“กรี๊ด...งู!”
มณีธารากรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อเห็นงูยักษ์สีฟ้าอมเขียว ที่ขนาดลำตัวทั้งใหญ่ทั้งยาวมากกว่างูทั่วไปที่เคยพบเห็นกำลังขดตัวอยู่บนพื้นดินห่างออกไปไม่ไกลนัก
งูตัวนั้นกำลังชูคอแผ่พังพานอันใหญ่โตดูเกรงขามระคนน่ากลัว ดวงตาสีเหลืองจ้องเขม็งมาที่เธออย่างไม่วางตาเมื่อรู้สึกว่ามีผู้บุกรุกเข้ามาถึงถิ่นที่อยู่ของตนโดยไม่ได้รับเชิญ หญิงสาวขนลุกซู่ไปทั้งตัวเมื่อต้องประจันหน้ากับงูตัวนั้นในระยะที่ห่างกันเพียงไม่กี่ก้าว
“...”
หญิงสาวสั่นสะท้านไปทั้งร่าง เหงื่อแตกพลั่ก เธออยากจะกรีดร้องออกไปดัง ๆ เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ทว่าสถานที่แห่งนั้นกลับเต็มไปด้วยความมืดสลัว มองไปทางไหนก็มีแต่ความเคว้งคว้างว่างเปล่า ไม่มีร่องรอยของสิ่งมีชีวิตใด ๆ อยู่เลย
มณีธาราเหลียวมองไปรอบ ๆ กายเพื่อหาทางหนี จนกระทั่งเธอมองไปยังผนังอีกด้านหนึ่งที่มีประตูบานใหญ่ถูกปิดไว้ คาดว่าน่าจะเป็นทางออกเดียวที่จะทำให้เธอสามารถหนีรอดจากเจ้างูยักษ์ตัวนี้ไปได้ หญิงสาวจึงกลั้นหายใจค่อย ๆ ถอยเท้าให้ห่างออกมาช้า ๆ ก่อนจะรีบวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตเพื่อพาตัวเองหนีเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่น่ากลัวเช่นนี้ไปให้ได้
เพียงไม่กี่ก้าวก็จะถึงประตูบานนั้นแล้ว แต่เมื่อเธอได้ยินเสียงขู่ฟ่อ ๆ ดังมาจากทางด้านหลัง ทำให้เธอตกใจเผลอหันกลับไปมอง แต่แทนที่จะเห็นงูเลื้อยมาบนพื้นแบบที่ควรจะเป็น ทว่างูเจ้ากรรมตัวนั้นกลับลอยแหวกอากาศจู่โจมมาที่เธออย่างรวดเร็ว
เมื่อเหตุการณ์จวนตัวมณีธาราจึงหลับหูหลับตารอรับความเจ็บปวดที่กำลังจะเกิดขึ้นตรงหน้าอย่างสิ้นหวัง
‘ตายแน่ ๆ น้ำเอ๊ย’
ในเสี้ยววินาทีที่คิดว่าต้องตกเป็นอาหารของงูยักษ์นั่น พลันหัวของงูตัวนั้นกลับค่อย ๆ วนรอบกายเธออย่างช้า ๆ ตามมาด้วยลำตัวและหางตามลำดับ จนทำให้ร่างทั้งร่างของเธอตกอยู่ในสภาพโดนรัดจากงูใหญ่ เธอกลับสัมผัสได้ถึงความเย็น นุ่ม และเรียบลื่นที่โอบล้อมกายอย่างช้าๆ
น่าแปลกที่มันกลับไม่ทำให้เธอเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย...
“น้องหญิง...” หูแว่วได้ยินเสียงแหบพร่าลอยแว่วมาจากที่ไกลๆ
น้องหญิง? เรียกใครกัน เธอหรือ...
“เจ้าธาราของพี่ อย่าไป กลับมา...” เสียงนั้นทั้งอ่อนหวานเจือเว้าวอน ปลุกเธอให้ตื่นขึ้นจากห้วงนิทรา จนผวาสะดุ้งสุดตัว
“นั่นใคร!”
เงียบกริบไม่มีเสียงตอบจากใคร เพราะในตอนนี้เธอกำลังนั่งอยู่คนเดียวบนเตียงนอนภายในห้องนอนของตัวเองในชุดนอนสีน้ำเงิน ปล่อยผมดำสลายยาวกลางหลังที่บัดนี้ยุ่งเหยิงหลังจากตื่น ผ้าห่มที่ควรจะปกคลุมอยู่บนร่างกาย กับหมอนข้างที่ควรจะอยู่บนเตียงก็หล่นลงไปกองอยู่ข้างเตียงนอน สภาพของที่นอนในตอนนี้ราวกับเพิ่งผ่านสมรภูมิรบมาหมาด ๆ
มณีธาราถอนหายใจยาวออกมาอย่างโล่งอก
“นี่เราฝันไปหรือนี่”
นึกแล้วก็ให้ขนลุกขนพองเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในฝันที่เพิ่งจะโดนงูรัดมาหยก ๆ ฝันอะไรมันช่างเหมือนจริงและชัดเจนเสียเหลือเกิน ชัดจนจดจำทุกอณูสัมผัสที่โอบรัดลำตัวได้แม่น ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกขนพองสยองเกล้าขึ้นมาอีกครั้ง
ฝันอะไรน่ากลัวแบบนี้ หรือมันจะเป็นลางบอกเหตุ...
“บอกเหตุอะไรกัน กินมากฝันมากต่างหาก” หญิงสาวรีบปัดความคิดงมงายออกจากหัวทันที