เรื่องที่ 2 รักใกล้ตัว (1/3)

2644 คำ
รสรินเป็นนักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ ทุกๆ เช้าเธอต้องเดินทางไปทานอาหารเช้าที่โรงอาหารข้างตึกคณะบริหารเพราะที่นี่ใกล้กับหอพักภายในมหาวิทยาลัยที่เธออาศัยอยู่มากที่สุด เพราะมหาวิทยาลัยมีโรงอาหารสองที่ คือโรงอาหารกลาง และโรงอาหารที่อยู่ข้างตึกคณะบริหารธุรกิจเท่านั้น ทุกเช้ามาวินจะมายืนรอเธอที่หน้าหอพักหญิงเพื่อเดินไปกับเธอเหมือนทุกครั้ง ทั้งสองเป็นเพื่อนที่เรียนสาขาเดียวกัน แต่สำหรับมาวินแล้วเขาคิดกับรสรินมากกว่าเพื่อน “ทำไมต้องไปกินข้าวที่ข้างตึกบริหารทุกวันด้วย โรงอาหารกลางอยู่ใกล้คณะเรามากกว่าอีก อาหารที่นี่น่าเบื่อจะตาย” มาวินบ่นออกมา “มันใกล้หอ กินเสร็จก็เดินย่อยไปเรียนพอดี กินที่โรงอาหารกลางแล้วขึ้นตึกไปเรียนท้องอืดพอดี” รสรินบอกเขาแล้วรีบจองที่นั่งที่เดิมที่นั่งทุกวัน “ไม่ต้องทำมาเป็นพูดหลักการ ฉันรู้หรอกว่าแกมานั่งมองผู้ชาย” มาวินบอกแล้วทำหน้าหมั่นไส้เธอ “ถ้ารู้แล้วแกจะถามทำไมล่ะ” รสรินบอก จริงๆ แล้วนอกจากเหตุผลที่ว่าที่โรงอาหารนี้อยู่ใกล้หอพัก จริงๆ เหตุผลหลักก็คืออยากเจอหน้าชัยรัฐ นักศึกษาชั้นปีที่สามของคณะบริหารธุรกิจ ที่เธอตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกเจอตั้งแต่มาเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ “ก็เพราะรู้ไง ฉันถึงเบื่อ” มาวินบอก แล้วเดินไปซื้ออาหารให้เธอเหมือนอย่างที่เคยทำทุกวัน ส่วนรสรินก็เอาแต่นั่งค้ำคางมองดูชัยรัฐที่นั่งกับกลุ่มเพื่อนอยู่โต๊ะประจำเหมือนเช่นเคย มาวินเดินมาแล้วยื่นจานข้าวให้เธอ นั่งลงข้างๆ เธอแล้วมองดูรุ่นพี่ตรงหน้าด้วยสายตาที่อิจฉาปนหมั่นไส้ “ชอบก็ไปจีบเลยสิ รอทำไมตั้งสองปี” มาวินพูดประชด “อืม ก็ดีนะ จริงสิฉันควรเข้าไปบอกพี่เขาตรงๆ ว่าชอบ” รสรินบอกแล้วทำท่าจะลุกขึ้นไปจริงๆ มาวินดึงมือเธอให้นั่งลงด้วยความร้อนใจกลัวว่าเธอจะทำจริงๆ “ปล่อย ฉันจะลุกไปซื้อน้ำ” รสรินบอกแล้วยิ้มขำให้กับมาวินที่คิดว่าเธอจะไปสารภาพรักกับชัยรัฐจริงๆ มาวินเลยแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่รสรินไม่ได้คิดจะทำอย่างนั้นจริงๆ ********************** พอเลิกเรียนทั้งสองก็เดินกลับหอพักพร้อมๆ กัน เพื่อนๆ สาขาเดียวกันชอบแซวว่าทั้งคู่นั้นเป็นคู่หูแม่ลูกกันเพราะมีรสรินที่ไหนต้องมีมาวินที่นั่น “นี่แกตามฉันต้อยๆ นี่ไม่เบื่อบ้างหรือไง” รสรินถามเพื่อนสนิทด้วยความสงสัย “ลงเรียนเหมือนกัน พักหอในเหมือนกัน ไม่ให้ไปไหนมาไหนกับแก จะให้ฉันไปกับใครล่ะ” มาวินบอกกลบเกลื่อนความจริงว่าเขาชอบเธอและอยากอยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลา “ตอนเย็นไปกินข้าวที่หลังมอไหม วันนี้อยากกินบุฟเฟ่ต์หมูกระทะร้านหรูๆ บ้าง” รสรินชวนเขา “อืม ไปสิ” มาวินรับปากแล้วแอบยิ้มที่จะได้ไปทานอาหารข้างนอกกับเธอ แต่พอไปถึงร้านมาวินก็หุบยิ้มลง เมื่อเห็นว่าชัยรัฐกับเพื่อนก็มานั่งทานที่ร้านหมูกระทะนี้เหมือนกัน “นี่แกรู้หรือเปล่าว่าพี่รัฐมาที่นี่” มาวินถาม “บ้า ฉันไม่รู้ โชคดีชะมัด” รสรินพูดแล้วทำตาเป็นประกายใส่ชัยรัฐที่นั่งอยู่โต๊ะตรงข้าม ชัยรัฐรู้สึกตัวว่าโดนมองอยู่เขาหันมาสบตากับรสริน แล้วพบว่าเธอรีบหลบตาเขาด้วยความเขินอาย ชัยรัฐหันไปพูดอะไรบางอย่างกับเพื่อนๆ ของเขาแล้วหันมามองรสรินด้วยความสนใจอีกรอบ “พี่รัฐยังมองฉันอยู่ไหม” รสรินถามมาวินที่นั่งข้างเธอ เขาชอบนั่งข้างเธอเสมอแทนที่จะนั่งตรงข้ามกันเหมือนอย่างคนทั่วไป “มองมาเรื่อยๆ สงสัยพี่รัฐรู้ตัวว่าแกไปแอบมองขาอ่อนเขา” มาวินบอก “ไอ้บ้า” รสรินว่าแล้วเงยหน้าขึ้นก็เห็นชัยรัฐนั้นมองเธออยู่ แล้วพอเขาเห็นเธอมองเขาก็ลุกขึ้นแล้วเดินมาหาเธอ ท่ามกลางสายตาของเพื่อนๆ ของเขาที่มองมาอย่างสนใจ “สวัสดีครับ ขอนั่งด้วยคนได้หรือเปล่า” ชัยรัฐถามเสียงนุ่มอย่างสุภาพ “เอ่อ ค่ะ ได้ค่ะ” รสรินตอบเสียงสั่นด้วยความตื่นเต้น “คือพี่รู้สึกว่าเราเจอกันบ่อยมากที่โรงอาหาร แต่ว่าพี่ไม่เคยทักเราเสียที” ชัยรัฐบอกแล้วยิ้มให้ รสรินนั่งยิ้มด้วยความเขินอายจนมาวินหมั่นไส้ “เพื่อนผมชื่อริน วิศวะไฟฟ้าปีสอง โสด” มาวินพูดแทนเธอที่กำลังเขินอยู่ “พี่ชื่อรัฐ อยู่บริหารปีสาม” ชัยรัฐบอกแล้วยื่นโทรศัพท์ให้รสริน เธอทำหน้างงเล็กน้อย สักพักหน้าก็แดงเรื่อ มาวินใจหายเขาไม่คิดว่าระดับอดีตเดือนคณะบริหารปีสามอย่างชัยรัฐจะขอเบอร์โทรศัพท์ของสาววิศวะที่ท่าทางกระโดกกระเดกอย่างเธอ ที่ไม่มีเรียบร้อยเหมือนสาวๆ คณะอื่นเลยสักนิด “กดเบอร์รินให้พี่หน่อยสิ” ชัยรัฐบอก รสรินรีบคว้าเอาโทรศัพท์ของเขามากดแล้วส่งคืนให้เขาด้วยความเขินอายและตื่นเต้น มาวินจุกจนพูดอะไรไม่ออกเลยได้แต่ทานหมูกระทะตรงหน้าเพื่อกลบเกลื่อนความเสียใจเอาไว้ ชัยรัฐยิ้มให้รสรินและมาวินก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะของตัวเองแล้วกดโทรออกหารสริน แล้วชูโทรศัพท์ให้เธอรู้ว่านั่นคือเบอร์ของเขาที่กำลังโทรเข้าไป แล้วเขาก็วางสายหันไปคุยกับเพื่อนๆ ต่อ มาวินพยายามเก็บความเสียใจแล้วแซวรสรินจนเธอเขินอย่างหนักจนทานหมูกระทะได้ไม่เต็มอิ่ม เพราะต้องสงวนท่าทีให้ดูเรียบร้อย จะมูมมามยัดใส่ปากอย่างแต่ก่อนก็คงไม่ได้แล้ว “อิ่มยัง จ่ายตังค์แล้วกลับกันเถอะ” มาวินชวนรสรินกลับ เธอพยักหน้าตกลง มาวินก็ยกมือขึ้นเรียกเด็กที่ร้านมาคิดเงินทันที เป็นจังหวะเดียวกันกับโต๊ะของชัยรัฐที่กำลังจะกลับเหมือนกันพอดี ชัยรัฐเดินมาที่โต๊ะของพวกเขาแล้วขอไปส่งรสรินกับมาวินที่หอพัก รสรินพยักหน้ารับแล้วชวนมาวินกลับด้วย เขาเลยต้องพยักหน้ารับอย่างเจ็บปวดลึกๆ ********************** ชัยรัฐไปส่งรสรินและมาวินแล้วเขาก็กลับมาที่ห้องด้วยหัวใจที่เต้นแรง เขาเจอรสรินทุกวันที่โรงอาหารในตอนเช้าแต่ไม่เคยทักเธอเลยเพราะเพื่อนๆ ของเขาบอกว่าเธอนั้นไม่เหมาะสมกับเขา รสรินทานข้าวทีไรก็เลอะปากตลอด ทานคำใหญ่ ทานเร็วเหมือนว่ากำลังรีบ ทั้งๆ ที่ทานเสร็จก็ยังคงนั่งคุยกับมาวินอยู่ที่โรงอาหารอยู่อย่างนั้น และชัยรัฐก็มั่นใจว่ารสรินนั้นแอบมองมาทางเขาอยู่บ่อยๆ เธอคงใจตรงกับเขาอย่างแน่นอน ชัยรัฐรวบรวมความกล้าจะเข้าไปทักเธออยู่หลายครั้ง แต่ว่าก็กลัวว่าเพื่อนจะรับไม่ได้เพราะว่ารสรินนั้นดูเป็นสายลุยและไม่มีความเรียบร้อยเอาเสียเลย แต่ครั้งนี้เขาทนไม่ไหวจริงๆ เมื่อเห็นสายตาที่มาวินแอบมองเธอ และบอกกับเพื่อนว่า เขาอยากลองจีบรสรินดูถ้าจุดบกพร่องที่เธอมีมันส่งผลต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา ชัยรัฐก็จะยอมถอยออกมา และเพื่อนๆ ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะมันคือเรื่องส่วนตัวของชัยรัฐ เพียงแต่พวกเขาเคยมีประสบการณ์กับการคบผู้หญิงมาแล้วเลยไม่อยากให้ชัยรัฐเสียเวลากับคนที่ไม่ใช่ก็เท่านั้น เขาตัดสินใจโทรหารสรินและนัดเธอไปเที่ยวในวันอาทิตย์ที่กำลังจะถึงในอีกสองวันนี้ และรสรินก็ตกลงด้วยความดีใจ ไม่คิดว่าชัยรัฐจะเป็นฝ่ายเข้าหาเธอก่อนแบบนี้ ในวันเสาร์มาวินชวนรสรินมานั่งทำรายงานด้วยกันที่ม้าหินอ่อนบริเวณหน้าหอพัก ทั้งสองช่วยกันทำรายงานจนเสร็จแล้วมาวินก็ชวนรสรินไปดูหนังที่กำลังจะเข้าฉายในวันอาทิตย์ “พรุ่งนี้ไปดูหนังด้วยกันนะ มีหนังใหม่เข้าพรุ่งนี้พอดีเลย” มาวินชวนเธอ “ไม่ล่ะ พอดีไม่ว่าง มีนัดแล้ว” รสรินบอกแล้วยิ้มแป้น “อย่างแกเนี่ยนะมีนัด คิดจะเล่นตัวให้ฉันเลี้ยงหนังใช่ไหม” มาวินถามอย่างรู้ทัน “เปล่า ฉันมีนัดกับพี่รัฐ เขาจะมารับไปเดทกันพรุ่งนี้” “เดทเลยหรือ ไวไปหรือเปล่า ขี้โม้จังเลย” มาวินแกล้งทำเป็นแซว ทั้งที่ในใจเจ็บปวด “ไม่โม้จ้า พี่รัฐชวนฉันไปเดทจริงๆ” รสรินบอกแล้วยิ้มไม่หุบเมื่อพูดถึงชัยรัฐ “ขอให้ได้ขอให้โดนนะเว้ย” มาวินบอก แกล้งทำเป็นสดชื่น “ทะลึ่ง แต่ก็ขอบใจนะ” รสรินบอกแล้วยิ้มให้มาวินด้วยความตื่นเต้นและดีใจ ********************** ชัยรัฐมารับรสรินตามที่นัดหมายกันไว้หน้าหอพักภายในมหาวิทยาลัย หลายคนมองรสรินด้วยสายตาที่ดูอิจฉาที่ชัยรัฐมารับเธอและเปิดประตูรถให้เธออย่างสุภาพแบบนั้น รสรินนั่งรถด้วยหัวใจที่เต้นแรง เธอตื่นเต้นมากจนทำตัวไม่ถูก ชุดที่ใส่มาก็เป็นเสื้อยืดคอกลมกับกางเกงยีนแบบทะมัดทะแมงตามสไตล์ของเธอ ชัยรัฐมองดูเขาก็คิดว่าเธอเป็นตัวของตัวเองดี และเริ่มชวนเธอคุยเพื่อเรียนรู้นิสัยใจคอเบื้องต้นกันก่อน “รินชอบทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ” ชัยรัฐถามเธอ “รินทานได้หมดค่ะ” รสรินตอบเขาอย่างเอียงอาย เธอยังทำตัวไม่ถูกเมื่ออยู่ด้วยกันสองต่อสองในการนัดเจอกันครั้งแรกแบบนี้ “งั้นมื้อเที่ยงพี่จะให้รินเลือกร้านก็แล้วกัน” ชัยรัฐบอก “พี่รัฐชอบอาหารแบบไหนคะ” เธอถามเขา “อย่าถามพี่สิ พี่อยากรู้ว่ารินชอบทานแบบไหน อยากเรียนรู้รินให้มากที่สุด ในแบบตัวของตัวเอง พี่ไม่ชอบหากรินต้องฝืนไปทานอาหารที่ไม่ชอบ ฝืนทำในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำ พี่อยากให้เราสองคนศึกษานิสัยใจคอที่แท้จริงของกันก่อนที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ก้าวขึ้นไปอีกขั้น” ชัยรัฐบอกเธอแล้วอมยิ้มนิดๆ เขินไม่น้อยที่ต้องพูดความรู้สึกออกไปตรงๆ รสรินยิ้มไม่หุบเมื่อโดนเขาพูดตรงๆ กับเธอแบบนี้ เธอบอกเส้นทางไปร้านอาหารที่เธอชอบให้กับเขา แล้วพาเขาไปนั่งทานที่ร้านซึ่งเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวริมทาง “รินชอบทานอาหารง่ายๆ ราคาถูกและอร่อยด้วยค่ะ แต่จริงๆ มีร้านอื่นแนะนำแต่ว่าร้านนั้นเปิดค่ำ เป็นร้านจิ้มจุ่มปลาอยู่แถวหลังมอแต่รถเข้าไปไม่ได้นะคะ ซอยแคบต้องเดินเข้าซอยไปอีกประมาณร้อยเมตร” รสรินบอกเขา พอเขาบอกว่าอยากให้เธอเป็นตัวของตัวเองทุกอย่างมันก็ง่ายขึ้น ชัยรัฐยิ้มพยักหน้ารับทราบสิ่งที่เธอบอก ซึ่งมันก็ไม่ได้แย่อะไร ดูเป็นคนติดดินดีสำหรับเขา พอก๋วยเตี๋ยวมาเสิร์ฟทั้งสองก็เริ่มทานกันอย่างเอร็ดอร่อย รสรินทานแบบที่เป็นตัวของตัวเอง เสียงเคี้ยวเธอดังแจ๊บๆ จนชัยรัฐทนไม่ไหวเลยต้องรวบรวมความกล้าพูดออกมา “พี่ขอโทษนะริน แต่พี่ต้องบอกรินตามตรง เพราะว่าพี่ยังอยากศึกษารินอีกต่อไป” ชัยรัฐบอกเธอด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ “ค่ะ เรื่องอะไรคะ” เธอถามเขา “เอ่อ รินเคี้ยวเสียงดัง ขอโทษนะที่ต้องบอกตามตรง เพราะว่าที่บ้านพี่สอนเรื่องนี้มาตั้งแต่เด็ก” ชัยรัฐบอก “ไม่เป็นไรค่ะ น่าอายจังเลย