EP.3
ประเทศมุสตาร์
ณ คฤหาสน์คาฟิยอส ตระกูลนักธุรกิจที่ยิ่งใหญ่มากที่สุดในมุสตาร์ ตระกูลนี้ทำธุรกิจโภคภัณฑ์อย่างครบวงจรทั้งหมด โดยเฉพาะการส่งออกน้ำมันสู่ตลาดภายนอก ถึงจะเป็นประเทศปิด หากแต่มุสตาร์กลับไม่ปิดกั้นในเรื่องการค้า ดังนั้นสินค้าที่ส่งออกที่สำคัญที่สุดเช่นน้ำมันจึงอยู่ภายใต้การดูแลของตระกูลคาฟิยอสทั้งหมด
เริ่มตั้งแต่การขุดเจาะ ตลอดจนการคุมงานการส่งออกน้ำมันของหลายๆ ประเทศ ก็เป็นคนของตระกูลนี้ทั้งสิ้น จนมีคำๆ หนึ่งที่ประชาชนชาวมุสตาร์ได้พูดเอาไว้อย่างโจ่งแจ้งว่า อำนาจและบารมีของตระกูลคาฟิยอส แลจะดูยิ่งใหญ่กว่าอำนาจของชีคผู้ปกครองประเทศเสียด้วยซ้ำ
บัดนี้ตรงลานด้านหน้าของคฤหาสน์ขนาดใหญ่ถูกจัดเป็นสถานที่เลี้ยงฉลองการประสบผลสำเร็จของธุรกิจการค้าส่งออกที่มียอดกำไรมากเกินที่ได้คาดเอาไว้ มาซอฟ เมอิด คาฟิยอส ผู้นำตระกูลและประธานในเครือบริษัท คาฟิยอส จำกัด (มหาชน) คนปัจจุบันได้จัดงานเลี้ยงนี้ขึ้นเพื่อตอบแทนเหล่าเครือญาติที่ช่วยกันทำงานมาตลอดปี
งานเลี้ยงในค่ำคืนนี้มีผู้มาร่วมงานมากพอสมควร ทั้งนักธุรกิจและพนักงานในแผนกต่างๆ ต่างก็มาแสดงความยินดีกับตระกูลคาฟิยอสที่ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี
มาซอฟ ชายวัยห้าสิบสี่ปี เดินลงมาจากคฤหาสน์พร้อมกับเหล่าบริวารอีกจำนวนหนึ่ง ก่อนจะเดินขึ้นไปทักทายผู้ร่วมงานบนเวทีด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความแจ่มใส
“สวัสดี พี่น้องทุกคน ยินดีมากที่ท่านทั้งหลายมาร่วมงานในวันนี้ หากมีข้อผิดพลาดอะไรโปรดบอกบริกรของพวกเรา พวกเรายินดีรับใช้” มาซอฟเอ่ยผ่านไมค์ ด้วยน้ำเสียงที่เต็มตื้นไปด้วยความยินดีเป็นล้นพ้น “เราขอบคุณทุกท่าน ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกท่านช่วยกันทำ โดยเฉพาะพี่น้องชาวคาฟิยอสทุกคน”
เสียงปรบมือดังขึ้นไปจนทั่วงาน ประธานบริษัทฯ คลี่ยิ้มอย่างยินดี เขาเอ่ยพูดอีกสักพักก่อนจะลงจากเวที แล้วเดินทักทายพูดคุยกับแขกเหรื่ออย่างใกล้ชิด
“มาซอฟ น้องรัก”
ชายชราเดินไปหยุดอยู่ที่โต๊ะหนึ่ง ซึ่งบัดนี้มีชายชราอีกคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่านั่งอยู่ด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย ประกายตาที่จ้องมองผู้ที่มาใหม่เต็มไปด้วยแววตาชนิดหนึ่ง
มาซอฟเปิดยิ้มเมื่อเห็นดูบุฟ กาเอฟ คาฟิยอส ผู้เป็นพี่ชายต่างมารดาเอ่ยทักและบอกให้นั่งลง
“นั่งก่อนสิมาซอฟ”
“ข้าดีใจเหลือเกินที่พี่ดูบุฟมาในวันนี้ด้วย” คนเป็นน้องเอ่ยอย่างดีใจ รอยยิ้มแจ่มใสปรากฏบนใบหน้าที่เหี่ยวย่น
กรอบหน้ากร้านผอมจนเผยให้เห็นกระดูกของโหนกแก้มที่ผุดขึ้นมาอย่างน่ากลัวจุดรอยยิ้มขึ้นที่มุมปากก่อนจะพูด
“ข้าก็ต้องมาสิ มาซอฟน้องรัก ความสำเร็จของน้องและของตระกูล หากข้าไม่มาใครเขาจะว่าเอา” ว่าแล้วก็กระชากเสียงหัวเราะออกมา ทุกสิ่งทุกอย่างที่แสดงเต็มตื้นไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมมารยาหลากหลายชนิด
การสนทนายังคงดำเนินไปตามปกติ พร้อมกับบรรยากาศยามค่ำคืนและภายใต้แสงจันทร์ก็ยิ่งคึกครื้นมากไปอีก เสียงเพลงพื้นบ้านมุสตาร์ดังขับขานอย่างเป็นจังหวะ หนุ่มสาวหลายคู่ต่างจับคู่เต้นรำกันตามทำนอง โดยมีกองไฟกองใหญ่ที่กำลังลุกโชนเป็นจุดศูนย์กลางให้หลากหลายคู่เต้นรำรอบกองไฟอย่างสนุกสนาน
สายลมเย็นยามค่ำคืนพัดผ่านเย็นสบาย จันทร์สีเหลืองนวล สาดแสงสุขสกาวที่ปลายขอบฟ้ากว้าง ขณะแสงดาวน้อยใหญ่ต่างแข่งกันทอแสงระยิบระยับอย่างสวยงาม
เสียงหัวเราะเฮฮาดังขึ้นอยู่เป็นระยะ ที่โต๊ะของดูบุฟสองพี่น้องต่างมารดากำลังพูดคุยกันอย่างออกรส หลากหลายครั้งที่ผู้เป็นพี่รู้สึกพึงพอใจกับคนเป็นน้องในการพูดคุยเรื่องธุรกิจของตระกูลที่ทำร่วมกันจนเป็นล่ำเป็นสัน
นับได้ว่าตระกูล คาฟิยอส ประสบผลสำเร็จมากเกินกว่าที่คาดเอาไว้ด้วยซ้ำ
โดยเฉพาะ ดูบุฟ กาเอฟ คาฟิยอส ที่ไม่เคยคิดว่าผลประโยชน์ที่ว่าเกินคุ้มนั้น ตนแทบจะไม่มีส่วนได้เลย ทั้งๆ ที่ผ่าน เขาต่างช่วยเหลือมาตลอด และยิ่งในวันที่ทราบว่าประธานฯ คนใหม่นั้นเป็นมาซอฟ ด้วยแล้ว มันก็ยิ่งก่อสุมความรู้สึกชนิดหนึ่งในหัวใจที่เรียกว่า ความอิจฉา ตลอดมา
จนก่อเปิดเป็นอีกคำหนึ่งด้วยความโลภในหัวใจ ริษยา
ท่ามกลางห้วงอารมณ์ดังกล่าวที่มันก่อเกิดขึ้นภายในหัวใจ อารมณ์มักมากก็ยิ่งเกิดขึ้น และมากขึ้นเรื่อยๆ
ถึงจะได้รับส่วนแบ่งตามหุ้นส่วนที่พึงจะได้ หากแต่ความ ไม่พอ กลับมีอิทธิพลมากกว่า สิ่งนี้ เขาจะต้องเอามาให้ได้ นั่นก็คือการเป็นประธานในเครือบริษัทคาฟิยอส เสียเอง ไม่มีใครรู้ หลังการปรากฏตัวของดูบุฟในวันนี้ อะไรจะเกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาสิ่งที่เขาทำนั้นก็คือการสั่งงานผ่านคนสนิทเท่านั้น น้อยครั้งนักที่ดูบุฟจะปรากฏตัวเอง เช่นเวลานี้
มาซอฟไม่มีทางรู้ ท่ามกลางน้ำผึ้งหวานของผู้เป็นพี่ชาย จะเคลือบและเก็บซ่อนอยู่บนใบมีดโกนที่แหลมคมเป็นยิ่งนัก
การมาเยือนของดูบุฟในวันนี้จึงเสมือนนำพา ความตาย มาสู่มาซอฟโดยเฉพาะ
ความตาย ที่ทุกคนยากจะคาดถึงเช่นกัน
งานเลี้ยงเมื่อเริ่มทันก็ย่อมมีวันเลิกรา เหล่าแขกเหรื่อต่างทยอยกันกลับ เช่นเดียวกับดูบุฟที่แทบจะเป็นแขกคนสุดท้ายที่เดินทางออกจากที่นั่น
ทั้งสองพี่น้องต่างล่ำลากันพอเป็นพิธี ดูบุฟก็เดินออกมาที่รถ ที่จอดเตรียมรอเอาไว้ก่อนหน้า
ภายในรถชายหน้ากระดูกจุดยิ้มที่มุมปากอย่างพึงพอใจ ดวงตาทั้งสองข้างวาวโรจน์อย่างน่ากลัว เขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความรู้สึกเหมือนเปลวไฟที่ก่อสุมอยู่ในตัวมันจะยิ่งโหมแรงมากกว่าเดิม
ไม่มีใครรู้ แผนการทั้งหมดมันได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ความหายนะของมาซอฟกำลังจะมาเยือนมัน พร้อมๆ กับความรุ่งโรจน์ของเขา...ดูบุฟ
“ท่าน จะกลับคฤหาสน์ กาเอฟหรือไม่ครับ” มาโร เลขาฯ คนสนิท ที่เข้ามานั่งข้างๆ เอ่ยถาม
หากแต่อีกฝ่ายกลับเปิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างพึงพอใจ ประกายตาทั้งสองข้างวาวโรจน์ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย และเยือกเย็น
“กลับคฤหาสน์ ใช่ กลับไปเพื่อรอ ฮะ ฮะ ฮ่า รอมัน อืม รอ” เลขาฯ พยักหน้าเข้าใจตามนั้นก่อนจะสั่งคนรถให้เคลื่อนรถออกจากที่
ไม่มีใครรู้อีกเช่นกัน ภายในหัวใจของมาโรจะนึกหวั่นมากแค่ไหนกับสิ่งที่เจ้านายกำลังทำ และสิ่งที่ทำนั้นก็กำลังจะเกิดขึ้น หากทุกสิ่งทุกอย่างพลาดมันก็เท่ากับหายนะได้มาเยือนเขาและดูบุฟ อย่างไม่รู้ตัว
โดยเฉพาะเขา ที่ทำทุกอย่างเพื่อคำสั่ง มันหาได้ทำด้วยความเต็มใจไม่!!!