อุ่นเรือนหารู้ไม่ว่าเมื่อตนเองวิ่งออกไปจากห้องอาหารแล้วเกิดอะไรหลังจากนั้นบ้าง ดีที่กาหลงเดินกลับมาที่โต๊ะตักอาหารหลังจากเห็นอุ่นเรือนวิ่งออกไปเพียงพักเดียว อยู่ๆ นางอิ่มก็เกิดอาการหน้ามืดขึ้นมาจึงช่วยประคองนางอิ่มเอาไว้ได้ โดยมีเนื้อแพรที่คอยมองอยู่แล้วรีบวิ่งเข้ามาช่วยพัดโบกลมให้นางอิ่มหายใจสะดวกยิ่งขึ้น
ส่วนเกสรนั้นยื่นส่งยาดมที่ตัวเองพกติดตัวไว้ตลอดให้สูดดม และพนักงานก็เริ่มทยอยกันเข้ามาดูแม่ครัวใหญ่ของเกาะมาหยาด้วยความเป็นห่วงจนคนเป็นลมแทบไม่มีอากาศหายใจ เนื้อแพรจึงต้องรีบร้องบอกให้ทุกคนช่วยเปิดทางให้ป้าอิ่มได้มีอากาศหายใจหน่อย
“อย่าพากันมุงนะคะ ช่วยเปิดทางให้ป้าอิ่มหายใจได้สะดวกมากขึ้นหน่อยค่ะ”เสียงร้องบอกของเนื้อแพรทำให้พนักงานทั้งชายหญิงรีบถอยห่างออกมาในทันที
“ป้าอิ่ม! ป้าอิ่ม! ไหวไหมป้า”กาหลงเอ่ยถามน้ำเสียงร้อนรน ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นป้าอิ่มแม่ครัวคนเก่งของเกาะมาหยาจะเป็นอะไรกับเขาเลยสักครั้ง
“มันหวิวๆ ว่ะกาหลง สงสัยข้าจะแก่แล้วล่ะว่ะ” นางอิ่มบอกเสียงเนือยๆ
“เอ่อ...แพรว่าเราพาป้าอิ่มไปพักที่ห้องพยาบาลก่อนดีไหมคะ คุณเกสรคะที่นี่มีห้องพยาบาลไหมคะ”
“มีจ้ะมี จริงด้วย ตกใจจนลืมว่าเกาะเราก็มีพยาบาลมาประจำอยู่ด้วย เอาหนุ่มๆ ขอแรงช่วยกันพาป้าอิ่มไปห้องพยาบาลกันหน่อยเร็วเข้า”
เสียงของเกสรที่เอ่ยขอแรงพนักงานชายให้ช่วยกันพานางอิ่มไปที่ห้องพยาบาลดังขึ้น พนักงานชายหลายคนจึงขันอาสาอุ้มนางอิ่มไปในทันที โดยมีเกสร เนื้อแพรและกาหลง เดินตามไปที่ห้องพยาบาล ระหว่างทางกาหลงได้แต่ต่อว่าอุ่นเรือนไปตลอดทางที่ทำให้นางอิ่มต้องเป็นเช่นนี้
“เพราะนังอุ่นเรือนคนเดียวแท้ๆ นี่ป้าอิ่มแกคงเสียใจที่นังอุ่นเรือนมันตวาดใส่แก แกเลยเป็นลมแบบนี้น่ะ”
“พี่กาหลงแน่ใจเหรอคะว่าเป็นเพราะลูกของป้าอิ่มจริงๆ น่ะค่ะ ไม่ใช่ป้าอิ่มพักผ่อนน้อยไปหรือเปล่าคะ”
เนื้อแพรถามออกไปในที่สุด อาจเป็นสาเหตุอื่นก็เป็นได้
“พี่มั่นใจค่ะคุณแพร ต้องเป็นเพราะนังอุ่นเรือนแน่ๆ”
“เอาน่ากาหลง จะใช่หรือไม่ใช่ตอนนี้มันไม่สำคัญหรอก ที่สำคัญคืออย่าให้ป้าอิ่มแกเป็นอะไรเลยก็แล้วกัน”
ก่อนจะเดินเข้าไปภายในห้องพยาบาลทันที โดยมีเนื้อแพรและกาหลงยืนคอยอยู่นอกห้องเพื่อรอให้พนักงานชายออกมาจากห้องเสียก่อนแล้วพวกตนจึงจะค่อยเข้าไปแทน
ภายในห้องพยาบาลที่เนื้อแพรและกาหลงเดินเข้าไปนั้น เนื้อแพรพบกับนางพยาบาลที่กำลังทำหน้าที่ตรวจอาการของป้าอิ่มอยู่อย่างขะมักเขม้น ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองกับผู้มาใหม่นิดนึงแล้วก็ก้มหน้าก้มตาตรวจเช็กร่างกายคนไข้ต่อ แล้วเอ่ยถามอาการกับป้าอิ่มที่นอนหลับตาอยู่บนเตียง
“ตอนนี้ป้ารู้สึกยังไงบ้างล่ะ”
“ตอนนี้เหรอคะคุณวิ ตอนนี้รู้สึกปวดหัว แล้วก็หายใจไม่ค่อยอิ่มเลย ใจมันหวิวๆ สั่นๆ ยังไงไม่รู้เลยค่ะ”ป้าอิ่มตอบเสียงเหนื่อยๆ
เมื่อเช็กอาการของป้าอิ่มเรียบร้อยแล้วเธอก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ข้างๆ แล้วเอ่ยบอกอาการให้กับเกสรได้รับรู้
“ความดันต่ำน่ะค่ะคุณเกสร เดี๋ยววิจะละลายยาหอมให้ป้าอิ่มดื่มก่อนแล้วกันนะคะ”
บอกเสร็จก็เดินไปจัดการละลายยาหอมให้กับป้าอิ่มทันที โดยมีกาหลงกับเนื้อแพรช่วยกันประคองให้ป้าอิ่มลุกขึ้นดื่มยาหอมที่วิกานดายื่นส่งมาให้
“ป้าอิ่มดื่มยาหอมแล้วนอนพักสักหน่อยนะ ป้าคงจะเครียดมากเกินไป แล้วก็บวกกับการที่อาจจะพักผ่อนน้อยด้วยก็ได้เลยทำให้เกิดอาการแบบนี้ขึ้นมา ต่อไปนี้ป้าคงต้องพกยาหอมติดตัวไว้บ้างนะเผื่อฉุกเฉินขึ้นมาจะได้เทใส่ปากได้เลย มันดีกว่าละลายน้ำน่ะ เพราะมันออกฤทธิ์เร็ว อมไว้สักครู่แล้วค่อยดื่มน้ำตามทีหลัง สามารถแก้ปัญหาฉุกเฉินได้ ไม่ว่าสาเหตุของความดันเลือดต่ำจะเป็นแบบไหนก็ช่วยได้ในเบื้องต้น”
วิกานดาซึ่งเป็นพยาบาลประจำของเกาะมาหยา อายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเกสรอธิบายให้ฟังยาวเหยียดก่อนจะรับเอาแก้วที่ละลายยาหอมให้กับป้าอิ่มคืนจากกาหลง ก่อนจะมองจ้องมาที่เนื้อแพรแล้วหันกลับไปหาเกสรที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้เป็นเชิงถาม ซึ่งเกสรเองก็ได้เอ่ยแนะนำเนื้อแพรให้กับวิกานดาได้รู้จักกันเอาไว้ เผื่อภายภาคหน้าจะได้พึ่งพากันได้
“อ้อ ฉันลืมแนะนำไป เนื้อแพร...รู้จักกับคุณวิกานดาซะสิ เธอเป็นพยาบาลที่มาประจำที่เกาะของเราน่ะ”
เนื้อแพรยกมือไหว้วิกานดาในทันทีหลังจากที่เกสรแนะนำให้หญิงสาวได้รู้จัก ก่อนจะเอ่ยแนะนำตัวเองพร้อมกับฝากเนื้อฝากตัวกับวิกานดาอีกครั้ง
“เนื้อแพรค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”
