ตอนที่ 3 ต่อ

2089 คำ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ทำให้คนที่นอนคุดคู้อยู่บนโซฟาต้องสะดุ้งตื่น พร้อมกับรีบคว้าอุปกรณ์สื่อสารมาไว้ในมือ "ฮัลโหล" ชมธีราส่งเสียงทักปลายสาย พร้อมกับพยุงตัวให้ลุกขึ้นนั่ง ก็เผลอพักสายตานานไปหน่อย "ถึงหน้าบ้านแล้ว ออกมาเปิดประตูให้ทีจ้ะยาหยี" เสียงปลายสายทำให้เจ้าของบ้านต้องชะเง้อมองไปนอกรั้ว ก่อนจะกดตัดสาย และเดินไปหน้ารั้วบ้าน "พึ่งตื่นรึไง" คำทักแรกที่เพื่อนสนิททัก "อื้ม ปวดหัวน่ะ เลยนอนพัก" "ก็บอกว่าแล้วว่าอย่าโหมงานหนักไว้คนเดียว แบ่งให้คนอื่นทำบ้างสิ" พูดก่อนจะนั่งลงที่โซฟาตัวยาวกลางบ้าน "ถ้าทุกคนทำงานเหมือนฉัน ฉันคงวางใจ" ก็เด็กสมัยใหม่ที่มาเป็นอาจารย์ทำงานไม่ทุ่มเทเท่าเธอสักคน คงจะเป็นการเสี่ยงถ้ามอบหมายงานสำคัญให้คนพวกนั้นทำ "เธอมันพวกยึดติดไม่ปล่อยวางต่างหาก" บอกออกมาก่อนจะเหลือบมองที่นิ้วนางข้างซ้ายของชมธีรา "รวมถึงเรื่องผู้ชายด้วย" หล่อนบอกออกมาอีกด้วยสายตาจับผิด "หมายความว่าไง" "เก้าเดือนแล้วนะ ที่เธอกับกรณ์แยกกันอยู่ ตกลงจะหย่าหรือจะคืนดีกัน" ชมธีรานิ่งงันทันทีกับคำถามนั้น นั่นสิ ที่ไม่ตัดสินใจเด็ดขาด เพราะเธอกำลังรอคอยต่างหาก รอคอยให้เขากลับมาง้อ "ฉันให้โอกาสกรณ์ได้ทบทวนความผิดของตัวเอง" "แล้วไงอีก" ถามออกมาด้วยสีหน้าคาดคั้น "ยี่สิบปีเลยนะที่ฉันกับกรณ์คบกัน" "เสียดายเวลาหรือไง" "อืม" "แล้วไล่เค้าไปทำไมตั้งแต่ทีแรกล่ะ" "กรณ์ไม่เคยทำผิด ไม่เคยนอกใจ นั่นน่ะครั้งแรก ฉันเลยทำอะไรไม่ถูก" "โธ่ งั้นก็ไปง้อเค้าสิ" "จะบ้าเหรอ กรณ์เป็นคนผิด แล้วทำไมฉันต้องเป็นคนง้อด้วย" "แค่นี้เธอน่าจะคิดได้นะ ถ้าเค้าอยากจะคบกับเธอต่อ คงจะกลับมาง้อแล้วล่ะ และคงไม่รอให้เวลาผ่านเลยมาเก้าเดือน" คนฟังเริ่มคิดตามสิ่งที่เพื่อนพูด "บางทีผู้ชายอาจจะเบื่อของเก่า พอได้เจออะไรใหม่ๆ เช่น เลขาสาว สุดเซ็กซี่ ลีลาร้อนแรง เลยทำให้ลืมมนุษย์ป้าอย่างเธอก็ได้นะ" "นี่กาน! เลิกพูดเรื่องนี้สักที ถ้าเธอเป็นเพื่อนฉัน ก็อย่าตอกย้ำเรื่องนี้ได้มั้ย ไม่ใช่ว่าฉันไม่เจ็บนะ รู้มั้ยที่ฉันทนอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะฉันอดทน ขอร้องล่ะ อย่าพูดถึงผู้หญิงคนนั้นอีก" ไม่เคยอดทนได้เลย ทุกครั้งที่ใครต่อใครก็พูดถึงเรื่องที่สามีมีชู้ แถมชู้คนนั้นก็เป็นคนที่เธอรู้จักดี และแถมยังสาวและสวยกว่า วิกานดา คือ เพื่อนสนิท พวกเธอเรียนมาด้วยกันและทำงานที่เดียวกัน หล่อนเป็นรองผู้อำนวยการ ส่วนชมธีราเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ พ่วงด้วยอาจารย์ฝ่ายปกครอง วิกานดาช่วยเหลือเธอทุกเรื่องทั้งยังคอยผลักดันเรื่องงาน "เอามาซิ จะตรวจให้" หล่อนเปรียบเหมือนพี่เลี้ยง มักหยิบยื่นโอกาสทางหน้าที่การงานให้ปัญจพร "ไว้ค่อยทำก็ได้ ฉันอยากจะทำแผนการสอนให้เสร็จก่อน" "เป็นแค่อาจารย์ไปวันๆ ไม่ได้หรอกนะ เธอต้องทำผลงานด้วย" ซึ่งใช่ ชมธีราเป็นคนแบบนั้น เธออยากจะโฟกัสเรื่องการสอนและดูแลเด็กนักเรียนมากกว่าการมานั่งทำผลงาน แม้มันจะไม่ทำให้เธอก้าวหน้าทางตำแหน่งและเงินเดือนก็ตาม "เห้อ นี่ก็จะค่ำแล้วนะ เธอกลับบ้านไปเถอะ" "อะไรเนี่ย มาเพราะเป็นห่วงแท้ๆ " วิกานดาเอ่ยออกมาอย่างงอนๆ พร้อมกับลุกขึ้นยืน พวกเธอเพิ่งจะรับประทานมื้อค่ำ และนั่งพูดคุยจิปาถะ แต่พอเข้าเรื่องงานทีไรก็จะถูกไล่แบบนี้ แถมเจ้าของบ้านยังจริงจังถึงขั้นเดินไปเปิดประตูให้ วิกานดาจำต้องเดินจ้ำๆ ออกจากบ้าน พร้อมกับเข้าไปนั่งในรถประจำที่คนขับ ซึ่งเจ้าของบ้านก็ไม่ทันที่จะเดินเข้าบ้านเสียทีเดียว เธอยืนรอดูเพื่อนจนกว่าจะเคลื่อนออกจากหน้าบ้าน แต่สักพักเพื่อนก็ก้าวลงจากรถ "รถสตาร์ทไม่ติด" นี่คงเป็นเหตุผลว่าทำไมรถคันนี้จึงจอดสนิทไม่ขยับ ชมธีรากับเพื่อนกำลังยืนมองแผงควบคุมหน้ารถแบบที่ไม่รู้อะไรเลย หากตอนนี้สามีเธอยังอยู่ คงจะได้ช่วยเหลืออะไรได้บ้าง "รถเป็นอะไรเหรอคะ" ทั้งคู่หันควับไปตามเสียงนั้นทันที พวกเธอไม่ได้ตอบออกไปในทันที เพียงจ้องมองสาวสวยตรงหน้าที่คร่อมอยู่บนจักรยาน สักพักก็ลงมาหยุดยืนคนทั้งคู่ "ขอดูให้นะคะ" ไม่รอให้ใครเอ่ยอะไรออกมา กีรดาก็อาสาเดินเข้ามาดูให้อย่างชำนาญ ส่วนตัวชมธีรา ก็เผลอสำรวจการแต่งกายของสาวข้างบ้านอีกครั้ง ขณะที่หล่อนกำลังขะมักเขม้นสนใจแผงควบคุมหน้ารถ รอบนี้คนข้างบ้านมาในชุดรัดติ้วอีกครั้ง กางเกงยีนส์สีซีดขาสั้นอวดเรียวขา ทั้งท่อนบนคือเสื้อยืดตัวบางที่จงใจมัดปมจนโชว์เอวคอด ทั้งยังท่าทางรวบผมต่อหน้าเธออีก ช่างน่าตีนัก "น้ำมันหมดหรือเปล่าคะ" เสียงของกีรดาทำให้ชมธีราหลุดออกจากภวังค์ "ไม่นะ เหลือตั้งสามขีด" เจ้าของรถตอบ กีรดาพยักหน้าหยึกหงักอย่างคิดตาม ก่อนจะหันไปหาชมธีรา "คุณผู้หญิงช่วยหยิบโทรศัพท์ที่กระเป๋าหลัง และเปิดไฟฉายให้หน่อยได้มั้ยคะ" ชมธีราเหลือบมองกระเป๋าหลังของสาวสวยตามที่บอก ซึ่งมันเป็นกระเป๋ากางเกง ตรงบริเวณบั้นท้าย เธอรีบตวัดสายตากลับมาหาสาวสวยข้างบ้านทันที ก็จู่ๆ จะให้ไปล้วงสัมผัสบั้นท้ายคนที่เคยเจอไม่กี่ครั้งได้ยังไง "มือเลอะค่ะ แล้วกี้ก็ถือเองไม่ถนัด รบกวนด้วยนะคะ" รีบบอกออกไปบ้าง พร้อมกับแบมือให้ชมธีราได้ดู มือเรียวเล็กจำต้องยื่นไปล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของกีรดาตามที่ขอ "รหัส หนึ่งสองหนึ่งสองสามสี่นะคะ" ไม่นานก็มีแสงสว่างออกมาจากอุปกรณ์ในมือของชมธีรา และหล่อนก็ช่วยส่องมาทางมือของคนที่เข้ามาช่วยเหลือ "สงสัยลูกลอยค้างน่ะค่ะ ในถังไม่มีน้ำมันแล้ว" "จริงเหรอเนี่ย" เจ้าของรถเอ่ยออกมา "มีวิธีแก้นะคะ" จากนั้นกีรดาก็จัดการทำทุกอย่างให้อย่างชำนาญ โดยการถ่ายน้ำมันออกจากรถของชมธีรามาใส่ให้วิกานดา โดยที่คนทั้งสองไม่ต้องลงแรง ได้แต่เอาใจช่วยและแอบมองอยู่ไกลๆ และก็ถึงเวลาที่รอคอย "เย่! ติดแล้ว" เสียงวิกานดาร้องออกมาอย่างดีใจ "ถ้าออกจากหมู่บ้านไปแล้ว อย่าเพิ่งขึ้นทางด่วนนะคะ กี้เติมน้ำมันไปให้แค่พอขับไปได้ถึงปั้ม แวะเติมน้ำมันก่อนนะคะ แล้วหลังจากนี้ก็อย่าลืมเอารถไปเช็ก คงจะเป็นอีกแน่ๆ ค่ะ" "ขอบใจมากนะคะน้องกี้ ถ้าไม่ได้น้องพี่คงต้องค้างกับยัยมนุษย์ป้าถึกทึนแน่" บอกขอบคุณออกมา ไม่วายแอบนินทาเพื่อน นั่นทำให้กีรดาเผลอหัวเราะตามน้อยๆ แต่ก็จำต้องหยุดลง "นี่! ฉันได้ยินนะกาน" บอกออกมาพร้อมส่งแก้วน้ำให้กีรดา กีรดาเองไม่ได้ยื่นมือไปรับในทันที เพราะมือตัวเองนั้นเลอะเทอะ จึงต้องใช้วิธีมักง่ายโดยถูมันกับเสื้อและกางเกงแทน แต่ก็ต้องหยุดมือทันทีเราะถูกขัด "ทำอะไรน่ะ! ทำแบบนั้นเสื้อผ้าก็เปื้อนหมดสิ" "เอาแล้วไงเอาแล้ว ตัวใครตัวมันนะจ้ะน้องกี้ พี่ไปล่ะ" พูดแค่นั้นก็หนีหายขึ้นรถไป ก็เพราะเห็นสายตาดุๆ ของเพื่อนที่เคยทำกับกับเหล่านักเรียนจึงเกิดกลัวขึ้นมา กีรดามองดูรถที่ตัวเองเพิ่งช่วยซ่อมเคลื่อนตัวออกไป ก่อนจะหันไปหาเจ้าของบ้าน "ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เสื้อกับกางเกงมันเก่าแล้ว ทิ้งไปก็ได้" "แล้วทำไมต้องมาทิ้งขว้างข้าวของ ในเมื่อมันยังใช้ได้" "ก็เพราะมันเก่าแล้วไงคะ ถึงมันจะใช้ได้ แต่ตอนนี้มันก็ไม่น่ามอง" บอกออกมาด้วยน้ำเสียงและสายตาที่เหมือนต้องการจะสื่อสารบางอย่าง กีรดาเดินเข้ามาในบ้านของชมธีราตามคำบอกซึ่งก็เหมือนเป็นคำสั่ง สาวสวยข้างบ้านทำตัวไม่ถูกนัก ไม่กล้านั่งเพราะกลัวจะทำให้โซฟาสีขาวของคุณผู้หญิงเปรอะเปื้อน และเริ่มเปลี่ยนเป็นเดินสำรวจดูภายในห้องนี้แทน ระหว่างที่รอเจ้าของบ้านขึ้นไปเอาเสื้อผ้ามาให้กีรดาเปลี่ยน ภาพคู่ระหว่างชมธีราและสามีในวันแต่งงานตระหง่านอยู่ที่ผนัง "ได้แล้ว เข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำได้เลยนะ" เสียงของชมธีราบอกกับแขก "ขอบคุณค่ะ แต่จริงๆ แล้ว บ้านกี้ก็อยู่แค่นี้ ไม่ต้องเปลี่ยนก็ได้นะคะ" "เสื้อใหม่น่ะ" ชมธีราเลือกที่จะตัดบทออกไปแบบนั้น เพราะจากบทสนทนาก่อนจะเข้าบ้าน ทำให้เธอเข้าใจไปว่าบางทีคนตรงหน้าอาจจะชอบแต่ของใหม่ และรังเกียจของเก่า จึงเสียเวลาเลือกเสื้ออยู่นาน "ผู้ชายคนนี้เป็นสามีของคุณผู้หญิงเหรอคะ" จู่ๆ กีรดาก็เอ่ยถามออกมา ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ "ใช่" "แล้ว เค้าไปไหนแล้วล่ะคะ" เจ้าของบ้านไม่ได้ตอบออกไปในทันที เธอเสมองไปทางอื่น ก่อนจะบอกออกมา "เปลี่ยนเสื้อเสร็จแล้วออกมากินข้าวก่อนกลับนะ" เธอบอกแค่นั้นก่อนจะเดินหนีไปอีกทาง บนโต๊ะอาหารที่มีแขกคนใหม่ คือกีรดา นั่งอยู่หัวโต๊ะที่ประจำของสามี โดยมีเจ้าของบ้านคอยช่วยบริการทั้งอาหารและน้ำดื่ม "ขอโทษนะคะ ที่กี้ละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของคุณผู้หญิงมากเกินไป" ชมธีราเลือกที่จะนั่งลง รินน้ำผลไม้ใส่แก้วตัวเอง และยกดื่มช้าๆ ท่าทางแบบนั้นยิ่งทำให้กีรดาคิดไปว่าตัวเองไม่ควรพูดถึงเรื่องนี้จนต้องเอ่ยขอโทษอีกครั้ง "ขอโทษอีกทีนะคะ" "เรารู้จักกันมายี่สิบปี อยู่ด้วยกันทุกช่วงเวลา เรารักการเฝ้ารอที่จะได้เจอกัน มันมากกว่าความรัก แต่.. แต่เขาก็นอกใจ ไปเอากับเลขาหน้าห้อง มันน่าเจ็บใจ เพราะนังผู้หญิงคนนั้นคือคนที่ฉันไว้ใจ ฉันคงโง่ที่เชื่อใจคนง่ายเกินไป" บอกออกมาก่อนจะหันมาสบตากีรดา แต่เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา ต่างคนต่างนิ่ง ชมธีราจึงเลือกพูดขึ้นมาก่อนอย่างแก้เก้อ "ฉันไม่น่าเสียมารยาทพูดเรื่องส่วนตัวออกมาเลย" พูดออกมาด้วยความรู้สึกผิด แถมยังเผลอพูดออกไปซะเยอะกับคนที่ไม่รู้จัก พร้อมกับเตรียมจะลุกขึ้น แต่ถูกกีรดาคว้ามือไว้ "ไม่เป็นไรค่ะ กี้อยากฟัง เล่าให้กี้ฟังได้ทุกเรื่องเลยนะคะ" เจ้าของบ้านหันไปมองหน้าทันทีอย่างไม่เข้าใจ "คิดซะว่ากี้เป็นน้องสาวก็ได้ค่ะ มีเรื่องทุกข์ใจอะไรก็ระบายให้ฟังได้" "รับรองว่า กี้ไม่ไปเล่าให้ใครฟังแน่นอนค่ะ" บอกออกมาพร้อมส่งยิ้มหวานให้ "ไม่ได้กลัวจะไปเล่าให้ใครฟังหรอก เพราะคนแถวนี้เค้าก็รู้กันทั่วแล้วล่ะ" "งั้น.. เรามาทำความรู้จักกันนะคะ" พูดก่อนจะส่งมือไปเบื้องหน้า "ชื่อกี้ค่ะ กีรดา" นี่คงเป็นการแนะนำตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งกับคนที่ไม่ได้เจอกันมาเจ็ดปี แต่คราวนี้คนตรงหน้าคงจะจำเธอไม่ได้ เพราะทั้งหน้าตา และทรวดทรงของกีรดาที่เปลี่ยนไปมาก เรียกได้ว่าแทบจะคนละคนกับเมื่อเจ็ดปีก่อน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม