เรื่องที่ 1 เพลิงรัก (3/4)

4480 คำ
เรื่องที่ 1 เพลิงรัก (3/4) สัตยานอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียง นอนคิดถึงสิ่งที่ตัวเองวู่วามทำลงไป เขานึกโกรธตัวเองที่ทำให้ทุกอย่างมันแย่ลงทุกครั้งที่เผชิญหน้ากับพลอยไพลิน ก่อนหน้านี้จริงๆ เขาก็รู้แล้วว่าพลอยไพลินนั้นเป็นคนดีไม่ต่างจากแพรวพราวเลยแต่เพราะเขามีอคติต่อเธอเลยทำให้ชอบมองเธอในแง่ลบอยู่บ่อยๆ แต่พอแพรวพราวจากไปเขาก็เห็นความดีของพลอยไพลินชัดเจนขึ้น เธอแอบดูแลเขาอยู่ห่างๆ ทั้งจัดตารางอาหารที่เน้นสุขภาพให้แม่ครัวทำให้เขาทานบ้าง เธอลงมือทำเองบ้าง ช่วยเอาดอกแก้วที่ปลูกไว้มาใส่ห้องน้ำให้เขาเหมือนที่แพรวพราวเคยทำ ทำเตยหอมใส่ตู้เสื้อผ้าให้เขาก็ฝีมือเธอทั้งนั้น เพราะเขาถามแล้วแม่บ้านปฏิเสธว่าไม่เคยทำอะไรอย่างนี้ให้เขา แต่สิ่งที่เขาทำกับเธอนั้น ทั้งใช้คำพูดและการกระทำที่ทำร้ายจิตใจเธอไม่หยุด มันเป็นการกระทำที่แย่มาก สมควรแล้วที่จะโดนพลอยไพลินด่าว่าเขาเลว ‘นี่เราทำบ้าอะไรลงไป’ สัตยาต่อว่าตัวเอง เขานอนคิดหนักว่าเขาควรจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ ถ้าอยู่ดีๆ จะเดินไปขอโทษแล้วพูดดีกับเธอ เธอก็คงไม่เชื่อใจเขาและคิดว่าเขาคงกำลังประสงค์อะไรบางอย่างจากเธอ ยิ่งคิดสัตยาก็ยิ่งสับสน ไม่รู้ว่าทำไมต้องเอาเรื่องความรู้สึกของพลอยไพลินมานอนคิดมากอย่างนี้ด้วย หรือมันอาจเป็นเพราะคำสั่งเสียของภรรยาที่บอกเขาให้ดูแลพลอยไพลิน บวกกับความอ่อนแอที่สูญเสียแพรวพราวไป ทำให้เขารู้สึกดีกับพลอยไพลินที่แอบดูแลเขาอยู่ ทั้งๆ ที่เขากล่าวหาเธออย่างรุนแรงว่าทำให้พี่สาวเธอตาย ‘ฉันว่าเธอแรงขนาดนั้น อยู่ๆ จะให้ไปทำดีกับเธอเลย มันคงดูไม่น่าเชื่อถือแน่ ให้ตายเถอะพลอย ทำไมฉันต้องคิดมากเรื่องเธอขนาดนี้ด้วย’ สัตยานึกเรื่องนี้วนเวียนในหัวและทำให้เขานอนไม่หลับ ตัดสินใจลุกจากที่นอนเพื่อไปหาเหล้าดื่ม พอเขาเปิดประตูออกไปก็พบว่าพลอยไพลินเองก็กำลังออกจากห้องนอนพร้อมด้วยกระเป๋าเดินทางใบใหญ่และเป้สะพายอีกใบ สัตยาใจหายเมื่อเห็นว่าพลอยไพลินจะไปแล้วจริงๆ ยิ่งสายตาที่พลอยไพลินหันมามองเขาด้วยความโกรธและน้อยใจนั้น มันยิ่งทำให้สัตยาแทบคลั่งเมื่อคิดว่าจะเสียเธอไปอีกคน “จะไปไหน” สัตยาถาม แต่พลอยไพลินไม่สนใจ เธอลากกระเป๋าเตรียมจะลงบันไดไป แต่สัตยาก็ขวางเอาไว้แล้วแย่งกระเป๋ามาจากเธอ “ฉันถามว่าจะไปไหน” สัตยาถามย้ำอีกครั้ง เขาเพิ่งสังเกตเห็นชัดๆ ตอนที่เข้ามาใกล้เธอว่าตาเธอบวมแดงเล็กน้อย นั่นหมายถึงเธอเพิ่งจะร้องไห้มา ‘เพราะเขา’ “ฉันจะไปอยู่ที่อื่นค่ะ” พลอยไพลินบอก ไม่หันมาสบตาเขา “ฉันไม่ให้ไป แพรวฝากเธอเอาไว้ให้ฉันดูแลแล้ว ฉันต้องทำตามคำสั่งเสียของแพรวให้ดีที่สุด” สัตยาบอก