ก่อนมาคิลจะคิดถึงหญิงสาวผู้นั้นไปมากกว่านี้ โซยาก็เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น พร้อมกับเอ่ยบอกผู้เป็นเจ้านายทั้งสองว่า
“คุณมาคิลคะ พยาบาลที่มาจากประเทศไทย เดินทางมาถึงแล้วค่ะ”
“ให้เธอเข้ามาหาลีน่าที่นี่”
มาคิลออกคำสั่ง อยากเห็นหน้าตาและความสามารถของพยาบาลที่ตนเองจ้างมาจากแดนไกล ว่าจะสามารถดูแลอัซลีน่าได้หรือไม่
“ค่ะคุณมาคิล”
โซยารับคำ ก่อนจะลุกเดินออกไปทำตามคำสั่งของผู้เป็นเจ้านายอย่างรวดเร็ว
มาคิลและอัซลีน่ารอไม่นาน ร่างบางระหงของนางพยาบาล ก็เดินช้าๆ เข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของเขา พร้อมกับเสียงของโซยา ที่เอ่ยบอกให้รับรู้ถึงการมาถึงของพยาบาลสาว
“เจ้านายค่ะ นางพยาบาลมาแล้วค่ะ”
มาคิลเงยหน้าขึ้นมองผู้ที่หยุดยืนอยู่ตรงหน้าตนเอง ใบหน้าคมเข้มที่มีรอยยิ้มประดับอยู่ในก่อนหน้านี้กลายเป็นบูดบึ้ง ถมึงทึง ดวงตาวาวโรจน์ราวกับจะฆ่าคนได้ ขณะเจ้าตัวผุดลุกขึ้นยืนพร้อมกับสบถลั่นห้อง
“นรก! บ้าฉิบ! ทำไมต้องเป็นเธอด้วย”
การเดินทางบินข้ามน้ำข้ามทะเลจากประเทศไทยตรงมายังรัฐอัลคารา ต้องใช้เวลาในการนั่งอยู่บนเครื่องบินรวมยี่สิบชั่วโมง เครื่องบินโบอิ้ง 787 จึงแตะกับพื้นดินของสนามบินานาชาติอัลคารา
เมื่อเดินทางมาถึงสนามบินแล้ว อักษราภัคต้องนั่งรถแท็กซี่อีกสองร้อยกิโลเมตร ถึงจะสามารถเยือนถิ่นของมาคิล อัล ฟามิลได้
เป็นเวลาบ่ายคล้อย ดวงอาทิตย์แรงกล้าสาดส่องบนละอองเม็ดทรายให้ร้อนระอุไปทั่วทั้งบริเวณ อักษราภัคจึงเดินทางมาถึงโอเอซิสอันอุดมสมบูรณ์ ที่โอบล้อมคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลอัล ฟามิลไว้
อักษราภัคทั้งเหนื่อย ทั้งหิว ขณะลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่เดินตรงไปยังป้อมยาม และบอกกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยว่าเธอคือใคร ต้องการมาพบกับใครในคฤหาสน์หลังนี้
“สวัสดีค่ะ ฉันเป็นพยาบาลที่คุณมาคิลจ้างมาจากประเทศไทยค่ะ”
“ขอดูบัตรด้วย”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยร่างใหญ่ไม่ต่างจากยักษ์ปักหลั่น เอ่ยบอกเสียงห้วนๆ พร้อมกับยื่นมือมาข้างหน้ารอรับบัตรจากอาคันตุกะสาว
“นี่ค่ะ เอกสารของฉัน”
อักษราภัครีบหยิบบัตรประจำตัวพยาบาล พร้อมกับหนังสือการว่าจ้างงาน ยื่นให้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ซึ่งพอกระชากเอกสารไปจากมือถือของเธอได้แล้ว ก็กวาดสายตามองดูอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกดโทรศัพท์โทรแจ้งการมาถึงของเธอ ให้คนที่อยู่ภายในคฤหาสน์รับทราบ
“ร้อนชะมัด”
อักษราภัคบ่นงึมงำขณะรอให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยโทรเข้าไปแจ้งคนที่อยู่ภายในคฤหาสน์ หญิงสาวกวาดสายตามองรอบๆ บริเวณ แค่เพียงรั้วกำแพงสูงลิบหัว หญิงสาวก็เห็นได้ถึงความยิ่งใหญ่ ความมีอำนาจของผู้เป็นเจ้าของคฤหาสน์อัล ฟามิล
แค่เพียงด้านนอกคฤหาสน์ ยังดูงดงามและยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก หากเข้าไปภายในโอเอซิสแห่งนี้แล้ว อักษราภัคเชื่อว่าคงมีความงดงามอลังการรอเธออยู่อีกมาก
“คุณเข้าไปข้างในได้แล้ว เดินไปเรื่อยๆ ไม่กี่เมตรก็ถึงบ้านของเจ้านาย แล้วจะมีหญิงรับใช้พาคุณไปพบกับเจ้านายอีกที”
ความคิดของอักษราภัคต้องหยุดชะงักไปชั่วขณะ เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตะโกนบอกเสียงดัง พร้อมกับยื่นเอกสารกลับคืนให้เธอด้วย
“ขอบคุณมากๆ ค่ะ”
อักษราภัคยิ้มหวาน พยายามผูกมิตรด้วย แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ซึ่งดูท่าว่าจะยิ้มไม่เป็น แยกเขี้ยวใส่แทน
พอประตูรั้วด้านหน้าถูกเปิดออกกว้าง ร่างบางระหงลากกระเป๋าเดินทางผ่านประตูรั้วเข้าไป อักษราภัคก็ต้องเบิกตากว้างกับอาณาจักรของมาคิล อัล ฟามิล
ทะเลสาบ สระว่ายน้ำ สนามฟุตบอล สวนหย่อม สนามกีฬาในร่ม มีพร้อมอยู่ภายในโอเอซิสแห่งนี้ ทว่า...อักษราภัคไม่ได้ตื่นเต้นไปกับสิ่งที่เห็น เพราะเธอกำลังเหน็ดเหนื่อยใจแทบขาด ทั้งหิวข้าว ทั้งกระหายน้ำ พึมพำก่นด่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่บอกเธอว่าเดินแค่ไม่กี่เมตรก็ถึงตัวคฤหาสน์แล้ว
จากจุดที่ยืนอยู่ อักษราภัคสามารถมองเห็นตัวคฤหาสน์หลังใหญ่ ที่สร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลังอยู่ไกลลิบ หากให้คาดคะเนระยะทางแล้วคงไม่ต่ำว่าสามกิโลเมตรแน่ ทั้งเหนื่อย ทั้งหิว นาทีนี้หญิงสาวอยากได้น้ำเย็นๆ ดื่มดับกระหาย และอยากนอนแช่ตัวในน้ำอุ่นๆ ไล่อาการเมื่อยขบจากการนั่งเครื่องบินนานนับยี่สิบชั่วโมงออกไปจากตัวด้วย
เกือบสามสิบนาที อักษราภัคลากกระเป๋าเดินทางอันหนักอึ้งมาถึงด้านหน้าคฤหาสน์อัล ฟามิลได้ในที่สุด และทันทีที่เดินมาถึงหน้าคฤหาสน์ ก็มีหญิงรับใช้มารับเธอแล้ว
“คุณอักษราภัค พยาบาลที่มาจากประเทศไทยใช่ไหมคะ”
“ค่ะใช่ค่ะ ดิฉันอักษราภัคค่ะ” อักษราภัคพยักหน้ารับคำด้วยสีหน้าอ่อนล้าเต็มที
“รออยู่ตรงนี้ก่อน ฉันจะไปแจ้งให้คุณมาคิลทราบ ว่าคุณเดินทางมาถึงแล้ว”
โซยาเอ่ยบอกพยาบาลสาว ก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าไปภายในคฤหาสน์
แค่เพียงได้ยินชื่อของมาคิล อักษราภัคก็เริ่มรู้สึกหายใจไม่ออก เม็ดเหงื่อผุดขึ้นพราวเต็มหน้าผากมน
ทว่า...หาใช่เพราะความร้อนจากอากาศบนแผ่นดินทะเลทรายอันร้อนอบอ้าวไม่! แต่เป็นเพราะกำลังหวาดกลัวกับการต้องเผชิญหน้ากับมาคิล และหวาดหวั่นกับความเจ็บปวด ที่ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาเปิดบาดแผลเก่าในหัวใจดวงน้อยให้เลือดซึม ทั้งสี่แห่งห้องของหัวใจ
ผ่านไปสี่ปีแล้ว มาคิลคงแต่งงานมีครอบครัว มีภรรยาที่งดงาม มีลูกน้อยน่ารักหล่อเหลาคมเข้มไม่แพ้ผู้เป็นพ่อคอยอยู่เคียงข้าง เธอจะทนได้หรือ หากต้องอยู่ร่วมชายคากับมาคิลและภรรยาของเขา เพื่อทำงานชิ้นสำคัญชิ้นนี้ กว่าเธอจะลอบเข้าไปขโมยเพชรสีฟ้าได้ เธอคงต้องทนเห็นภาพบาดตาบาดใจทุกวี่ทุกวัน และกว่าจะกลับประเทศไทยได้ หัวใจดวงน้อยคงแตกร้าวรานไม่ต่างจากธุลีผง
ทางด้านของโซยา หลังจากได้รับคำสั่งจากผู้เป็นเจ้านายให้พาพยาบาลคนใหม่เข้าไปพบได้ ก็เดินกลับมาบอกอักษราภัคอีกครั้ง
“คุณอักษราภัค เข้าไปข้างในบ้านได้แล้วค่ะ”
โซยาเอ่ยบอกพยาบาลสาว แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้ยินคำพูดของเธอ พยาบาลคนนี้กำลังตกอยู่ในภวังค์บางอย่าง ซึ่งโซยาคิดว่าคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ เพราะใบหน้างามเผยริ้วรอยของความเจ็บปวดให้เห็นอย่างชัดเจน