“แหม...ปากหวานจัง รู้จักพูดด้วยนะคะเนี่ยคุณเกสร”
วิกานดาพูดยิ้มๆ ก่อนพูดต่อ “สวยเสียด้วยสิ หวังว่าจะไม่เกิดปัญหาตามมาหรอกนะคะ”
และเพราะประโยคหลังของวิกานดาที่เอ่ยออกมาให้กับทุกคนได้ยินนั้นมันช่างจี้ใจดำของนางอิ่มเป็นที่สุด เหตุเพราะที่นางเป็นลมก็เพราะทะเลาะกับอุ่นเรือนที่ไม่พอใจในตัวหญิงสาวที่เพิ่งมาอยู่ใหม่บนเกาะมาหยาแห่งนี้ และเพราะอยู่ๆ ทุกคนก็เงียบขึ้นมาเฉยๆ วิกานดาจึงรู้ได้ทันทีว่าสิ่งที่ตนพูดออกไปนั้นได้เกิดขึ้นแล้ว
“นี่อย่าบอกนะคะว่าที่ป้าอิ่มเป็นลมมาน่ะต้นเหตุมาจากคุณเนื้อแพร”
“อุ๊ย! ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณเนื้อแพรหรอกค่ะคุณวิกานดา”
ป้าอิ่มรีบร้องบอกกลัวว่าหญิงสาวจะถูกเข้าใจผิด ก่อนที่กาหลงจะเป็นผู้อธิบายไขความกระจ่างเพิ่มขึ้น
“ถูกค่ะอย่างที่ป้าอิ่มบอกนั่นแหละ คุณเนื้อแพรไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ รู้ๆ กันอยู่ว่าผู้หญิงที่อยู่บนเกาะมาหยานี่น่ะถ้าหน้าตาสะสวยกว่านังอุ่นเรือนมันละก็มันกัดไม่เลือกหรอกค่ะ ป้าอิ่มแกบอกสอนมัน แต่มันตวาดใส่แกเสียงดังลั่นก่อนจะกระทืบเท้าหนีไป แล้วป้าแกก็เลยเป็นลม พวกเราก็ช่วยกันพามาที่ห้องพยาบาลนี่แหละค่ะ พูดแล้วก็คันปากอยากจะด่านังอุ่นเรือนมันซะจริงๆ”
กาหลงไม่พูดเปล่า แต่ยังยกมือขึ้นเกาไปมาที่ปากอย่างต้องการย้ำในสิ่งที่ตนพูดไปจริงๆ โดยมีเกสรนั่งมองส่ายหน้าไปมา
“พอๆ ได้แล้วกาหลง จะพูดมากไปทำไมกัน เห็นใจป้าอิ่มแกหน่อยสิ ที่พูดว่าอยู่นั่นน่ะลูกสาวป้าแกนะ ไม่ใช่ใครที่ไหน”
“ก็มันจริงนี่คะคุณเกสร”
กาหลงไม่วายเถียง แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมากไปกว่านี้เพราะเกรงใจเกสร
“ยังไงก็ฝากดูป้าอิ่มด้วยนะคะคุณวิกานดา ฉันคงต้องกลับไปทำงานแล้วล่ะเลยเวลามามากแล้ว”
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ คนกันเองแท้ๆ เดี๋ยววิจะดูแลเองค่ะ”
“ไปเนื้อแพร เราไปทำงานกันต่อดีกว่า”
“ค่ะ... คุณเกสร แพรไปทำงานก่อนนะคะป้าอิ่ม พักผ่อนเยอะๆ นะคะ”
พูดจบก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินค้อมกายผ่านหน้าวิกานดาไปอย่างรู้จักสัมมาคารวะ ซึ่งกิริยาทุกอย่างของเนื้อแพรที่แสดงออกมานั้นอยู่ในสายตาของเกสรตลอดเวลา และรู้สึกดีกับหญิงสาวเป็นอย่างมาก
“คุณเกสรรอกาหลงด้วยค่ะ กาหลงไปด้วย ไปก่อนนะคะคุณวิกานดา ป้าอิ่มฉันไปทำงานก่อนนะ พักผ่อนเยอะๆ นะ”
พูดจบก็รีบวิ่งตามสองสาวต่างวัยออกไปจากห้องในทันที
วิกานดายืนหัวเราะเบาๆ ให้กับกาหลง ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งเก้าอี้ข้างๆ เตียงที่ป้าอิ่มนอนพักอยู่แล้วพูดว่า
“ป้าอิ่มนอนพักสักหน่อยนะ ทำใจให้สบาย ปล่อยวางทุกอย่างไว้ก่อนนะ อย่าเพิ่งไปคิดถึงมัน ตื่นขึ้นมาจะได้มีแรง”
“ค่ะ คุณวิกานดา”ป้าอิ่มตอบกลับมาเสียงแผ่ว
ก่อนจะค่อยๆ หลับตาลงเพื่อนอนพักอย่างที่วิกานดาบอก โดยมีนางพยาบาลประจำห้องนั่งอยู่เป็นเพื่อนนางเท่านั้น
ช่วงเย็นในวันเดียวกัน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!!! เสียงเคาะประตูดังกึกก้องขึ้นตรงหน้าประตู
“อ้าวคุณอัศนีนี่เอง นึกว่าใคร มารับเนื้อแพรหรือคะ ท่าทางจะหวงซะด้วยนะเนี่ย” เกสรเอ่ยทักแกมเย้า
“เป็นยังไงบ้างครับสำหรับวันแรกของเนื้อแพร”
เกสรหันมามองหน้าหญิงสาวเจ้าของเรื่องที่กำลังสนทนากันก่อนบอกกลับไปว่า
“เนื้อแพรเขาเรียนรู้งานได้เร็วค่ะ ขนาดทำงานวันนี้เป็นวันแรกยังช่วยงานดิฉันไปได้มากเชียว เอ้อ คุณอัศนีรู้เรื่องป้าอิ่มเป็นลมแล้วใช่ไหมคะ”
เกสรไม่วายเอ่ยถาม แต่ก็เดาได้ไม่ยากนักว่าเจ้าของเกาะมาหยาต้องได้รับรู้เรื่องนี้แล้วอย่างแน่นอน
“วิชัยเขามาบอกกับฉันแล้ว นี่ก็ว่าจะแวะไปดูป้าอิ่มสักหน่อยแล้วก็จะพาเนื้อแพรไปทานข้าวด้วยกันซะเลย คุณเกสรไปด้วยกันไหมจะได้ทานด้วยกัน ฉันเองยังไม่ได้ทานข้าวกลางวันเลย มัวแต่ทำงานเพลินไปหน่อย”
“ดิฉันไม่เชื่อหรอกค่ะว่าคุณอัศนีน่ะทำงานเพลิน แต่คุณน่ะไม่ยอมลงมาทานหรือสั่งให้เด็กยกไปให้มากกว่า”
เกสรเอ่ยท้วงอย่างรู้ทัน ถ้าลองบอกว่ายังไม่ได้ทานกลางวันแบบนี้ละก็แสดงว่าที่กาสิโนต้องมีปัญหาอะไรขึ้นมาแน่ๆ
“เฮ้อ! เบื่อคนรู้ทันจริงๆ เลยเชียว ฮะฮะฮะฮะ!!! ไม่มีอะไรมากหรอก ก็แค่พวกเหลือบ พวกริ้น มันมาเล่นโกงในถิ่นของเราก็เลยต้องสั่งสอนให้หลาบจำสักหน่อย”
บอกออกไปก็ให้นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเที่ยงที่ทำให้ทั้งเขาและเลอสรร รวมทั้งวิชัยต้องลงมาจัดการกับนักพนันสองคนที่กล้าเข้ามาเล่นโกงในอาณาจักรของเขา ก่อนจะสั่งสอนแล้วให้ออกไปจากเกาะมาหยาโดยให้เรือของที่นี่ไปส่งขึ้นฝั่งยังเขตประเทศไทย