลุดโลกซะที” ผมบอกซีแนมด้วยความเป็นห่วง ผมเป็นผู้ชาย ถึงจะรักสนุกไม่ผูกพันแต่ก็ไม่ได้แค่ฟันอย่างเดียวโดยที่ไม่สนใจเลยว่าตอนนี่เพื่อนร่วมเตียงกำลังโดนมีดชี้หน้าแต่เพลงขวัญกลับปามีดในมือทิ้งทันทีที่ผมพูดจบ
“ซีไม่เป็นไรค่ะพี่ฟรังซ์ ซีขอเคลียร์นะคะ” ซีแนมมองผมด้วยแววตาขอร้องแต่ผมไม่ใช่ผู้ชายใจหมาที่จะปล่อยให้ผู้หญิงตบกันหรอกนะครับ
“พี่ไม่กลับ แยกกันก่อนพี่ถึงจะวางใจ”
“ถ้าผัวเธอไม่กลับแล้วจะตบไม่มันสินะซีแนม เฮ้อ! เสียเวลาคุย”
เพี้ยะ!
เพลงขวัญบ่นพึมพำส่ายหน้าทำเหมือนเซ็งใส่ซีแนมแล้วก็ตบหน้าซีแนมฉาดใหญ่
“เพลงขวัญ! มันจะมากไปแล้วนะ!” ผมตรงเข้าไปชาร์จเพลงขวัญด้วยการล็อกแขนเธอจากด้านหลังแล้วก็เบี่ยงตัวให้หันหลบซีแนมด้วยความเร็ว ไม่งั้นจะกลายเป็นว่าผมไปล็อกตัวเพลงขวัญให้ซีแนมตบซะเปล่า ๆ
“นี่! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะจะล็อกฉันให้เมียคุณตบใช่ไหม! / พี่ฟรังซ์จับมันไว้เลยค่ะซีจะตบยัยนี่ให้หายบ้า!”
“หยุดซีพอแล้วอย่าตบกันเหมือนพวกไร้การศึกษา!” ซีแนมปรี่เข้ามาจะตบเพลงขวัญส่วนเพลงขวัญเองก็พยายามดิ้นให้หลุดจากการล็อกของผม ผมก็เลยตะคอกลั่นห้องจนเธอสองคนหยุดชะงัก
“ไปแต่งตัวให้เรียบร้อยซีแนม ที่เหลือพี่จะจัดการเอง” ผมสั่งซีแนมด้วยความรู้สึกโคตรอารมณ์เสีย โคตรเกลียดผู้หญิงที่ชอบตะโกนแหกปากโวยวายเอะอะก็จะตบกันแบบนี้ที่สุดเลยว่ะ
“นี่ปล่อย! จะพาฉันไปไหนฮะ! ปล่อยสิ!” ผมดันเพลงขวัญให้เดินไปข้างหน้าหลังจากที่สั่งซีแนมจบ
“พากลับห้องเธอไง ไปแหกปากโวยวายคนเดียวในห้องของเธอโน่น” แรงโคตรเยอะผมก็เลยต้องดันแรงขึ้น
“ฉันจะกลับเอง ปล่อย!” หึ! ขืนปล่อยก็คงได้วิ่งเข้าไปตบกับซีแนมต่ออีกรอบน่ะสิครับ
“ห้องอยู่ชั้นไหน”
“ปล่อย!”
