“ไม่เจ็บแล้วค่ะ แต่ว่า...”
“แต่ว่า?”
“เป๊ปซี่หนูอะ! เป๊ปซี่หนู~”
คิดแล้วก็เสียดายที่ไม่ได้หยิบเครื่องดื่มเข้ามาด้วยเพราะเขามัวแต่กระชากเธอเข้าโรงหนังโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
“รออยู่นี่แหละ เดี๋ยวไปซื้อให้ใหม่”
เห็นคนตัวเล็กงอแงเรื่องของกินเขาก็หลุดยิ้มออกมาจนได้ ก่อนหน้านี้เธอคุยกับผู้ชายหน้าโรงหนังเลยยอมปล่อยไปชั่วคราว
“ออกไปเอาได้เหรอเฮีย”
“ไม่รู้...รู้แค่ว่าถ้าปล่อยให้คนแถวนี้หิวคงโดนงอนเป็นวันแน่ๆ”
“เฮีย!”
“หึ รออยู่นี่แหละ อย่าไปไหนนะ เดี๋ยวเฮียรีบมา”
“ค่า...ขอบคุณนะคะ” เกวรินฉีกยิ้มกว้างให้เขาไปทีหนึ่ง แล้วนั่งรอเขาในโรงหนังอย่างว่าง่าย
พอคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่นี้แล้วก็อมยิ้มอยู่คนเดียวอย่างมีความสุข เธอมั่นใจว่าไม่เคยเห็นเขาโมโหขนาดนี้มาก่อนเลยสักครั้ง
คราวนี้ไม่ได้คิดไปเองแน่ๆ …
เฮียภีมหึงเธอชัวร์!
.
.
.
.
2 ชั่วโมงต่อมา...
“เดี๋ยวหนูมานะคะ”
“จะไปไหน”
“ไป...เอ่อ ไปเข้าห้องน้ำค่ะ” เกวรินฉีกยิ้มกว้าง พยายามโกหกให้เนียนที่สุด เพราะไม่อยากให้เขารู้ว่าจะไปทำอะไร
“รีบไปรีบมา เฮียไปรอร้านนั้นนะ” ภากรพยักหน้ารับรู้...
รู้ว่าเธอโกหก...
แต่คิดว่าเด็กสาวคงคิดแผนการอะไรอีกตามเคย เลยเล่นไปตามน้ำอย่างที่ทำ เพราะไม่อยากทำให้เธอหมดสนุกไปเสียก่อน
“โอเคค่ะ เดี๋ยวมานะคะเฮีย”
สิ้นเสียง เกวรินก็ก้าวฉับๆ เดินไปร้านเสื้อผ้าที่เล็งเอาไว้อย่างอารมณ์ดี
เข้ามาถึง ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยแพขนตางอนก็กวาดมองรอบๆ ร้านอย่างนึกสนุก ยกมือถือขึ้นมากดถ่ายรูปแล้วส่งไปในไลน์เพื่อถามความเห็นจาก ‘ของขวัญ’ เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอ
เกี๊ยว : sent a photo.
: ชุดนี้ดีมะ
ของขวัญ : เริ่ดดดดด
: ยั่วเพศมากเว่อร์~
เกี๊ยว : แกว่าใส่ชุดนี้จะโดนเฮียไล่ออกจากคอนโดไหมอะ ชุดนี้แรงกว่าเมื่อเช้าอีกนะขวัญ
ของขวัญ : ไม่ลองไม่รู้
เกี๊ยว : อ้าว สรุปยังไง
ของขวัญ : โอ๊ยยย แกจะกลัวอะไรอีก
: โดนไล่ออกมาจากคอนโดตั้งกี่รอบแล้ว
: โดนไล่อีกสักทีจะเป็นอะไรไป
เกี๊ยว : ยัยขวัญ!
ของขวัญ : หยอกกกก
: แกใส่ไปเหอะน่า ถ้าเฮียแกไม่ชอบจริงคงไล่แกออกตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วไหมล่ะ
: ถ้าไม่ชอบคงไม่ยอมพามาดูหนัง เดินห้างแบบนี้หรอก ถูกไหม?
พอคิดตามประโยคที่ของขวัญบอก เกวรินพยักหน้าน้อยๆ อย่างเห็นด้วย แล้วรีบพิมพ์ตอบกลับไปทันที
เกี๊ยว : อือ ก็จริง
: งั้นไปละ ไม่อยากให้ผู้รอนาน
: แต๊งกิ้วนะค้า~
ของขวัญ : จ้ะ!
คุยเสร็จ เกวรินก็ฮัมเพลงเบาๆ เลือกชุดเซ็กซี่ละลานตาอย่างอารมณ์ดี ไม่นานเธอก็เดินออกมาจากร้านพร้อมกับถุงเสื้อผ้าใบใหญ่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างปิดไม่มิด
“ไหนบอกไปเข้าห้องน้ำ”
“ก็...แวะเข้าไปซื้อตอนขากลับไงคะ” เกวรินโกหกคำโต แอบขอโทษเขาในใจเพราะเมื่อครู่ไม่ได้ไปเข้าห้องน้ำเลยด้วยซ้ำ
“งั้นเหรอ”
มุมปากหยักยกยิ้มน้อยๆ อย่างนึกเอ็นดู จากนั้นจึงยื่นแก้วชาเขียวปั่นและมาการองไปตรงหน้า
“งุ้ยยย ขอบคุณค่ะ เฮียรู้ใจหนูที่สุด”
คนตัวเล็กรับแก้วน้ำและขนมมาจากเขาพร้อมยิ้มให้จนตาหยี
“จะไปเดินดูอะไรต่อไหม”
“ไม่เอาค่ะ หนูหิวแล้ว เราไปหาร้านอร่อยๆ กันดีไหมคะ นี่ก็เที่ยงแล้วด้วย”
“หึ...เอาสิ ลืมไปเลยว่ามากับใคร” เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ ในใจนึกมันเขี้ยวเด็กกินจุจนแทบคลั่ง แต่ก็พยายามห้ามตัวเองไม่ให้ยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มระเรื่อนั่นอย่างสุดความสามารถ
“เฮียว่าหนูเหรอคะ”
“เปล่า” เขาตีหน้าซื่อตอบกลับไปเสียงราบเรียบ
“ชิ...ไม่ว่าก็ไม่ว่า” เธอไม่อยากจะคาดคั้นเอาคำตอบจากเขาเพราะตอนนี้ท้องเริ่มร้องประท้วง อยากจะหาอร่อยๆ ยัดเข้าไปข้างในมากกว่า
“งั้นไปกัน จะเลือกร้านเอง หรือให้เฮียเลือกให้”
“ให้เฮียเลือกค่ะ...หนูอยากกินของเฮีย”
ว่าแล้วก็ยิ้มแพรวพราวมองเขาอย่างเจ้าเล่ห์
“เกี๊ยว” เขากดเสียงต่ำ ดุเด็กสาวที่พูดอะไรกำกวมเมื่อครู่
“อะไรคะ หนูพูดผิดนิดหน่อยเอง หนูหมายถึงอยากกินร้านที่เฮียเลือก~”
“เจ้าเล่ห์นักนะเรา” ภากรส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินกลับไปที่รถ และไปร้านอาหารญี่ปุ่นร้านดังซึ่งเป็นร้านที่เด็กสาวเคยบ่นอยู่ครั้งหนึ่งว่าอยากมากินที่นี่
“เฮียรู้ได้ไงอะว่าหนูอยากมาที่นี่” เกวรินถามอย่างแปลกใจ หันไปมองคนข้างๆ อย่างงุนงงเพราะจำได้ว่าไม่เคยบอกเขามาก่อน
“ไม่รู้...แค่สุ่มเอา” เขาเอ่ยเสียงเรียบ ก่อนจะปลดสายเบลท์แล้วเปิดประตูเดินนำเข้าไปในร้านก่อน
“ง่ะ...เฮียภีม รอหนูด้วยยย~”
__________________________________
แหมมม ปากแข็งเหลือเกินนะพ่อคู๊ณณณ