บทที่ ๒ – ถีบตกน้ำ

1899 คำ
บทที่ ๒ – ถีบตกน้ำ             เสี่ยวอูเป็นอึ้ง เมื่อเห็นจะ จะ ตา ว่าคุณหนูของตน ดื่มโอสถทีเดียวหมดถ้วยเล็ก ซึ่งปกติ คุณหนูไม่ดื่ม นอกจากถูกบังคับ แต่ทว่า นี่มันเหนือความคาดหมายอย่างที่สุด ดวงตาของบ่าวผู้ภักดีมีความตื่นเต้นและยินดีจนน้ำตาซึม           หลังจากดื่มยาเสร็จ เป่ยฉิงจึงคืนถ้วยให้สาวใช้ แล้วชะงักไป เพราะเห็นการตกใจ อ้าปากค้างของเสี่ยวอู เธอจึงหัวเราะชอบใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา           “เสี่ยวอู ข้าดื่มโอสถแล้วนะ เจ้าเอาไปเก็บเถอะ อ้อ ข้าหิวแล้ว ขออาหารจำพวกปลาเยอะ ๆ นะ ข้าอยากฉลาด ๆ” สั่งความเสร็จก็เยื้องย่างออกจากห้องนอน ตรงดิ่งไปยังห้องทานอาหาร ยิ่งทำให้เสี่ยวอู อ้าปากค้างมากยิ่งขึ้น           คุณหนูของนางไม่เคยบอกว่าหิวข้าว ไม่เคยบอกว่าขออาหารเยอะ ๆ อย่างเช่นครั้งนี้ คุณหนูคงจะไม่สบายไปจริง ๆ แต่สำหรับนาง การที่ผู้เป็นนายขอเช่นนี้มันดีมาก ๆ นางนั้นอยากเห็นคุณหนูบ่นอยากทานข้าวมานานแล้ว อยากจะเห็นร่างกายของคุณหนูแข็งแรงอย่างคนอื่นเขาบ้าง สักครั้งก็พอ           “เจ้าค่ะคุณหนู”     ที่เรือนกลาง ของฮูหยินใหญ่           “มันยังไม่ตื่นหรอกหรือ ไม่ใช่ว่า มันตายไปแล้วนะ” น้ำเสียงดูเป็นกังวล ทำให้ผู้เป็นบุตรีชะงัก ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา           “ท่านแม่ ท่านอย่าได้เอ่ยออกไป เผื่อมีใครมาได้ยิน ข้าจะแย่” เป่ยอ้ายเอ่ยออกมา ผู้เป็นมารดาจึงนิ่ง ทั้งที่หัวใจเต้นโครมคราม แม้นางจะสั่งสอนแก้วตาดวงใจของตน ให้เกลียดและรุมกลั่นแกล้งเป่ยฉิงมาก็ตาม แต่ไม่ได้ให้ผลักตกน้ำเช่นนี้           หากท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายรู้เข้า นางไม่อยากคิดเลย ว่าจะเกิดอันใดขึ้นมา นั่นเป็นบุตรีคนโปรดของท่าน คิดแล้วฮูหยินใหญ่ก็มีดวงตาวาววับ ด้วยความเกลียดชัง เป่ยฉิงและอนุเจียหลิง หากไม่มีมัน นางและลูก ก็คงไม่ต้องเป็นเช่นนี้           “อ้ายเอ๋อร์ นี่เจ้าทำเกินไปหรือไม่ หากท่านพ่อรู้ รับรองถูกโบย” เป่ยฮ่วน ซึ่งเป็นพี่ชายพูดอย่างหัวเสีย แล้วเดินออกจากห้องใหญ่ กลับเข้าห้องของตน ทิ้งให้เป่ยอ้ายมองตามตาโต           ร่างกายสั่นเทิ้ม เพราะความโมโหคนเป็นพี่ ที่ดูเหมือนจะเข้าข้างน้องชั่วนั่น เนื่องจากเรื่องเมื่อคืน ตนก็อยู่ตรงนั้น แต่กลับไม่ห้ามปราม พอถึงเวลานี้ กลับมาต่อว่าตน แล้วผู้ใดจะพอใจกันเล่า           “อร๊าย ท่านแม่ ท่านเห็นหรือไม่ ว่าต้าเกอเข้าข้างมัน คงอยากเอามันมาอุ่นเตียงมากสินะ เห็นทีจะผิดหวัง เพราะว่ามันคงไม่ยอมง่าย ๆ” เป่ยอ้ายเอ่ยออกมา เพราะรู้ใจของพี่ชายเป็นอย่างดี ทำให้มารดาตาโต จึงตีเพียะ เข้าที่แขนเรียวของบุตรีเพียงคนเดียว           “อ้ายเอ๋อร์ เจ้าเอ่ยอันใดออกมา หากว่ามีบ่าวหรือพ่อบ้านมาได้ยิน เจ้าจะเป็นอย่างไร และต้าเกอของเจ้า จะรอดหรือไม่” ผู้เป็นมารดาหวาดเสียวยิ่งนัก           “ท่านแม่…ฮึ่ย” เดินสะบัดก้นออกจากห้องไปอย่างโมโห ทิ้งให้ต๋าฮูหยิน ต้องมองตามหลังอย่างเป็นกังวล   ที่เรือนเล็ก           “…..” อูฟางยี่ มองดูผู้เป็นนายสวาปามอาหารอย่างไม่กระพริบตา ตั้งแต่เกิดมานางยังไม่เคยเห็นสักที ว่าคุณหนูเล็กของจวน จะทานอาหารได้มากเช่นนี้มาก่อน           แต่ก่อนตักให้แค่ทัพพีเดียว ยังทานไม่หมด แต่ว่า …ครั้งนี้ ตักข้าวสามจานแล้วก็ดูเหมือนจะยังไม่อิ่ม ส่วนปลานึ่งซีอิ๊ว ปลาทอดเกลือ ปลาผัดฉ่า กำลังจะหมดลง แล้วจะไม่ให้ตนตื่นตาตื่นใจได้อย่างไร           “…..” อูฟางยี่ยืนอ้ำอึ้ง สมองคิดการณ์ใดไม่ออกแม้แต่น้อย ได้แต่จ้องมองผู้เป็นนายเขม็ง           “…..” เจียวลู่ เห็นว่าคนสนิทมองเธอตาไม่กระพริบ จึงชะงักเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มหวานออกมาให้คนมองตาพร่ามัวไปชั่วขณะ           “เจ้าตกใจหรือเสี่ยวอู อย่าตกใจไปเลย แต่นี้ต่อไป ข้าจะทานเยอะ ๆ อย่างที่เจ้าเคยขอข้า ข้าอยากแข็งแรง จะได้สู้กับคนอื่น ๆ ได้ เจ้าเคยบอกข้านี่นา” บอกแล้วก็ทานต่ออย่างเอร็ดอร่อย           “จะ เจ้าค่ะ ข้าดีใจนัก ที่เห็นเช่นนี้ ฮือ” อูฟางยี่น้ำตาซึม หัวใจมีแต่ความปลาบปลื้มยินดี นางจึงมองดูคุณหนูเล็กทานอาหารอย่างมีความสุข                     เจียวลู่เห็นสายตาของคนสนิทก็ยิ้มชอบใจ การเป็นตำรวจในโลกโน้น ใช่ว่าเธอจะได้กินดีอยู่ดีนะ บางวันต้องออกนอกพื้นที่ ไปปราบจลาจล หรืองานที่นายสั่ง ต้องรีบกินรีบไป ไม่มีเวลามานั่งละเลียดรสชาติอาหารแบบนี้หรอก           ยิ่งวันที่เธอจับได้คาหนังคาเขา ว่าสามีตัวดีมีเมียน้อย ในวันที่เธอเข้าเวร เขากลับพาผู้หญิงคนนั้นมามีอะไรกันในห้องนอน แล้วแบบนี้ ใครจะไปยอมกัน           ตายเป็นตาย เมื่อหยามกันขนาดนี้ ก็อย่าอยู่เลย เลยเปรี้ยงเข้าให้ คนละนัด สรุปเลยตายหมู่           จะว่าไปเธอนั้นหิวโซก็พูดได้ไม่เต็มปากนัก แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้ ขอเธอกินก่อนก็แล้วกัน ค่อยวางแผนเตรียมรับมือกับบรรดาลูก ๆ ของท่านเสนาบดี ซึ่งเธอมั่นใจ ว่า พวกนั้นจะต้องมาระรานเธออย่างแน่นอน           หลังจากอิ่มหนำสำราญ เป่ยฉิงก็ย้ายตัวเองมาศาลาเล็กริมน้ำ มองนกชมไม้ไปเรื่อย ไม่นานเป่ยอ้ายก็มาถึงตามที่อดีตนายตำรวจหญิงคาดคะเน ตึ่ก ตึ่ก           “เจ้ามีความสุขดีนะ การที่ตกน้ำเมื่อคืน มันทำให้เจ้ามองนก ชมดอกเหลียนฮวาเช่นได้” คำกล่าวแรกที่พี่สาวคนโตเอ่ยขึ้น มันช่างน่าประทับใจมาก ๆ จนเป่ยฉิงยิ้มหวานหยดไปให้           “ขอบคุณต้าจื่อที่เอ็นดูข้านะเจ้าคะ ข้าสบายแล้วเจ้าค่ะ อ้อ ขอบคุณเอ้อร์จื่อด้วยนะเจ้าคะที่มาเยี่ยมข้า ถ้าจะให้ดี ต้าเกอควรมาด้วยจะได้ครบทุกคน” ส่งยิ้มละไม พลางจิบน้ำชาอย่างสบายอารมณ์ แต่คนมองทั้งสองกลับขุ่นมัว           “เจ้าเยาะเย้ยข้าหรือ ฉิงเอ๋อร์ เจ้าคิดว่า เจ้าเก่งนักหรืออย่างไร ถึงมาทำเสียงเช่นนี้กับข้า ข้าเป็นต้าจื่อของเจ้า เจ้าควรเคารพข้า ไม่ใช่มาใช้กิริยามารยาทเช่นนี้ ใครเขาจะหาว่า เจ้า ไม่มีมารดาคอยสั่งสอน” เป่ยอ้ายเล่นแรงเหมือนทุกครั้ง แต่ทว่า นี่ไม่ใช่ เป่ยฉิงคนเดิม ที่จะหงอยอมให้คนอื่นรังแก ในเมื่อร้ายมา เธอก็จะร้ายกลับให้ดู           เป่ยฉิงจิบชาอย่างมีความสุข พลางเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มหวานอีกรอบ           “อื้ม ใช่เจ้าค่ะ ข้าไม่มีมารดาคอยสั่งสอน เพราะว่ามารดาของข้านั้น ถูกคนชั่ววางยาพิษ จนสิ้นไปแล้ว ต้าจื่อและเอ้อร์จื่อเองก็รู้นี่เจ้าคะ ว่าข้านั้น ต้องเป็นเด็กกำพร้ามาตั้งแต่เกิดมาได้ไม่กี่วัน ท่านรู้หรือไม่ ว่า ผู้ใดวางยามารดาข้า ข้าถึงไม่มีมารดาคอยสั่งสอน เอ๊ะหรือว่า ที่ท่านไม่มีกิริยามารยาทเช่นนี้ ไม่ดูว่านี่มันเรือนของผู้ใด ก็ยังก้าวล่วงเข้ามา เพื่อมาเยาะเย้ยถากถางผู้เป็นเจ้าของได้ เขาเรียกว่าอะไร หรือเพราะมารดาของท่านไม่สั่งสอนกันนะ” จบคำพูด เป่ยฉิงก็ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว           “นะ นี่เจ้า” เป่ยอ้ายและเป่ยเหรินตาโต หัวใจเต้นแรง พร้อมทั้งมีใบหน้าที่แดงก่ำ ไม่คิดว่า คนที่พวกนางกลั่นแกล้งและผลักตกน้ำตกท่ามาเมื่อคืน จะมีฤทธิ์เดชมากถึงเพียงนี้           “เจ้ากล้าว่าพวกข้าหรือ ฉิงเอ๋อร์ เจ้ากล้ามาก เจ้าอยากตกน้ำเช่นเมื่อคืนสินะ หากตกคราวนี้ เจ้าคงไปเกิดใหม่อย่างแน่นอน” เป่ยเหรินหน้าบึ้งตาวาว ถลาเข้ามาอย่างรวดเร็ว จนอูฟางยี่ตกใจ ร้องลั่น เพราะกลัวว่า คุณหนูของนางจะถูกผลักลงน้ำอีกรอบ           “อย่านะเจ้าคะ คุณหนูรอง”           “คุณหนูเจ้าคะ หลบไปค่ะ” ตูมมม           “…..” อูฟางยี่           “…..” เป่ยอ้าย           “…กรี๊ดดด” เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของเป่ยฉิง แต่ทว่า เป็นของเป่ยเหริน เนื่องจากนางพุ่งตัวมาเต็มแรง