“ถ้าไม่บอกฉันจะลากเธอโยนเข้าบันได้หนีไฟ นี่ชั้น 20 อยากเดินลงไปถึงชั้นล่างแล้วค่อยกลับห้องก็ตามใจ” บันไดหนีไฟมันเปิดเข้าแต่เปิดออกไม่ได้อยู่แล้วต้องลงไปถึงชั้นล่างเท่านั้น นอกจากเธอจะบ้าเคาะเรียกให้คนช่วยเปิดประตูให้เท่านั้นล่ะถึงจะออกมาได้
“ปล่อยแล้วฉันจะกลับเอง! อย่ามาแตะตัวฉัน!” เพลงขวัญเลิกโวยวายเสียงดังแล้วก็บอกผมเสียงแข็งแทน
“ไม่ บอกมาดี ๆ เพลงขวัญ”
“ไม่!” ไม่บอกผมก็ไม่แคร์แล้วครับเพราะผมเห็นวิธีอื่นที่จะลากเธอกลับห้องแล้ว
“เฮ้ย! นี่จะทำอะไรไอ้บ้า ว้าย!” ผมเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของเธอ กระเป๋าอยู่ตรงก้นซะด้วยสิ ก้นแน่นเป็นบ้าเลยขนาดไม่ได้ตั้งใจบีบแล้วสุดท้ายผมก็ได้คีย์การ์ดห้องเธอมาไว้ในมือ มันมีตัวเลขเล็กๆ บอกเลขห้องอยู่จากนั้นผมก็ลากเพลงขวัญขึ้นลิฟต์พาไปส่งที่ห้อง
“โอ้ย!” พอเปิดประตูห้องเธอได้ผมก็ผลักเพลงขวัญเข้าไปในห้อง เธอคงไปชนกับชั้นอะไรสักอย่างในห้องของเธอมั้งถึงได้ร้องเหมือนเจ็บแบบนั้น
ผมตามเข้ามาในห้องแล้วก็เปิดไฟให้มันสว่าง ชนจริงด้วยครับแต่แค่ชนกับโต๊ะตัวเล็กไม่น่าจะเจ็บเท่าไหร่ คนบ้าบิ่นแบบนี้โดนแค่นี้ยังไงก็ไม่หายซ่าหรอก
“เธอเป็นผู้หญิงที่อันธพาลและไร้สติที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมา”
“ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้!”
“ฉันไม่รู้หรอกว่าเธอกับซีแนมมีเรื่องอะไรกันมาแต่การกระทำของเธอวันนี้มันแย่ที่สุดเลยเพลงขวัญ” ขอผมดุหน่อยเถอะครับ รู้สึกอยากดุผู้หญิงคนนี้ขึ้นมาสุดใจทั้งที่เพิ่งเคยเห็นหน้ากันเพิ่งรู้จักแบบผิวเผินด้วยซ้ำ แต่ผมอยากดุเธอชนิดที่ถ้าไม่ได้ดุผมต้องหงุดหงิดไปทั้งคืนแน่
“แล้วไง? มีแค่ฉันคุณแล้วก็ยัยนั่น ฉันต้องแคร์สายตาใคร?”
“นิสัยเสีย” เกิดและโตมายังไงทำไมถึงได้นิสัยเสียแบบนี้วะ
“ก็ดีกว่าเมียคุณอยู่นิดหน่อยนะฉันมั่นใจ” นิสัยเสียแล้วก็เถียงเก่งสุด ๆ ไปเลยว่ะ
“ช่วยพูดเพราะ ๆ ให้มันเหมาะกับหน้าตาของเธอหน่อยได้ไหมเพลงขวัญ” ผมไม่เคยโดยผู้หญิงพูดจาร้ายใส่ทุกคำแบบนี้เลยครับ ผมไม่ชอบเลยสักนิด
“เป็นผัวฉันเหรอฉันถึงต้องพูดดีด้วย นอกจากไม่ใช่ผัวฉันคุณยังเป็นผัวศัตรูนัมเบอร์วันของฉันอีกด้วยเผื่อคุณยังไม่รู้สถานะของตัวเอง” เธอไม่กลัวอะไรเลยรึไงวะ เธอไม่รู้ตัวเลยเหรอว่าตอนนี้เธอกำลังอยู่กับผมสองต่อสองในห้องและมันดึกมากแล้ว พูดจาชวนโดนจับปล้ำให้หายปากดีจริง ๆ
“ฉันก็ไม่คิดจะเอาเธอมาเป็นเมียฉันเหมือนกัน” ผมไม่ได้พูดกวนประสาทหรอกนะครับแต่ผมไม่เอาผู้หญิงแบบนี้มาเป็นเมียแน่นอน แค่คิดว่าต้องเอามาเป็นคู่นอนก็หมดอารมณ์แล้ว
“ถ้างั้นก็กลับไปได้แล้วมั้ง ยัยซีแนมร้องหาแล้วล่ะ ต้องให้บอกไหมว่ายัยนั่นจะร้องยังไง”
“เพลงขวัญ!”
“คะ?”
