ไวทินไม่รู้จะทำอะไร เขาเลยลุกขึ้น หยิบผ้าห่มมาสะบัด แล้วตั้งใจจะพับให้เธอใหม่ ความรักความสิเน่หาเมื่อคืนปรากฏร่องรอยอยู่บนเตียง หยดเลือดที่หยดอยู่บนผืนผ้าสีขาวนั้น เขาเลิกคิ้วก่อนจะหันหลังไปมองข้างหลังของหญิงสาว เขาเห็นเธอรีบแต่งเนื้อแต่งตัว เอ้ยถอนหายใจออกมาอีกครั้งหนึ่ง
‘เวรแล้วมึง’ เขาพูดกับตัวเอง ก่อนจะทรุดนั่งลงบนเตียง
เธอใส่เสื้อผ้าเหมือนเตรียมออกไปข้างนอก ด้วยเสื้อผ้าชีฟองสีขาวสะอาดตา กับกางเกงขาสามส่วนสีน้ำตาลที่เธอชอบใส่ ซอมพอเดินเข้ามาหาเขา ก่อนจะยืนนิ่ง ๆ อยู่ตรงหน้า แล้วค่อย ๆ นั่งลงข้างเขาที่บนเตียง
“คุณชื่อ...” เธอเอ่ยถามเหมือนกระดากปาก ตอนนี้ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน เอ่ยถามประโยคที่ไม่น่าถามกับผู้ชายที่เธอขึ้นเตียงไปกับเขาเมื่อคืน
“ไวทิน เรียกผมว่าเอ้ย ก็ได้” เขาบอก หันมามองหน้าเธอแบบเต็มตา ซอมพอถอนหายใจออกมาแทบทันที
“ฉันชื่อ ปุณฑรา เรียกฉันว่าซอมพอนะ” เธอนั่งตัวเกร็ง บอกเขาออกไป
“คือ เอ่อ... ขอโทษที่บอกว่าคุณเป็นแฟน ไม่งั้นพี่สาวฉันได้ตีกบาลฉันแน่ ๆ” ซอมพอพูดด้วยสีหน้าเป็นกังวล ยกมือขึ้นจับกันเอาไว้แน่น
“คือเอาแบบนี้นะ พอเราสองคนออกไป คุณมีหน้าที่พยักหน้า แล้วฉันจะมีหน้าที่เล่าเอง ว่าเราสองคนเจอกันยังไง คุณอยู่ห้องตรงข้ามฉันนี่ใช่ไหม” ไวทินมองหน้าเธอแบบงง ๆ แต่ก็พยักหน้าให้ เขายกมือขึ้นไปฉวยมือเธอขึ้นมาถือ ก่อนจะฉุดเธอให้ลุกขึ้น ก้มหน้าลงไปพูดด้วยใกล้ ๆ
“ผมเล่าเอง ขืนให้คุณเป็นคนเล่า พี่สาวคุณจับติดได้แน่ ๆ ว่าคุณโกหก” เขาพูดขึ้น เพราะเห็นท่าทีของเธอดูลุกลี้ลุกลนดูกังวลไปเสียหมด
เธอมองหน้าเขา รู้แต่ว่าตอนนี้ตัวเธอเองทำอะไรไม่ถูก ก้มหน้ารับชะตากรรม เดินตามหลังเขาไป ปล่อยให้ไวทินกุมมือเธอเอาไว้ แต่มันก็อุ่นใจไม่เหมือนเมื่อกี้ที่รู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนโลกจะถล่มทลาย
พี่สาวนั่งหน้าง้ำงออยู่ข้าง ๆ พี่เขย ตั้วยิ้มให้กับคนทั้งคู่ ไวทินจูงมือเธอไปนั่งลงบนโซฟาที่อยู่ตรงข้าม
“คบกันนานแล้วเหรอ” เสียงตั้วถามขึ้นเสียเอง
“ครับ” ไวทินรับคำ จ้องมองหน้าสองคนอย่างไม่กริ่งเกรง ตอนนี้เขาต้องกู้สถานการณ์ให้แม่สาวคนนี้ก่อน แล้วเรื่องระหว่างเขากับเธอค่อยพูดคุยตกลงกันอีกที เอ้ยบีบมือเธอเบา ๆ ได้ยินเสียงถอนหายใจของซอมพอออกมาอยู่ตลอดเวลา
“เจอกันยังไง ที่ไหน เมื่อไหร่” คำถามออกมาเป็นชุดจากปากของพี่สาว
“ผมอยู่ห้องตรงกันข้าม เราเจอกันในลิฟต์ครับ” คำบอกเล่าของเขาทำให้แม่สาวซอมพอพ่นลมหายใจออกมาอีกครั้ง นั่งตัวตรงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ
“คุณมาจีบน้องสาวฉันก่อนหรือ”
“ครับผมจีบเธอก่อน ผมชื่อไวทินครับ พี่เรียกผมว่า เอ้ย ก็ได้ครับ เป็นคนปราจีนบุรี ทำงานที่อังกอร์มีเดียเซนเตอร์ ฝ่ายออกแบบโฆษณา อายุยี่สิบเจ็ดปี ครับ ตอนนี้เป็นซูเปอร์ไวเซอร์ครับ เงินเดือนห้าหมื่น” เขาเล่าเรื่องของตัวเองออกมาเป็นชุด
“อายุน้อยกว่าไอ้ซอมพอเหรอ” ส้มป่อยพูดต่อ สีหน้าก็ยิ่งแย่ลงเมื่อรู้ว่าเขาอายุน้อยกว่าน้องสาวของเธอ
“ก็แค่สองปี” ซอมพอพูดขึ้นบ้าง รู้สึกว่าพี่สาวเธอซักไซ้มากเรื่อง ก่อนจะลุกขึ้น แล้วดึงมือของไวทินขึ้นด้วย
“จะไปไหนกัน” พี่สาวขึ้นเสียง สามีรีบจับตัวเธอไว้ แล้วบีบที่ไหล่ของเธอเบา ๆ
ไวทินฉุดมือของซอมพอให้นั่งลงเหมือนเดิม
“คือ ตอนนี้เราสองคนกำลังดูใจกันอยู่ หวังว่าพี่สองคนคงไม่ขัดข้องนะครับ” ไวทินออกตัวแทนซอมพอ เธอมองหน้าเขาก่อนจะส่ายหน้าเบา ๆ ไวทินมองตาแบบเข้าใจ ดึงมือเธอเอามาไว้บนตัก
“อย่าเป็นฝ่ายทิ้งน้องสาวฉันก่อนก็แล้วกัน” ส้มป่อยมองหน้าสบตากับไวทินอย่างจริงจัง ตั้วดึงไหล่ภรรยาเอาไว้ ก่อนจะรีบตัดบท
“อ้าว... จะพากันไปไหนก็พากันไปสิ” ตั้วออกปากไล่เหมือนช่วย ซอมพอรีบลุกขึ้น ก่อนจะกระตุกมือของเขาเบา ๆ เขาปล่อยมือเธอ ก่อนจะยกมือไหว้คนทั้งคู่ แล้วเดินตามซอมพอที่ทำหน้าออกอาการเซ็งเดินออกจากห้องไป
“คุณก็...” ส้มป่อยหันไปชักสีหน้าใส่สามี
“คุณก็เหมือนกัน สงสารซอมพอบ้างสิ คนเขารักกัน แล้วยังไง ก็เหมือนพี่กับส้มป่อยไง ที่เราแอบจึก ๆ กันก่อนที่จะแต่งงาน” คำพูดที่เตือนสติของเขาทำให้เธอหันไปมองเขาตากลับ ก่อนจะทุบลงบนหน้าอกของสามีดังปึก
“ถ้าพี่ไม่ปล้ำส้มป่อย ส้มก็ไม่ยอมหรอก” เธอพูดทำทีเป็นเขิน สามีดึงเธอเข้ามากอด
“ไม่ดีเหรอ ไอ้ซอมขายออกแล้ว” เขาบอกเธอ ก้มลงไปหอมที่แก้มภรรยา
“พูดงี้ได้ไงพี่ตั้ว น้องสาวฉันออกจะสวยนะ ดูสิมาได้เด็กกว่า” เธอเถียงออกไป
“พี่ว่าเขาดูสติสตังดีกว่าน้องของคุณอีกง่ะ”
“พี่ตั้ว...” เธอหันไปทุบเขาทั้งตัว พี่ตั้วรวบร่างภรรยาหนีบไว้ด้วยแขนแข็งแรง
“ไหนว่าเหนื่อยเพลีย เราไปพักกันดีกว่า พี่ขอจึก ๆ ทีนะ” เขาช้อนสายตามองภรรยา ก่อนจะรวบเธอขึ้น และดันหลังพาตัวเธอเข้าห้องนอน
“พี่ตั้ว... มันใช่เวลาไหมเนี่ย” เธอหันหน้าไปมองเขาตลอด เห็นสายตาหื่น ๆ ของสามีแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้
“เลิกยุ่งเกี่ยวกับไอ้ซอมได้แล้ว เรามาเจรจาประสาผัวเมียกันดีกว่า พี่แข็งเต็มกางเกงแล้ว รู้ไหม”
“พี่ตั้ว...” เสียงเรียกชื่อสามีเหมือนประท้วง ตามด้วยเสียงปิดประตูดังโครม
พอเข้าไปยืนในลิฟต์ด้วยกัน ซอมพอก็รีบหันหน้าเข้าข้างฝา ไม่กล้ามองหน้าเขา
“คุณจะไปไหน” ไวทินก้มลงมาพูดข้าง ๆ หู เธอทำท่าตกใจ ยกมือขึ้นป้องหน้าเอาไว้ ไวทินเห็นแล้วหัวเราะออกหึ ๆ
“ไปกินกาแฟที่ข้างล่างตึกนะ นั่งรอผม ผมจะไปขอกุญแจสำรองก่อน” เขาบอกเธอ คว้าจับมือเธอเอาไว้แน่น ซอมพอเดินก้าวตามเขาไปติด ๆ
“นั่งรอผมหน้าร้านนี้ เดี๋ยวผมกลับมา” ไวทินดันตัวเธอให้นั่งลงที่โซฟาหน้าร้านกาแฟใต้คอนโด ก่อนจะเดินไปที่ฝ่ายสวัสดิการส่วนกลางเพื่อทำเรื่องขอเบิกกุญแจสำรอง ซอมพอนั่งห่อตัวมองตามข้างหลังเขามากไปด้วยความรู้สึก นึกถึงใบหน้าของพี่สาวกับพี่เขยแล้ว ไม่รู้จะกลับเข้าไปคุยอะไรกับสองคนนั้นดี คงมองหน้าสองคนนั้นไม่ติดไปหลายวัน
‘เป็นไง ห่าม อร่อยนัก ไอ้ค็อกเทลบ้า’ เธอพานนึกไปถึงเครื่องดื่มที่ตัวเองเป็นคนกรอกมันลงไปในคอเองแท้ ๆ
‘ทำไมเมื่อคืนไม่ขัดขืนเขาวะแก นางซอมพอปัญญาอ่อน’ เธอต่อว่าตัวเองอีกครั้ง ตอนนี้เรื่องราวต่างวนเวียนเข้ามาในหัวจนแทบระเบิด กาแฟที่สั่งถูกยกลงมาวางตรงหน้า เธอแกว่งช้อนอยู่ข้างในนั้นจนแก้วแทบทะลุ ก่อนจะยกมันขึ้นมาจรดริมฝีปาก
“สั่งกาแฟให้ผมแล้วหรือยัง” เสียงทักของเอ้ย ทำให้เธอตกใจ ทำกาแฟหกใส่ตัว
“โอ๊ะ... ร้อน ๆ...” เธอรีบพูด ยกมือขึ้นปัดน้ำกาแฟที่หกใส่ตัว เอ้ยหยิบทิชชูบนโต๊ะลงมาเช็ดให้ เธอรีบปัดมือเขาออก ก้มหน้ามองตามเนื้อตัวและเสื้อผ้าที่เปื้อนกาแฟจนเป็นรอย
“ไม่เป็นไร ฉันเช็ดเอง” ไวทินทิ้งตัวลงนั่งใกล้เก้าอี้ตัวเดียวกันกับซอมพอ เธอขยับตัวให้เขานั่งถนัด ๆ เอ้ยหันไปสั่งกาแฟกับเด็กเสิร์ฟที่มายืนรอรับออร์เดอร์
“เอาอเมริกาโน่ครับ” เขาบอกพนักงานออกไป ก่อนจะทิ้งหลังลงไปพิงพนัก หลับตาลง ก่อนถอนหายใจออกมาเสียงค่อนข้างดัง
“คุณไม่น่าพูดแบบนั้นเลย” เธอต่อว่าเขาเสียงอ้อมแอ้ม
“หือ...” เขาลืมตาขึ้น ยกหัวขึ้น ก่อนจะหันไปมองหน้าเธออย่างสงสัย
“อ้าว...” เอ้ยพูดได้แค่นั้น
“ไม่ต้องมาอ้าวเลย” เธอย่นจมูกใส่เขา ตอนนี้ความกังวลเรื่องใหม่เข้ามาแทนที่ พี่สาวเธอเป็นคนยอมคนเสียที่ไหน กัดไม่ปล่อย ยิ่งเขาพูดไปแบบนั้นแล้ว พี่ส้มป่อยจำขึ้นใจแน่ ๆ
“เอาแบบนี้แล้วกัน คุณมาเป็นแฟนหลอก ๆ ให้ฉัน สักสามสี่เดือน แล้วเราค่อยหาเรื่องทะเลาะกัน แล้วฉันจะเป็นฝ่ายทิ้งคุณนะ” เธอสรุปเอาดื้อ ๆ มองหน้าเขา ถอนหายใจไม่หยุด
“ตกลง แต่ถ้าเราจะเป็นแฟนกัน คุณต้องเล่าเรื่องราวของคุณให้ผมฟังก่อนไหม” เอ้ยพูด เหมือนอยากรู้จักผู้หญิงตรงหน้าให้มากขึ้น
“ฉันชื่อ ปุณฑรา...ชื่อเล่นชื่อ ซอมพอ”
“พี่เอ้ย...” สาวน้อยเสียงใส วิ่งเข้ามาหาพร้อมกับร้องเรียกชื่อชายหนุ่มเสียงดัง แล้วโผเข้ากอดเขาทั้งตัว