"วิชาเที่ยวกลางคืนหนึ่งศูนย์หนึ่ง เวลาไปเข้าห้องน้ำแล้วห้ามกลับมากินแก้วเดิมที่ไม่รู้ว่าใครเติมอะไรใส่หรือเปล่า ไม่งั้นได้โดนวางยาพอดี" เขาจัดฉากเพื่อคุยเรื่องนี้กับยายน้องโดยเฉพาะเลยเพราะที่ผ่านมามีคนใกล้ตัวเคยโดนวางยาเลยห่วงแพททริเซียขึ้นมา ถึงจะพอรู้ว่ายายนี่แสบสันแค่ไหนแต่เขาก็ห่วงอยู่ดี "พี่ให้ไบรอันช่วยยื่นดื่มให้เรา เราอาจจะเห็นว่าในนี้มีแต่คนรู้จักก็จริง แต่ถึงเป็นคนใกล้ตัวก็ต้องระวังอยู่ดี เข้าใจไหม"
"อื้อ แล้วตกลงจะให้สั่งดื่มใหม่ปะ" แพททริเซียไม่เถียงเพราะรู้ดีว่าคนตัวโตเป็นห่วง
"แล้วแต่ดิ"
"งั้นเดี๋ยวไปสั่งที่บาร์ใหม่ดีกว่า มีใครจะเอาอะไรอีกไหมแพทจะไปสั่งดื่มที่บาร์" คราวนี้เธอหันไปถามเพื่อน
"พี่ไปด้วย" ณพลเป็นคนตอบหลังจากที่ทุกคนบอกว่ามีเครื่องดื่มเป็นของตัวเองแล้ว
"เออ ตามไปเฝ้าเด็กในสังกัดนายด้วย" ษมาโบกมือให้ณพลกับแพททริเซียเดินไปด้วยกัน ส่วนเขานั้นดื่มต่อแล้วคุยกับไบรอันที่ชวนคุยเรื่องเพื่อนสนิทของเขาอย่างปาลาวันที่แต่งงานไปเป็นคนแรกของกลุ่ม ฝั่งครอบครัวไบรอันเริ่มสนใจเรื่องแต่งงานของทายาทไบรอันเลยเก็บข้อมูลเพื่อไปโต้แย้งเกี่ยวกับเรื่องคลุมถุงชน
พวกเขาคุยกันอย่างออกรสว่าการคลุมถุงชนไม่ดีเท่าแต่งงานกับคนที่หาเองแน่นอน... เลยไม่ได้สนใจท่านประธานและเด็กในสังกัดที่เดินออกไปสั่งเครื่องดื่มด้วยกันเท่าไร...
"ทำไมไอ้แซมพูดเรื่องโดนวางยาขึ้นมา" ณพลถาม
แพททริเซีย
หญิงสาวหันไปมองหน้าเขาแล้วในหัวสมองร้าย ๆ ก็คิดออกว่า ณพลต้องคิดว่าเธอเอามุกมาใช้กับษมาแน่นอน
"ไม่รู้เหมือนกันค่ะ สงสัยเขาห่วงแพทมั้ง แพทยังไม่เคยใช้มุกโดนวางยาเพื่อขอยืมใคร"
"แล้วเงินที่อยากได้อีกล่ะ ได้แล้วเหรอ"
"ยังค่ะ แต่แพทไม่อยากได้เงินบริษัทที่ต้องมาหักค่าแรงตัวเองทีหลังน่ะ แพทกำลังหาวิธีอื่นอยู่" พอตกเบ็ดไว้แล้ว หญิงสาวก็ก้าวเดินลิ่ว ๆ นำไปที่บาร์ นางเอกสาวเงี่ยหูรอฟังว่าคนที่ตามมาจะพูดอะไรไหม แต่เขาก็ได้แต่เงียบจนเธอกระวนกระวายเสียเอง
ปลาฉลาดเกินไป ปลาไม่กินเหยื่อเธอ
"รับอะไรดีครับคุณแพท คุณณพล" บาร์เทนเดอร์รู้จัก
พวกเขาเพราะหุ้นส่วนของสถานบันเทิงแห่งนี้ยังเป็นคนในวงการที่สนิทกับทั้งคู่ พนักงานเลยคุ้นหน้าคุ้นตาเพื่อนของเจ้านายเป็นอย่างดี
"ขอ B52 ค่ะ" เธอสั่งเครื่องดื่มตัวแรงมาดับความโมโหที่
ณพลเมินเฉยกับเธอมากเกินไป
"จินแอนด์โทนิก" ณพลบอกบาร์เทนเดอร์หนุ่มแล้วก้าวมานั่งเก้าอี้ทรงสูงข้าง ๆ แพททริเซียเงียบ ๆ
แพททริเซียหันขวับมามองคนข้างตัวที่ไม่ยอมพูดอะไรจนเธอต้องเป็นฝ่ายพูดเอง
"พี่ไม่คิดจะช่วยแพทเลยหรือไงกัน" ในตอนที่บาร์เทนเดอร์เดินไปมิกซ์เหล้าที่อีกฝั่ง แพททริเซียเอียงหน้ามาถามเขาด้วยสีหน้าเหวี่ยง ๆ
"พี่เสนอแล้ว เราไม่รับข้อเสนอเอง" ณพลให้เงินเธอเยอะได้เท่าที่เธอต้องการโดยไม่ต้องเอาอะไรมาแลก แค่ทำงานต่อไปตามปกติ เขาคิดว่านั่นคือข้อเสนอที่ดีที่สุดที่เขาให้เธอได้แล้ว
"แต่แพทอยากมีงานเพิ่ม ไม่ใช่ทำงานไปแล้วได้ใช้แค่หนี้
ที่ยืมมาแต่สุดท้ายไม่เหลืออะไรเลย แพทอยากหมดหนี้แบบมี
เงินเก็บด้วย พี่เข้าใจไหมคะ" ถึงแม้จะรู้ว่ายิ่งพูดยิ่งเสีย แต่เธอก็อยากจะยืนยันว่าทำไมเธอไม่อยากนอนกับเขาแลกเงินแทนที่จะยืมค่าแรงล่วงหน้าตัวเองมาใช้
"งั้นเราก็ไปหาคนที่ให้เราแบบที่เราต้องการตามสบายเลย
แต่อย่าทำให้มีข่าวจนบริษัทเสียชื่อเสียงก็แล้วกัน"
"แต่แพทกล้าเสนอแค่กับพี่คนเดียว แพทจะกล้าบอกคนอื่นได้ยังไง แค่รวบรวมความกล้าไปเสนอพี่ก็ยากแล้วนะ แพทไม่กล้าขอให้คนอื่นช่วยอีกหรอก"
แพทริเซียยอมลงให้เขาสุด ๆ แล้วนะ
"พี่ไม่บอกแล้วว่าพี่ไม่กินไก่วัด ถ้าอยากได้เงินก็เอาเงินบริษัทแล้วทำงานชดใช้เอง" เขาปรายตามามองเธอเล็กน้อยในตอนที่บอกก่อนจะหันไปสนใจขวดเหล้าที่วางเรียงรายบนบาร์เครื่องดื่มเหมือนมันน่าสนใจกว่าแพททริเซีย
"เครื่องดื่มมาแล้วครับ"
บาร์เทนเดอร์นำเครื่องดื่มที่เสิร์ฟมาในแก้วช็อตเล็ก ๆ และแก้วค็อกเทลแก้วโตมาให้ทั้งคู่ แพททริเซียที่กำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่หยิบแก้วช็อตมายกดื่มแล้วเอ่ยบอก
"ขออีกแก้วค่ะ"
คนรับออร์เดอร์เลิกคิ้วแต่ก็รับคำแล้วเดินไปทำเครื่องดื่มเพิ่ม ส่วนณพลหยิบแก้วเครื่องดื่มแก้วใหญ่ของตัวเองมาจิบอย่างใจเย็น ไม่สนท่าทางดื้อดึงแสนพยศของคนข้างตัว
ดื่มได้ดื่มไป เขาไม่ได้เดือดร้อน เมาหนักก็แค่พาไปส่งกลับบ้าน สำหรับเขาแล้วเธอก็เป็นเหมือนคนร่วมงานไม่ใช่คนที่เขาจะต้องตามใจหรือให้ในสิ่งที่เธอต้องการทุกอย่าง
เห็นท่าทางกระฟัดกระเฟียดแบบนี้แล้วนึกถึงน้องสาวตัวเอง รายนั้นก็ร้ายแบบนี้เลย ผู้หญิงแบบนี้อยู่ด้วยแล้วน่าปวดหัวที่สุด!
ครืดดด
โทรศัพท์ของณพลสั่น เขาหยิบขึ้นมาดูแล้วก็ลอบมองบนเล็กน้อยเมื่อน้องสาวของเขาส่งข้อความมาหาผ่านอินบอกซ์ของอินสตาแกรม...
ตายยากเหลือเกิน!
FangFariyah : พี่ณพล แฟงเห็นพี่เจทแท็กพี่ พี่ออกไปดื่มกันเหรอ
Naphol P. : อือ
เขาไม่ปฏิเสธเพราะเพื่อน ๆ ที่เป็นนักแสดงชอบลงรูปตอนมาเที่ยว ฟารียาฟอลโลว์จิณณะอยู่เลยเห็นในสตอรีว่าเขามาด้วย
FangFariyah : เห็นยายแพทก็ไปด้วย พี่ห้ามจีบนางนะ แฟงไม่อยากได้นางมาเป็นพี่สะใภ้!!!!!!!!!!!!!!!