รู้สึกผิดเล็กน้อยที่เอาแต่อ้างคำสั่งเสียของแพรวพราวเพื่อรั้งพลอยไพลินเอาไว้ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันจะจุดธูปบอกพี่แพรวเอง ว่าฉันเป็นคนอยากไปจากที่นี่ พี่แพรวคงไม่ว่าคุณใหญ่หรอกค่ะ” พลอยไพลินบอก “ยังไงฉันก็ไม่ให้ไป เธอต้องอยู่ที่นี่” สัตยายืนยันเสียงแข็ง “ฉันไม่จำเป็นต้องทำตาม เพราะอีกไม่นานฉันก็จะไปจากบ้านของคุณแล้ว ในเมื่อพี่แพรวไม่อยู่ฉันก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ แล้วไม่ต้องมาอ้างเรื่องคำสั่งเสียหรือคำขอร้องของพี่แพรว เพราะฉันยอมเสียคำพูดดีกว่าต้องอยู่กับคนอย่างคุณ” พลอยไพลินบอก เธอทำเป็นใจดีสู้เสือและใช้ความกล้าพูดออกไป สัตยาขบกรามแน่น เขาใช้ไม้แข็งคิดว่าเธอจะเกรงกลัวเขา แต่ไม่ใช่เลยสักนิด ซึ่งปกติพลอยไพลินไม่ใช่คนดื้ออย่างนี้ จะกลับไปใช้ไม้อ่อนก็คงไม่ทันแล้ว สัตยาเลยต้องใช้ไม้แข็งต่อไป “อยากเป็นคนเนรคุณคนอย่างนั้นหรือ ก็อย่างว่าแหละ กล้าผิดคำพูดกับพี่สาวได้ แค่เรื่องเนรคุณคนที่ให้ที่พักอาศัยตลอดสองปีที่ผ่านมามันก็คงไม่ใช่เรื่องยาก” สัตยาพูดขึ้นมาทำเอาพลอยไพลินทั้งโกรธทั้งเจ็บใจที่เขาทวงบุญคุณกับเธอทางอ้อม “คุณใหญ่ต้องการอะไรคะ” พลอยไพลินถามเขาเสียงแข็ง บ่งบอกว่าเธอไม่ชอบใจในสิ่งที่เขาพูด “เธออาศัยฉันอยู่มาสองปี อย่างน้อยก็ต้องอยู่ดูแลเพื่อตอบแทนบุญคุณฉันต่ออีกสองปี” สัตยาบอกส่งๆ ไปอย่างนั้นเพราะคิดหาเรื่องที่จะมารั้งเธอไว้ไม่ได้ “คุณจะทนเห็นคนที่คุณเกลียดเดินไปมาอยู่บ้านหลังนี้ถึงสองปีเลยใช่ไหมคะ” เธอถามประชดเขาด้วยความน้อยใจ สัตยาเงียบไม่ได้ตอบคำถามเธอ “ได้ค่ะ ฉันจะอยู่ชดใช้หนี้ค่าข้าวแดงแกงร้อนและที่ซุกหัวนอนที่นี่ตามที่คุณใหญ่ต้องการ พอใจแล้วใช่ไหมคะ” เธอถามเขาและมองด้วยแววตาที่น้อยใจและเสียความรู้สึก สัตยานึกอยากดึงคนตรงหน้ามาปลอบใจเหลือเกิน แต่ในเมื่อแสดงบทร้ายใส่เธอไปแล้วมันก็คงไม่ทำให้อะไรดีขึ้นมา พลอยไพลินคว้ากระเป๋าคืนแล้วถือมันกลับเข้าห้องโดยไม่หันกลับมามองหน้าเขาเลย น้ำตาเธอไหลออกมาอีกรอบหลังจากกลั้นเอาไว้ไม่ให้เขาเห็น เธอสมเพชตัวเองที่ต้องเจอแต่เรื่องที่ถูกเขาทำร้ายจิตใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า คิดว่าเขาโกรธเธอที่ทำให้แพรวพราวอาการทรุดหนักจนต้องเสียเธอไป พลอยไพลินเองก็รู้สึกผิดมาตลอด แต่ว่าเธอก็ไม่สามารถย้อนไปแก้ไขเหตุการณ์นั้นได้แล้ว สัตยามองตามหลังเธอจนเธอกลับเข้าห้องไป ตอนเธอกลับมาก็ทะเลาะกับเธอไปแล้วรอบหนึ่ง ตอนนี้เขาก็พลาดอีกรอบ สัตยาแทบจะโขกหัวกับกำแพงให้มันจบๆ ไป ไม่รู้ว่าเขาเป็นบ้าอะไรทำไมถึงดีแต่ทำให้พลอยไพลินต้องเสียใจแบบนั้น ‘ทำไมต้องกลัวเสียหน้าด้วย แค่ขอโทษ แค่พูดดี ทำไม่เป็นหรือยังไงวะ’ สัตยาด่าตัวเองในใจ เขาตัดสินใจกลับเข้าห้องนอนไป ไม่มีอารมณ์ลงไปดื่มเหล้าหรือว่าทำอะไรทั้งนั้นแล้ว เพราะตอนนี้พลอยไพลินทำให้เขาแทบจะเป็นบ้าไปแล้ว ********************** พลอยไพลินแต่งตัวเสร็จก็ลงไปทานอาหารเช้าในครัว พอเสร็จแล้วเธอก็รีบเก็บกระเป๋าเพื่อที่จะไปทำงานก่อนที่สัตยาจะลงมาจากห้อง แต่พอเธอเดินออกมาถึงประตูหน้าบ้านก็พบว่าเขายืนรออยู่ตรงลานจอดรถหน้าบ้านอยู่แล้ว เธอเลยทำเป็นไม่เห็นเขาแล้วเดินอ้อมไปอีกทาง มันทำให้สัตยาหัวเสียมากแล้วก้าวเท้ายาวๆ มาฉุดแขนเธอเอาไว้ “จะไปไหน” เขาถามเธอ “ไปทำงานค่ะ” พลอยไพลินตอบเสียงห้วนแล้วแกะมือเขาออกจากต้นแขนของเธอ “เดี๋ยวฉันไปส่ง” สัตยาบอกเสียงเรียบ “ไม่จำเป็นค่ะ ฉันไปเองได้” พลอยไพลินบอก “พลอย พี่จะไปส่งเอง ขึ้นรถเดี๋ยวนี้” สัตยาออกคำสั่งเสียงเข้ม สรรพนามที่ใช้เรียกเปลี่ยนไป พลอยไพลินถึงกับชะงักไปที่เขาเรียกแทนตัวเองว่าพี่กับเธอเป็นครั้งแรก “ขึ้นรถเร็ว” สัตยาย้ำบอกเธอ พลอยไพลินเลยต้องทำตามที่เขาบอก เพราะว่าไม่อยากโดนเขาด่าว่าเล่นตัว “ทำงานที่ไหน” สัตยาถาม “สามารถกรุ๊ปค่ะ” พลอยไพลินบอกเขา สัตยาขับรถออกจากบ้านไปตามเส้นทาง มุ่งหน้าไปยังจุดหมายที่เธอบอก “ต่อไปนี้พี่จะไปส่งทุกวัน แล้วไม่ต้องอยู่ทำโอที เพราะตอนเย็นพี่ก็จะไปรับเอง” อยู่ๆ สัตยาก็พูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ “ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณ” พลอยไพลินบอก เธอยังโกรธกับเรื่องที่เขาบอกว่าเกลียดเธอทั้งๆ ที่จูบเธอไป แล้วก็โกรธที่ตอนนี้ก็ยังไม่มีแม้คำว่าขอโทษ “มันไม่ใช่ประโยคบอกเล่า มันคือคำสั่ง และต่อไปนี้พลอยต้องทำตามคำสั่งของพี่ทุกอย่าง” สัตยาบอกเสียงเรียบ “คุณใหญ่ต้องการอะไรจากฉันคะ” พลอยไพลินถามเขา “ต่อไปเรียกพี่ว่าพี่ใหญ่ แล้วแทนตัวเองว่าพลอย” สัตยาบอกกึ่งบังคับ เขานอนคิดมาทั้งคืนว่าควรเริ่มต้นทำดีกับเธออย่างไร และสิ่งแรกที่คิดออกคือควรเรียกกันด้วยสรรพนามใหม่ที่ดูไม่ห่างเหินเหมือนอย่างตอนแรก “เพื่ออะไรคะ” พลอยไพลินถาม “เริ่มต้นกันใหม่ ลืมเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมดที่เราเคยผิดใจกันมา ดูแลกันและกันตามที่แพรวต้องการ ส่วนเรื่องที่พี่เคยพูดไม่ดีหรือทำให้พลอยไม่พอใจ พี่ก็อยากจะขอโทษพลอย” สัตยาบอก หน้าเขาแดงขึ้นมานิดหน่อยเมื่อต้องพูดอะไรแบบนี้ พลอยไพลินอึ้งไป ไม่อยากเชื่อหูว่าสัตยาจะพูดจาดีๆ กับเธอ แล้วดูท่าทางที่พยายามเก็บอาการเขินนั้น และคำขอโทษที่เธอต้องการได้ยินก็ทำให้พลอยไพลินใจอ่อนยวบลงแทบจะทันที “ตกลงค่ะ งั้นเรามาเริ่มต้นกันใหม่ ในฐานะพี่น้องก็แล้วกัน” พลอยไพลินบอก สัตยาโล่งใจ นึกเสียดายว่าถ้ารู้อย่างนี้เขาใช้ไม้อ่อนแต่แรกก็คงดี ********************** สัตยาออกจากบริษัทเพื่อไปรอรับพลอยไพลินที่หน้าบริษัทของเธอ เขานั่งรอบนรถอยู่สักพักพลอยไพลินก็เดินออกมาพร้อมกับผู้ชายคนเมื่อวานนี้ที่มาส่งเธอตอนดึก ท่าทางสนิทสนมกันและสายตาที่ผู้ชายคนนั้นมองพลอยไพลินอย่างรักใคร่ มันทำให้สัตยาแทบคลั่ง พลอยไพลินโบกมือลาแล้วแยกจากเขา เธอเดินตรงมาที่รถของสัตยาแล้วก็ขึ้นมานั่งอย่างเกร็งๆ “ผู้ชายคนนั้นใคร” สัตยาถาม “คุณใหญ่ถามทำไมคะ” พลอยไพลินถามเขา สัตยากระแอมเบาๆ เพื่อให้เธอเรียกเขาใหม่ “พี่ใหญ่ถามพลอยทำไมหรือคะ” เธอถามเขาด้วยสรรพนามใหม่แล้วก็อดเขินขึ้นมาไม่ได้ “เขาดูเหมือนจะชอบพลอย” สัตยาบอก “ค่ะ แล้วทำไมคะ” พลอยไพลินถาม เรื่องนั้นเธอก็รู้ดีแก่ใจแล้ว ว่าเพื่อนร่วมงานหนุ่มนั้นกำลังจีบเธอ แต่ก็ไม่ใช่จีบเธอแค่คนเดียว เขาจีบสาวโสดในบริษัททุกคนทำดีกับทุกคน เหมือนจีบเล่นๆ แบบหมาหยอกไก่เสียมากกว่า “พี่ไม่อนุญาตให้มีแฟนตอนนี้” สัตยาบอกเสียงเครียด “พลอยโตแล้วนะคะ แล้วอีกอย่างเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของพลอย พี่ใหญ่จะมาบังคับพลอยแบบนี้ไม่ได้” พลอยไพลินบอกแล้วหันหน้าออกนอกหน้าต่างประตูรถไม่อยากทะเลาะกับเขา สัตยาเองก็กลัวว่าจะทะเลาะกันแล้วเผลอพูดไม่ดีกับเธออีก เขาเลยเงียบแล้วไม่ได้พูดอะไรกับเธออีกจนถึงบ้าน วันถัดมาสัตยาก็รับส่งพลอยไพลินด้วยตนเองอีกเช่นเคย แต่ว่าคราวนี้ตอนไปรับนั้นเขาเดินลงมาจากรถแล้วไปรอรับเธอที่หน้าบริษัท ชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีใส่ชุดสูทราคาแพงกำลังยืนรอใครสักคนอยู่หน้าบริษัทเป็นจุดสนใจของสาวๆ ได้ดี บางคนถึงกลับยกโทรศัพท์ขึ้นมาแอบถ่ายรูปเขาเอาไว้ แต่สัตยาก็ไม่ได้สนใจ เขาอยากมาแสดงตัวให้รู้ว่าเขามารับพลอยไพลินเท่านั้น พลอยไพลินเดินลงมากับเพื่อนร่วมงานชายคนนั้นอีกเช่นเคยคราวนี้มีเพื่อนร่วมงานผู้หญิงคนอื่นเดินมาด้วย ท่าทางผู้ชายคนนั้นก็มองหญิงสาวทั้งสองคนอย่างพอใจจนสัตยาอดหมั่นไส้ไม่ได้ที่เขานั้นดูท่าทางว่าจะไม่ได้ชอบพลอยไพลินแค่คนเดียว พอพลอยไพลินเห็นเขาก็โบกมือลาเพื่อร่วมงานทั้งสองที่เดินมาพร้อมกันแล้วเดินไปหาสัตยาทันที คนแถวนั้นก็ให้ความสนใจกันมากเมื่อรู้ว่าหนุ่มหล่อท่าทางดูดีนั้นมารับใคร “ลงมาจากรถทำไมคะ ข้างนอกอากาศร้อนออก” พลอยไพลินถามเขา “ไม่ออกมาดูจะรู้ไหมว่าคนที่มันชอบพลอย จริงๆ มันเจ้าชู้แค่ไหน เห็นคนที่เดินมาด้วยกันกับพลอยไหมล่ะ คนนั้นเขาก็ส่งสายตาให้เสียหวานเชียว พวกผู้ชายชีกอไม่น่าคบ” สัตยาวิจารณ์เพื่อนร่วมงานชายของพลอยไพลินออกมา จนพลอยไพลินนั้นสงสัยว่าเขาคงเป็นคนที่ชอบมีอคติกับคนอื่น เห็นใครก็ไม่ชอบหน้าไปเสียหมด “ช่างเขาเถอะค่ะ” พลอยไพลินบอก “งั้นกลับกันเถอะ” สัตยาบอกแล้วเดินนำหน้าพลอยไพลินไปขึ้นรถ ท่ามกลางสายตาสาวๆ ที่มองเขาอย่างชื่นชม จนพลอยไพลินนึกหวงเขาขึ้นมาเล็กน้อย “วันหลังไม่ต้องลงไปรับพลอยนะคะ” พลอยไพลินบอกเขา “ทำไม กลัวไอ้หมอนั่นเข้าใจผิดหรือไง” สัตยาถามเสียงเข้ม “ค่ะ” พลอยไพลินตอบส่งๆ ไป เธอเองก็ไม่มั่นใจว่าทำไมถึงไม่อยากให้เขาลงไปเป็นเหยื่อทางสายตาของเพื่อนร่วมงานสาวๆ ของเธอ สัตยาไม่พอใจกับคำตอบที่ได้ เขานั่งเงียบไปตลอดทางจนบรรยากาศดูน่าอึดอัดไม่ต่างจากเมื่อวานเลยทีเดียว ********************** “วันนี้พี่มีเลี้ยงรับรองลูกค้า น่าจะกลับค่ำหน่อย เดี๋ยวให้คนไปรับนะ” สัตยาบอกขณะที่กำลังขับรถไปส่งพลอยไพลิน “ไม่เป็นไรค่ะ วันนี้พลอยก็ต้องไปงานวันเกิดเพื่อนที่บริษัทเหมือนกัน” พลอยไพลินบอก “ใคร ใช่ไอ้ขี้หลีนั่นหรือเปล่า” สัตยาเปลี่ยนน้ำเสียงทันที “ไม่ใช่ค่ะ” พลอยไพลินโกหกออกไป เพราะจริงๆ แล้วเธอก็ไปกับคนนั้นแหละ แต่ไปกันหลายคน และไม่อยากบอกเขาเพราะรู้ว่าสัตยาไม่ชอบหน้าเพื่อนร่วมงานของเธอ ไม่ใช่ว่าพลอยไพลินชอบเพื่อนร่วมงานชายคนนั้น แต่เพราะเขาไม่ได้ทำให้เธออึดอัด และเป็นคนที่ดูมีน้ำใจกับทุกคนมากกว่า ถึงจะพูดจีบคนนั้นคนนี้ไปทั่วแต่เขาก็เป็นคนดีไม่เคยฉวยโอกาส ดูเป็นหนุ่มเจ้าสำราญมากกว่าจะเรียกว่าขี้หลีอย่างที่สัตยาวิจารณ์ออกมา “กลับกี่โมง” สัตยาถาม “ไม่ทราบค่ะ เดี๋ยวพลอยให้เพื่อนไปส่งเอง” พลอยไพลินบอกเขาอย่างจริงจังเหมือนจะยืนยันว่าเธอจะกลับเอง สัตยาเลยต้องยอมเพราะไม่อยากทะเลาะกับเธอ เพราะตลอดสองสัปดาห์ที่รับส่งเธอมานี้ทั้งสองก็ไม่ค่อยทะเลาะกันแล้ว เขาเลยไม่อยากให้มีเรื่องหมางใจกับเธอ “อืม งั้นจะกลับแล้วก็โทรบอกก็แล้วกัน” สัตยาบอกด้วยน้ำเสียงที่ดูห่วงใย “ค่ะ” พลอยไพลินตอบเขา แอบยิ้มเบาๆ เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ดูห่วงใยแบบนั้น เมื่อถึงเวลาเลี้ยงรับรองลูกค้าสัตยาก็พาลูกค้าชาวญี่ปุ่นของเขาไปทานอาหารที่ร้านหรู แล้วลูกค้าชาวญี่ปุ่นก็อยากไปร้องคาราโอเกะต่อ สัตยาเลยต้องพาเขาไปพร้อมกับผู้ช่วยของลูกค้าชาวญี่ปุ่นที่ขับรถพาเขามา ส่วนเลขานุการของสัตยานั้นเธอขอกลับไปก่อน พอไปถึงที่ร้านคาราโอเกะสัตยาก็ดูแลลูกค้าชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างดี ให้สาวๆ มานั่งกับเขาตามที่ขอและลูกค้าชาวญี่ปุ่นก็เลือกคนมานั่งกับสัตยาคลอเคลียไม่ห่าง เขาไม่กล้าปฏิเสธเพราะเกรงใจเลยต้องตามน้ำไป โดยมีผู้ช่วยของลูกค้าชาวญี่ปุ่นได้แต่นั่งกินกับแกล้มกับน้ำเปล่ามองตาปริบๆ เพราะต้องขับรถให้เขาขากลับ สัตยาขอตัวเดินออกไปเข้าห้องน้ำโดยเดินออกมาพร้อมกับผู้หญิงคนที่นั่งกับเขา เธอควงแขนเขาออกไปเพื่อจะพาไปส่งที่ห้องน้ำ แล้วก็เจอพลอยไพลินเดินสวนออกมา เธอมองเขาที่เดินควงมากับเด็กในร้านคาราโอเกะแล้วก็รู้สึกไม่พอใจอย่างบอกไม่ถูก เขารีบแกะมือของหญิงสาวในร้านออกแล้วมองหน้าพลอยไพลินกลัวว่าเธอจะเข้าใจผิด ร่างกายมันเป็นไปโดยอัตโนมัติเหมือนว่าห่วงความรู้สึกของคนตรงหน้า พลอยไพลินเมินเขาแล้วรีบเดินไป สัตยาเดินตามเธอไปแล้วดึงแขนเธอเอาไว้ ยังไม่พูดอะไรเพื่อนร่วมงานของพลอยไพลินก็เดินออกมาตามเธอ “พลอย เพลงที่พลอยเลือกไว้มาแล้ว” เขาบอกเธอ แล้วหันไปมองให้สัตยา เขาเห็นสัตยามารับเธอบ่อยเลยไม่แปลกใจที่เห็นเขา “อ้าว สวัสดีครับพี่ชายของพลอย ตามมารับถึงนี่เลยหรือครับ พอดีเลยวันนี้วันเกิดผม ให้เกียรติไปร้องเพลงด้วยกันสักเพลงไหมครับ” เขาชวนสัตยาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม “อ๋อ เรื่องมันเป็นอย่างนี้นี่เอง” สัตยาพูดขึ้นด้วยท่าทีที่ไม่พอใจ เมื่อรู้ว่าเธอโกหก “พี่ใหญ่เองก็ไปทานข้าวกับลูกค้าไม่ใช่หรือคะ” พลอยไพลินบอกแล้วปรายตามองผู้หญิงที่ยืนพิงผนังรอเขาอยู่ใกล้ๆ แล้วเดินเข้าห้องคาราโอเกะไป สัตยาไม่พูดอะไรเขาเดินไปที่ห้องน้ำเพื่อทำธุระ เสร็จแล้วก็เดินกลับเข้าไปที่ห้องคาราโอเกะส่วนตัวของเขาแล้วดื่มเหล้าเข้าไปสามแก้วรวดด้วยความโมโห โชคดีที่ลูกค้าชาวญี่ปุ่นอยากกลับไปพักแล้วพร้อมกับหญิงสาวข้างกาย สัตยาจึงเดินไปส่งเขาที่รถโดยมีผู้ช่วยของเขาขับรถพาเขาออกไปพร้อมหญิงสาวจากร้านคาราโอเกะ สัตยาเดินกลับมาในร้านแล้วเดินไปที่ห้องที่พลอยไพลินนั่งอยู่ เขาเดินเข้าไปแล้วไปดึงแขนพลอยไพลินให้ลุกตามเขาออกไป เธอไม่อยากให้มีเรื่องเลยขอตัวกลับแล้วเดินตามสัตยาไปขึ้นรถ ทั้งสองคนไม่พูดอะไรตลอดทางที่นั่งรถกลับบ้าน ต่างคนต่างเงียบเมื่อไม่พอใจที่อีกฝ่ายทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ “พี่รับรองลูกค้า และพาลูกค้าไปร้องเพลง” สัตยาพูดขึ้นขณะที่กำลังเลี้ยวเข้าบ้าน “แล้วไงคะ” พลอยไพลินถามเขาเสียงเรียบ “แต่พลอยโกหกพี่ ว่าไม่ได้ไปกับไอ้ขี้หลีนั่น” สัตยาบอก “พลอยรู้ว่าพี่ใหญ่จะไม่ให้พลอยไป พลอยก็อยากเข้าสังคมบ้าง นี่พลอยผิดใช่ไหมคะ” เธอถามเขา “ประเด็นคือพลอยโกหกไง” เขาพูดแล้วใส่อารมณ์ พอรถจอดพลอยไพลินก็รีบเดินลงจากรถ สัตยากดรีโมทปิดประตูรั้วแล้วรีบเดินตามเธอขึ้นไป “หยุดพูดกันให้รู้เรื่อง” สัตยาบอก “สร่างเมาแล้วค่อยคุยกัน” พลอยไพลินบอกแล้วเปิดประตูเข้าห้องไปแล้วจะปิดประตู สัตยาดันประตูแล้วตามเธอเข้าไป ก่อนจะปิดประตูล็อกห้องไว้แล้วยืนบังประตูอยู่อย่างนั้น “พี่ไม่ได้เมาเท่าไร พี่อยากคุยให้รู้เรื่อง” สัตยาบอก “จะคุยเรื่องอะไรคะ ถ้าเรื่องที่พลอยโกหกเรื่องงานวันเกิด โอเคค่ะ พลอยผิดเอง พลอยขอโทษ แต่พลอยก็แค่อยากไปเที่ยวบ้าง” พลอยไพลินบอก “พี่กับผู้หญิงคนนั้น ไม่ได้อะไรกันเลยนะ” สัตยาบอกเธอ “พี่ใหญ่จะมาบอกพลอยทำไมคะ หรือกลัวว่าพลอยจะจุดธูปบอกพี่แพรวหรือคะ” พลอยไพลินถามประชดเขา “พี่ไม่อยากให้พลอยเข้าใจผิด” สัตยาบอก “พลอยไม่ได้เข้าใจผิด” พลอยไพลินบอก “แล้วทำไมพลอยต้องประชดประชันพี่ ทำไมถึงเดินหนีพี่แบบนี้” สัตยาถาม “แล้วพี่ใหญ่จะถามอะไรนักหนา พลอยเหนื่อย พลอยง่วงแล้ว” พลอยไพลินบอกเขา เลี่ยงที่จะตอบว่าเธอนั้นหงุดหงิดที่เห็นเขาอยู่กับผู้หญิง มันเหมือนอารมณ์หึงหวง ซึ่งถ้าหึงหวงก็หมายความว่าเธอนั้นมีใจเขา และพลอยไพลินไม่อยากยอมรับว่าเธอนั้นมีใจให้เขา เพราะเขาคืออดีตพี่เขยของเธอ มันทำให้เธอรู้สึกแย่ถ้ารักเขา มันเหมือนหักหลังพี่สาวของเธอเอง “แล้วสรุปพลอยกับไอ้ขี้หลีนั่น..” “เลิกเรียกเขาอย่างนั้นได้ไหมคะ แล้วออกไปจากห้องพลอยได้แล้ว” พลอยไพลินไล่เขา “ปกป้องมันใช่ไหม” สัตยาถาม ตอนนี้เขาพูดวนไปวนมาเดี๋ยวพูดเรื่องเธอกับเพื่อนร่วมงานแล้ววนมาแก้ตัวเรื่องของเขาสลับไปมา พลอยไพลินรู้ว่าเขาเมาในระดับหนึ่ง “พี่ใหญ่พูดไม่รู้เรื่อง” พลอยไพลินบอก สัตยาที่ค่อนข้างจะเมาก็เริ่มสาวเท้าเดินเข้ามาหาพลอยไพลินทีละก้าว “พี่ใหญ่จะทำอะไรคะ” พลอยไพลินถามเสียงสั่นเมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้ เธอถอยหนีเขาที่เดินเข้ามาจนชิดขอบเตียง สะดุดแล้วนั่งลงที่เตียง สัตยาเดินมาถึงเธอแล้วก็ก้มลงเอามือค้ำข้างๆ สะโพกเธอ แล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ “พี่ไม่อยากให้พลอยเป็นของใครนอกจากพี่คนเดียว” สัตยาบอกแล้วมองเธอด้วยสายตาที่เยิ้มอย่างคนเมา “พี่ใหญ่” พลอยไพลินครางชื่อเขา ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะพูดอย่างนี้ออกมา “พี่ใหญ่เมาแล้ว พลอยว่ากลับห้องเถอะค่ะ” พลอยไพลินบอกเขาเสียงอ่อน ลมหายใจที่เป่ารดใบหน้าเธอ มันทำเอาพลอยไพลินนั้นเริ่มลังเลว่าอยากให้เขาไปจริงไหม เธอผลักเขาออกแล้วพยายามจะลุกขึ้นแต่ว่าสัตยาผลักเธอลงไปนอนแล้วทาบทับเธอเอาไว้ “พี่ใหญ่อย่าค่ะ” พลอยไพลินห้ามเขาเสียงแผ่ว “เป็นของพี่นะพลอย พี่เก็บความรู้สึกต่อไปไม่ไหวแล้ว” สัตยาบอกแล้วก้มลงจูบปากของพลอยไพลินที่กำลังอึ้งกับคำขอของเขาอยู่ เธอลังเลว่าจะทำตามใจหรือว่าจะปฏิเสธเพราะรู้สึกผิดต่อพี่สาว แต่ว่าเมื่อโดนสัตยาจู่โจมเธอก็ไม่คิดอะไรอีกแล้วยอมให้เขาจูบนำเธอไปโดยไม่ขัดขืน สัตยาค่อยๆ พาร่างเธอขยับขึ้นไปนอนที่กลางเตียงแล้วจัดการกอดจูบเธอพร้อมๆ กับลูบไล้เธออย่างแผ่วเบา ค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้น โดยที่พลอยไพลินนอนนิ่งยอมให้เขากระทำอย่างเต็มใจ “พลอยน่ารักที่สุด” เขากระซิบบอกเธอ แล้วลุกขึ้นนั่ง สัตยายิ้มที่เธอหลับตาเพื่อหลบสายตาเขา การที่พลอยไพลินไม่ปฏิเสธมันทำให้สัตยานั้นโล่งใจและรู้สึกมีความหวังว่าเธอนั้นอาจมีใจให้กับเขาอยู่เช่นกัน หลังจากถอดเสื้อผ้าออกไปจนหมด