พร้อมที่จะขยุ้มเส้นผมของเป่ยฉิง และให้เป่ยอ้าย ผลักตกลงน้ำอีกรอบ           แต่ทว่า นางกลับถูกน้องสาวตัวดีขัดขา จนถลาไปด้านหน้า แล้วน้องชั่วก็ถีบตนตกลงน้ำ           “กรี๊ดดด นะ เจ้า ฉิงเอ๋อร์ ข้าจะฟ้องท่านพ่อ” เป่ยเหรินเอ่ยขึ้นอย่างแค้นแสนสาหัส           “เชิญเลย ข้าไม่กลัวหรอก” จากนั้นก็หันมาหาพี่สาวคนโต พร้อมทั้งเดินเข้าไปหาอย่างช้า ๆ แต่เป่ยอ้ายกลับถอยหลัง           “…ต้าจื่อ อยากโดนเหมือนกันใช่ไหม ข้าจะจัดให้” เมื่อเห็นว่าพี่สาวคนโตถอยหลังไป เจียวลู่จึงเปลี่ยนเป็นเดินเข้าหาอย่างรวดเร็ว แล้วดึงผมสลวยสีดำขลับ กระชากเต็มแรง จากนั้น เจียวลู่ จึงถีบเป่ยฉิงตกน้ำไปอีกคน ตูมมมมม           “…..แค่ก ๆ” เป่ยอ้าย เป่ยเหรินต่างก็อึ้งและไอโขลก ๆ ทั้งคู่ไม่แน่ใจนัก ว่าสิ่งที่เจอนี้ มันเป็นความจริง จึงถลาเข้าหากัน แล้วตบกันกลางน้ำเต็มแรง เพียะ           “โอ๊ยยยย”           “…..” อูฟางยี่อึ้งที่เห็นว่า คุณหนูใหญ่และคุณหนูกลางตกน้ำ แล้วยังตบตีกันอีก แต่ยังฉงนไม่พอ นางจึงหันมามองผู้เป็นนายด้วยความมึนงง           ‘นี่คุณหนูของข้า สู้คนได้ถึงเพียงนี้หรือนี่’ หัวใจของสาวใช้เต้นรัว ๆ ด้วยความชอบใจและหวาดกลัวว่าคุณหนูเล็กจะถูกลงโทษเอาได้           แต่คนกระทำกลับไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ยืนท้าวสะเอวมองดูคนตกน้ำด้วยใบหน้าราบเรียบ พร้อมกับมีแววตาเย็นเฉียบ เมื่อคนที่ทำต่อร่างนี้ เจอเข้าซะบ้าง           “กรี๊ดดดดดด”           “จะ เจ้า ข้าจะฟ้องท่านแม่” เป่ยอ้ายกรีดร้อง บ่าวไพร่ของคุณหนูทั้งสอง ต่างก็อึ้งตะลึง เมื่อเห็นว่า คุณหนูเล็กผู้ไม่มีพิษไม่มีภัยกับผู้ใดมาก่อน กลับฮึดสู้จนคนเป็นนายของพวกตนตกน้ำตกท่า ดูไม่ได้เช่นนี้           “ฟ้องเลย เดี๋ยวข้าฟ้องท่านพ่อด้วย ข้าเองก็อยากจะรู้นัก ว่า ท่านพ่อจะฟังข้าหรือเปล่า กี่ครั้งแล้วที่ถูกพวกท่านทำ กี่ครั้งที่พวกท่านรุมทำร้ายข้า แล้วข้าไม่เคยสู้ หากเหตุการณ์เมื่อคืนไม่เกิด ข้าเองก็คงหงอ ยอมให้พวกท่านทำอยู่เช่นนี้ตลอดไป ข้าเลิกกลัวแล้ว และข้าพร้อมจะสู้จนตายกันไปข้าง พวกท่านแน่จริงใช่ไหม งั้นรีบปีนขึ้นมา แล้วข้าจะได้จัดหนัก ๆ ให้พวกท่านอีกครั้ง คราวนี้ ข้าไม่ยอมให้พวกท่านรังแกข้าอีกต่อไปแล้ว” แววตาร้ายลึก เมื่อภาพถูกทำร้ายสารพัดวิธีได้ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด เธอยิ่งรับรู้ความเจ็บปวดนั้นมากขึ้น           “ร้ายกับข้ามาเยอะ ข้าขอเอาคืนก็แล้วกัน”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม