หลังจากที่ทั้งสองคนได้จากไปไป๋เยว่ชิงก็มีท่าที ที่มองตามทั้งสองคนไปนั้น ด้วยสีหน้าเจ็บปวดร้าวรานจนผู้คนในโรงเตี๊ยมอดที่จะสงสารนางจับใจไม่ได้
"เจ้าดูสิ ข้าว่าข่าวลือนั่นคงจะเป็นจริงเสียแล้ว ทั้งองค์ชายสามและคุณหนูใหญ่ไป๋ฟางเซียน ไปไหนมาไหนด้วยกันไม่อายฟ้าอายดิน แล้วเจ้าดูท่าทีของคุณหนูรองที่เป็นคู่หมั้น นั่นเล่าไยถึงได้ดูน่าสงสารจับใจเช่นนั้น
"ถ้าเป็นข้าๆ จะเข้าไปกระชากทั้งสองคนออกมาแล้วตบสั่งสอนให้รู้สึกเสียบ้าง พูดมาแล้วเจ็บใจแทนคุณหนูรองไป๋เยว่ชิงเสียจริง"
"นั่นน่ะสิทำอะไรไม่อายฟ้าอายดินไร้ยางอายทั้งคู่"
เมื่อไป๋เยว่ชิง เห็นท่าทีของผู้คนในโรงเตี๊ยมเช่นนั้น ก็ให้ยกยิ้มมุมปากด้วยความพอใจ จากสถาน การณ์ที่เปลี่ยนไปของตน
"เห็นไหมเล่าลี่จู นี่คือสิ่งที่ข้าจะสอนให้เจ้าได้รู้ กับเรื่องที่ควรอายและเรื่องที่ไม่ควรอาย พวกเราเป็นผู้ถูกกระทำ การที่เรามีสติ จะทำให้เราสามารถพลิกสถานการณ์จากฝ่ายที่เสียเปรียบเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบ จงจำคำของข้าไว้"
"เจ้าค่ะคุณหนู"
ตั้งแต่ที่คุณหนูของนางฟื้นขึ้นมาในครั้งนี้นั้น ก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากผู้ที่มิมีสติวิ่งไล่ตาม องค์ชายสามไปทั่วทุกหนทุกแห่งไม่ว่าพระองค์จะเสด็จไปที่ใด จนทำให้เกิดข่าวลือเสียหายไปทั่ว แต่ในตอนนี้คุณหนูของนาง แค่นั่งอยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอันใด ก็มีผู้เห็นอกเห็นใจ และเข้าข้างคุณหนูของนางอย่างท่วมท้น
"คุณหนู ลี่จูชอบที่คุณหนูเป็นแบบนี้ยิ่งนักเจ้าค่ะ ดูเข้มแข็งและมีสติ พร้อมที่จะตอบโต้กับคนพวกนั้นได้ตลอดเวลา แต่ก่อนคุณหนูมักจะตกเป็นเครื่องมือของคุณหนูใหญ่ มิว่าคุณหนูใหญ่จะพูดอันใด คุณหนูก็ตกหลุมพรางของนางตลอดเวลา พอคุณหนูเป็นแบบนี้แล้ว ลี่จูชอบยิ่งนักเจ้าค่ะ"
"วางใจเถิด ข้าจะมิกลับไปโง่เหมือนเดิมอีกต่อไป มันถึงคราวที่เราจะต้องตอบโต้คืนบ้างแล้ว นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น..."
เพียงไม่นานข่าวลือเสียๆ หายๆ เกี่ยวกับองค์ชายสามและคุณหนูใหญ่ไป๋ฟางเซียน ก็แพร่สะพัดออกไปอย่างกับไฟลามทุ่ง ผู้คนต่างก่นด่าทั้งสองคนถึงความไร้ศีลธรรม และเห็นอกเห็นใจคุณหนูรองไป๋เยว่ชิงอย่างล้นหลาม
ณ ห้องหนังสือจวนตระกูลไป๋
ผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหัวหน้าตระกูลไป๋ในตอนนี้ กำลังนั่งหน้าดำคร่ำเครียด เมื่อได้รับฟัง ในสิ่งที่บุตรสาวคนโปรดของตนกำลังกล่าวอยู่
"นะเจ้าค่ะท่านพ่อ ลูกแค่ต้อง การไปสงบจิตใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ท่านพ่อก็รู้ว่าที่ผ่านมา ลูกช้ำอกช้ำใจมากมายเพียงใด การไปถือศีลกินเจที่วัด มันไม่ใช่เรื่องไม่ดีแต่อย่างใด ลูกว่ามันทำให้จิตใจของลูกสงบ และสามารถกลับไปคิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาได้ด้วย ถ้าท่านพ่อมิวางใจก็ให้คนของท่านพ่อติดตามลูกไปด้วยเสียหลายคนหน่อย แค่นี้ก็ไม่มีปัญหาอันใดแล้ว"
คุณหนูรองไป๋เยว่ชิง กำลังยกแม่น้ำทั้งห้ามาเพื่อหว่านล้อมให้บิดาของตนเห็นดีด้วย
"พ่อจะวางใจ ให้เจ้าไปตกระกำลำบากเยี่ยงนั้นได้เช่นใดเล่า เจ้าเพิ่งฟื้นไข้ขึ้นมา พ่อคิดว่าเกือบจะเสียเจ้าไปเสียแล้วๆ เช่นนี้จะให้พ่อวางใจปล่อยเจ้าไป พ่อคงทำใจไม่ได้หรอก"