สัตยาก็ทาบทับร่างของเธออีกครั้งแล้วจูบเธออย่างดูดดื่ม แล้วเลื่อนไปไซร้ซอกคอเธอ ขณะที่พลอยไพลินก็เลื่อนมือกอดแผ่นหลังของเขาแล้วลูบไล้มันไปมาสลับกับจิกเบาๆ เพื่อระบายความเสียวซ่าน เมื่อเขานั้นดูดยอดอกของเธออย่างดูดดื่ม “พี่ใหญ่” พลอยไพลินครางชื่อเขาเบาๆ แล้วแอ่นสะโพกเข้าหาเขาอย่างเรียกร้อง “เป็นของพี่นะพลอย เป็นของพี่คนเดียว” สัตยาบอกเสียงพร่าแล้วจัดการสอดใส่เข้าไปในตัวเธอ พลอยไพลินจิกแผ่นหลังเขาแน่น สัตยาจูบเธอแล้วดันแท่งลำเข้าออกช้าๆ “ขอโทษที่พี่ใจร้ายกับพลอย พี่ทำไปเพื่อปิดบังความรู้สึกของตัวเองที่มี ไม่รู้ว่ารักพลอยไปตั้งแต่ตอนไหน” สัตยาบอกเสียงกระเส่าแล้วดันสะโพกเข้าออกไม่หยุด พลอยไพลินได้ยินคำบอกรักจากเขาก็กอดเขาแน่น น้ำตาเธอไหลออกมา เขาสารภาพรักกับเธอ ถึงส่วนหนึ่งเกิดเพราะความเมาก็ตาม ถึงจะดีใจแต่ก็ยิ่งรู้สึกผิดที่เขานั้นบอกรักเธอ เพราะนั่นหมายถึงเขาไม่ได้รักพี่สาวเธอแล้ว แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่ามันคือคำพูดลอยๆ ของคนเมาและมีอารมณ์ เลยพูดออกมาเพื่อให้เธอยอมเขาง่ายดาย พลอยไพลินไม่กล้าพอที่จะบอกรักเขาตอบ เธอมั่นใจว่าเธอเองก็รักเขาเช่นกัน แต่ก็ยังไม่กล้าพอที่จะบอกเขา ยังคงคิดถึงผลที่จะตามมา และกลัวว่าจะมีคนคิดว่าเธอฉวยโอกาสที่พี่สาวตายไปคว้าเอาพี่เขยมาเป็นของตัวเอง และกลัวว่าคำบอกรักของเขานั้นอาจเป็นแค่คำลวง สัตยายังคงเคลื่อนไหวอย่างเป็นจังหวะอยู่บนร่างของพลอยไพลิน เขาไม่ได้ออกแรงมากเพราะต้องการทะนุถนอมร่างบอบบางด้านล่างนี้ในครั้งแรก เธอแอ่นสะโพกรับกับสะโพกเขาอย่างเป็นจังหวะ ครางเบาๆ ในลำคอแล้วจิกข่วนแผ่นหลังของเขาไม่หยุด จนในที่สุดพลอยไพลินก็ถึงเส้นชัย เธอจิกไหล่ของเขาทั้งสองข้าง เกร็งสะโพกตอดรัดเขาอย่างรุนแรง แล้วค่อยๆ คลายมือที่จิกเขาออกแล้วตัวอ่อนลง สัตยาที่ทนต่อแรงตอดรัดไม่ไหว เขาเร่งสะโพกถี่ขึ้นแล้วปลดปล่อยออกมา ก่อนจะค่อยๆ ทิ้งตัวนอนข้างๆ เธอ “พลอย” เขาเรียกชื่อเธอเสียงเบาแล้วขยับเข้าไปกอดเธอเอาไว้จากด้านหลัง ดึงผ้าห่มมาคลุมร่างของเขาและเธอเอาไว้ พลอยไพลินไม่ตอบ แกล้งทำเป็นหลับ เธออับอายกับเรื่องที่เกิดขึ้น หากเธอขัดขืนเขาสักนิดก็คงไม่รู้สึกอับอายถึงขนาดนี้ เมื่อสัตยาเห็นว่าเธอไม่ตอบ เขาก็ยกศีรษะเธอขึ้นแล้วสอดแขนไปรองเอาไว้ ใช้มืออีกข้างรั้งเธอเข้ามานอนชิดเขาแล้วกอดเธออยู่อย่างนั้นจนหลับไปจริงๆ พลอยไพลินลืมตาขึ้นมาท่ามกลางความมืด เธอสับสนและคิดว่าพรุ่งนี้เธอจะมองหน้าเขาอย่างไร แล้วเขารักเธอจริงหรือว่าเขาแค่พูดให้เธอยอมเขาเท่านั้น ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นเธอคงไม่มีหน้าอยู่ที่นี่อีกแล้ว **********************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม