บทที่ 7

1299 คำ
นาราภัทรถึงกับหน้าตึงกับคำสั่งของอีกฝ่าย “ก็ได้ ฉันเข้าไปรอพี่ชายคุณในห้องนี้ก็ได้ ถ้าเขามาถึงแล้ว ช่วยกรุณาบอกด้วยว่าให้มาพบฉันเร็วที่สุด” “ฮึ! หวังว่าดอนริคคาร์โด้คงยอมทำตามคำสั่งของคุณนะนารา” มาคอสเอ่ยพูดลอยๆ จากนั้นก็ปิดประตูกระแทกเสียงดัง เมื่อนาราภัทรเข้าไปในห้องทำงานแล้ว ก็ยิ้มเยาะอยู่ตรงมุมปาก เมื่อคิดถึงคำสั่งของหญิงสาวที่เอ่ยออกมาเมื่อสักครู่ “คิดผิดแล้วนารา ที่ออกคำสั่งกับดอนริคคาร์โด้ ต่อให้โลกแตก พี่ชายของผมก็ไม่มีทางทำตามคำสั่งของคุณอย่างแน่นอน”             เมื่อถูกมาคอสเอามาปล่อยเกาะในห้องทำงานใหญ่ของพี่ชายเขา นาราภัทรก็กวาดสายตามองรอบๆ ห้องทำงานซึ่งห้องนั้นถูกตกแต่งด้วยเครื่องเรือนราคาแพง หนังแท้ และส่วนมากเป็นสีดำสนิท ทำให้หญิงสาวดูเล็กลงถนัดตา             “สมกับที่เราเรียกว่าคฤหาสน์ผีสิงจริงๆ เงียบวังเวงยังกับป่าช้า”             เสียงใสเจื้อยแจ้วกับตัวเอง ขณะนั่งตัวลีบอยู่บนโซฟาสีดำหนังแท้ หญิงสาวไม่กล้าเดินดูรอบๆ ห้องทำงานแห่งนี้ ด้วยเกรงว่าจะซุ่มซ่ามเดินไปชนสิ่งของตกแตก จนไม่มีปัญญาหาเงินมาชดใช้ให้เขาได้              “หวังว่าการเจรจาจะเป็นไปอย่างเรียบร้อย นายริคคาร์โด้คงเข้าใจ และยอมรับฟังเหตุผลที่พี่เพิร์ลขอถอนหมั้นกับเขา” ดวงตากลมโตจ้องมองซองจดหมายที่ปิดผนึกอย่างดี พร้อมกับแหวนหมั้นราคาแพงที่เธอวางอยู่คู่กัน หากเจ้าของแหวนวงนี้คุยได้ไม่ยากและเข้าใจอะไรง่ายๆ เธอก็จะตีตั๋วกลับประเทศไทยทันที แต่สิ่งที่เธอต้องทำในขณะนี้คือรอและรอให้ผู้ชายที่มาคอสเรียกว่า ‘ดอนริคคาร์โด้’ ยอมมาพบเธอสักที  บทที่ 3 ดอนริคคาร์โด้ อัลซาโค้ร์ กลับเข้ามาในคฤหาสน์หรูหรา หลังจากดวงตะวันลาลับขอบฟ้าไปหลายชั่วโมงแล้ว ร่างสูงใหญ่ในสูทสีดำก้าวเท้าช้าๆ ทว่ามั่นคงเต็มไปด้วยอำนาจซึ่งแผ่อยู่รอบตัว พร้อมกับบอร์ดี้การ์ดคนสนิทอีกหนึ่งคนที่เดินตามมาติดๆ เมื่อดวงตาคมกริบไม่ต่างจากดวงตาพญาอินทรี จ้องมองไปยังเคาน์เตอร์บาร์ภายในคฤหาสน์ เห็นน้องชายกำลังนั่งจิบบรั่นดีอย่างสบายอารมณ์ ก็เอ่ยปากทักทายทันที “มาถึงบ้านตั้งแต่เมื่อไรมาคอส” “สายันต์สวัสดิ์ครับ ริคโค้” มาคอสทักทายพี่ชายในยามเย็น ก่อนจะตอบคำถามของอีกฝ่ายที่กำลังก้าวเดินองอาจมาทรุดกายลงนั่งข้างๆ ตัวเขา “กลับมาถึงตอนบ่ายแล้วครับ ว่าแต่พี่เถอะ งานทางนี้เป็นยังไงบ้าง เรียบร้อยดีหรือเปล่า” “อืม...เรียบร้อยทุกอย่าง ดอนริคโค้ทำอะไรไม่มีพลาดอยู่แล้ว” ดอนริคคาร์โด้ให้เครดิตกับตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่างานไหนที่เขาลงมือจัดการด้วยตนเอง โดยไม่ต้องผ่านลูกน้อง ย่อมไม่มีคำว่าผิดพลาด หรือถึงแม้จะให้ลูกน้องเป็นฝ่ายจัดการ ก็ไม่มีคำว่าผิดพลาดเช่นเดียวกัน เพราะเขาไม่เคยรู้จักคำๆ นี้ “หมายความว่าตอนนี้มาเฟียทุกแก๊งในซิซิลี ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลอัลซาโค้ร์” มาคอสถามย้ำเพื่อความมั่นใจ “แน่นอน...มาคอส ทุกแก๊งจะต้องขึ้นกับตระกูลอัลซาโค้ร์ เพียงตระกูลเดียวเท่านั้น” ดอนริคคาร์โด้รับคำเสียงเย็นยะเยือก กระตุกยิ้มเย็นตรงมุมปาก เสริมส่งให้ใบหน้าคมเข้มดูหล่อเหลาและน่าเกรงขามในเวลาเดียวกัน “ข่าวดีแบบนี้ต้องฉลองใช่ไหมครับริคโค้” มาคอสเอ่ยอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะหันไปสั่งบอร์ดี้การ์ดของพี่ชายซึ่งยืนอยู่ไม่ห่าง พร้อมสำหรับการรอรับใช้ดอนริคคาร์โด้และตัวเขาในทุกนาที “โรมัน รินเหล้าให้ดอนด้วย” “ได้ครับคุณมาคอส” โรมัน ผู้ที่เป็นทั้งลูกน้องและบอร์ดี้การ์ดส่วนตัวให้กับริคคาร์โด้ตอบรับคำสั่ง จากนั้นก็รินบรั่นดีให้กับเจ้านายทั้งสอง รวมทั้งตัวเองด้วย “ต่อไปมาเฟียทุกแก๊งจะต้องทำตามคำสั่งของพี่” ริคโค้รับบรั่นดีจากลูกน้องมาถือไว้ ดวงตาคมกริบไหววาบพึงพอใจกับการลงมือจัดการมาเฟียแก๊งต่างๆ ที่อยู่บนเกาะซิซิลี “ดื่มให้กับความสำเร็จของตระกูลอัลซาโค้ร์” มาคอสชูแก้วบรั่นดีขึ้นสูง รอให้ผู้เป็นพี่ชายและโรมันยื่นแก้วมาชนกับแก้วของเขา “ดื่มให้กับตระกูลอัลซาโค้ร์” ดอนริคคาร์โด้เอ่ยด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจ ขณะชนแก้วกับน้องชาย “ดื่มให้ดอนและคุณมาคอส” น้ำเสียงที่โรมันเอ่ยออกมานั้น เต็มไปด้วยความเคารพและยำเกรงที่มีต่อเจ้านายทั้งสองคน ดอนริคคาร์โด้ดื่มบรั่นดีรอบเดียวหมดแก้ว แล้วหันมาออกคำสั่งกับโรมัน “ฉันเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว อยากนอนแช่น้ำอุ่นสักชั่วโมงสองชั่วโมง แกรีบไปจัดการให้ฉันด้วย” ออกคำสั่งเป็นนัยๆ เพียงเท่านี้ ผู้ที่อยู่รับใช้ดอนริคคาร์โด้มาเป็นสิบๆ ปี ก็รู้ดีว่าเจ้าพ่อหนุ่มต้องการอะไร นอกเหนือจากการนอนแช่น้ำอุ่น “ได้ครับดอน ผมจะจัดการหาสาวๆ ที่สะอาดเอี่ยมอ่องมาให้ดอนครับ” โรมันเอ่ยบอกไปแล้ว ก็ทำท่าจะผละไปทำตามคำสั่งของเจ้านาย แต่ถูกมาคอสเรียกไว้เสียก่อน “เดี๋ยวโรมัน อย่าเพิ่งไปหาสาวๆ ให้ดอน” “ทำไม?” ดอนริคคาร์โด้เป็นฝ่ายถามน้องชายสั้นๆ ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความแปลกใจกับคำตอบที่ได้รับจากมาคอสจอมขี้เล่น “เพราะผมคิดว่าดอนไม่น่าจะมีเวลาว่างไปนอนแช่น้ำอุ่นนะสิ” ยิ่งฟังก็ยิ่งงุนงง อีกทั้งเริ่มรำคาญที่น้องชายเล่นลิ้น ไม่ยอมพูดให้กระจ่างสักที ดอนริคคาร์โด้จึงถามมาคอสเสียงเข้ม             “เลิกเล่นได้แล้วเจ้ามาคอส มีเรื่องอะไรก็รีบๆ พูดมา พี่จะได้ไปพักผ่อน”             “ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แค่มีสาวสวยหน้าตาคมเข้ม ตาดุยิ่งกว่านางเสือ มานั่งรอพี่อยู่ในห้องทำงานก็เท่านั้นเอง”             มาคอสตอบเสียงกลั้วหัวเราะอย่างเห็นเป็นเรื่องสนุก หากแต่เจ้าพ่อหนุ่มไม่นึกสนุกด้วย ใบหน้าคมเข้มบึ้งตึงขึ้นมาในทันที เพราะคิดว่าลูกน้องซึ่งทำหน้าที่เฝ้าอยู่หน้าคฤหาสน์ ยอมละเมิดคำสั่งของเขา ปล่อยให้บรรดาพวกผู้หญิงที่คอยตามตื้อและหิวเงินเข้ามารออยู่ถึงในห้องทำงาน             “ดูเหมือนพวก รปภ. จะลืมคำสั่งของพี่ไปแล้ว ว่าห้ามไม่ให้ผู้หญิงคนไหนเข้ามาในคฤหาสน์อัลซาโค้ร์ หากไม่ได้รับอนุญาตจากพี่ก่อน” ดอนริคคาร์โด้เค้นเสียงเย็นยะเยือก ดวงตาวาวโรจน์เพราะความโกรธจัดที่ถูกกวนให้ขุ่นขึ้นมาในยามนี้             เมื่อเจ้าพ่อหนุ่มเค้นเสียงพูดเช่นนั้น โรมันก็พร้อมจะทำตามคำสั่งในทันทีเช่นเดียวกัน “ผมจะจัดการพวก รปภ.เองครับดอน”             “เฮ้ยๆ โรมัน ไม่ต้องไปจัดการใครทั้งนั้น” มาคอสร้องห้ามเสียงหลงก่อนที่โรมันจะเดินออกไปจากห้องโถง และเมื่อเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามทั้งจากโรมัน และดวงตาคมกริบของดอนริคคาร์โด้ที่จ้องมองเขม็ง บ่งบอกถึงสัญญาณอันตรายที่กำลังคืบคลานมาหาเขา มาคอสจึงรีบเอ่ยบอกผู้เป็นพี่ในทันที             “นิลนาราส่งนกพิราบให้คาบข่าวสำคัญมาบอกพี่” 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม