บทที่1.อบเชย
หนุ่มลูกครึ่งไทย-จีน ทะลึ่งพรวด!! เขาทรงตัวยืนเต็มความสูง จ้องหน้าโคโยตี้สาวคนหนึ่งที่คลับแห่งนี้ส่งมาบริการ 1ใน3 คนที่ยืนอยู่ตรงหน้า เขารู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี หล่อนชื่อ อบเชย น้ำทองเด็กสาวที่อยู่บ้านติดกัน รั้วบ้านหล่อนติดกันกับรั้วเขา เพียงแต่...บ้านของหล่อนไม่ได้ร่ำรวยเหมือนบ้านเขา แถมหล่อนเพิ่งจะมีอายุแค่สิบเก้าปี
“ยัยเชย เธอมาทำอะไรที่นี่!”
ดีแลนตะคอกเสียงขุ่น จ้องมองเด็กสาวตรงหน้าตาถลน
อบเชยขยุ้มมือกำชายขากางเกงแน่น ห่อตัวจนแทบจะขดเป็นก้อนกลมๆ เธอไม่อยากจะเชื่อโลกจะกลมถึงขนาดนี้? ทำไมน้อ?...ทำไมถึงให้เธอมาเจอกับคนที่ตนเองแอบชอบ ตั้งแต่การเริ่มทำงานครั้งแรก ในตำแหน่งโคโยตี้
“รู้จักกันด้วยรึ?” อดัมถามเสียงสนเท่ห์ หรี่ตามองดีแลนสลับกับสาวน้อยสุดเอ็กซ์ ที่ยืนก้มหน้างุดตรงหน้า
ดีแลนยกมือขึ้นเสยผม ทรงผมเรียบกริบแตกไม่เป็นทรง เนื่องจากตอนนี้เขาแทบจะควบคุมอารมณ์ของตนเองไม่อยู่ ผิวแก้มร้อนฉ่า และใกล้จะระเบิดเต็มทน
ชายหนุ่มโกรธลมออกหู แก้วหูลั่นวิ้งๆ เขาเจอคนที่ไม่ควรเจอในสถานที่อโคจรแห่งนี้ได้อย่างไร?
ตอนที่มาเจรจาการค้ากับคู่ค้านักดื่ม
อบเชย...แม่เด็กเมื่อวานซืนที่อยู่ข้างบ้านเขา หล่อนโตขึ้นมาก
โตจนเหลือเชื่อ เขาไม่เห็นหล่อนมากี่ปีแล้วนะ? ดีแลนหรี่ตาลง มองอบเชยซ้ำอีกครั้ง
ชายหนุ่มสะบัดใบหน้าแรงๆ เห้ย! มันไม่ใช่เวลามาคิดทบทวนความหลังนะ
ที่ยืนตรงหน้า กับชุดที่เหมือนผ้าขี้ริ้วนี่ คือหล่อนแน่ๆ
“ยัยเชย เธอมาทำอะไรที่นี่?!!” ขนาดเสียงเพลงดังแสบแก้วหู
เสียงของดีแลนก็ยังดังทะลุแก้วหูเธอมาจนได้ หน้าเขายิ่งกว่ายักษ์วัดแจ้ง สีหน้าแดงสลับกับดำ จนอบเชยเริ่มกลัว
“เชยมาทำงานค่ะ”
เธอยืดอกตอบ แม้จะกลัวจนขาสั่น คนตรงหน้าคือคนอื่นที่ไหน
คน คนนี้อยู่ในใจเธอมาตลอด ไม่ว่าจะอดีต หรือปัจจุบัน
ดีแลนยกมือเท้าสะเอว เขาถอนใจแรงๆ
“แม่เธอรู้ไหม ว่าเธอมาเต้นแร้งเต้นกาอยู่ที่นี่?”
เสียงเคร่งๆ ถามกลับมา แววตาไม่ต่างอะไรกับใบมีดโกนจ้องหน้าเธอ
อบเชยกำมือกับชายเสื้อ อุ้งมือชื่นไปด้วยเหงื่อ เธอจะตอบเขาแบบไหนที่จะปลอดภัยกับตัวเองที่สุด
หญิงสาวส่ายหน้าช้าๆ แทนคำตอบ แม่ไม่เคยวุ่นวายกับงานที่เธอทำ เทียนไว้ใจเธอ และเธอก็ไม่เคยทำเรื่องเสื่อมเสียให้กับท่านเสียใจ อบเชยต้องการทำงานเพื่อผ่อนภาระที่มารดาแบกไว้ การเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่บุตรสาวยังอยู่ในวัยเรียน การทำงานขายขนมอย่างเดียว ไม่พอกบค่าใช้จ่าย อบเชยไม่อยากให้แม่เหนื่อย เธอเลยช่วยทำงานทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่อาชีพที่ผู้หญิงดีๆ จะพยายามไม่เฉียดใกล้ แต่เธอแน่ใจ เธอขายแค่แรงกาย...อบเชยเลยไม่เคยอาย...
ดีแลนดันกรอบแว่นที่ปลายจมูกแรงๆ เขาถอนใจเฮือกใหญ่ๆ คงต้องจัดการแม่สาวตาใสตรงหน้าให้หลาบจำ หล่อนไม่สมควรมาอยู่ที่นี่ หล่อนไม่รู้หรือยังไง รอบตัวของหล่อน มีแต่เสือหิว ที่จ้องจะตะครุบ!!
“ขอเวลาห้านาที เดี๋ยวผมมา” ชายหนุ่มกล่าวเสียงกดต่ำ
ก่อนจะจ้องหน้าหญิงสาวตรงหน้า และแทบจะกระชากหล่อนให้เดินตามตนเองมา
“ปล่อยเชยนะคะคุณดี เชยกำลังทำงานค่ะ!” หญิงสาวขืนตัวไว้ เธอโก่งตัวพยายามต้านแรงรั้ง
ดีแลนหมุนตัวมามองตาขวาง เขาพูดเสียงแหบต่ำ “ตามมาดีๆ ยัยเด็กบ้า หากเธอไม่อยากถูกฉันจับแก้ผ้าตรงนี้”
ชายหนุ่มลดสายตามองชุดแสนหมิ่นเหม่ที่อบเชยสวมไว้ เศษผ้าพวกนั้น แทบจะปิดบังความอะร้าอร่ามของหล่อนไม่ได้ ทรวงอกแตกผลิพุ่งชี้หน้าเขา กางเกงบ้าๆ นั้น เน้นรูปรอยของตรงเป้ากางเกงของหล่อน จนคนมองแทบเลือดกำเดาไหล หล่อนไม่รู้ตัวหรือไง? ไอ้ชุดที่หล่อมสวม ไม่ต่างอะไรเศษผ้าขี้ริ้ว มันเล็กและสั้น จนปิดบังอะไรๆ บนตัวหล่อนไม่ได้เลย
“แต่...”
“ไม่มีแต่ทั้งนั้น อบเชย!” ดีแลนเน้นเสียง น้ำเสียงนี้ อบเชยรู้ดี คนตรงหน้ากำลังโกรธจัด เพียงแต่เธอไม่เข้าใจ เขาโกรธอะไรล่ะ?
อบเชยเดินคอตกตามแรงลากที่ฝืนไม่ได้ไป
ดีแลนพาอบเชยเดินลัดเลาะผ่านนักเที่ยวกลางคืน ที่กำลังสนุกกับเสียงเพลงที่มีสาวสวยเต้นนำ ระหว่างที่เขาและเธอเดินฝ่ากลุ่มคนออกมาด้านนอก มีสายตาของนักเที่ยวหลายคนที่เป็นเพศชายมองตาม คนหน้าดุที่เดินนำต้องถลึงตาใส่ เมื่อดีแลนรู้ดี ไอ้พวกเวรนั่น กำลังมองอะไรอยู่ ชายหนุ่มเกือบสติแตก ดีทว่า... เดินออกมาพ้นสถานที่แห่งนั้นเสียก่อน
สูทสีน้ำเงินเข้มผ้าไหมอย่างดีถูกโยนใส่หน้าอบเชย ตามด้วยคำสั่งแสนกระด้าง ที่อบเชยจำใจต้องทำตาม
“ใส่ซะ หากเธอไม่อยากถูกข่มขืน”
อบเชยแย้งในใจ เธออยู่กับดีแลนสองคน ใครล่ะจะมาข่มขืนเธอ เพราะคนตรงหน้าคงไม่ทำแน่ๆ เขาเกลียดเธอ...ข้อนี้อบเชยจำขึ้นใจ แต่...ใครจะกล้าฝืนความต้องการของเขาได้ล่ะ ดีแลนเป็นบุตรชายของผู้มีพระคุณของเธอ มารดาของเขาเป็นอดีตนายจ้างของแม่ ความเมตตาที่คนบ้านหวังมอบให้ อบเชยหรือจะกล้าเนรคุณ มือสั่นระริกหยิบสูทผ้าเนื้อเนียนขึ้นมาสวมคลุมกายช้าๆ ยืนก้มหน้าน้ำตาคลอเบ้า รู้สึกสังเวชตัวเอง แม้คนตรงหน้าจะไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย
ดีแลนข่มใจให้สงบ เขาใช้เวลามากกว่าสิบนาที ชายหนุ่มล้วงบุหรี่ออกมาจากซอกกระเป๋า และนี่เป็นครั้งแรกที่อบเชยได้เห็น คนตรงหน้าสูบบุหรี่
หญิงสาวชำเรืองมอง ผู้ชายตรงหน้าที่มีท่าทีเงียบขรึม เขาพ่นควันบุหรี่ให้ลอยไปในอากาศ ท่าทางพลุ่งพล่านเมื่อสักครู่ใหญ่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
แต่...เธอกับใจสั่น เพราะท่าทางสุดเซ็กซี่ของเขาอีกนั่นแหละ
อบเชยอยากยกมือตบศีรษะตนเองแรงๆ เธอหลงใหล และแอบชอบดีแลนมาตั้งแต่ตนเองเริ่มเป็นสาว เขาเป็นผู้ชายในฝันของใครๆ หลายคน และใครๆ เหล่านั้น มีเธอรวมอยู่ด้วย แต่ก็ได้แค่ฝัน...เพราะดีแลนไม่ใช่คนธรรมดา เขาเป็นทายาทหวัง ตระกูลดังที่ร่ำรวยจนเปรียบไม่ได้ เมื่อเทียบกับตนเอง เห้อ!! แม้จะบ้านเธอกับคนตรงหน้าจะอยู่ใกล้กัน ในขณะที่บ้านของดีแลนไม่ต่างอะไรกับปราสาท...บ้านของเธอก็คงคล้ายๆ เล้าหมู ที่ดินของเธอยังได้รับความกรุณาของคนตระกูลนั้น เธอกับแม่ ได้รับความอนุเคราะห์จากคนตระกูลหวัง ให้ปลูกสร้างและอาศัยอยู่ได้ แต่ต้องไม่สร้างความเดือดร้อนให้พวกเขาด้วย
ยามค่ำคืน เด็กสาวทำได้แค่เงยหน้ามองพระจันทร์ และฝันลมๆ แร้งๆ ตามประสาสาวช่างเพ้อ
ฝันว่าวันหนึ่ง เจ้าชายบนปราสาทหลังนั้น จะทอดสายตามาที่ตนเองบ้าง และมันก็เป็นแค่ความฝัน
เพราะยิ่งนานวัน...ระยะห่างของเธอกับดีแลน ก็ยิ่งห่างกันไปทุกทีๆ
เธอได้แต่แอบมอง ได้เห็นเขาเพียงผ่านๆ กำแพงสูงชันนั่นไม่ใช่อุปสรรคหรอก แต่ความจริงต่างหากล่ะ ที่ทำให้เธอต้องเจียมตน เขาคือเจ้าชาย และเธอคือเศษฝุ่นที่ปลิวอยู่รอบกายเขา สัมผัสได้ แต่เป็นเจ้าของไม่ได้
“อะไรดลใจให้เธอมาทำงานที่นี่หะ ยัยเชย!”
เสียงแหบห้าวของดีแลนดึงเธอออกมาจากความคิดวกวน
อบเชยเงยหน้ามอง เธอกะพริบเปลือกตาปริบๆ จ้องมองดีแลนเหมือนกำลังละเมอ
มือแข็งแรงเอื้อมมาจับบ่า และหากอบเชยมีสติ เธอจะเห็นว่า...ดีแลนสะดุ้ง! เขาชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะแผดเสียงดังลั่น
“ฉันถามไม่ได้ยินหรือไงยัยเด็กบ้า!!”
“เชยได้ยินแล้วค่ะ พูดเบาๆ ก็ได้ คุณดีตะโกนจนเชยหูจะแตก” หญิงสาวบ่นอุบ ก้มหน้าหลบตาเขาเหมือนเดิม เมื่อสายตาของดีแลนเหมือนมีเปลวไฟแลบออกมา และไฟนั่นแทบจะเผาเธอจนมอดไหม้
ดีแลนปล่อยมือ เขาชำเรืองมองอบเชย และยังยืนหันข้างให้เธอเสียด้วย เสียงถอนลมหายใจแรงๆ ดังจนอบเชยแอบย่นจมูกใส่
“ตอบฉันมาสิยัยเชย”