เมื่อเป็นอิสระเรียบร้อยแล้วไป๋เยว่ชิงจึงตั้งสติมองไปที่บุรุษตรงหน้า และรีบประมวลผลถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้อย่างรวดเร็ว จากสติที่พอจะมีเหลืออยู่น้อยนิดในตอนนี้ของตน
คืนนี้เป็นคืนเดือนเพ็ญทำให้เธอสามารถ มองเห็นบุรุษตรงหน้าได้อย่างชัดเจน เธอพบว่าบุรุษตรงหน้าถือว่าเป็นบุรุษที่รูปงามมากผู้หนึ่ง ดวงตาสีอำพัน คิ้วเข้มรูปกระบี่ จมูกโด่งรับกับใบหน้าอย่างลงตัว หากจะให้พูดตามตรงบุรุษผู้นี้ถือว่าถูกใจเธอยิ่งนัก กล้ามเนื้อหน้าท้องที่เป็นลอนหกลูกนั้น ช่างน่าลูบไล้สัมผัส และขนอ่อนรำไรที่บริเวณหน้าท้องที่โผล่พ้นน้ำออกมานั้น ช่างดูเย้ายวนใจ จนเธอเผลอเลียริมฝีปากตนเอง อย่างลืมตัว
'แม่ไปจ้างคนงานมาสักร้อยคนให้หนูทีจะได้ไหม หนูอยากจะให้เขาวิดน้ำออกจากบ่อน้ำพุร้อนนี่ ทัศนียภาพเบื้องหน้าหนูมันจะได้ชัดเจนยิ่งขึ้น แค่คิดเลือดกำเดาก็จะไหลแล้ว อร๊ายอยากให้น้ำลดกว่านี้แม่! '
"เจ้าเป็นสตรีเช่นนั้นหรือ"
พร้อมสายตาที่มองมาที่นางเหมือนกับว่าไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเองว่าเธอคือสตรีจริงๆ
"อ้าวเท้ย! ถ้าพูดเช่นนี้ท่านมาลองจับข้ากินดูดีหรือไม่ จะได้รู้ว่าแท้จริงแล้วข้าเป็นบุรุษหรือสตรี"
พร้อมกับเดินเข้าไปหาบุรุษตรงหน้าอย่างไม่กลัวเกรง ด้วยบวกกับฤทธิ์สุราที่เพิ่งดื่มเข้าไปก่อนหน้านี้ ทำให้สติสัมปชัญญะของไป๋เยว่ชิงยังไม่ตื่นตัวเต็มที่ จึงทำให้คิดอ่านสิ่งใดยังไม่รอบคอบนัก เมื่อคิดว่าตัวเองโดนดูถูก จึงทำให้อยากจะพิสูจน์ให้บุรุษลงหน้าได้ทราบเพียงเท่านั้น
"เจ้ากำลังคิดที่จะทำสิ่งใด หยุดการกระทำของเจ้าลงบัดเดี๋ยวนี้ สตรีไร้ยางอาย เจ้าอย่าได้เข้ามาใกล้ข้า"
ไป๋เยว่ชิงนั้นถือว่าเป็นคนตัวเล็กมาก เมื่อเทียบกับบุรุษตรงหน้า เมื่อนางเข้าไปประชิดตัวบุรุษผู้นั้นได้ ก็พยายามที่จะจุมพิตบุรุษผู้นั้นให้ได้ แต่ด้วยขนาดที่แตกต่างกัน ทำให้เธอไม่สามารถทำในสิ่งที่ต้องการได้ เธอจึงกระโดดใช้ขาทั้งสองข้างหนีบไว้ที่เอวของบุรุษตรงหน้า แขนสองข้างของเธอก็โอบรอบคอของเขาไว้แน่น จนทำให้บุรุษตรงหน้าตัวแข็งทื่อ ไร้เรี่ยวแรงในการต่อต้านหรือผลักไส ไป๋เยว่ชิงให้ออกห่างจากตน สภาพล่อแหลมโดยไร้อาภรณ์ติดกายของทั้งคู่ ช่างเป็นภาพที่ดูแล้วชวนให้คิดไปไกลยิ่งนัก หากมีผู้มาพบเจอพวกเขาในตอนนี้เข้า คงคิดว่าเป็นคู่รักที่แอบมาพรอดรักกันกลางดึกเป็นแน่
"สตรีไร้ยางอายเจ้าคิดที่จะทำอันใดข้า"
"พิสูจน์ให้ท่านได้เห็นเช่นไรเล่า ว่าข้าคือ บุรุษหรือสตรี"
พร้อมกับใช้ริมฝีปากบางของตนปิดริมฝีปากหนาของเขาเอาไว้ นางใช้ลิ้นของตนเปิดริมฝีปากหนานั้นพร้อมกับแทรกเรียวลิ้นเข้าไปในโพรงปากของเขาอย่างช่ำชอง ลิ้นเรียวเล็กเกี่ยวกวัดกับลิ้นหนาในโพรงปากนั้นเนิ่นนาน
สำหรับบุรุษที่ไม่เคยแตะต้องสตรีใดมาก่อน เช่นบุรุษตรงหน้าของไป๋เยว่ชิงถึงกับไร้ซึ่งเรี่ยวแรงที่จะต่อต้านใดๆ ทั้งสิ้น
"พอได้แล้วข้าเชื่อแล้วว่าเจ้าคือสตรี เจ้าลงไปจากตัวข้าได้แล้ว"
"ไม่ ข้าว่าท่านยังไม่เชื่อ"
พร้อมกับจุมพิตที่ริมฝีปากหนานั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
'แม่หนูขอจับผู้ชายคนนี้กลืนลงท้องไปเลยได้ไหม เขาน่ากินเกินไปแล้ว โอ๊ยแค่คิดหนูก็ขาสั่นไว้รอแล้วแม่'
มือของนางอีกข้างหนึ่งก็เลื่อนลงไปลูบไล้แผงอกของบุรุษตรงหน้าอย่างหน้าไม่อาย ก่อนที่จะเลื่อนต่ำลงไปอีกจนผ่านหน้าท้องลงไปเรื่อยๆ ก่อนที่มือน้อยๆ ของนางจะเลื่อนลงไปยังส่วนสำคัญของบุรุษเพศ ก็ถูกมือหนากอบกุมไว้เสียก่อน
"เจ้าคิดที่จะทำสิ่งใด สตรีที่ดีมิควรใจกล้าบ้าบิ่นถึงเพียงนี้"
"เผอิญว่าข้ามิใช่สตรีที่ดีเสียด้วยสิ"
พร้อมกับส่งรอยยิ้มที่แสนเจ้าเล่ห์ไปให้บุรุษตรงหน้าอย่างสื่อความหมาย
แต่ก่อนที่นางจะได้คิดทำอะไรอย่างที่ใจต้องการ อยู่ดีๆ สติของไป๋เยว่ชิงก็ดับวูบลง เนื่องด้วยบุรุษตรงหน้าสกัดจุดหลับให้นาง ก่อนที่มือน้อยๆ ของนาง จะล้วงล้ำไปถึงของสงวนของเขาได้อย่างทันท่วงที
"เฮ้อ ไยว่าที่ฮูหยินของข้าถึงได้ใจกล้าบ้าบิ่นถึงเพียงนี้"
หยางหมิงลู่ได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ที่เขาได้กล่าวไปว่านางคือว่าที่ฮูหยินของตนนั้น เนื่องมาจากว่า กฎของตระกูลหยางที่จะขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคมังกรวารีได้นั้น จะต้องถือครองพรหมจรรย์เอาไว้มิให้สตรีผู้ใดได้เห็นรูปร่างเปล่าเปลือยของตนโดยเด็ดขาด กฎข้อนี้ได้สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น กล่าวไว้ว่าหากสตรีใดได้เห็นรูปร่างอันเปลือยเปล่าของเขาแล้ว จะต้องตกแต่งนาง เป็นฮูหยินของตนในทันที และประมุขพรรคมังกรวารีจะไม่สามารถมีฮูหยินรองหรืออนุภรรยาได้อีกแม้แต่เพียงผู้เดียว
เมื่อเขาได้จ้องมองสตรีในอ้อมกอดของตน ก็ได้แต่ถอนหายใจรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่ทราบ ตั้งแต่ได้เจอนาง เหตุใดนางถึงไม่เหมือนกับสตรีทั่วไป ที่มีความเป็นกุลสตรีในห้องหอ แต่นางกลับกล้าบ้าบิ่นถึงขนาดเป็นฝ่ายบุกเข้าหาบุรุษก่อนเช่นนี้ อีกทั้งดูจากรูปร่างภายนอกของนางแล้ว นางคงจะไม่พ้นวัยปักปิ่นเสียด้วยซ้ำ แล้วอย่างนี้เขาจะตกแต่งนางขึ้นมาเป็นฮูหยินของตนได้เช่นไรเล่า เรื่องนี้เขาคงต้องไปถามความคิดเห็นกับบิดามารดาของเขาเสียแล้ว เพราะเขาก็ไม่สามารถหาคำตอบได้เช่นกัน
"ออกมา"
หยางหมิงลู่ได้ออกคำสั่งให้องครักษ์เงาของตนที่อยู่บริเวณโดยรอบออกมาตามคำสั่งของตน
"เหตุใดพวกเจ้าถึงปล่อยให้นางเข้าถึงตัวข้าได้ง่ายดายเช่นนี้ ถ้าหากว่านางประสงค์ร้ายต่อข้า ตอนนี้ชีวิตข้าจะไม่หาไม่ไปแล้วหรือ"
แรงกดดันอันมหาศาลที่เขาส่งไปในตอนนี้ทำให้องครักษ์เงาที่คุกเข่าอยู่ที่พื้น ถึงกับกระอักเลือดออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
"ท่านประมุขเคยสั่งเอาไว้ว่าหากไม่จำเป็นไม่ต้องออกมาปรากฏตัวให้กับผู้อื่นได้เห็น และสตรีผู้นี้ก็เป็นสหายสนิทกับคุณหนู ทำให้พวกข้าคิดว่าไม่จำเป็นต้องปรากฏตัวออกมาขอรับ"
"ไม่ได้เรื่องสักคน"
เหล่าองครักษ์ได้แต่ก้มหน้ายอมรับฟังคำตำหนิของท่านประมุขแต่โดยดี ที่พวกเขาคุ้มกันท่านประมุขอย่างหละหลวมจนเป็นเหตุให้ท่านประมุขโดนสตรีลวนลามจนเกือบจะเสียความบริสุทธิ์ไปเสียแล้ว
จะว่าไปว่าที่นายหญิงของพวกเขาช่างดุดันและร้อนแรงยิ่งนัก แล้วเช่นนี้ท่านประมุขผู้ที่มิเคยผ่านสตรีใดมาก่อนเช่นท่านประมุขจะรับมือนางไหวได้เช่นไร
เหล่าองครักษ์ได้แต่คิดสงสารท่านประมุขของตนอยู่ในใจเงียบๆ