Naphol P. : ไร้สาระ
ณพลไม่รู้ว่าทำไมน้องสาวเขาถึงไม่ชอบแพททริเซีย แต่เขาก็ไม่สนใจจะถามเพราะไม่คิดจะจีบเด็กในสังกัดอยู่แล้ว
FangFariyah : อย่าบอกนะว่าจีบแล้ว แม่เจ้า!!!!!!!!
เจ้าแม่แห่งการจอมตีโพยตีพายส่งเครื่องหมายตกใจมาเป็นล้านอันได้แล้ว
Naphol P. : ไม่กินไก่วัด
FangFariyah : ค่อยยังชั่ว อ้อ พี่กลับแล้วโทรหาแฟงด้วยนะ มีเรื่องจะให้ช่วยเกี่ยวกับยายขิงน่ะ
Naphol P. : OK
ณพลตอบน้องสาว
แพททริเซียที่ลอบมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของท่านประธานแห่งพลอยมันตรา ตอนแรกเธอเห็นเขาตอบแชตคนอื่นก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะสีหน้าเขาบอกชัดเลยว่าเอือม ๆ คนในแชต แต่ตอนก่อนเก็บมือถือนี่สิ ณพลยิ้มด้วยดวงตาเป็นประกายแบบที่เธอแน่ใจมากเลยว่าเขายิ้มแบบมีความสุขเพราะเรื่องราวก่อนที่จะจบแชต
เธอไม่รู้ว่าคนในแชตเป็นใคร แต่ที่แน่ ๆ คือรู้ว่าคนที่ทำให้เขายิ้มได้ไม่ใช่เธอ
หมดสิ้นกันแล้วสินะกับโอกาสที่เธอจะได้เป็นเด็กเลี้ยงของท่านประธาน
"กลับโต๊ะยัง" คนที่ทำให้แพททริเซียห่อเหี่ยวหันกลับมาถาม
แพททริเซียยกแก้ว B52 ขึ้นสาดเข้าคอแล้วก็หยิบน้ำเปล่าที่มีเลมอนฝานบาง ๆ ในแก้วซึ่งบาร์เทนเดอร์เสิร์ฟแถมมาให้แล้วลุกขึ้นยืนด้วยความมั่นคงของการทรงตัวแตกต่างจากตอนที่เดินมาอย่างสิ้นเชิง
"ไปค่ะบอส"
"นี่มันไม่ใช่เวลางานไม่ต้องเรียกบอส" คนที่เดินอยู่ข้างกันปรายตามามองแล้วเอ่ยบอก...
"งั้นก็กินไก่วัดนอกเวลางานได้น่ะสิ"
"พี่ไม่มีวันกินไก่วัดครับ"
แพททริเซียไหล่ตกทั้งสองข้างเพราะท้อใจ เธอไม่พูดอะไรแล้วเดินกลับไปหาษมาแล้วอ้อนอีกฝ่ายเพื่อขอแรงใจในชีวิต ตอนนี้เธอไม่อยากสนใจณพลแล้ว...
"ได้มาแค่น้ำเปล่าเรอะ" ษมาถาม
"ดื่มไปสองช็อตที่บาร์แล้ว" แพททริเซียบอก
"เจ้านายเราเรียกไปดุหรือเปล่าที่มาเที่ยวกลางคืน" ษมาแอบไปกระซิบถามน้องสาวเพราะเห็นว่าสองคนนี้เดินกลับมาด้วยสีหน้าไม่โอเค โดยเฉพาะแพททริเซียที่ทำท่าเหมือนหมาหงอยอย่างบอกไม่ถูก
"ไม่หรอก แต่เห็นหน้าเขาแล้วก็นึกถึงงานน่ะ แพทเหนื่อยมาก ทำงานเยอะแต่ไม่รวยซ้ากที" ประโยคหลังเธอพูดดังไปหน่อย
ณพลจึงได้ยิน
"ต้องมีเงินกี่บาทถึงจะหายเหนื่อย บอกมา เดี๋ยวพี่ชายคนนี้จะจัดให้" ษมาบอกทีเล่นทีจริงกับเธอแบบที่ไม่ออมเสียงเพราะคิดว่าคงไม่มีใครฟัง
"ใจดีที่สุด" แพททริเซียชนแก้วกับษมา
แน่นอนว่าทุกสิ่งเข้าหูและอยู่ในสายตาของณพล เขายกแก้วจินแอนด์โทนิกขึ้นมาจิบแล้วพยายามเบนสายตาขุ่นมัวของตัวเองไปทางอื่น
เธออยากจะทำอะไรเขาก็ให้ทำ ตราบใดที่ไม่กระทบกับงานเขาก็ไม่ว่า... แต่ถ้าเรื่องที่เธอทำมีปัญหากับการทำงานหรือชื่อเสียงของเธอแล้วละก็
เห็นดีกันแน่...