วันต่อมา...
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เกี๊ยว ตื่นหรือยัง?” ภากรเคาะประตูเรียกหน้าห้อง พอไม่ได้ยินเสียงขานรับจึงกดมือถือโทรหาเธอ เพราะตอนนี้มันก็สายมากแล้ว กลัวว่าเด็กกินจุแบบเธอจะปวดท้องเอาถ้าไม่ได้ทานอะไรตอนเช้า
“หรือว่าจะยังไม่ตื่น...เกี๊ยว! ถ้าไม่รีบออกมาเฮียกินหมดนะ” เขาตะโกนเรียกอีกรอบหลังจากโทรไม่ติด เตรียมจะเคาะประตูอีกครั้ง ทว่าไม่นานประตูก็เปิดออก
แอดดดด
“มอนิ่งค่ะเฮียภีม~”
“กะ เกี๊ยว...” ภากรถึงกับชะงักไปครู่ใหญ่เมื่อมองร่างเย้ายวนตรงหน้า
วันนี้เธอสวมเสื้อยืดโอเวอร์ไซซ์คลุมก้นสีขาว ด้านในเห็นเป็นชุดชั้นในลูกไม้สีขาวทั้งบนและล่าง ซึ่งเสื้อตัวนี้มันบางมากจนเห็นทะลุปรุโปร่งไปทั้งตัวอวดทรวดทรงองค์เอวที่อวบอึ๋มไปทุกส่วน จนเขาเผลอกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ในลำคอก็รู้สึกแห้งผากไปหมด
“เฮียภีมทำอะไรเหรอคะ หอมจัง” เกวรินเห็นว่าแผนอ่อยของตัวเองได้ผลก็ยิ้มกริ่ม ค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้ แล้วเขย่งปลายเท้าขึ้นจูบแก้มเขาเบาๆ
จุ๊บ!
“เกี๊ยว!”
“แค่มอนิ่งคิสเองค่ะ ไม่เห็นต้องทำหน้าดุขนาดนั้นเลย” เธอยู่ปากน้อยๆ อย่างไม่สำนึกผิด ก่อนจะเดินทอดน่องไปที่ห้องอาหารซึ่งส่งกลิ่นหอมจนเธอรู้สึกน้ำลายสอขึ้นมา จนเกือบลืมปฏิบัติการอ่อยว่าที่คู่หมั้นไปแล้ว
“ยังกินไม่ได้”
“อ้าว ทำไมล่ะคะ?”
“ลุกไปเปลี่ยนชุดใหม่เดี๋ยวนี้ เฮียไม่ชอบ” ภากรเอ่ยเสียงเข้ม กอดอกมองเด็กดื้อตรงหน้าที่หาเรื่องให้เขาหายใจไม่ทั่วท้องตั้งแต่เมื่อคืน
“จริงเหรอคะ...เมื่อกี้หนูว่าเฮียดูชอบออก”
“เกี๊ยว”
“ขา~ เรียกหนูทำไมเหรอคะ”
ว่าแล้วร่างอวบอิ่มของเด็กสาวก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปกอดเอวเขาไว้หลวมๆ พร้อมเอาคางเล็กเกยหน้าท้องแข็ง เงยหน้ามองเขาด้วยสายตาแพรวพราว
“อย่าดื้อได้ไหม ไปหัดแต่งตัวแบบนี้มาจากไหน”
“ไม่ได้ดื้อสักหน่อย...เฮียไม่ชอบให้หนูแต่งแบบนี้จริงเหรอคะ หนูว่าเซ็กซี่ดีออก”
“ไม่ชอบ” เขาตอบกลับไปทันควัน พร้อมหันหน้าไปทางอื่น พยายามสะกดกลั้นอารมณ์ดิบเถื่อนของตัวเองไว้สุดความสามารถ ทว่าคนตัวเล็กก็ยังหาเรื่องให้เขาใจสั่นได้ไม่หยุดไม่หย่อนด้วยการบดเบียดเต้าใหญ่นุ่มนิ่มเข้าหาเขาอย่างจงใจ จนอะไรๆ ด้านล่างของเขามันปวดหนึบไปหมด
อ่าส์...เย็นไว้ไอ้ภีม...
เย็นไว้...
