ลอบสังหาร

1743 คำ
ตอนที่ 10 ลอบสังหาร วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ยามนี้อายุครรภ์ของลู่เหลียนก็เข้าเดือนที่เก้าแล้ว นางต้องเผชิญกับความยากลำบากในการอุ้มท้อง ทั้งปวดหลัง ปวดเอว ปวดขา นอนหลับไม่สนิทต้องคอยตะแคงตัวไปมาแทบทั้งคืน นางเป็นเพียงสตรีบอบบางร่างเล็ก เมื่อครั้นต้องมาอุ้มท้องเด็กถึงสองคน ทำให้ช่วงนี้นางเคลื่อนไหวร่างกายได้ยากลำบากยิ่งนัก จะเดินไปที่ใดก็ต้องมีคนคอยพยุงอยู่ร่ำไป โชคดีที่ถานเอ๋อร์คอยอยู่ดูแลใกล้ชิดในช่วงนี้ ส่วนอ๋องแปดนั้น เมื่อสองเดือนก่อนเขาได้กลับเข้ากองทัพเหนือเพื่อทำภารกิจสำคัญ แม้จะยังไม่มีอะไรคืบหน้าแต่ก็มีสัญญาณที่ดี ที่บ่งบอกว่าเขานั้นได้แทรกซึมเข้าไปในกองทัพชนเผ่าได้สำเร็จ สำหรับการรบนั้นมักกินเวลาเนิ่นนานหลายปีกว่าจะรู้ผลว่าฝ่ายใดแพ้ชนะ เพียงระยะเวลาสองเดือนที่อ๋องแปดสามารถหาทางลอบเข้าไปในนั้นได้ ก็นับว่ารวดเร็วดีแล้ว หลังจากนี้ก็ได้แต่ภาวนาให้เขาปลอดภัย อย่างที่อาจารย์นางเคยกล่าวว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า ต่อให้อ๋องแปดมีแผนการรัดกุมเพียงใดก็ไม่ควรประมาท เพราะอย่างไรเสียนางเชื่อว่ากองทัพชนเผ่าเองก็มีฝีมือไม่ธรรมดาเช่นกัน เพราะหากใช้เพียงกำลังก็คงไม่สามารถยึดครองเมืองของแคว้นใหญ่ได้มากมายหลายเมืองเช่นนี้ นางเชื่อว่าหนึ่งในนั้นต้องมีกุนซือที่ฝีมือยอดเยี่ยม ปัญญาหลักแหลมซ่อนอยู่เป็นแน่ แต่อย่างไรก็ตามแต่ เมื่อขึ้นชื่อว่าศัตรู แม้จะมีปัญญาที่น่าชื่นชมศรัทธาเพียงใด ก็ไม่อาจผูกมิตรได้ ล๔เหลียนตระหนักถึงบ้านเมืองเสมอ หากแผ่นดินลุกเป็นไฟ คนที่นางรักต้องตายจาก เช่นนั้นจะให้นางอยู่นิ่งได้อย่างไร ในสถานการณ์ที่จนตรอก แม้จะต้องเป็นหมาลอบกัดก็ต้องยอมทำ หญิงสาวสกัดยาพิษขวดสุดท้ายก่อนบรรจุลงหีบขนาดกลางเพื่อส่งมอบให้แก่กองทัพฝั่งเหนือ ตัวนางก็คงช่วยเหลือได้เพียงเท่านี้ ครั้นจะให้ไปจับดาบสู้รบก็หาใช่สิ่งที่นางถนัดไม่ ฝีมือนางคงไม่มากพอที่จะฟาดฟันกับหมู่มวลชายฉกรรจ์ แต่หากให้พอป้องกันตัวจากคนไม่กี่คน ก็พอได้อยู่ “คุณหนู พักก่อนเถิดเจ้าค่ะ” ถานเอ๋อร์กล่าวก่อนนำหีบที่บรรจุยาพิษไปห่อผ้าสีดำทึบเพื่อที่นางจะนำไปส่งมอบให้แก่กองทัพฝั่งเหนือด้วยตัวเอง ซึ่งนั่นต้องใช้ระยะเวลาไปกลับนานหลายวัน ทำให้หญิงสาวเป็นกังวลเพราะห่วงคุณหนูของตนที่ยามนี้ท้องแก่เดินแทบไม่ไหว “เจ้ารีบนำของพวกนี้ไปส่งให้กองทัพเถิด หากล่าช้า ข้าเกรงว่าจะไม่ทันการณ์” ยามนี้อ๋องแปดสามารถเข้าออกกองทัพชนเผ่าได้เพราะอาศัยสวมรอยเป็นพ่อค้าขับเกวียนส่งข้าวส่งน้ำ แต่หากไม่รีบเร่งให้ทันการณ์ นางเกรงว่าเขาจะถูกจับได้ และเมื่อถึงเวลานั้นกองทัพชนเผ่าคงจัดการเขาไม่เหลือแม้กระทั่งเถ้ากระดูกเป็นแน่ ชนเผ่าป่าเถื่อน ชื่อเสียงเลื่องลือเรื่องความโหดร้ายทารุณ ฟังเรื่องราวของคนพวกนั้นคราใด นางรู้สึกหดหู่เสียจนอยากจะอาเจียนเสียทุกครั้งไป คนพวกนั้นไม่เพียงปล้นฆ่าแย่งชิงแผ่นดินผู้อื่น แต่ยังกินมนุษย์เป็นอาหารยามที่กองทัพขาดแคลนเสบียง เชลยที่ถูกจับมาจะต้องถูกเชือดฆ่านำไปทำอาหารแทนเนื้อสัตว์ที่หาได้ยากยิ่ง นางกลัวว่าอ๋องแปดจะไม่พ้นมีชะตากรรมเช่นนั้น แม้ชายหนุ่มจะไม่ตกเป็นเบี้ยล่างได้โดยง่าย แต่ด้วยอุปนิสัยที่มักสร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้อื่น อาจทำให้ฝ่ายนั้นหมดความอดทนได้อย่างง่ายดาย “คุณหนู พักนี้ข้าไม่อยากให้ท่านอยู่เพียงลำพัง” ถานเอ๋อร์กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น มีคนไม่หวังดีที่พยายามลอบเข้ามาที่นี่หลายครา แต่นางก็จัดการเสียก่อนที่พวกมันจะเล็ดลอดเข้ามาได้ เรื่องนี้คุณหนูไม่เคยรับรู้ นางไม่บอกเพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะไม่สบายใจ อีกทั้งนางยังสืบรู้มาว่ารอบๆจวนนี้นั้น มีกลุ่มคนที่มีฝีมือด้านวรยุทธรอบล้อมอยู่นับสิบคนมานานนับเดือนแล้ว แต่เหมือนกับว่าจะไม่ใช่ผู้ประสงค์ร้ายต่อคุณหนู นางจึงปล่อยผ่าน นางไม่รู้ว่าคนเหล่านี้เป็นคนของผู้ใด แต่หากไม่คิดร้ายต่อคุณหนู นางก็จะไม่ยุ่ง “รีบไปเถิด เจ้าไม่ต้องห่วงข้า ข้าเอาตัวรอดได้” เมื่อครั้งที่ถานเอ๋อร์กลับไปยังจวนสกุลลู่เพื่อดูแลน้องชายนางก็ใช้ชีวิตเพียงลำพังได้ ถึงยามนี้จะลำบากไปหน่อย แต่นางก็ไม่ยอมให้ผู้ใดมาทำร้ายได้โดยง่ายหรอก ทุกอย่างนางวางแผนไว้แล้วว่าจะทำเช่นไร หากต้องพบสถานการณ์ที่ไม่สู้ดี ถานเอ๋อร์เองก็ไม่กล้าพอทีจะขัดใจอีกฝ่าย หากคุณหนูเอ่ยปากเช่นนี้นางจะทำเช่นไรได้ หญิงสาวถอนหายใจก่อนยกหีบขึ้นมา “เช่นนั้นรักษาตัวด้วยนะเจ้าคะ บ่าวจะรีบกลับมา” ไม่มีทางเลือกนักสำหรับสถานการณ์ยามนี้ บ้านเมืองก็สำคัญ คุณหนูเองก็สำคัญ แต่ในเมื่อไม่มีผู้ใดที่วางใจได้ นางจึงจำเป็นต้องรับหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้ ส่วนคุณหนูนางเชื่อว่ามีคนคอยให้การช่วยเหลือลับๆอยู่เป็นแน่ เพียงแต่นางไม่รู้ว่าคนผผู้นั้นเป็นใคร ค่ำคืนเงียบสงบหลังถานเอ๋อร์ควบม้าจากจวนมุ่งตรงไปยังเมืองเหนือ ลู่เหลียนก็ไม่ได้ออกไปไหนอีก นางนอนอ่านหนังสืออยู่ในห้องจนพลบค่ำก็ลุกไปอาบน้ำและทานอาหารดังเช่นทุกวัน หลังจากนั้นนางก็ดับโคมและมานั่งที่ระเบียงเพื่อชมแสงจันทร์ มือบางลูบหน้าท้องอย่างช้าๆ อีกไม่นานสองแฝดก็จะคลอดออกมาแล้ว นางตื่นเต้นเสียจนแทบทนรอไม่ไหว แต่สิ่งที่น่ากังวลกว่านั้นคือนางจะปกป้องลูกน้อยของนางจากผู้ประสงค์ร้ายเช่นไรดี นางเชื่อว่าอย่างไรเสียคนที่คิดลอบสังหารนาง ก็คงไม่ยอมรามือง่ายๆเป็นแน่ คนพวกนั้นคงเชื่อว่านางคืออาวุธร้ายที่ควรกำจัดทิ้ง หญิงสาวหาได้อยากมือเปื้อนเลือดไม่ แต่ในเมื่อมันจำเป็นแลพเพื่อปกป้องสองดวงใจที่กำลังจะเกิด นางจึงหาแผนการล่อเสื้อออกจากถ้ำ และการส่งถานเอ๋อร์ออกไปนั้นก็เป็นหนึ่งในแผนที่นางวางไว้ คนเหล่านั้นไม่ได้มีวรยุทธ เพียงแต่มีความอำมหิตในสายเลือดเท่านั้น ครั้นจะให้รับมือกับถานเอ๋อร์ก็ย่อมเป็นเรื่องที่เสียเปรียบเกินกำลัง คนเหล่านั้นต้องการจังหวะที่เหมาะสมในการเข้าประชิดตัวนาง และค่ำคืนนี้ก็คงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับคนเหล่านั้น ลู่เหลียนนอนลงบนเตียงก่อนหลับตาลง ผ่านไปเพียงครึ่งชั่วยามก็เริ่มมีบางสิ่งเคลื่อนไหวเข้ามาใกล้มากขึ้น ฝีเท้านั้นบางเบาราวกับล่องลอยอยู่ หญิงสาวจับดาบที่อยู่ข้างกายก่อนพุ่งหมายแทงอีกฝ่ายให้สิ้นลม แต่นึกไม่ถึงว่าชายในชุดดำมิดชิดจะเบี่ยงหลบได้อย่างรวดเร็ว นางดันตัวลุกขึ้นสองมือถือด้ามดาบอย่างมั่นคง “ข้าจะไม่ถามว่าเจ้าเป็นใคร แต่ในเมื่อเจ้าบุกเข้ามา ข้าก็จะไม่ปราณี” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงกดต่ำ นางจะไม่ยอมให้บุรุษผู้นี้เข้ามาหลอกกินเต้าหู้นางอีก คราแรกนางคิดว่าผู้ที่ลอบเข้ามานั้นควรจะเป็นผู้ไม่หวังดีที่คิดลอบสังหารนาง แต่นางลืมไปว่านอกจากคนที่อยากให้นางลงปรโลกแล้ว ยังมีบุรุษหน้าตายผู้นี้ที่ชอบลอบเข้ามาหานางแทบทุกค่ำคืน ให้ตายเถิด แผนการผิดพลาดเสียแล้ว! หญิงสาวพุ่งปลายดาบใส่เขาอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มเอาแต่เบี่ยงตัวหลบแต่ไม่คิดโต้ตอบ เขาปล่อยให้นางฟาดฟันลมจนเหนื่อยไปเองและยืนมองด้วยสายตาห่วงใยล้ำลึกอยู่ไม่ไกล ลู่เหลียนนั่งลงบนเตียงพลางหอบหายใจ นางรู้แล้วว่าชายผู้นี้หาได้มีเจตนาร้าย จึงวางมือที่จะสู้กับเขา เพราะถึงทำไปก็คล้ายว่านางจะเหนื่อยอยู่ฝ่ายเดียว “ข้าเป็นเพียงแม่ม่ายท้องแก่ หาได้มีสิ่งใดให้ท่านพิศวาสไม่” นางกล่าวกับเขาด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน คนผู้นี้ ครั้นถูกนางจู่โจมก็ไม่โต้ตอบ บ้าไปแล้วหรืออย่างไร ช่างเป็นคนที่แปลกประหลาดเสียจริง นางวางใจแล้วว่าอีกฝ่ายจะไม่มายุ่มย่ามกับนางเป็นแน่ เพราะเขาเลือกที่จะถอยไปยืนที่มุมห้อง แต่แล้วจู่ๆร่างนางก็ถูกเขาเข้าประชิด แขนแกร่งนั้นโอบกอดนางก่อนพาเบี่ยงหลบบางสิ่งที่พวยพุ่งเข้ามาในห้อง เพล้ง! แจกันใบโตแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆพร้อมๆกับร่างบางที่ล้มลงบนเตียงทาบทับด้วยร่างสูง ลู่เหลียนตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว นางควานหาผงพิษใต้หมอนก่อนกำไว้ในมือ ชายหนุ่มดึงหญิงสาวขึ้นก่อนดันร่างนางเข้าไปในมุมมืด เพื่อหลบซ่อนจากสายตาผู้บุกรุกที่ยามนี้ลอบเข้ามาทางหน้าต่างที่เปิดอ้าไว้ ร่างผอมบางมีสัดส่วนคล้ายสตรีกำลังย่างกรายเข้ามา สายตานั้นกวาดมองไปทั่วทั้งห้อง แต่ไม่ทันได้ลงมือทำสิ่งใด บุรุษที่อยู่ภายในห้องก่อนหน้าก็ลอบเข้าไปด้านหลัง ก่อนวางดาบพาดลงบนลำคอหญิงสาวผู้ประสงค์ร้าย ที่เข้ามาตรวจดูว่าเจ้าของห้องสิ้นลมหรือยัง ไม่คาดคิดว่าจะเจอใครบางคนที่นางคิดไม่ถึง “หึ! ท่านแม่ทัพ ไม่คิดว่าท่านจะอยู่ที่นี่ด้วย”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม