เพื่อความแน่ใจ และเอาให้สาแก่ใจในสิ่งที่เธอทำ นิโคไลจึงจับมือเธอเอาไว้ดังเดิมและค่อยๆ กดต่ำลงไปหมายจะให้เธอจับที่เอวของเขา
“นี่คุณจะทำอะไร” เธอถามทั้งที่ยังไม่ลืมตา แต่มือเรียวถูกบังคับให้เอื้อมต่ำลงทำให้เธอตกใจ
“อยากรู้ก็ลืมตาสิ” เขาก้มหน้ากระซิบแผ่วเบา
“มะ มะ ไม่ ปล่อยมือฉัน” เธอพยายามดึงมือกลับแต่ไม่เป็นผล และเขายิ่งจับมือเธอไว้แน่น
“คุณแอนตัน ปล่อย” เธอกลัวเหลือเกินที่จะต้องสัมผัสกับส่วนนั้น ส่วนที่กำลังนึกถึงอยู่เนี่ย
“ผมจะไม่ปล่อยจนกว่าคุณจะลืมตา” พอพูดจบก็ได้โอกาส เพราะเขายื่นหน้าเข้าไปแนบชิดริมฝีปากกับใบหูของเธอเสียเลย และคิดว่าถ้าหากไม่อยากเสียเปรียบเขา เธอก็ต้องลืมตาขึ้น
“ไม่นะ หยุด ฉันลืมตาแล้วก็ได้” เมื่อความกลัวทำให้เธอกล้า จึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นทีละนิดและทีละข้าง อันดับแรกเบื้องคือแผงอกกว้างเปลือยเปล่าอยู่ใกล้แค่คืบ จากนั้นเธอจึงไล่สายตาลงอย่างเชื่องช้าเพื่อมองที่มือของตนเอง แต่แล้วก็ต้องเบิกดวงตากว้างจะว่าหน้าแตกหรือโมโหก็ไม่รู้ที่ถูกเขาแกล้งแบบนี้
“นี่! คุณไม่ได้แก้ผ้านี่” เธอต่อว่าด้วยความไม่พอใจ
“แล้วใครบอกว่าผมแก้ผ้า คุณน่ะคิดลึกเองต่างหาก ในสมองคิดจะเห็นส่วนนั้นของผมล่ะสิ มันไม่ง่ายขนาดนั้น” สิ้นคำของเขาเธอก็สลัดมือออกกระทั่งหลุด พร้อมกับยกมือขึ้นผลักหน้าอกเขาทันที
“ไปตายซะ” ให้ตายสิเธอด่า ทว่าเขายังไม่ทันได้ตอบโต้เธอก็รีบวิ่งไปหยิบเอากระเป๋าสะพายและเสื้อหนัง แต่เขากลับวิ่งตามและคว้าข้อมือเธอเอาไว้ ก่อนจะกระชากแรงๆ พร้อมกับสวมกอดเธอเอาไว้
“นี่ปล่อย” ไอลดาพยายามขัดขืนแต่ไม่เป็นผลเช่นเคย
“คุณไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น” นิโคไลเริ่มใช้น้ำเสียงดุเข้มกับเธอ
“ฉันจะกลับ คุณไม่มีสิทธิ์มาสั่ง แต่ถามจริงๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
“ทบทวนดูสิว่ามันเกิดอะไรขึ้น ไม่ใช่เพราะผมหรอกเหรอคุณถึงได้รอดจากเงื้อมมือไอ้ผู้ชายอีกคนมาได้”
“นี่ฉันต้องขอบคุณคุณใช่ไหม”
“ไม่ใช่แค่ขอบคุณ แต่คุณต้องขอโทษผมเรื่องเมื่อคืนด้วย”
“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด และคุณมันเฮ็งซวย หยาบคาย”
“ผมยังไม่ได้ทำอะไรคุณด้วยซ้ำ แต่คิดดูสิว่าคุณทำอะไรผม”
“ไม่! ฉันไม่คิด คุณสมควรโดนแล้ว คุณมันไร้มารยาท”
“ผมเหรอไร้มารยาท คุณเองก็ทำตัวเหมือนอยากจะได้ผมเสียเต็มประดา”
“ไอ้บ้า!” เธอสาดด่าเขาอีกครั้ง และนั่นยิ่งทำให้เขาโกรธจัดเพียงแต่ยังยิ้มได้เท่านั้นเอง
“คุณด่าผมแบบนี้กี่ครั้งแล้ว หืม ไม่ต้องไปไหนเลยอยู่มันที่นี่แหละ จนกว่าจะพูดเพราะๆ ให้ผมพอใจ”
“อะไรนะ! เมื่อกี๊คุณพูดว่าอะไรนะ!” ไอลดาถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าไม่ได้หูฝาด แต่ก่อนที่จะตอบอีกครั้งเขาก็ปล่อยเธอให้เป็นอิสระ
“ผมพูดว่า อยู่กับผมที่นี่” เขาเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์
“ไอ้บ้า! นี่คุณลักพาตัวฉันเหรอ” เธอไม่ได้ด่าเปล่าๆ หากแต่ชี้นิ้วใส่เขาอีกต่างหาก
“ที่รักคุณเดินขึ้นรถมากับผมนะ ไม่น่าจะเรียกว่าลักพาตัวนะ”
“ต้องการอะไรกันแน่คุณแอนตัน ฉันแค่ป้องกันตัวเอง แต่คุณทำกับฉันขนาดนี้เลยเหรอ จัดการฉันเสร็จคุณก็จะเอาเรื่องนี้ไปบอกยัยคาร่าใช่ไหม” คาร่าอย่างนั้นหรือ คาร่าไหนวะ เขาคิดพลางขมวดคิ้วเข้ม
“คุณพูดถึงใครผมไม่รู้ ที่แน่ๆ คุณไม่มีสิทธิ์ออกจากที่นี่จนกว่าจะทำให้ผมพอใจ โอเคไหม”
“ไม่โอเค” ให้ตายสิ เธอช่างหัวดื้อหัวแข็งและเด็ดเดี่ยวมาก
“คุณไม่มีสิทธิ์กักขังฉัน” พูดจบเธอก็รีบวิ่งออกจากห้องนอน นิโคไลไม่ขวางแต่กลับเดินตามออกไปอย่างช้าๆ พอออกมานอกห้องแล้วคือเวลาสะใจอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเธอเปิดประตูออกไปไม่ได้
ปัง! ปัง! ปัง!
“โอ้ย ให้ตายสิ นี่ฉันมาเจออะไรเนี่ย” ไอลดาบ่นออกมาเป็นภาษาไทยเพื่อเขาจะได้ฟังไม่รู้เรื่อง
“หึๆ เปิดให้ตายก็เปิดไม่ได้หรอก ถ้าผมไม่เป็นคนไปเปิดให้” เขาหัวเราะเยาะพลางยืนกอดอกอย่างสบายใจ เพราะประตูเพนท์เฮ้าส์ของเขาไม่ได้ใช้กุญแจสำหรับเปิดประตู ทั้งจากด้านนอกและด้านใน แต่ใช้คีย์การ์ดและรหัสผ่าน ไอลดาจึงหันขวับกลับไปมองเขาด้วยสายตาโกรธจัด
“เอาความจริง คุณต้องการอะไร” คราวนี้เธอต้องการความจริงจัง ไม่ใช่แค่เล่นๆ เขาจึงเดินเข้าไปใกล้ๆ พร้อมด้วยรอยยิ้มที่บอกได้เลยว่าไว้ใจไม่ได้แม้แต่นิดเดียว
“เมื่อคืนคุณหักหน้าผมแบบให้อภัยไม่ได้ คุณจะไปจากที่นี่ได้ก็ต่อเมื่อขอโทษผมเสียก่อน ตบผมกี่ครั้งก็ทดแทนด้วยจูบของคุณสองเท่า” เธอจะไม่มีวันขอโทษในสิ่งที่ตัวเองไม่ผิด แต่ต่างหากที่ผิด
“ไม่! เสียใจด้วยฉันไม่ผิด คุณต่างหากที่ควรขอโทษฉัน คุณมันไร้ซึ่งความเป็นสุภาพบุรุษ”
“ถ้าคุณว่าคุณไม่ผิด ก็อยู่ที่นี่ ทำให้ผมหายโกรธซะก่อนแล้วค่อยไป เพราะตอนนี้ผมโกรธคุณมาก” พูดจบปุ๊บเขาก็เอี้ยวตัวแล้วเดินไปที่เคาน์เตอร์ครัวแสร้งจัดการเทนมสดให้กับตัวเองไปแบบชิวๆ อาการไม่เหมือนคนโกรธเลย
“เปิดประตูให้ฉันเดี๋ยว” เธอออกคำสั่งเสียงดุเข้ม แต่เขากลับทำเป็นไม่สนใจเสียอย่างนั้น
“พูดเพราะๆ ซิที่รัก” เขากวนประสาทเธอให้ตายสิ พูดจบก็ยกนมสดขึ้นดื่ม
“ได้! ฉันจะแจ้งความ คุณกักขังหน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกายและจิตใจ” พูดจบเธอจึงล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเพื่อจะหยิบเอาโทรศัพท์มือถือออกมาแต่แล้วกลับหาไม่เจอ
“เฮ้ย! โทรศัพท์หายไปไหน” ไอลดาบ่นเป็นภาษาไทยอีกครั้ง
ก่อนจะก้มดูให้ทั่ว เปิดกระเป๋าให้กว้างกว่าเดิม แต่ที่ทำให้ตกใจมากกว่านั้นคือ กระเป๋าเงินก็หายไปได้ และแน่นอนคนที่เธอสงสัยที่คุณคืออีตาฝรั่งคนนี้แหละ
“คุณเอาโทรศัพท์ฉันไปใช่ไหม รวมทั้งกระเป๋าเงินของฉันด้วย”
“คุณฉลาดมาก ใช่มันอยู่กับผม ผมถึงบอกไงทำให้ผมหายโกรธแล้วจะปล่อยกลับ”
“แค่นี้เองเหรอ แล้วทำไมต้องลากฉันมานอนด้วย”
“ผมจะทำมากกว่านอนด้วยซะอีก ถ้าคุณยัง... ร้าย” เมื่อเขาพูดจบเธอได้แต่ยืนกำมือแน่นเพื่อกดกลั้นความโกรธเอาไว้ ขณะที่เขากลับเดินตรงไปยังห้องรับแขกซึ่งมีกระจกใสบานใหญ่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำโปโตแมคได้เป็นอย่างดี จากนั้นนิโคไลก็แสร้งเป็นไม่สนใจต่ออาการเกรี้ยวโกรธของเธอ
“คุณต้องการแค่ให้ฉันขอโทษเท่านั้นเหรอ แล้วทำไมต้องทำให้ฉันเสียหายด้วยการให้ฉัน... อยู่ในห้องนี้ด้วย”
“อยู่กับผมมันเสียหายตรงไหน ผู้หญิงกว่าค่อนเมืองอยากนอนกับผมใจจะขาด ต่อแถวของเข้ามาในเพนท์เฮ้าสผมแทบตาย สาวๆ อิจฉาคุณนะ คุณน่าจะแฮปปี้” คำพูดนี้ช่างสำคัญตัวเองนัก ทะนงตนว่าเป็นหนุ่มในฝันสินะ สำหรับเธอเขาเป็นได้แค่ผู้ชายเพลบอยคนหนึ่งเท่านั้น คิดแล้วจึงเดินเข้าไปใกล้ๆ หวังจะพูดจาเสียดแทงให้เขาได้เจ็บใจ
“นี่ รู้อะไรไหม สำหรับฉันคุณมันก็แค่ผู้ชายที่ชอบปล่อยของสกปรกเรี่ยราดไปเรื่อย” พระเจ้า! เธอด่าเขาหรือเนี่ย และเมื่อได้ยินคำด่าทางอ้อมปุ๊บเขาก็หันกลับมาทันที ขณะที่มือยังถือนมสดอยู่เลย
“คุณหาว่าผมปล่อยของสกปรกเหรอ นั่นลูกๆ ผมเชียวนะ ถ้าไม่สำคัญจริงไม่มีวันได้เป็นเจ้าของหรอก” ไอ้ฝรั่งบ้า แทนที่จะโกรธเธอแต่ดันตอกกลับให้เธอหมั่นไส้แทนเสียได้
“แต่ปากอย่างคุณเนี่ย ระวังผมจะปล่อยของใส่ไม่รู้ด้วย” สิ้นคำของเขาเท่านั้นแหละ แก้วนมสดในมือของเขาเธอคว้ามา แล้วสาดใส่หน้าเขาอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาไม่ได้แสดงอาการเกรี้ยวกราด ทว่ากลับยืนนิ่งแล้วมองเจ้าเธอ ขณะที่บนใบหน้าและลำตัวเต็มไปด้วยนมสดสีขาวขุ่น ดวงตาคมกริบสีฟ้าเข้มจ้องมองเธอคล้ายจะเอาเรื่อง และในชั่ววินาทีเขาก็คว้ามือเธอเอาไว้แล้วกระชากเข้าไปกอดเสียเลย