ตอนที่2 ให้โอกาสฉัน
“ฉันอยากเล่นบทนี้จริงๆ ให้โอกาสฉันได้ไหมคะ?” น้ำเสียงหนักแน่นกับสีหน้าจริงจังทำให้นักเขียนลำบากใจ
“ลุกขึ้นเถอะคุณ ก็ได้ฉันจะให้เธอเล่น”
สองสาวมองหน้ากันตาลุกวาวเหมือนถูกเติมด้วยเชื้อไฟชั้นดี
“ขอบคุณค่ะ ฉันจะทำให้เต็มที่” เชอรีนยิ้มทั้งน้ำตา ใครว่านักเขียนคนนี้เย่อยิ่ง หัวสูง และเย็นชาไม่จริงสักนิด
“แต่”
สองสาวหุบยิ้มพลัน เมื่อเจอกับรอยยิ้มร้ายกาจของนักเขียน
“เธอต้องมีความรักจริงๆก่อน ในเมื่อเธอได้อ่านบทของฉันแล้วเกือบทั้งเรื่องคือความรักชายหญิง ซึ่งเชอรีนเธอไม่มีมัน”
“แต่ว่าฉันเรียนรู้....”
“ใช่ เธอได้เรียนรู้แน่นอน นี่คือประวัติผู้ชายที่เธอต้องไปเรียนรู้ ภายในหกเดือนก่อนที่ฉันจะคอนเฟิร์มนักแสดงนำถ้าเธอพาผู้ชายคนนี้มาพบฉันได้และเขายอมพูดว่าเธอเป็นแฟนฉันจะให้เธอเล่นบทนี้”
ที่ชมไว้ก่อนหน้านี้ฉันขอถอนคำพูด
“ว่าไง ทำได้ไหม?”
“ค่ะ ฉันจะทำให้ได้”
มัธนาพยักหน้าก่อนจะขอตัวไปทำงานต่อ
ฉันกลับมาถึงห้องด้วยความอ่อนล้า งานแสดงที่ชอบกำลังหายไปเรื่อยๆ แม้แต่โฆษณาที่เคยติดต่อเข้ามาไม่ขาดตอนนี้ก็เหลือแค่เพียงถ่ายโปรโหมตหนังสยองขวัญเล็กๆน้อยๆ เงินเก็บแม้จะเยอะมากมายพอให้เธอใช้ไปทั้งชีวิตแต่ในอนาคตอะไรไม่ก็ไม่แน่นอน ถ้าเจ็บป่วยขึ้นมาก็ต้องใช้เงิน เธอไม่อยากอยู่เฉยๆ
หางตาเหลือบไปเห็นแฟ้มไม่หนาเท่าไหร่ ผู้ชายที่เธอต้องทำการค้าด้วย เขาเป็นใครชื่ออะไรเธอไม่เคยรู้มาก่อนเลย มือบางหยิบแฟ้มสีครีมขึ้นมาเปิดอ่าน ภายในหกเดือนนี้ชีวิตในวงการบันเทิงของเธอขึ้นอยู่กับผู้ชายแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จัก
แม้จะไม่รู้เหตุผลทำไมถึงเป็นผู้ชายคนนี้แต่เธอก็ไม่สามารถถามอะไรไปมากกว่านี้ได้ จึงต้องจำใจตกปากรับคำไป
โรงแรมหรูห้าดาว ‘ไฮเอท ดามิสุ รอยัล พาร์ค’
เป็นโรงแรมของคนไทยสัญชาติญี่ปุ่น โรงแรมชื่อดังของไทยและหรูหราตั้งตะหง่านใจกลางเมือง
เชอรีนในชุดกางเกงยีนรัดรูปขาม้ากับเสื้อเกาะอกเอวลอยสีขาว สะพายกระเป๋าราคาหลายแสน สวมแว่นตาสีชาเดินเข้ามาในโรงแรมสูงหลายสิบชั้น มันทั้งเรียบหรูดูแพงตามสไตล์ของคนญี่ปุ่น ผู้บริหารที่นี้เป็นถึงนักธุรกิจชื่อเสียงโด่งดังทั้งยังอายุน้อย แต่ประสบความสำเร็จกวาดรางวัลไปเพียบ
มัธนาให้เธอมาจีบผู้บริหารของ LC GROP คือ ศูนย์ใหญ่ของตระกูล มาสึดะ ตระกูลนี้ทำธุรกิจเกี่ยวกับการขนส่งและบริการทางเรือทุกรูปแบบ และยังมีธุรกิจย่อยคือโรงแรม...และปล่อยเงินกู้
เจอคำว่าปล่อยเงินกู้เข้าไปฉันอยากถอยหลังกลับทันที แต่ก็ต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆใจหนึ่งก็อยากรู้ว่าทำไมมัธนาถึงให้เธอเข้าหาผู้ชายคนนี้ ฉันเลือกมุมนั่งดื่มกาแฟที่ล็อบบี้จากที่ฉันสืบมา วันนี้เขาคนนั้นจะมาที่โรงแรมแห่งนี้ทุกวันศุกร์ไม่รู้จะได้เจอหรือเปล่านี้สิ
ฉันนั่งปัดหน้าจอไอแพดราวๆครึ่งชั่วโมงได้ก็รู้สึกว่าคนรอบข้างเปลี่ยนไปโดยเฉพาะผู้หญิงรวมไปถึงพนักงาน เหมือนกำลังตั้งตารอใครสักคน หรือว่าเขาคนนั้นจะมาแล้ว ฉันเก็บไอแพดใส่กระเป๋าใบใหญ่ยกขาขึ้นไขว่ห้างตรงที่ฉันเลือกนั่งสามารถมองตรงไปถึงลิฟต์สำหรับผู้บริหารได้ โรงแรมแห่งนี้แยกลิฟต์สำหรับลูกค้าและผู้บริหารไว้อย่างชัดเจน ชายชุดดำแต่งตัวสุดเนี้ยบวิ่งเข้ามาขนาบไว้สองข้าง ทุกคนต่างสวมสูทสีเดียวกันสวมแว่นตาดำทุกคน เขาเป็นนักธุรกิจหรือเป็นมาเฟียกันแน่ แต่มันไม่แปลกหรอกคนมีเงินจะจ้างคนมาคุ้มกันตัวเองไม่เห็นแปลกเลย
เชอรีนเผลอจิกเล็บเข้าอุ้งมือของตัวเองเมื่อเห็นคนมาใหม่เดินเข้ามา ส่วนสูงราวๆ ร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร ทรงผมตัดแต่งจัดทรงเปิดหน้าผากกว้าง มีเส้นผมบางเส้นหลุดลงมายิ่งขลับให้ใบหน้าหล่อเหลาราวกับพระเจ้าจับปั้นมาตั้งแต่ในท้องดูน่ามองมากกว่าเดิม ดวงตายาวรีขนตาเป็นแพรยาวตรง จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากสีชมพูอ่อนๆ เหมือนกับคนไม่เคยสูบบุหรี่ สีผิวนับว่าขาวจัด ผู้ชายคนนั้นสวมสูทสีดำปักเข็มกลัด....นั้นมัน!
‘มาเร็ว!’
“อ้ะ!”
ฉันเบิกตากว้างเมื่อถูกป้าเเม่หมอดึงให้ลุกขึ้น แต่ก่อนจะได้ตกใจไปมากกว่านั้นผู้ชายคนนั้นหยุดยืนก่อนจะหันกลับมาดื้อๆ ส่วนฉันพยายามดึงแขนกลับแต่ไม่เป็นผล
ผลั่ก!
‘แม่หมอฉันจะตัดหางเธอปล่อยวัดเเน่!!’
ตุ้บ!
อับอาย!
รองเท้าส้นสูงเกิดพันกันสายตาจับจ้องไปยังคนที่หันกลับมา ฉันตาเบิกกว้าง ดึงแขนเธอมาไม่พอยังผลักหลังเธอไปหาผู้ชายคนนั้นอีก ในใจฉันอยากจะกรี้ดดังๆแต่มันคงไม่ได้แล้วเพราะตอนนี้มือของฉันทั้งสองข้างอยู่ที่หน้าอกผู้ชายคนนั้นเเล้ว