นอกจากจะถูกบังคับให้เข้ามาในสถานที่อโคจรแบบนี้ด้วย หล่อนก็ยังโชคไม่ดีมาเจอกับอิศรา แถมเขายังมองด้วยสายตาแปลกใจระคนดูแคลนอีกต่างหาก
เขาไม่ชอบขี้หน้าหล่อน มองหล่อนไม่ต่างจากเศษขยะ แต่สายตาคมกริบของเขากลับมีผลต่อกายสาวเหลือเกิน
อุ่นซ่านไปทั้งตัว...
“สะ... หวัดดีค่ะคุณเล็ก”
“เข้ามาทำอะไรล่ะ มาหาจับเศรษฐีในนี้?”
เมื่ออิศราจ้องแต่จะหาเรื่อง บัวชมพูจึงตัดสินใจที่จะหนีหน้า
“ขอตัวนะคะ”
“เดี๋ยวสิ”
มือใหญ่คว้าหมับเข้าที่แขนเรียว ก่อนที่ร่างของหล่อนจะถูกดึงเข้ามาหาใกล้
หล่อนหน้าตาตื่นตกใจ พยายามดิ้นรน แต่ยิ่งดิ้นก็เหมือนจะยิ่งเข้าใกล้อิศรามากขึ้นเรื่อยๆ
“ปล่อยชมพูค่ะ”
อิศราไม่ปล่อย แถมยังโน้มหน้าต่ำลงมาใกล้มากเหลือเกิน
กลิ่นลมหายใจร้อนๆ ผสมกับกลิ่นของแอลกอฮอล์เป่าลดลงมาบนใบหน้าของหล่อน
“พี่ใหญ่รู้หรือเปล่าว่าเธอมีอีกตัวตนหนึ่งที่ซ่อนเอาไว้”
หล่อนพยายามบิดแขนออก และไม่คิดจะโต้ตอบกับคนที่จงใจหาเรื่อง
“ปล่อยค่ะ อ๊ะ...”
ใครบางคนเดินเข้ามาชนหล่อนจากทางด้านหลัง ทำให้ร่างของหล่อนเสียหลักแนบชิดกับเรือนกายทรงพลังของอิศราเข้าอย่างจัง
หล่อนหน้าแดงก่ำ เนื้อตัวอุ่นซ่าน รู้สึคล้ายกับกำลังจะหายใจไม่ออกเมื่อต้องอยู่แนบชิดกับผู้ชายที่ตัวเองแอบรัก
“หึ... อย่าบอกนะว่าเศรษฐีที่เธอจะจับในคืนนี้ก็คือฉัน...”
“ชมพูไม่รู้ว่าคุณเล็กพูดอะไร ปล่อยค่ะ ชมพูจะกลับแล้ว”
ยิ่งหล่อนดิ้นรน ก็รู้สึกเหมือนกับว่าร่างสาวจะถูกคุกคามด้วยความแข็งแกร่งทรงพลังของอิศรามากขึ้นเรื่อยๆ
หล่อนไม่เคยอยู่ใกล้กับอิศราเกินหนึ่งเมตรมาก่อน แต่ตอนนี้ร่างสาวกลับกำลังแนบชิดอยู่กับเรือนร่างของอิศรา และเขาก็เพิ่งจะยกมือใหญ่ขึ้นวางบนเนินสะโพกของหล่อน
“เงินเดือนที่ได้จากพี่ใหญ่ไม่พอล่ะสิ อยากได้เท่าไหร่ล่ะ ถ้าฉันสู้ไหวก็จะยอมจ่าย"
หล่อนหน้าแดงก่ำ รู้สึกอับอายไม่ต่างจากถูกลากไปตบกลางสี่แยกไฟแดง
“ชมพูจะกลับค่ะ”
น้ำตาซึมไหลขอบตา ความอับอายพลุ่งพล่านอัดแน่นจนล้นอก
“คุณเล็ก... ได้โปรด ปล่อยชมพูเถอะค่ะ”
เขาไม่ปล่อยเหมือนเดิม แถมยังไล้มือที่วางอยู่เหนือบั้นท้ายไปมา ดวงตาคมกริบจับลึกเข้ามาในดวงตาของหล่อน
“ผ่านมากี่คนแล้ว”
หล่อนช็อกอ้าปากค้างกับคำถามของอิศรา น้ำตาหยดแหมะทันที
“เอาใหม่ ฉันจะถามใหม่... ขายมากี่ครั้งแล้วน่าจะนับง่ายกว่า”
ตอนแรกเขาคิดว่าบัวชมพูอาจจะเป็นคนพิเศษของพี่ชาย แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนความคิดแล้วล่ะ ผู้หญิงคนนี้อาจจะขายตัวให้พี่ชายของเขาเป็นครั้งเป็นคราวก็ได้
“คุณเล็ก... ปล่อยชมพูเถอะค่ะ ชมพูจะกลับแล้ว... ฮือออ... อึก...”
ในที่สุดก็สะอื้นออกมา ด้วยความเสียใจกับวาจาดูถูกของอิศรา
“น้ำตาเรียกคะแนนสงสาร หรือว่า น้ำตาเพื่อเพิ่มมูลค่ากันนะบัวชมพู”
หล่อนยืนนิ่ง หน้าซีดเผือด มองผู้ชายเจ้าของวาจาดูแคลนด้วยความผิดหวังเสียใจ
“ชมพูคงเลวมากใช่ไหมคะในสายตาของคุณเล็ก”
เขาส่ายหน้าไปมา และอมยิ้ม กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่โชยฟุ้งมาจากเนื้อสาวทำให้กายหนุ่มปั่นป่วนไม่น้อยเลยทีเดียว
“โสเภณีไม่ใช่คนเลว”
“ชมพูไม่ใช่โสเภณี”
หล่อนโต้แย้งออกไปอย่างเจ็บปวด น้ำเสียงเบาหวิว มองเขาอย่างจัดพ้อ
“แต่ถ้าคุณเล็กจะมองชมพูว่าเป็นแบบนั้น ก็ตามแต่ใจค่ะ”
ความน้อยใจทำให้หล่อนดิ้นแรงขึ้น และก็หลุดจากพันธนาการของเขา
เท้าเล็กย่ำถี่ๆ เพื่อพาตัวเองออกไปจากสถานบันเทิงหรูหราให้เร็วที่สุด
น้ำตาไหลรินอาบแก้มลงมาเป็นสาย ตลอดเวลา หัวใจเจ็บปวดทรมาน
อิศราดูถูกหล่อนอย่างร้ายกาจ ในสายตาของเขาแล้ว หล่อนคงเป็นผู้หญิงที่น่าขยะแขยงมากเลยสินะ
หญิงสาววิ่งออกไปยังลานจอดรถ ที่มีผู้หญิงร่างท้วมคนหนึ่งยืนรออยู่
“อ้าว ทำไมรีบออกมาล่ะน้องชมพู หรือว่าไม่เจอเสี่ยวิชัย”
บัวชมพูส่ายหน้าไปมา น้ำตาที่เพิ่งเช็ดแห้งไปตอนนี้ไหลรินออกมาอีกครั้งอย่างสุดกลั้น
“ชมพูอยากกลับบ้านค่ะพี่นิด”
“แล้วไม่อยากได้เงินเหรอ ไหนว่ากำลังเดือดร้อนเรื่องเงินไงล่ะ”
“ชมพู... จะไปหางานเสริมอื่นทำค่ะ”
หล่อนยกมือขึ้นป้ายน้ำตาทิ้ง สายตาดูแคลนของอิศรายังคงตราตรึงอยู่ในหัว
“โอ๊ย สมัยนี้นะ ไม่มีงานอะไรเงินดีเท่านี้หรอก เชื่อพี่ เข้าไปหาเสี่ยวิชัยเถอะ แค่นั่งดื่ม นั่งกินด้วย คืนหนึ่งได้เป็นหมื่น”
“ชมพูขอโทษด้วยค่ะพี่นิด” หล่อนยกมือขึ้นไหว้หญิงสาวตรงหน้า
“ก็ได้ๆ แต่ถ้าโลเลแบบนี้ ครั้งหน้าอย่ามาของานพี่ทำอีกก็แล้วกัน”
หล่อนรู้ดีว่าคู่สนทนาโกรธ ซึ่งความผิดมันก็เป็นของหล่อนคนเดียว
“ชมพูขอโทษอีกครั้งค่ะพี่นิด... ชมพู...”
“ไม่ต้องมาคร่ำครวญแล้ว กลับๆ ไปเลย นี่พี่ต้องเสียเวลาโทรตามเด็กคนอื่นอีกเนี่ย ไม่รู้จะมีใครว่างมารับงานหรือเปล่า”
บัวชมพูเดินคอตกจากมาทั้งน้ำตา รู้สึกผิด รู้สึกทรมาน และรู้สึกสับสนเหลือเกิน
หากค่ำคืนนี้หล่อนไม่โชคร้ายเจออิศราที่นี่ ทุกอย่างก็คงไม่เป็นแบบนี้
สายตาดูถูกของเขา ทำให้หล่อนไม่อาจอดทนอยู่ภายในไนต์คลับนั้นได้อีก
อิศรามีอิทธิพลกับหล่อนเหลือเกิน...