"ดรีม เธอรู้จักรุ่นพี่ที่ชื่อเธียมั้ย"
ฉันสะกิดแขนเพื่อนที่นั่งด้านข้างขณะที่เรากำลังเรียนวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติมในคาบสุดท้ายของวัน เธอชื่อว่าดรีมเป็นเพื่อนคนแรกของฉันในโรงเรียนนี้ ส่วนอีกคนชื่อธัญญ่านั่งถัดจากดรีมไป ซึ่งตอนนี้กำลังฟุบหน้าหลับกับโต๊ะเรียนอยู่ ยัยนั่นขี้เซาเป็นนิสัยอยู่แล้วตั้งแต่ที่ฉันรู้จักมา พวกเราเข้ากันได้ดีเลยทีเดียวคงเพราะว่าการใช้ชีวิตและนิสัยเหมือนๆกัน
เมื่อวานหลังจากกลับถึงบ้านพี่เฟรมก็ถามถึงเสื้อคลุมตัวนั้นทันที ฉันถึงได้รู้ว่าเสื้อตัวนั้นเขาหวงมาก แถมมีราคาแพงลิบลิ่วชนิดที่ว่าเก็บเงินจากค่าขนมของฉันจนเรียนจบก็ไม่พอจ่ายแล้วยังมีไม่กี่ตัวที่วางขายในไทยอีกด้วย ตอนนั้นคิดว่าพี่เฟรมแค่พูดเล่นแต่พอไปค้นอากู๋ดูถึงรู้ว่ามันคือความจริง เลยโกหกไปว่าฉันให้เพื่อนผู้หญิงยืมใส่เพราะเสื้อของเธอเปียก
พี่เฟรมคงอยากขย้ำหัวฉันเต็มทนแต่ติดว่าคือน้องสาวและเป็นหลานรักของคุณป้าที่เห่อฉันยิ่งกว่าลูกตัวเองเสียอีก ถ้าที่เฟรมรู้ว่าฉันเอาเสื้อตัวนั้นไปให้ผู้ชายแถมไม่รู้จักกันเลยแม้แต่น้อยคงได้โดนด่าหูชาแน่
"...ทำไมอยู่ๆมาถามถึงพี่เธีย" ท่าทางของดรีมเหมือนจะตกใจเล็กน้อยที่ฉันเอ่ยชื่อผู้ชายคนนั้น ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าท่าทีแบบนั้นมันหมายถึงอะไรกันแน่
"พอดีมีของที่เขาเอาของฉันไปน่ะ เลยต้องไปตามเอาคืน" ฉันตอบแล้วจึงถามต่อเพราะความสงสัยกับท่าทีประหลาดของเธอ "ทำไมเหรอ คนชื่อเธียเขาทำไม"
อันที่จริงฉันก็อยากรู้นิสัยใจคอหมอนั่นเหมือนกันเพราะเขาทำตัวอย่างกับอันธพาล
"เปล่าหรอก แค่ปกติจะไม่ค่อยมีใครยุ่งกับพี่เขาเท่าไหร่ ไม่สิพูดผิด พี่เขาไม่ชอบยุ่งกับใครมากกว่า ถ้ายุ่งกับใครคนนั้นต้องไม่ได้ใช้ชีวิตสงบสุขแน่ๆ"
หัวคิ้วของฉันขยับเข้าหากับจนย่นเพราะไม่เข้าใจคำพูดนั้นสักเท่าไหร่ พอจะเอ่ยปากถามเสียงเอะอะจากด้านนอกก็แทรกเข้ามาทำลายความสงสัยของฉันเสียก่อน แถมยังเรียกความสนใจของเพื่อนทั้งห้องเกือบทุกคนยกเว้นพวกหน้าห้องที่เป็นเด็กเรียนสี่ห้าคนนั้น
"เกิดอะไรขึ้นอะ หัวหน้าห้อง" ดรีมหันไปให้ความสนใจเหตุการณ์ด้านนอกที่กำลังถูกทุกคนสนใจไม่ต่างกัน จนฉันต้องทิ้งเรื่องของคนชื่อเธียเอาไว้แล้วมองดูความตื่นเต้นของผู้คนด้านนอกที่กำลังพากันไปดูเหตุการณ์บางอย่าง
"วันนี้พอแค่นี้ก่อน อย่าลืมทำงานที่ครูมอบหมายให้เสร็จนะคะ อาทิตย์หน้าเจอกันค่ะ" ตอนที่ครูประจำวิชาเอ่ยลาทุกคนก็ไม่ได้มีกะจิตกะใจกับเรื่องในห้องเรียนกันแล้วล่ะเพราะเรื่องนอกห้องมันน่าสนใจกว่า
"พี่เธีย กำลังเล่นงานยัยบี๋ห้องสอง"
ตอนที่หัวหน้าห้องบอกแล้วรีบวิ่งตามนักเรียนคนอื่นไปดูเหตุการณ์นั้นฉันยังไม่เข้าใจนักหรอก จนกระทั่งสิบวินาทีต่อมาถึงรู้ว่าชื่อที่ยัยหัวหน้าห้องเพิ่งเอ่ยถึงมันคุ้นๆดีจัง
"ยัยบี๋ห้องสองเนี่ยนะไปมีเรื่องกับพี่เธีย!" เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของทุกคนนั้นทำให้ฉันเริ่มรู้สึกสับสน สรุปใจความสำคัญคือ ...ห้องเอสองมีคนชื่อบี๋อยู่จริงแถมเป็นเด็กเรียนเกินกว่าที่จะมีปัญหากับใครนอกจากมีปัญหากับเรื่องเรียน ...พี่เธียคนนั้นคือคนที่ทำตัวอยู่เหนือกฎระเบียบของโรงเรียน เอาง่ายๆคืออย่างกับมาเฟียในโรงเรียนนั่นแหละ
สมัยนี้แล้วยังมีคนแบบนี้อยู่อีกหรือไง!
"แล้วเขาจะทำอะไรคนชื่อบี๋มั้ย" ฉันถามดรีมด้วยความอยากรู้ ลึกๆแล้วเริ่มรู้สึกไม่ดีเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้มันมีกลิ่นแปลกๆ
กลิ่นที่หมายถึงต้นเหตุทั้งหมดมันคือฉัน
"ไม่รู้เลย แต่ก่อนหน้านี้ใครที่มีปัญหากับพี่เธียคือไม่รอด โดนแกล้งสารพัดจนอยู่ไม่ได้ รอดูนะพรุ่งนี้ยัยบี๋คงได้ย้ายโรงเรียน"
นี่มันโรงเรียนหรือถิ่นมาเฟีย ต้องทำกันขนาดนั้นเลยเหรอแล้วครูฝ่ายปกครองที่ด่าฉันเมื่อวานทำอะไรไม่ได้เลยหรือไง
"ตะ...ต้องขนาดนั้นเลยเหรอ เขาไม่กลัวพวกครูเลยหรือไง" บอกตามตรงตอนนี้ฉันตื่นตระหนกกับเรื่องใหม่นี้สุดๆ แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือไม่เข้าใจผู้ชายที่ชื่อเธียในเมื่อเขารู้อยู่แก่ใจว่าคนชื่อบี๋ไม่ใช่ฉันทำไมถึงยังทำแบบนี้
"พ่อเขาคุมได้แม้กระทั่งผู้อำนวยการ เพราะชื่อสกุลกับชื่อโรงเรียนคือชื่อเดียวกัน แกเข้าใจใช่มั้ย" ดรีมเลื่อนหน้ามากระซิบข้างหู ฉันกลืนน้ำลายก้อนเหนียวๆก้อนหนึ่งลงลำคออย่างลำบาก แล้วจึงพยักหน้ารับรู้
แต่...แล้วการเป็นลูกเจ้าของโรงเรียนมันสมควรทำอย่างนี้หรือไง แทนที่จะทำตัวให้ดีกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ เขากลับทำลายชื่อเสียงของครอบครัวตัวเอง โรงเรียนของตัวเอง
ต้องมีปัญหาชีวิตขนาดไหนถึงจะทำตัวแบบนี้ได้!
ถ้าคนชื่อบี๋ต้องมาเดือดร้อนเพราะฉันจริงๆล่ะจะทำยังไง คิดอยู่ครู่หนึ่งฉันจึงตัดสินใจได้ว่าไม่ควรอยู่เฉยๆ เพราะถ้ามีใครคนหนึ่งที่ไม่ได้ทำอะไรผิดต้องมาเดือดร้อนเพราะฉันคงได้รู้สึกผิดมากแน่ๆ
"จะไปไหนพราว!" เสียงของดรีมและธัญญ่าที่เพิ่งตื่นมารับรู้เรื่องราวช้ากว่าชาวบ้านดังไล่หลังตอนที่ฉันลุกพรวดพราดออกมาเพื่อตามไปดูเหตุการณ์ทั้งหมด
นักเรียนหลายคนกำลังยืนมุงดูเหตุการณ์อยู่ตรงโรงอาหาร ฉันรีบแทรกตัวเข้าไปจนถึงด้านในสุดจึงเห็นว่ามีผู้ชายที่ชื่อเธียนั่งอยู่บนโต๊ะกินข้าวท่าทางสบายใจแถมยังแกว่งเท้าไปมา มองคนที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นก่อนจะกวาดสายตามองหาอะไรบางอย่างรอบๆจนกระทั่ง...
มาหยุดลงที่ฉันแล้วจึงขยับยิ้มมุมปาก สายตาที่มองมานั้นฉันเองก็เดาอารมณ์ไม่ถูกว่าเขากำลังคิดยังไงอยู่กันแน่
ด้านหลังของเขามีเพื่อนผู้ชายสองคนนั่งเล่นมือถืออยู่อย่างเงียบๆ ราวกับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้มันเป็นเรื่องปกติ ถ้าจำไม่ผิดคนหนึ่งคือพี่เชนอีกคนก็เพื่อนของเขาที่เคยเห็นเมื่อวาน
"เธอชื่อบี๋ อยู่ห้องมอห้า เอสองถูกมั้ย" เขาละสายตาจากฉันแล้วหันกลับไปมองบี๋ที่นั่งตัวสั่นอยู่บนพื้น
"...ค่ะ" ผู้หญิงคนนั้นตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือน้ำตาของเธอไหลอาบสองแก้ม
"แล้วฉันเรียกคนมาผิดตรงไหน ในเมื่อเมื่อวานฉันได้ยินแบบนี้จริงๆ" เขายกแขนสองข้างขึ้นกอดอกแล้วจึงพูดต่อ ดูก็รู้ว่าเขาจงใจ ตั้งใจกดดันให้ฉันยอมรับผิดตอนนี้ "เมื่อวานเธอทำฉันเดือดร้อนนี่ เธอก็ต้องรับผิดชอบ"
"บี๋ไม่ได้ทำนะคะพี่เธีย เมื่อวาน..."
"จะบอกว่าฉันจำคนผิดเหรอ" เขาถามด้วยท่าทางกวนๆ แล้วหัวเราะในลำคอ บอกตามตรงฉันเริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว คนบ้าอำนาจ!
"เปล่าค่ะ แต่บี๋ไม่ได้ทำจริงๆ"
"แต่เมื่อวานมีคนบอกว่าชื่อนี้จริงๆ หรือช่วงนี้หูฉันมันมีปัญหาวะ" เขาทำท่าแคะหูตัวเองอย่างกวนๆก่อนจะกระโดดลงโต๊ะตัวนั้นแล้วเดินไปที่อ่างล้างมือ เปิดน้ำใส่ถังใบหนึ่งขนาดประมาณสิบลิตรได้
ทุกการกระทำของเขาถูกทุกสายตาจากนักเรียนนับร้อยจับจ้องแต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว
เขากำลังจะทำอะไร...
ไวเท่าความสงสัยของฉันถังน้ำใบนั้นที่มีน้ำอยู่เต็มถังก็ถูกผู้ชายรุ่นน้องคนหนึ่งหิ้วมาจนถึงตัวบี๋ก่อนที่ผู้ชายที่ชื่อเธียจะสั่งเสียงเรียบ
"สาด"
"หยุดนะ!"
**********************