“สำเร็จแล้วนะยัยเตี้ย” เมษาบอกด้วยความดีใจพร้อมกับน้ำเสียงสั่นเครือ
“จ้ะเมย์ ขอบคุณมาก พิ้งค์ขอบคุณเมย์มากที่บังคับให้พิ้งค์มาประกวด” เวียงพิงค์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“เพราะตัวพิ้งค์เองต่างหาก เก่งอยู่แล้ว เมย์แค่บังคับมาเฉยๆ” พูดจบเมษาจึงดันตัวเองออกมาเล็กน้อย
“เอาน่ายังไงก็เพราะเมย์ และพิ้งค์ไม่คิดว่าตัวเองจะมีวันนี้”
“ก็มีแล้วไง หืม ดีใจด้วยจ้ะไม่ร้องไห้นะ อย่าลืมโทรไปบอกข่าวดีให้แม่และน้ารู้ล่ะป่านนี้คงลุ้นแย่แล้ว”
“จ้ะ ไม่ลืมแน่ๆ” เวียงพิงค์รับคำเป็นมั่นเป็นเหมาะ จังหวะเดียวกันทีมงานคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาเวียงพิงค์พอดี
“คุณเวียงพิงค์คะ ดิฉันเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลของบริษัท Grey&M พรุ่งนี้รบกวนเข้าไปเซ็นสัญญาโดยเร็วเลยนะคะ งานรอเพียบเลยค่ะ” ผู้จัดการสาวบอกด้วยความตื่นเต้นและยิ้มอย่างเป็นมิตร
“เซ็น! พรุ่งนี้เลยเหรอคะ” เวียงพิงค์ถามอย่างตกใจ
“เร็วไปไหมคะ เตรียมตัวทันไหม” ผู้จัดการสาวถามกลับยิ้มๆ
“ทัน... ทันค่ะ ขอบคุณมากค่ะ” ถึงจะไม่ทันก็ต้องตอบว่าทันอยู่แล้วโดยธรรมชาติเพราะอยากทำงาน
“ท่านประธานอยากให้ทำงานเลยค่ะ พอดีมีคอลเลคชั่นใหม่เข้ามา ท่านอยากให้ผู้ที่ได้รางวัล ซึ่งคือคุณเป็นผู้ออกแบบน่ะค่ะ”
“น่าตื่นเต้นจัง น่ากลัวด้วยค่ะ” เวียงพิงค์บอกอย่างซื่อๆ
“ฮ่าๆ ไม่ต้องกลัวนะคะ ฝีมือคุณยอดเยี่ยมมากพรุ่งนี้เจอกันแปดโมงครึ่งนะคะ”
“ขอบคุณอีกครั้งค่ะ สวัสดีค่ะ” เวียงพิงค์บอกอย่างขอบคุณพลางยกมือไหว้ ซึ่งผู้จัดการสาวก็ยกมือไหว้รับเช่นกัน จากนั้นจึงเดินจากไปอย่างมีความสุข เมื่ออยู่กันตามลำพังเพื่อนรักทั้งสองจึงสวมกอดกันอีกครั้ง
“โชคดีที่สุดในโลกเลยยัยเตี้ย ฮืม”
ต่อมาภายในงาน ก็ทำพิธีปิดอย่างสวยงามสมหน้าสมตาบริษัทยักษ์ใหญ่ ผู้เข้าประกวดทั้งอิ่มเอมใจ มีความสุข บ้างก็ผิดหวังกลับบ้าน ทว่าคาเมรอนไม่ได้ทำให้อีกเจ็ดคนที่เหลือซึ่งไม่ได้รับรางวัลต้องกลับบ้านมือเปล่า อย่างที่บอกทุกคนได้รับเงินสดคนละหนึ่งหมื่นบาท และคาเมรอนขอซื้อผลงานทุกชุดเพื่อผลิตออกมาจำหน่าย ทุกคนจะได้รู้ว่าผลงานทั้งหมดที่ผ่านกระบวนการคิดมาเป็นอย่างดีนั้นมันมีค่าทุกชุด เพียงแต่การประกวดต้องมีหนึ่งเดียวเท่านั้นและมันจำเป็นที่จะต้องเลือกเวียงพิงค์
ทว่าหลังจากเสร็จสิ้นการประกวด คาเมรอนไม่ได้กลับบ้าน แต่กลับขึ้นไปพักในโรงแรมเพราะมีกิจกรรมหลังจากนี้ที่เร่าร้อนกว่า เขาหมายตาเอาไว้แล้วว่าคืนนี้ใครถูกใจมากที่สุด ไม่ใช่ว่าเขาจะซื้อคอลเลคชั่นของผู้เข้าประกวดเท่านั้น แต่ผู้สวมใส่คอลเลคชั่นก็ไม่พลาดที่จะซื้อตัวมาสังเวยตัณหา เพราะผู้ชายที่เคยนอนกับผู้หญิงทุกคืนอย่างเขามันขาดไม่ได้ ยิ่งได้เห็นนางแบบแต่ละคนเซ็กซี่ ขยี้ใจ มันก็ยิ่งกระตุ้นอารมณ์บางอย่างที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้ภายในใจให้ลุกโชนออกมา
บนเตียงนอนนุ่มภายในพักสุดหรู ในความมืดสลัวนั้น มีเพียงแสงสว่างจากภายนอก สาดผ่านกระจกบานใหญ่แบบเลื่อนๆ เข้ามาถึงห้องนอนที่เปิดผ้าม่านเอาไว้ จึงทำให้มองเห็นสองร่างเปลือยไร้เสื้อผ้าของคาเมรอนและนางแบบสาวลูกครึ่ง กำลังนั่งโอบกอดคลอเคลียแนบแน่น พร้อมกับเสียงครางงึมงำในลำคออย่างพอใจ
เรือนกายแสนเย้ายวนของเทย่านางแบบสุดเซ็กซี่ ซึ่งเดินแบบให้กับเครื่องเพชรของเวียงพิงค์ กำลังขยับโยกกายเร่าร้อนราวกับพายุ บดเบียดสะโพกกลมกลึงกับกายแกร่งแห่งชายชาตรีแนบแน่น ขณะที่เขาปล่อยให้เธอนั่งอยู่บนตัก พร้อมกับขยับรับจังหวะของหญิงสาวอย่างรุนแรง สองแขนแข็งแกร่งโอบกอดเธอไว้ พลางเลื่อนฝ่ามือลงไปบีบเค้นคลึงสะโพกให้ขยับเร่งเร้าหนักหน่วงมากยิ่งขึ้น
“โอ้ว! เทย่าเร่งอีก... อ่า... ยอดเยี่ยม อืม” คาเมรอนเอ่ยปากชมพร้อมกับเสียงครางกระเส่า ที่เปล่งออกมาอย่างพอใจด้วยไฟในกายที่กำลังลุกโหม แทบจะระเบิดความปรารถนาที่แสนคุ้มคลั่งออกมา ทว่าเขายังรอให้หญิงสาวคว้าเส้นขอบฟ้าเอาไว้ให้ได้เสียก่อน
“โอ้ย! อืม! เร่งจะแย่แล้วค่ะ” หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ขณะที่สะโพกสวยยังคงขยับอยู่บนตักของเขาอย่างหนักหน่วง
“เร่งอีก... ผมไม่ไหวแล้ว... อ่า” เขาบอกอีกครั้ง และด้วยความช่ำชองของหญิงสาวทำให้เขาอยากจะทะยานพาตัวเองให้ถึงที่หมายโดยเร็ว
“อย่าค่ะ... รอก่อน อื้อ!... ใกล้แล้ว” เธอห้ามเอาไว้เสียก่อนเพราะกลัวว่าเขาจะทิ้งเธอไว้กลางอากาศ และเมื่อพูดจบเธอก็ขยับสะโพกให้หนักหน่วงระรัวเร่งกว่าเดิม พลางแอ่นกายเหยียดเกร็งด้วยความเสียวซ่านและขนลุกชูชันไปทั้งตัว
“อืม! อ่า... คาเมล... โอ้ว!” หญิงสาวแอ่นหลัง พลางเงยหน้าขึ้นและเหยียดเกร็งตัว พร้อมกับร้องครวญครางลั่นห้อง เมื่อความต้องการใกล้จะถึงจุดหมาย
“ใกล้หรือยัง ผมไม่ไหวแล้ว” เขากระซิบเบาๆ ด้วยน้ำเสียงหอบพร่าพลางจับสะโพกหญิงสาวให้เคลื่อนไหวอย่างรุนแรงเพื่อจะได้พาตัวเองไปแตะขอบฟ้าเช่นกัน
“ค่ะ อ่า! อืม! คาเมลขา” หญิงสาวร้องครางอีกครั้งเมื่อทนต่อความต้องการทางกายไม่ไหว พร้อมกับปลดปล่อยอารมณ์ให้ล่องลอย และกรีดร้องออกมาเบาๆ เสียงหายใจหอบพร่าขณะที่ภายในกายกระตุกตอบกายแกร่งเป็นจังหวะ เมื่อชายหนุ่มรู้ว่าเธอถึงที่หมาย จึงไม่รั้งรออีกต่อไป สองแขนจึงโอบกอดเธอไว้แล้วโน้มให้ลงไปนอนราบบนที่นอน ก่อนที่ทุกอย่างจะกลายเป็นช่วงเวลาของเขา
ชายหนุ่มขยับเคลื่อนไหวร่างกายแข็งแกร่งกำยำเข้าออกทางสวาทอย่างหนักหน่วง บดเคล้าสะโพกกับร่างกายแสนเย้ายวนใจด้วยความรุนแรง เร่าร้อนราวไฟที่กำลังโหมกระหน่ำเผาผลาญร่างสวยให้มอดไหม้ สะโพกแกร่งกระแทกกระทั้นระรัวเร่งพร้อมกับเสียงหายใจหอบพร่ากระเส่า
“คาเมล อืม อ๊ะ!” หญิงสาวเป็นฝ่ายครางออกมา แม้ว่าจะถึงฝั่งฝันแล้ว แต่ความซ่านสยิวยังคงก่อเกิดอยู่แถมยังกระตุ้นให้เธอมีความต้องการซ้ำแล้วซ้ำอีก
“อืม... อ่า” เขาเผลอครางออกมาเบาๆ พลางขมวดคิ้วและกัดฟันแน่น ก่อนจะขยับสะโพกกระแทกหนักๆ อีกเพียงไม่กี่ครั้งกระทั่งทุกอย่างล่องลอย เขากดสะโพกลงไปแนบกับเนินเนื้อนุ่มของเธอเอาไว้
“โอ้ว!” เขาเปล่งเสียงออกมาอีกครั้งอย่างห้ามไม่ได้ ขณะที่หญิงสาวอยากจะรั้งเขาลงไปจูบเสียเหลือเกิน เธอจึงโอบแขนตวัดรัดรอบคอเขาไว้ แล้วรั้งลงไปหาหมายจะขยี้จูบให้เต็มรัก ทว่าชายหนุ่มกลับซุกใบหน้าหล่อเหลาลงไปที่ซอกคอแทน ขณะที่กายแกร่งกำลังกระตุกหนักๆ ก่อนจะปลดปล่อยความปรารถนาไหลเวียนอยู่ในปราการณ์แสนปลอดภัยที่เขาเซฟเอาไว้ทุกครั้งก่อนเริ่มปฏิบัติการรัก ชายหนุ่มกอดและซุกซบใบหน้าตรงซอกคอเธออยู่เช่นนั้นเนิ่นนานจนทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ แล้วจึงพลิกตัวออก พลางเอื้อมมือลงไปคว้าเอาปราการณ์ชิ้นนั้นออกไปจากกายแกร่ง แล้วทิ้งลงถังขยะใบเล็กๆ ข้างเตียง ก่อนจะทิ้งตัวนอนลงข้างๆ แล้วหันหลังให้กับหญิงสาว
“คาเมล คาเมลขา” หญิงสาวขยับเข้าไปใกล้ๆ ก่อนจะสอดฝ่ามือเข้าไปสวมกอดเขาไว้จากทางด้านหลัง
“อืม” เขาขานรับด้วยการครางเบาๆ พลางหลับตาพริ้มอย่างไม่สนใจ
“หันมาหน่อยสิคะ คืนนี้กี่ครั้งแล้ว คุณหันหลังให้ตลอดเลย” หญิงสาวตัดพ้อด้วยน้ำเสียงออดอ้อนระคนงอนเง้าเล็กน้อย เพื่อหวังจะให้เขาหันมาสนองรักให้เธออีกสักรอบ อย่างน้อยเสร็จภารกิจก็ต้องกอดจูบเธอบ้าง
“เสร็จแล้วจะให้ทำอะไรต่อล่ะ” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบ
“ก็! ก็... เทย่าอยากจูบคุณ อยากจูบตอนที่เรา...” เธอหยุดเอาเท่านั้นไม่กล้าพูดต่อเพราะได้ยินเสียงเขาถอนหายใจ
“อืม ผมเหนื่อย” เขาตอบแบบขอไปที แถมยังซุกหน้าลงไปกับหมอนราวกับไม่อยากจะพูดอะไรอีก
“คุณเคยจูบใครหรือเปล่าคะ” เธอขยับตัวลุกขึ้นมาถามเขาเสียดื้อๆ แล้วจะทู่ซี้ถามทำไมให้เขาหงุดหงิด ในเมื่อเธอเป็นเพียงผู้หญิงชั่วข้ามคืนของเขา เสร็จงานรับเงินแล้วก็ทางใครทางมัน และเขาก็ไม่เคยจูบใครด้วย ทว่าเมื่อได้ยินดังนั้นเขาจึงถอนหายใจหนักๆ ก่อนจะพลิกตัวกลับมาหา พร้อมกับใช้แขนศอกค้ำยันลงไปบนที่นอนยกตัวขึ้นเล็กน้อย และมองหน้าเธอพลางขมวดคิ้วเช่นเดิม
“อยากได้แค่จูบ หรือว่าอยากได้อย่างอื่น” เขาถามเสียงเครียดแววตาดุเข้ม ทำให้เธอต้องปรายตามองไปทางอื่น
“ก็... เมคเลิฟใครๆ ก็อยากได้” เธอตอบน้ำเสียงแผ่วเบาลง เมื่อรู้สึกว่ากำลังทำให้เขาไม่พอใจ
“เราสองคนก็แค่อยากจะปลดปล่อยจริงไหม หืม อยากเร่าร้อน อยากขึ้นสวรรค์ ก็ถูกแล้วรีบทำรีบเสร็จจะมัวเมคเลิฟทำไมให้เสียเวลา” เขาบอกด้วยน้ำเสียงเย็นชาและยิ้มกริ่มเล็กน้อย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมันก็แค่ความต้องการ ไม่ใช่ความรักที่จะเอาแต่เล้าโลมจนกว่าจะพอใจ
“เทย่าก็แค่...” เธอกำลังจะเถียงต่อทว่าเขาแทรกขึ้นเสียก่อน
“ผมจ่ายเงินคุณ คุณสิต้องเมคเลิฟให้ผมถึงจะถูก หรือว่าไม่เอา หืม”
“เอาค่ะ เอาเงินแล้วเอาคุณด้วย” พูดจาตรงไปตรงมาเสียเหลือเกิน เขาคิด
“คืนนี้ยกให้ แต่ห้ามขอมาก เพราะเราตกลงกันแล้ว” เขาบอกเสียงเรียบอีกครั้ง
“เท่านี้ก็ปลื้มจะแย่ที่เทย่าเป็นคนที่คุณเลือก” เธอยื่นหน้าเข้าไปกระซิบที่ข้างหูเขา และขบที่ติ่งหูเบาๆ ก่อนจะขยับขึ้นไปนั่งคร่อมเขาบนสะโพกอีกครั้ง พลางมองใบหน้าหล่อเหลาด้วยแววตาแพรวพราวใต้เงาสลัว แต่เขามองเห็นชัดเจนว่าเธอกำลังมีความต้องการ จากนั้นเธอก็ขยับตัวลงไปแทรกกายอยู่ระหว่างขาของเขาพลางเอื้อมมือลงไปลูบไล้กายแกร่งที่เพิ่งจะหลับไหลหวังจะกระตุ้นให้มันตื่นตัวอีกครั้ง