"หากเจ้าเพียงต้องการขอพรไหว้พระไยจะต้องไปไกลถึงดินแดนทางใต้ด้วยเล่า แค่ไปวัดใกล้ๆ นี้ ก็ได้ไม่ใช่หรือ"
'โธ่ท่านพ่อ ถ้าไปวัดใกล้ๆ นี้จะสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดูดีขึ้นได้ยังไงค่ะ ที่หนูจะไปเนี่ย ก็เพื่อเริ่มต้นแผนการแก้แค้นของหนูกับไอ้คู่หมั้นหน้าปลาดุกนั่น ถ้าจะทำให้ตัวเองดูดี เป็นที่ต้องการมันก็ต้องมีความสามารถเสียก่อน สำนักไก่กาใกล้ๆ นี้ จะสามารถทำให้หนูกลายเป็นดาวเด่นได้ยังไง จะเปลี่ยนแปลงตนเองทั้งที ให้ผู้มันมาหลงก็ต้องเล่นใหญ่สักหน่อยสิเจ้าค่ะท่านพ่อ'
สำหรับเรื่องนี้นั้น คุณหนูรองไม่สามารถพูดมันออกไปได้ๆ เพียงคิดในใจของตนเองก็เท่านั้น
ดินแดนทางใต้ ถือว่าเป็นดินแดนที่เหล่าจอมยุทธมากมายอาศัยอยู่ หากผู้ใดต้องการที่จะเป็นผู้เยี่ยมยุทธในด้านต่างๆ ก็เป็นที่ทราบกันดีว่าต้องเดินทางมายังดินแดนทางใต้แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านอักขระ ยาพิษ การรักษา และวิทยายุทธ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอต้องการเดินทางไปยังดินแดนทางใต้นั่นเอง
'การจะทำให้ผู้มันเสียดาย ก็ต้องทำให้ตัวเองดูดีและโดดเด่น เป็นที่ต้องตาต้องใจ ของคนอื่นๆ ซะก่อน ไม่ใช่ว่าไม่มีดี สวยใสไร้สมอง ผู้มันก็ไม่มองหรอกนะคะ อันนี้ตัวเองสวยไหมตอบคะ! ..ไม่สวยเลยไม่กระดานเดินได้ชัดๆ ผู้ที่มันโด่มาดีๆ มาเจอหน้าหนูนี่หดเลยค่ะแม่ ต้องปฏิวัติตัวเองครั้งใหญ่เลยค่ะแม่หนูบอกเลย'
"ท่านพ่อ ลูกบอกเลยว่าตอนนี้จิตใจของลูกนั้นกำลังฟุ้งซ่านเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเดินไปทางใดก็พบเจอแต่พี่หญิงใหญ่กับองค์ชายสามหัวใจของลูกนั้น มันปวดร้าวเกินจะทน ลูกไม่อยากเห็นภาพบาดตาบาดใจนี้ต่อไปอีกแล้ว ขอท่านพ่อโปรดเห็นใจลูกด้วยเถิด"
"หากเป็นเช่นนั้นแล้วละก็ พ่อเห็นว่า พ่อจะไปพูดคุยกับฟางเซียนให้รู้เรื่องถึงความสัมพันธ์ที่มิควรนี้ของพวกเขา"
"ท่านพ่อข้าขอถามอะไรท่านเพียงเล็กน้อย ท่านไปคุยกับพี่หญิงใหญ่กี่รอบแล้ว ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ผลลัพธ์มันก็ยังเป็นเช่นเดิมมิใช่หรือเจ้าคะ"
'โธ่ ท่านพ่อท่านเข้าใจคำว่าคนมันหน้าด้านหน้าทนไหมคะ มันจะเอายังไงมันก็จะเอา ถึงไปคุยกับมันล้านรอบยังไงผลลัพธ์มันก็ยังเป็นเหมือนเดิมค่ะ'
เมื่อได้ฟังคำกล่าวของบุตรสาวสุดที่รักของตน เขาก็ให้รู้สึกเสียใจยิ่งนัก หากว่าตนมิพลาดท่าเสียทีมารดาของไป๋ฟางเซียนที่วางยาปลุกกำหนัดตนในคืนนั้น จนนางให้กำเนิดบุตรีผู้นี้ขึ้นมา เขาก็คงไม่ต้องทำให้บุตรสาวสุดที่รักของเขาต้องมานั่งเสียใจอย่างเช่นทุกวันนี้
"เฮ้อ เป็นอย่างที่เจ้าพูดถ้าไม่ใช่เพราะพ่อ เจ้าก็คงไม่ต้องมานั่งเสียใจเช่นนี้"
"ท่านพ่ออย่าได้กล่าวโทษตนเองเลยเจ้าค่ะ ถึงอย่างไรนางก็ถือว่าเป็นบุตรีของท่านพ่อคนหนึ่ง จะให้ทอดทิ้งไม่สนใจ ก็เห็นว่าจะไม่สมควร ในตอนนี้ท่านพ่อให้พี่หญิงใหญ่และมารดาของนางอยู่ในจวน ดูแลเรื่องความเป็นอยู่ต่างๆ ให้สุขสบายกว่าบ่าวรับใช้ทั่วไป ก็ถือว่าดีกับพวกนางมากแล้ว หากพี่หญิงใหญ่จะมักใหญ่ใฝ่สูง ก็คงจะเกิดจากความทะเยอทะยานของมารดาของนางที่เสี้ยมสอนให้เป็นเช่นนั้นเสียมากกว่า ท่านแม่ก็หาได้ติดใจอันใดกับเรื่องราวที่ผ่านมาไม่ เพราะเนื่องด้วยว่า เข้าใจในเจตนาของท่านพ่อดี ว่าท่านพ่อมิเคยมีใจให้นางแม้แต่น้อย"