“เลิกพูดจาถึงคนอื่นแย่ ๆ แบบนี้สักที!” ความซวยอะไรในชีวิตที่ทำให้ผมต้องมาบังเอิญพบเจอผู้หญิงแบบนี้กันนะ ปากร้ายไม่ว่าแต่อันธพาลเหมือนที่เธอทำผมโคตรไม่ชอบ แล้วก็พูดจาดูถูกว่าร้ายคนอื่นแบบนี้ผมก็ยิ่งไม่ชอบ
“เอาคำนี้ไปบอกซีแนมคนดีของคุณก่อนไหมคะ ถ้ายัยนั่นทำได้สักห้าสิบเปอร์เซ็นต์ฉันจะยอมงดพูดคำหยาบไปตลอดชีวิตเลย”
“เธอเข้าไปตบซีแนมก่อนนะเพลงขวัญ ฉันไม่แจ้งความก็ดีเท่าไหร่แล้ว”
“191 เบอร์ง่าย ๆ ใคร ๆ ก็โทรได้ โทรไปแจ้งเลยสิ”
“อ่าส์! ท่าทางเธอจะไม่สำนึกหรือรู้สึกผิดเลยนะ” ผมปวดหัวกับผู้หญิงคนนี้จริง ๆ
“ไม่เลยสักนิดค่ะเพราะฉันไม่ทำร้ายใครก่อนอยู่แล้ว ทำเฉพาะเวลาโดนหมากัดก็เลยซัดกลับเท่านั้น แล้วทำไมฉันต้องสำนึก” ^^
“...” ผมมองหน้าเพลงขวัญด้วยความอึ้งแล้วก็ตัดสินใจได้ว่าเถียงหรือสอนเธอไปก็เปล่าประโยชน์ ไม่รู้จะมายืนเถียงกับคนไม่มีเหตุผลทำไม ยิ่งเถียงกับผู้หญิงด้วยผมก็ยิ่งรู้สึกว่ามันเริ่มไม่ใช่ตัวผมแล้ว
“จะกลับรึยังคะ หรือสนใจจะค้างที่นี่ ไม่ได้หรอกนะเดี๋ยวแฟนฉันจะขึ้นมาแล้วเขาลงไปเอาของที่รถ”
“หึ!” เธอลอยหน้าลอยตาตอบได้น่าหมั่นไส้ที่สุดผมก็เลยแค่นเสียงใส่เธอแล้วก็เดินออกมาจากห้องเธอซะ
ปัง!
ตื๊ดดดด ตื๊ดดด
(ฮัลโหลพี่ฟรังซ์อยู่ที่ไหนคะทำไมไปนานจัง)
“พี่จะกลับแล้วนะซีแนม”
(ทำไมคะพี่ฟรังซ์ ซีทำอะไรผิดทำไมถึงจะกลับเลย) ซีแนมเริ่มทำเสียงไม่พอใจใส่ผม
“ไม่ได้ทำอะไรผิดหรอกแต่เหตุการณ์เมื่อกี้ทำพี่ปวดหัวมาก พี่ขอกลับบ้านไปพักผ่อนดีกว่านะ”
(ก็มาพักที่ห้องซีสิคะ เดี๋ยวซีทำให้ผ่อนคลายเอง) ซีแนมเริ่มเหวี่ยงปนยั่วขึ้นเรื่อย ๆ
“ไม่ดื้อสิซีแนม” ผมไม่ได้กะล่อนเอาแต่ตามใจผู้หญิงเพื่อฟันอย่างเดียวหรอกนะครับ ถ้าผมบอกว่าอยากพัก ผมจะกลับบ้านก็คือตามนั้น ผมไม่ใจดีให้ใครมาเซ้าซี้เท่าไหร่
“...ก็ได้ค่ะ” เสียงซีแนมตอบรับเหมือนจำใจแต่ผมก็ไม่ได้สนใจจะคุยอะไรต่อ เหตุการณ์เมื่อกี้ผมไม่ประทับใจเท่าไหร่ค่ำคืนที่น่าจะสนุกมันหายไปจนผมรู้สึกเซ็ง เซ็งไปหมดโดยเฉพาะ...
...เพลงขวัญ ผู้หญิงคนนั้นเป็นผู้หญิงบ้า ๆ ที่ผมขอเจอแค่วันนี้วันเดียวเท่านั้นในชีวิต!