ไม่อยากจะเชื่อเลย

1544 คำ
        กริ๊ง... เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของเธอดังขึ้น         “โทรศัพท์ฉันเข้ามา คุณเอ้ยลงไปจากตัวฉันก่อนได้ไหม ให้ฉันรับสายก่อน” เอ้ยทำอ้อยอิ่ง มองหน้าเธอยิ้ม เลื่อนตัวลงไปนอนข้าง ๆ คลายอ้อมแขนไว้หลวม ๆ แต่ก็ยังกอดรัดเธอเอาไว้แนบกาย         “ยายซอมพอ ห้องแฟนแกห้องไหน” พี่ส้มป่อยส่งเสียงเข้มมาตามสาย         “พี่” เธอเรียกพี่สาวออกมาทันที         “ห้องนี้หรือเปล่า สี่ศูนย์สี่ใช่ไหม” เสียงพูดของส้มป่อยลอดดังออกมาจนไวทินได้ยิน         “ครับผม” เขาเอ่ยตอบเสียเอง         “เปิดประตูให้พี่ด้วย ขอชมห้องหับหน่อย” ส้มป่อยพูดดังกว่าเดิมจงใจให้ชายหนุ่มได้ยิน         เอ้ยถอนหายใจออกมาดัง ๆ กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม มีมารมาอีกแล้ว         ซอมพอกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่งทันที รีบจัดเสื้อผ้าที่ถูกถอดให้เข้าที่ ยกมือขึ้นลูบผมที่กำลังยุ่งเหยิง         “ขอยืมหวีหน่อยสิ” เธอเอ่ยบอกไวทิน ที่ตอนนี้ลุกไปยืนที่ข้าง ๆ เตียง         “ปัง ปัง ปัง...” เสียงเคาะประตูดังมากจนได้ยินมาถึงในห้อง         “ถ้าผมเป็นแฟนคุณ ต้องรับมือกับพี่สาวจอมจุ้นของคุณด้วยใช่ไหมเนี่ย” ไวทินเอ่ยออกมาแบบเซ็ง ๆ ชี้ให้ซอมพอดูหวีที่วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วทำท่าจะเดินไปเปิดประตูห้อง         “รอฉันก่อนสิ” ซอมพอพูดออกมาเสียงดัง หวีผมอย่างลวก ๆ แล้วเดินตามไวทินออกไปอย่างรวดเร็ว         “พี่...” เธอเอ่ยเรียกพี่สาวทันทีที่เห็นหน้า         “ว่าที่น้องเขย ก็ต้องทำความรู้จักกันหน่อย แล้วทำไมมาเปิดประตูให้ช้าจัง” เธอพูดเหมือนจับผิด ซอมพอหน้าแดง ๆ แต่ไวทินกลับทำสีหน้ายิ้ม ช้อนตามองหญิงสาวที่ยืนอึ้งอยู่ใกล้ ๆ         “พี่ตั้ว...” เธอเอ่ยเรียกพี่เขยที่เดินตามมา แล้วหยุดนิ่งประกบตัวอยู่ที่ข้างหลังของพี่สาว         “บอกแล้ว ว่าอย่ามารบกวนเวลาพักผ่อนของคนอื่นเขา” ตั้วรั้งข้อศอกของภรรยาเอาไว้ เธอจึงหันหน้าไปมองสามีตาเขียวปั๊ด         “กลับบ้านได้แล้วมั้งออกมาตั้งนานแล้ว” พี่สาวทำตัวหวงน้องสาวขึ้นมาเสียเฉย ๆ ตอนนี้ต้องกลับไปชำระความกันก่อนในเรื่องที่ค้างคากันเอาไว้         “ได้ยินเสียงโครมครามปิดประตูเมื่อกี้ ก็เลยออกมาดู ไม่ได้คบซ้อนให้น้องสาวฉันต้องช้ำใจใช่ไหม” พี่ส้มป่อยยังหาเรื่องไวทินไม่เลิก รู้สึกไม่ชอบหน้า และไม่พอใจเขาอย่างมาก ๆ         “พี่ส้มป่อย พี่ตั้วกลับห้องเราเหอะ” ซอมพอรีบดึงมือพี่สาวและพี่เขยให้กลับห้อง หันไปมองหน้าไวทินแวบหนึ่ง ก่อนจะจูงทั้งสองคนออกไปอย่างรวดเร็ว         “ซอมพอวันหยุดของเรานะ ไม่อยู่กับผมก่อนอะ” ไวทินทำน้ำเสียงอ้อน ๆ มองตามสามคนพี่น้องไปตาละห้อย ซอมพอหันหน้ามามองเขาตาค้อนตากลับ แล้วรีบเดินกลับห้อง         “กลับ ๆ กลับกันได้แล้ว” เธอบอกทั้งสองคน         พอเข้าไปถึงในห้อง ซอมพอก็รีบวิ่งแจ้นเข้าห้องตัวเองไป ปิดประตูลงกลอนแน่นหนา ยืนพิงหลังไว้กับประตู ถอนลมหายใจออกมาอย่างแรง         “ไอ้ซอมพอออกมาคุยกันให้รู้เรื่อง” เสียงพี่ส้มป่อยยังโวยวายอยู่ที่หน้าห้อง เธอทำเป็นหูทวนลม เดินไปทิ้งตัวนอนลงบนเตียง         สัมผัสของไวทินยังติดตรึงที่ผิว ความรู้สึกตอนนี้คือร้อนออกตามผิวหน้าผ่าว ๆ         “คนบ้า” เธอต่อว่าเขาออกมา ยกมือขึ้นลูบหน้าที่กำลังแดงก่ำ ด้วยหัวใจที่เต้นเร็ว             ซอมพอล้มตัวลงนอน เอาจริง ๆ ก็ทั้งง่วงทั้งเหนื่อย ตอนนี้หนังตาหนัก ๆ หญิงสาวถอนหายใจออกมาเบา ๆ เสียงพี่ส้มป่อยและเสียงการเคาะประตูเงียบไป พี่สาวคงรู้แล้วแหละว่าเธอคงไม่ยอมเปิดประตูให้แน่ ๆ  และตอนนี้ซอมพอยังหาคำแก้ตัวที่ดีให้กับพี่สาวไม่ได้             ‘ขอโทษนะคะ คุณพ่อคุณแม่ พี่ส้มป่อย มันผิดพลาดไปแล้ว ซอมไม่แก้ตัวนะ แต่ขอพักร่างแป๊บ ตื่นขึ้นมาหนูจะหาทางแก้ไขค่ะ’ เธอบอกกับตัวเอง ตอนนี้ขอหลับเอาแรงก่อน               “ฉันล่ะเชื่อจริง ๆ เรื่องความดื้อด้านดื้อเงียบของไอ้ซอมนี่ แล้วพี่ตั้วว่า ส้มควรจะทำยังไงดีกับเรื่องนี้” ส้มป่อยกระแทกตัวลงข้างสามี มองไปยังจอทีวีที่อยู่ตรงหน้า แต่ปากก็ขยับถามว่าจะจัดการกับน้องสาวตัวดีอย่างไร             “เอาจริง ๆ ไหม” ตั้วดึงหัวไหล่ภรรยาให้หันหน้าเข้ามาหา             “ซอมพออายุเท่าไหร่” เขาถาม             “ยี่สิบเก้าปี”             “เออ... ก็ควรมีหลักมีครอบครัวได้แล้ว จริง ๆ พี่ว่าหากพ่อกับแม่รู้เรื่อง อาจจะดีใจก็ได้”             “เฮอะ ดีใจเรื่องอะไรพี่ตั้ว ที่ไอ้ซอมหาผัวได้น่ะหรือ” เธอรีบทำหน้าย่นแสดงความไม่พอใจ             “ส้มป่อย ต้องปล่อยให้น้องตัดสินใจด้วยตัวเอง และยอมรับความจริง พี่ว่าซอมพอไม่ใช่เด็ก ๆ โตพอที่จะเลือกทางเดินของตัวเองได้แล้ว และพี่อยากจะบอกส้มนะ ห้ามจุ้นจ้าน แล้วจบเรื่องนี้ได้แล้ว ดูอยู่ห่าง ๆ ตกลงไหม”             ส้มป่อยถอนหายใจออกมาเสียงดัง แต่ก็พยักหน้าให้ ลองสามีพูดแล้วเธอยังขัดใจ เขาคงเคืองเอาได้ แต่เธอก็ยังนั่งบ่นกระปอดกระแปดไปเรื่อยเปื่อย สามีหันหน้าไปมองแล้วยิ้ม ๆ         "เดือนนี้เลิกกินยาคุมนะ เราจะได้มีลูกกัน อีกอย่างส้มจะได้ไม่มีเวลาไปยุ่งกับเรื่องของซอมพอมัน"         "ค่ะ" เธอรับปากเอาง่าย ๆ ทั้งที่ก่อนหน้าจะปฏิเสธมาโดยตลอด สามีร้องออกมาดังเฮ้ คว้าร่างของเธอเข้ามากอด เสียงสองคนทำให้ซอมพอที่นอนอยู่ในห้องปรือตาขึ้น กะพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเสียงดัง         "หาผัวได้เมื่อไหร่จะย้ายออกไปอยู่ข้างนอกให้รู้แล้วรู้รอด" นึกถึงตรงนี้ซอมพอถึงกลับหน้าแดง   ภาพใบหน้าของไวทินยังติดตรึงอยู่ในหัวสมองความคิดเดิม ๆ กลับมาวนเวียนซ้ำ ๆ ก่อนจะผวาตัวลุกขึ้นนั่ง         "เขาใช้ถุงยางอนามัยหรือเปล่า ฉันจะท้องไหม ยังไง ๆ ยังไงดีล่ะ" เธอใช้มือควานหาโทรศัพท์ยกใหญ่ ความง่วงหายเป็นปลิดทิ้ง เริ่มหาข้อมูลการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ตั้งใจ มีคอมเมนต์หนึ่งตอบไว้ 'ไปร้านขายยาเลยค่ะ แล้วซื้อยาคุมฉุกเฉินมากิน'         ปฏิกิริยาทางกายว่องไวเท่าความคิด เธอรีบลุกออกจากที่นอน หยิบกระเป๋าเงินและโทรศัพท์ติดตัวไปด้วย เปิดประตูห้องนอนออกไป พี่ส้มป่อยหันขวับมาทันที         "ซอมออกไปเดินเล่นนะ และจะไปหาซื้อของใช้ส่วนตัวด้วย" นางสาวซอมพอรีบบอกพี่สาวกับพี่เขยที่กำลังผละออกจากกัน เงยหน้าขึ้นมามองน้องสาวที่เดินทำสีหน้าตึง ๆ ออกไปจากห้อง             “ดูมันทำ” ส้มป่อยพูดขึ้นอีกครั้ง มองตามร่างน้องสาวที่ออกจากประตูห้องไปอย่างรวดเร็ว             “เออ...น่ะ...” พี่ตั้วพูดขึ้น ก่อนจะพลิกตัวภรรยาให้หันไปสนใจหน้าจอโทรทัศน์เหมือนเดิม               เหมือนพรหมลิขิตหรือสวรรค์แกล้ง พอเธอปิดประตูลง ห้องตรงกันข้ามก็เปิดออกมาทันที เขาเตรียมตัวเหมือนจะออกไปข้างนอก ซอมพอเห็นเขาแล้วแกล้งทำเมิน รีบก้าวเดินฉับ ๆ ตรงไปที่ลิฟต์ ก่อนจะวิ่งหน้าตั้งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เธอใช้นิ้วมือกดกระแทกที่ช่องกลม ๆ เล็ก ๆ นั้นอย่างแรง เหมือนจะให้ลิฟต์มาหยุดที่ตรงชั้นนี้ และเดี๋ยวนี้             “จะไปไหนครับ” เอ้ยเดินเข้ามาประชิดที่ด้านหลัง ก้มหน้าลงมาถามเธอใกล้ ๆ ซอมพอรีบหันมามอง ก่อนจะหลบเขาเป็นพัลวัน             “ไปข้างนอก” เธอพูดก่อนจะเดินออกห่าง เหมือนหวงตัว             เอ้ยส่งยิ้มยียวนให้ก่อนจะเข้าไปยืนรอลิฟต์อยู่ใกล้ ๆ           ผิวปากฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี             พอประตูลิฟต์เปิดออก เธอก็รีบก้าวเข้าไปในทันที เอ้ยตามเข้าไปแบบกระชั้นชิด             ทันใดนั้น ก็มีเสียงหนึ่งทักขึ้น             “อ้าว...หนูซอมพอ เมื่อเช้าไม่เห็นลงไปวิ่ง เป็นวันหยุดแท้ ๆ รู้ไหมคุณหมอจัส มาชะแง้มองหาหนูจนคอแทบเคล็ดละมั้ง” เสียงป้าชิดชมเอ่ยขึ้นทันทีที่เห็นผู้ที่ก้าวเข้ามาในลิฟต์             “เอ่อ... ไม่ค่อยสบายน่ะค่ะ” เธอตอบเลี่ยงไปแบบอื่น นึกไปถึงหน้าคุณหมอศัลยกรรมหนุ่มหล่อที่อยู่คอนโดนี้ แต่พักที่ห้องสูท และชอบไปวิ่งออกกำลังกายด้วยกันในตอนเช้า             “นี่เย็นนี้ เขานัดตีแบตกัน หนูซอมพอจะไปด้วยกันไหม มีปาร์ตี้ส้มตำกันด้วย” พูดจบป้าชิดชมยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะออกมาเบา ๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม