รถยนต์จอดตรงลานกว้างในคอนโด เนตรดาวลงมาแล้วสาวเท้าไปยังลิฟท์ เพราะคุ้นเคยกับที่นี่ดี่พนักงานเลยไม่ได้ให้ความสนใจกับหญิงสาวสักเท่าไหร่ มาถึงชั้นสิบ เธอออกจากลิฟท์แล้วมาหยุดยืนตรงหน้าห้อง ครุ่นคิดตรึกตรองพักใหญ่ ก่อนตามรูมเซอร์วิสด้านล่างให้มาส่งอาหาร ถ้าหากเคาะไป เพื่อนอาจไม่ยอมเปิดรับก็ได้
พนักงานมายืนอยู่แล้วกดกริ่ง รอให้เจ้าของห้องออกมา พักใหญ่ประตูเปิดออก ชายหนุ่มในชุดคลุมคือคนมารอรับ เธอเดินมาเผชิญหน้า ทำเอาดนัยภพหน้าซีดเผือดขึ้นมาทันที
“ใครมาเหรอภพ” เสียงด้านในตะโกนถาม
ดนัยภพนิ่งเงียบ ไม่อาจขยับไปไหนราวกับถูกสาป จนเจ้าของห้องต้องออกมา อรนิสาตะลึงงัน ร่างกายชาวาบ เหมือนตนเองกำลังเจอกับบางอย่างที่อันตรายอย่างยิ่งยวด ริมฝีปากสั่นระริก มือชื่อเหงื่อ ใบหน้าเริ่มไม่มีเลือดฝาด ดวงตากลมโตหรี่ลงจ้องมองสองคน เธอคงไม่ต้องได้ยินคำอธิบายอะไรอีกแล้ว
“นะ...เนตรมาได้ยังไง” คนถามเสียงสั่น
“เนตรเข้าไปได้ไหม” หญิงสาวถาม แต่ไม่รอให้อนุญาต เดินเข้าในห้องทันที
เนตรดาววางกระเป๋าไว้ตรงโต๊ะด้านหน้า แล้วมองเพื่อนกับผู้ชายอีกคนหย่อนกายลงตรงข้าม แววตาสองคนหม่นลงในทันใด เธอรู้ว่าไม่ควรเข้ามายุ่ง แต่มันอดไม่ได้จริงๆ ทำไมเพื่อนทำแบบนี้
“ไหนอรบอกว่าเป็นแค่รุ่นน้อง ไม่ใช่ชายแท้” เธอถามเสียงเครียด มองเพื่อนแววตาผิดหวัง
ดนัยภพชะงัก แล้วรีบแสร้งวาดขามาไขว่ไว้ จีบปากจีบคอ ทว่าคนมองกลับรู้ทัน เธอสืบมาหมดแล้ว ไม่เช่นนั้นคงไม่มาที่นี่
“ผมไม่ใช่ชายแท้หรอกนะครับ ผมชอบผู้ชาย พอดีคืนนี้มาพักที่คอนโดพี่อรน่ะครับ”
“ไม่ต้องเสแสร้งหรอก เพราะฉันรู้หมดแล้วว่าเธอไม่ใช่ประเภทชายรักชายอย่างที่ปากพูด!” เนตรดาวย้อนสีหน้าไม่พอใจ
อรนิสากุมมือรุ่นน้องไว้เพื่อให้สงบ แล้วเหลือบมองเพื่อน
“ใช่! มันเป็นอย่างที่เนตรคิดนั่นแหละ แล้วยังไง! ในเมื่ออรก็แค่อยากสนุกบ้าง พี่รามไม่เคยสนใจอรในเรื่องแบบนี้เลย เอาแต่ทำงานรักษาคนไข้ พออรแต่งงานอรจะหยุดทุกอย่าง” เธอระบายลมหายใจ “เรื่องนี้เนตรไม่ควรมายุ่ง มันเป็นเรื่องของอรกับพี่ราม เนตรเข้าใจใช่ไหม!”
เนตรดาวเม้มริมฝีปาก เข้าใจความหมายเพื่อนดี
“เนตรเข้าใจ อรไม่ต้องย้ำหรอก เนตรแค่อยากเตือนสติอรเท่านั้น อรคิดว่าเรื่องแบบนี้จะปิดได้ตลอดไปงั้นเหรอ ถ้าพี่รามรู้ มันจะเกิดอะไรขึ้น!”
“อรรู้อยู่แล้วเนตร ไม่ต้องห่วงหรอก พี่รามไม่มีวันรู้เรื่องนี้!” อรนิสาย้ำชัดเจน
คนฟังกัดฟัน สงสารพี่รามขึ้นมา รักกันขนาดไหนถึงได้ทรยศแบบนี้ สีหน้าท่าทางไม่ได้มีความรู้สึกผิดแต่อย่างใด
“อรจะแต่งงานอยู่แล้ว ควรคิดถึงความรู้สึกพี่รามให้มากๆ พี่รามคือพี่ที่เนตรนับถือ อรก็รู้ อรกับพี่รามรู้จักกันก็เพราะเนตรแนะนำ อรทำแบบนี้ เท่ากับอรไม่ให้เกียรติพี่รามไม่ให้เกียรติตัวเองรู้ไหม” เธอบอกเพื่อนเสียงสั่น น้ำตาคลอ
อรนิสารู้สึกผิดขึ้นมา ดึงมือเพื่อนมากุมไว้
“อรรู้แล้ว อรผิดเอง อรจะจัดการเรื่องทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนแต่งงาน ขอแค่เนตรเก็บเรื่องนี้เป็นความลับไม่บอกพี่รามนะ อรจะไม่ทำผิดอีกแล้ว” อรนิสาขอร้องเสียงเครียด
“เนตรไม่คิดจะบอกพี่รามอยู่แล้ว อรจัดการให้เรียบร้อยก็แล้วกัน เนตรแค่มาเตือนอรเท่านั้น จากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันอยู่ที่ตัวอรแล้ว”
หญิงสาวลุกยืน ทอดสายตามองไปยังชายหนุ่มอีกคนที่นั่งคอตกอยู่ แล้วเบือนหน้าหนี ไม่อยากเห็น สภาพสองคนนั้นก็พอรู้ว่าก่อนหน้าเกิดอะไรขึ้น ทำไมอรถึงไม่เลิกรากับรุ่นน้องคนนี้เสียที เธอไม่อยากเห็นพี่รามต้องเสียใจกับเรื่องนี้
เสียงมือถือดังขึ้น ร่างเปลือยเปล่ากำลังกกกอดใครบางคนสะดุ้ง แล้วรีบหยิบมาหลุบตามองเบอร์แล้วกดรับสาย พยายามปรับอารมณ์ตนเองให้ปกติ
“ค่ะพี่ราม” เธอตอบรับเสียงหวาน
“ทำอะไรอยู่เหรอครับ”
“อรกำลังดูรูปถ่ายของเราอยู่ค่ะ”
ปลายสายนิ่งเงียบชั่วครู่
“พี่รามมีอะไรหรือเปล่าคะ ถึงโทรมาหาอร”
พิรามหรี่ตาลง ขบกรามแน่น ในหัวใจสั่นไหว เขาพยายามควบคุมอารมณ์ตนเอง ไม่ให้ระเบิดโทสะออกไป
“พี่ไม่คิดว่าต้องมีธุระถึงโทรหาอรได้ เพราะเราสองคนกำลังจะแต่งงานกันแล้ว พี่เลยอยากโทรมาคุยกับอรบ้าง พักหลังอรไม่ค่อยใช้เวลาอยู่กับพี่สักเท่าไหร่ แจกการ์ดเสร็จอรก็ขอตัวไปทำงานพิเศษต่อตลอดน่ะครับ”
อรนิสาอึกอัก ไม่คิดว่าตนเองจะมีพิรุธมากขนาดนี้ เพราะดนัยภพมอบความสุขให้เธอจนเหลือล้น ยังอยากสนุกกับรุ่นน้องหนุ่มผู้นี้จนถึงวินาทีสุดท้าย
“อรขอโทษนะคะ อรอยากเก็บเงินให้ได้เยอะๆ ไว้สร้างครอบครัวกับพี่รามน่ะค่ะ”
“พี่ไม่ได้ว่าอะไรหรอกครับ ก็แค่รู้สึกว่าอรเปลี่ยนไปก็เท่านั้นเอง”
“ขอโทษนะคะ ทั้งที่อีกสองอาทิตย์เราก็จะแต่งงานกันแล้ว อรยังยุ่งกับงานจนไม่มีเวลาให้กับพี่แบบนี้” เธอบอกเสียงเศร้า
“ถ้าตอนนี้รู้แล้ว ก็หาเวลาไปทานข้าวกับพี่บ้าง เรายังต้องแวะไปดูห้องโรงแรมที่จองอีกนะ”
“ค่ะพี่ราม ไว้เราไปทานข้าวกันนะคะ พี่จะไปวันไหนนัดอรมาได้เลยค่ะ หรือมาทานที่คอนโดอรดีล่ะคะ”
“ทานที่ร้านดีกว่าครับ อีกหน่อยเราก็ได้อยู่ด้วยกันแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นเราเจอกันพรุ่งนี้นะคะ”
“ได้ครับ”