ขอบคุณที่บอกนะคะ รินจะได้ปรับปรุงตัว” รสรินบอก โล่งใจที่เขาพูดเปิดอกเรื่องนี้กับเธอตรงๆ นั่นหมายความว่าเขาจริงจังกับความสัมพันธ์ในครั้งนี้มากพอสมควร ********************** วันจันทร์มาวินเดินไปรอรสรินที่หน้าหอพักของเธอเหมือนอย่างเช่นเคย แต่ก็พบว่าชัยรัฐมารอรับเธอเช่นกัน ทั้งสองคนจึงได้แต่ยิ้มให้กันแบบเจื่อนๆ เพราะต่างฝ่ายต่างดูออกว่าชอบรสรินด้วยกันทั้งคู่ และชัยรัฐก็ดูออกว่ามาวินแค่แอบรักเพื่อนเท่านั้น เพราะดูเหมือนว่ารสรินยังไม่รู้ตัวเรื่องนี้ รสรินเดินลงมาในชุดนักศึกษาและสวมเสื้อช็อปสีกรมท่าทับเสื้อนักศึกษาเอาไว้ ยิ้มทักทายชัยรัฐและมาวินที่กำลังรอเธออยู่ “แล้วรถพี่รัฐล่ะคะ” เธอถามเขา “จอดไว้ที่คณะแล้วเดินมารับรินนี่ไง” เขาบอกแล้วยิ้มให้เธอ “งั้นเราไปกันเถอะค่ะ” รสรินชวนเขา แล้วหันไปพยักหน้ากวักมือเรียกให้มาวินเดินตามมา วันนี้ชัยรัฐแยกตัวจากเพื่อนเพื่อมานั่งทานอาหารเช้ากับเธอ โดยมีมาวินนั่งข้างรสรินและชัยรัฐนั่งอยู่ตรงข้าม ทั้งสองทานไปสบตากันไปจนมาวินนั้นทนไม่ไหวคิดว่าวันพรุ่งนี้เขาควรเริ่มต้นทานข้าวคนเดียวแล้ว เพราะตอนนี้เขาแทบไม่มีบทบาทอะไรกับรสรินเลย เธอเดินไปซื้ออาหารกับชัยรัฐเองและแทบไม่คุยกับเขาเลย หลังจากทานอาหารเสร็จชัยรัฐก็ขอตัวกลับไปหากลุ่มเพื่อน รสรินและมาวินก็ขอตัวไปเรียน ขณะที่ทั้งสองเดินพ้นจากโรงอาหาร รสรินก็ร้องกรี๊ดออกมาเบาๆ แล้วเขย่าแขนมาวินด้วยความดีใจ “เป็นบ้าอะไร ผีเข้าแต่เช้าหรือยังไง” มาวินถามติดตลก “โอ้ย แกเห็นสายตาที่พี่รัฐมองฉันไหม แกเห็นหรือเปล่าตอนที่เขาเช็ดปากให้ฉัน เมื่อวานตอนไปดูหนังก็ดูแลเทคแคร์ฉันดีมากแก ฟินอ่ะ” รสรินเล่าให้มาวินฟังด้วยความตื่นเต้น “อืม ก็แกกินมูมมาม เลอะไง พี่รัฐถึงเช็ดปากให้ เขาคงรับไม่ได้มั้ง” มาวินบอกแล้วยิ้มกวนๆ ให้เธอ “บ้า ฉันปรับการเคี้ยวใหม่แล้วจ้า ฉันกินมีมารยาทขึ้น แกไม่เห็นหรือยังไง” รสรินเถียงเขา “เห็นสิ แต่ก็เลอะอยู่ดี กินเลอะอย่างกับหมู” มาวินบอกแล้วสาวเท้าเดินหนีเธอไป รสรินไล่ตีเขา แล้วมาวินก็เริ่มวิ่งหลบเธอ หยอกล้อกันเบาๆ เหมือนอย่างที่เคยทำเป็นประจำ พอถึงตอนเลิกเรียนชัยรัฐก็ขับรถมารับรสรินถึงหน้าตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์ เธอเดินขึ้นรถด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ภาพที่โบกมือลามาวินแล้วขึ้นรถไปกับชัยรัฐนั้น เหมือนภาพที่เหมือนจะบอกเขาว่า ต่อไปนี้รสรินคู่หูคนเดิมจะไม่มีอีกแล้ว **********************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม