“เรานี่มันเจ้าเล่ห์นะ” เบนจามินว่าก่อนจะเมินหน้าออกนอกรถ เพื่อหลบเร้นอารมณ์บางอย่างที่สื่อออกทางสายตา กลัวเหลือเกินว่ามันจะทำให้เธอรู้
“ไม่โกรธนะที่พี่จะพาไปบ้านก่อนน่ะ” เบนจามินเอ่ยถามอีกครั้งทว่าไม่ได้หันมามองหน้า
“ไม่ค่ะ ไม่ต้องคิดมาก อย่าไปส่งซันดึกเกินไปก็พอ”
“สัญญาว่าจะไม่ดึกและจะไปส่งด้วยตัวเอง”
“ไม่ต้องหรอกค่ะท่าน ให้คนขับรถไปส่งพอ เห็นว่ากลางค่ำกลางคืนสายตาไม่ค่อยดีไม่ใช่เหรอคะ” เธอแซวเขาหรือพูดจริง ๆ เนี่ย ให้ตายสิ
“รู้ได้ไงว่าพี่สายตาไม่ดี มืด ๆ ยิ่งมองเห็นชัด โดยเฉพาะตอนดับไฟ”
“นั่นมันตอนที่คุณบี๋อยู่กับสาว ๆ มืดยังไงก็เห็นค่ะ คนละเรื่องกับเวลาขับรถ”
“หึ ๆ พี่ไม่ได้ขับรถเอง ไม่ได้แปลว่าสายตาไม่ดี แค่สายตาสั้นเท่านั้นเอง แต่ขับรถกลางคืนก็พอได้”
“อันตราย ซันไม่ให้ไปส่งหรอกค่ะ” อาทิตยาบอกและยิ้มหวาน จากนั้นเขาก็ได้แค่ยิ้มรับเท่านั้น ก่อนจะหยุดการสนทนาที่แสนจะคุยกันราวกับคนรู้ใจ ต่อมาก็รอกระทั่งคนขับรถแล่นเข้ามาในบริเวณคฤหาสน์หลังใหญ่ ที่เบนจามิน อยู่กับคนรับใช้เท่านั้น ครอบครัวไม่ว่าจะเป็นบิดามารดานั้นไม่มี เพราะท่านเสียชีวิตไปแล้วทั้งคู่ ฉะนั้นบ้านหลังใหญ่ก็ใช่ว่าจะมีความสุขเสียทีเดียว
“สวัสดีค่ะคุณซัน ดีใจจังเลยค่ะวันนี้คุณซันมา” ป้านิด ซึ่งเป็นแม่บ้านกล่าวทักทายขณะที่อาทิตยาก้าวลงจากรถพร้อมกับเปิดทางให้เจ้านายหนุ่มลงมาด้วย
“สวัสดีค่ะป้านิด เจ้านายบังคับให้มาน่ะ” อาทิตยายกมือไว้ป้านิดพร้อมกับยิ้มหวาน
“มาก็ดีแล้วล่ะค่ะ คุณบี๋จะได้มีเพื่อนทานมื้อเย็นด้วย เอ่อขอกระเป๋านะคะเดี๋ยวป้าเอาขึ้นไปเก็บให้คุณบี๋เอง”
“ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ” ว่าแล้วอาทิตยาจึงยื่นกระเป๋าเอกสารส่งให้ป้านิดทันที ขณะที่เบนจามินได้แต่ปรายตามองเธอ พร้อมกับชักสีหน้าเคร่งเครียดใส่อีกรอบ ก่อนจะเดินเข้าบ้านแต่ถึงกระนั้นอาทิตยาก็เดินตาม เพื่อไปทำหน้าที่เลขาให้เหมือนอย่างเคย
“ถอดเสื้อสูทมาค่ะ เดี๋ยวซันเก็บให้” อาทิตยาบอกพลางยื่นมือไปหมายจะถอดเสื้อให้ แต่เขาก็ถอดให้แต่โดยดีก่อนจะส่งให้ เธอก็ถือเอาไว้กระทั่งเดินมาจนถึงห้องรับแขก ซึ่งมีราวสำหรับแขวนเสื้อ
“เจ้านายของซันชายน์เนี่ย หลายอารมณ์จังเลยนะคะ อยากได้น้ำอะไรเย็น ๆ ไหมคะซันจะไปจัดการให้” รู้ใจเขาเหลือเกิน แล้วแบบนี้ใครจะกล้าไล่ออกเล่า เขาคิดพลางมองหน้า
“ขอน้ำหวานเย็น ๆ ก็แล้วกัน ดูเหมือนน้ำตาลลดยังไงก็ไม่รู้ เหนื่อย” น้ำเสียงของเบนจามินดูอ่อนเพลียขึ้นถนัดตา ก่อนจะกลับมาถึงบ้านก็ดูปกติดี เธอคิด
“ฮ่า ๆ พูดอย่างกับว่าเป็นเบาหวานน่ะค่ะ” หัวเราะร่า เพราะก่อนหน้านี้แค่แซวเขาเท่านั้นเอง
“ไม่เป็นเบาหวานก็น้ำตาลลดได้ ตัวเองพูดเอง ไปเร็วพูดมากจัง”
“งั้นรอสักครู่นะคะ” ว่าแล้วอาทิตยาจึงเดินไปที่หลังเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม ซึ่งอยู่ในห้องรับแขกนี่แหละ จากนั้นก็จัดการชงน้ำหวานเย็น ๆ มาให้เขา แต่ระหว่างรอก็มีเสียงโทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้นเสียก่อน
กริ้ง!!! กริ้ง!!! กริ้ง!!! เบนจามินถอนหายใจก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกงแล้วยกขึ้นมาดู แต่ก็ต้องขมวดคิ้วพลางถอนหายใจอีกรอบ
จากนั้นจึงหันไปมองอาทิตยาเล็กน้อยแล้วจึงกดรับ
“สวัสดีครับคุณโดมินิค” เบนจามินทักทายอย่างเป็นทางการ ซึ่งเรียกว่าประชด และชื่อที่เรียกเมื่อครู่ก็ทำให้อาทิตยาได้ยินแล้วถึงกับมองบนเลยทีเดียว
“เลขาของแกกลับบ้านยังไงวะ” ประโยคแรกนึกว่าจะคุยกันเรื่องงานเสียอีก เบนจามินคิด ขณะที่อาทิตยาเดินมาพอดีพร้อมกับเสิร์ฟน้ำหวานวางลงตรงหน้าแล้วเดินไปนั่งโซฟาตรงข้ามกับเขา
“ถามทำไมวะ” เบนจามินถามกลับเสียงเรียบทันที
“ก็ ฉันยังเห็นรถจอดอยู่”
“เป็นความผิดแกไงที่ไม่ยอมให้เลขาฉันเอารถมาบริษัทด้วยตั้งแต่แรก”
“อ้าว ก็จะได้ไม่เปลืองน้ำมันไง”
“เป็นข้ออ้างมากกว่า แต่ไม่ต้องห่วงฉันให้คนไปส่งแล้ว ส่วนรถน่ะเดี๋ยวให้คนไปเอา”
“เป็นเจ้านายที่ใจดีเหลือเกิน” โดมินิคประชดเล็กน้อย
“แน่นอน แล้วแกมีธุระแค่นี้เหรอ ไม่คิดอยากจะคุยเรื่องงานกับฉันบ้างหรือไง”
“งานน่ะคุยกันเสร็จแล้ว นี่เพื่อน ฉันจริงจังนะ” จบคำของเพื่อน เบนจามินก็หัวเราะแทรกทันที
“หึ ๆ ฉันก็เห็นแกจริงจังกับทุกคน จริงจังเพื่อที่จะหลอกฟันเขาท่าเดียว เสร็จแล้วก็เททิ้ง แบบนั้นใช่ไหม” คำพูดของเบนจามินทำให้อาทิตยาถึงกับมองหน้า เพราะไม่คิดว่าเจ้านายจะพูดตรงได้ขนาดนี้
“ไอ้บ้า คนนี้จริงจังนะโว้ย ช่วยหน่อยสิเพื่อน แค่แกเปิดโอกาสให้ฉันจีบ ไม่ถึงกับต้องเป็นพ่อสื่อก็ได้”
“ฉันตอบไปแล้วว่าไม่ อีกอย่างฉันไม่อยากเห็นน้ำตาแกเช็ดตัวเข่าว่ะ”
“โอ้โหอะไรจะขนาดนั้น คนของแกเคยทำให้ใครอกหักอย่างนั้นเหรอ”
“ไม่เชื่อเหรอ ซันไม่ชอบคนแบบแก” เบนจามินบอกออกมาตรง ๆ
“แบบฉันมันทำไม” โดมินิคถามกลับ แต่อยากรู้จริง ๆ สินะว่าตัวเองเป็นคนแบบไหนเบนจามินคิด
“คิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายแบบไหน ที่มาถึงเมืองไทยได้สองวันก็ลากผู้หญิงเข้าห้อง แกคิดว่าเลขาฉันเฉยชากับเรื่องนี้อย่างนั้นเหรอ” คำพูดของเบนจามินทำให้โดมินิคอึ้งไปเลย
“คือ เอ่อ ผู้หญิงคนนั้นเขาทำงานหาเงิน ฉันไม่ได้จริงจังด้วย”
“แต่ผู้หญิงแบบซันชายน์ รับไม่ได้หรอกนะฉันจะบอกให้”
“แยกแยะหน่อยสิวะเพื่อน”