“เสียดายจัง...อุตส่าห์ตั้งใจใส่มายั่วเฮียเลยนะคะ”
“เลิกเล่นไร้สาระได้แล้วเกี๊ยว รีบไปเปลี่ยนชุดใหม่เลย ไม่งั้นไม่ต้องกินข้าว”
“ง่ะ...เฮียอย่าเอาเรื่องนี้มาขู่สิคะ”
“หรือจะไม่กิน?” เขาหันกลับมาถามเธอเสียงเข้มโดยพยายามไม่เหลือบไปมองเต้าใหญ่ด้านล่างที่โผล่พ้นคอเสื้อออกมา
“ชิ...กินสิคะ” เกวรินยู่ปาก ยอมปล่อยแขนออกจากเอวสอบของเขาแล้วเดินไปเปลี่ยนชุดใหม่เป็นชุดที่มิดชิดกว่านี้
ฮู่ววว...
“เย็นไว้ไอ้ภีม” เขาพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ พยายามทำให้ภีมน้อยที่ไม่น้อยด้านล่างสงบลง แต่ก็ช่างยากเย็นเหลือเกิน
“เสร็จแล้วค่า~”
ไม่นานก็ได้ยินเสียงใสของเด็กสาวตามมาด้วยร่างอวบอิ่มในชุดเสื้อครอปตัวเล็กสีชมพูกับกางเกงขาสั้นสีเดียวกัน แม้จะไม่ได้มิดชิดนักทว่าก็ยังดีกว่าเมื่อครู่ไม่น้อย
“มากินข้าว แล้วต่อไปนี้ก็ห้ามใส่ชุดแบบเมื่อกี้อีก เข้าใจไหม?”
“ทำไมล่ะคะ ก็หนู...”
“เข้าใจไหม?” เขาถามย้ำเสียงเข้ม เกวรินจึงยอมพยักหน้าตอบตกลงอย่างจำใจ
ไม่เป็นไรค่ะเฮีย...
ถึงจะไม่ให้ใส่ชุดนั้น...แต่หนูก็ยังเหลือชุดแซ่บๆ อีกเพียบ!
“วันนี้อยากไปเที่ยวที่ไหนไหม”
พอเห็นว่าเด็กสาวว่าง่ายเขาก็ถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง พร้อมตักอาหารไปวางไว้บนจานของเธออย่างเคยชิน
“อ้าว วันนี้เฮียไม่เข้าบริษัทเหรอคะ”
ปกติเธอเห็นเขายุ่งตลอดเวลา กว่าจะอ้อนให้เขาพาไปเที่ยวไม่ใช่เรื่องง่าย สายตาที่มองเขาในตอนนี้จึงเต็มไปด้วยประกายของความดีใจจนคนตัวโตหลุดยิ้มออกมาอย่างนึกเอ็นดู
“ไม่เข้า หรือว่าอยากให้เฮียทำงาน?”
ที่จริงประธานบริษัทนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเขาไม่ได้มีเวลาว่างนัก แต่เมื่อคืนนี้เขาส่งข้อความบอกเลขาให้แคนเซิลตารางงานทั้งหมดเพราะอยากจะใช้เวลาอยู่กับเธอ
“ไม่อยากค่ะ! วันนี้เราไปดูหนังกันนะคะ หนูไม่ได้ดูหนังกับเฮียตั้งนานแล้วอ่า~”
“เอาสิ...รีบกินเร็ว จะได้ไปเดินห้างกันด้วย”
“งุ้ยยย เฮียใจดีที่สุดเลยค่ะ”
ริมฝีปากอวบอิ่มฉีกยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี ตักของโปรดใส่จานให้เขาบ้างอย่างเอาใจ เพราะกว่าจะได้ใช้เวลากับเขานั้นไม่ง่าย ตอนกลับไปบ้านช่วงปิดเทอม ก็แทบไม่ได้เจอกันเพราะเขามาส่งแล้วก็กลับไปทำงานต่อ พอเธอใกล้จะเปิดเทอม เขาก็ไปค้างที่บ้านครอบครัวของเขาหนึ่งวัน จากนั้นก็รับเธอกลับมาที่กรุงเทพฯ เลย
ฉะนั้นวันนี้จึงเป็นวันดีเพราะเธอจะได้เริ่มแผนการอ่อยในขั้นต่อไป!
“ยิ้มอะไรคนเดียวน่ะ”
“อ้อ...เปล่าค่ะ แค่มีความสุขเวลาได้อยู่กับเฮีย”
“หึ...เด็กน้อย รีบกินได้แล้ว”
“ค่าๆ เข้าใจแล้วค่า~”
_______________________________________
ยัยน้องขี้อ้อนขนาดนี้ เฮียมันจะอดใจไหวเร้อออ