ตอนที่ 3 ใช้บริการ (1/2)

1230 คำ
“ปล่อยผู้หญิงคนนี้ซะ” เสียงคุ้นหูของใครบางคนดังขึ้นจากทางด้านหลัง ทั้งฉันและพี่ปริญหันไปมองเจ้าของน้ำเสียงที่เข้ามาขัดจังหวะ พี่ปริญปล่อยมือที่บีบข้อมือออกข้างหนึ่ง แต่อีกข้างก็ยังกำเอาไว้แน่น และฉันก็โล่งใจเป็นอย่างมาก เพราะเขาคือ พีท “พีท นายช่วยฉันด้วย” ร้องขอความช่วยเหลือด้วยใบหน้าที่แดงก่ำไปด้วยความกรุ่นโกรธ “นี่รู้จักมันเหรอ” พี่ปริญมีสีหน้าดุดัน คงจะโมโหที่โดนพีทมาขัดจังหวะถึงสองครั้งสองครา และที่เขาถามคงเป็นเพราะฉันเรียกชื่อของพีทด้วยเช่นกัน “ปล่อยเธอซะ เธอเป็นแฟนผม” เสียงเข้มและสีหน้าจริงจังของพีททำให้ฉันถึงกับยืนอึ้ง แต่ก็ดีใจนะที่นายทำตามสัญญา ไม่ใช่สิ ทำตามข้อตกลงว่าจ้างที่เราได้ตกลงกันไว้ก่อนหน้า ฉันรีบสะบัดข้อมือให้หลุดออกจากมือของพี่ปริญ แล้วรีบวิ่งเข้าไปหลบอยู่ด้านหลังของพีทแทน “แฟนอย่างนั้นเหรอ กูจะบอกให้มึงหายโง่และจำเอาไว้ด้วยนะ ผู้หญิงคนนี้เป็นคู่หมั้นของกูเว้ย” พี่ปริญชี้มาทางฉันและเอ่ยแสดงความเป็นเจ้าของออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ “แค่ว่าที่คู่หมั้น อย่ามาทำปากดีสิครับ” “มึงคิดว่ามึงเป็นใครวะ อยากมีเรื่องกับกูนักเหรอ” “ก็แค่ลูกชายเจ้าของบริษัทผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้า ที่วันๆ เอาแต่เมากับมั่วผู้หญิงไปทั่ว” ประโยคนี้ถึงกับทำฉันอึ้งหนักยิ่งกว่าเก่า นี่เขารู้ประวัติของพี่ปริญได้อย่างไร เห็นเงียบๆ แบบนี้แอบซ่อนเล็บอยู่เหมือนกันนะเนี่ย “ไอ้เชี่ยนี่วอนตีนซะละ” พูดพร้อมกับถลาตัวเข้าหา แต่ก็ถูกพี่บอดี้การ์ดสองคนที่ติดตามพีทเข้ามากันท่าเอาไว้ก่อนที่พี่ปริญจะเข้ามาถึงตัว “ลากมันออกไป” “ครับ” สิ้นสุดเสียงคำสั่ง พี่ปริญก็ถูกหิ้วปีกลากออกไปหน้าคลับ ดูหน้าโหดๆ ของพี่สองคนนั้นสิ พี่ปริญคงจะไม่ถูกซ้อมปางตายใช่ไหม “นะ…นาย อย่าทำอะไรเค้าเลยนะ ฉันไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่” “เป็นห่วง?” “เปล่า แค่ไม่อยากให้มีปัญหายุ่งยากตามมาทีหลัง นะ ถือว่าฉันขอร้อง” ใจจริงมันก็แอบกลัว สายตาของพีทที่ออกคำสั่งเมื่อกี้มันช่างดุดันและน่ากลัวมาก ต่างจากเขาตอนปกติที่ชอบอ่านหนังสือ “ไม่ต้องห่วงหรอก ว่าที่คู่หมั้นของคุณจะไม่เป็นอะไร ตราบใดที่เขาไม่สร้างเรื่องให้คลับของเราเสียหาย” คลับของเรา พูดอย่างกับตัวเองเป็นเจ้าของ “อื้ม” ฉันค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย “ว่าแต่นายมาได้ยังไง” “เดินตรวจคลับแล้วมาเจอเข้าพอดี” “บังเอิญจังเนาะ” “เลขบัญชีส่งให้ในไลน์แล้ว อย่าลืมค่าจ้างด้วยล่ะ” ไอ้หน้าเงิน ฉันรีบมองค้อนไปทันที แหม ไอ้เราก็นึกว่ามาได้จังหวะเลยคิดจะช่วยกัน ที่ไหนได้ คิดถึงค่าจ้างหลักหมื่นของฉันว่างั้น คิดในใจไปมือก็เลื่อนหามือถือไป แต่ลืมไปว่าถูกดึงตัวออกมาโดยที่ไม่ได้คว้าอะไรติดตัวมาด้วยเลย “โทรศัพท์อยู่ที่โต๊ะ” เงยหน้าขึ้นมองและบอกกับคนตัวสูงพร้อมกับเผยยิ้มหวานกระพริบตาปริบๆ “รอแป๊บนะ” ว่าแล้วก็รีบกลับเข้าไปที่โต๊ะเพื่อหยิบกระเป๋าแล้วก็ออกมาที่เดิม พอที่ไปถึงโต๊ะบีลีฟก็รีบยิงคำถามออกมาด้วยความเป็นร้อนรน “เป็นไงบ้างแก พี่ปริญทำอะไรแกรึเปล่า” “ฉันสบายดี พีทไปช่วยไว้ได้ทัน” “พีท?” “อื้ม ไว้ค่อยเล่าทีหลังนะ ฉันออกไปหาพีทก่อน” คุยกันนิดหน่อยฉันก็รีบออกมา และพีทก็ยังคงยืนรออยู่ที่เดิม กลัวฉันเบี้ยวจ่ายค่าจ้างนายหรือไงกัน “โอนไปแล้วนะ เช็กดูได้เลย” ฉันแนบสลิปไว้ในไลน์ให้เขาไปด้วย เผื่อไม่เชื่อ “โอเค” นี่ก็เป็นครั้งแรกที่พีทยอมช่วยแกล้งเป็นแฟน และฉันก็ต้องยอมเสียค่าจ้างหนึ่งหมื่นบาทไปภายในพริบตาเดียวที่เขาแสดงละครต่อหน้าพี่ปริญไม่ถึง 10 นาทีด้วยซ้ำ ยัยเฟย์เอ้ยยัยเฟย์ หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ ทันทีที่ผมเห็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่เธอถูกผู้ชายคนนั้นลากแขนตรงไปที่ทางเดิน ผมก็ลุกออกจากโต๊ะไปทันที ดีที่ไปได้ทันเวลา ถ้าช้ากว่านี้อีกนิดก็อาจจะช่วยเธอไว้ไม่ทันการณ์ เฟย์คงจะสงสัยว่าทำไมผมถึงรู้เรื่องว่าที่คู่หมั้นของเธอ ในคืนนั้นที่ผมถูกทาบทามให้แกล้งเป็นแฟนด้วยค่าจ้างคืนละหนึ่งหมื่นบาท ผมก็ให้พี่ก้าวกับพี่คิวช่วยกันสืบประวัติของผู้ชายคนนี้ให้ แต่ก็ให้สืบแค่คร่าวๆ เท่านั้น แค่อยากรู้ว่าเขาเป็นใคร เรียนหรือทำงานที่ไหน แต่พี่เก้ากับพี่คิวก็ทำหน้าที่ได้ดีเกินคาด ผมได้ข้อมูลมาอย่างรวดเร็วทันใจ และสืบมาละเอียดกว่าที่ได้รับคำสั่งไปมากเลยทีเดียว ทำให้ผมได้รู้ข้อมูลที่เกี่ยวกับนายปริญเพิ่มขึ้นมากพอสมควร เรียกได้ว่ารู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง เพราะไม่ใช่แค่ยอมรับว่าเป็นแฟนเธอแล้วเรื่องมันจะจบ แต่มันหมายถึงผมเอาชีวิตของตัวเองเข้าไปคั่นกลางระหว่างเธอกับว่าที่คู่หมั้น และผมต้องยอมรับกับปัญหาที่จะตามมาในอนาคตด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ แต่เตรียมตัวไว้เป็นดีที่สุด หลังจากแยกตัวกับเฟย์ ผมก็ขึ้นมานั่งทำงานบนห้องของเฮียต่อ ทันใดนั้นเสียงจากสายเรียกเข้าก็ดังขึ้น ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู พบว่าเป็นเบอร์โทรเข้าจากต่างประเทศ น่าจะเป็นเฮียพุฒิแน่นอน พีท (ว่าไงเฮีย) พุฒิ (ไงไอ้น้องชาย เฮียไม่อยู่นี่คลับเป็นไงบ้าง) พีท (ก็เรียบร้อยดี) พุฒิ (ได้ข่าวว่ามีสาวขึ้นมาหาถึงห้องทำงานเลยเหรอวะ) พีท (ข่าวไวดีนี่) พุฒิ (เล่ามา หรือจะให้เฮียสืบ) พีท (หยุดเลยนะเฮีย เรื่องส่วนตัวผมเว้นบ้างก็ได้) พุฒิ (ก็เล่ามาสิวะ เธอเป็นใคร มาจากไหน ไปรู้จักกันได้ยังไง และที่สำคัญสวยมั้ยวะ) พีท (เพื่อนที่มหาลัย หน้าตาก็พอใช้ได้) พุฒิ (สั้นๆ แค่นี้) พีท (อืม มีแค่นี้แหละ) พุฒิ (เออๆ แค่นี้ก็แค่นี้ เดี๋ยวกูสืบต่อเองก็ได้วะ) พีท (ไอ้เฮีย) ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อเฮียพุฒิก็ชิงวางสายไปเสียก่อน หูตาไวเหมือนกันนะเฮีย คงจะมีใครสักคนในสองบอดี้การ์ดที่เฮียให้ติดตามผมโทรไปรายงานอย่างแน่นอน ผมกับเฮียพุฒิอายุห่างกันเพียง 4 ปี เป็นพี่น้องที่รักใคร่กลมเกลียวกันมาก ผมรู้เรื่องเฮีย และเฮียก็รู้เรื่องของผม เป็นอย่างนี้มาตลอดตั้งแต่จำความได้ เรียกได้ว่าระหว่างเราสองพี่น้องแทบจะไม่มีความลับอะไรต่อกันเลย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม