บ้านบริบูรณ์ทินยไทย
"คุณพ่อ คุณแม่คะ สาลี่มีอะไรจะบอกค่ะ" สาลี่เอ่ยขึ้นขณะที่เธอกำลังร่วมรับประทานอาหารเช้าอยู่กับครอบครัว
"มีอะไร" ทรงวุฒิ พ่อของสาลี่ตอบรับลูกสาวเพียงคนเดียวอย่างไม่ค่อยไว้ใจ ด้วยว่าถ้าหากมีเหตุให้ลูกสาวเปิดอกคุยกับตัวเองทีไรก็ไม่พ้นที่จะทำให้เขาปวดหัวไปเสียทุกครั้งไป
"สาลี่มีแฟนแล้วนะคะ เราคุยๆ กันมาได้หลายเดือนแล้วค่ะ" ในเมื่อเขาไม่คิดที่จะจริงใจกับเธอ เธอก็จำเป็นที่จะต้องดึงตัวช่วยของตัวเองออกมา และตัวช่วยที่ว่านั้นก็คือคมสันต์นั่นเอง
"แกต้องแต่งงานกับคนที่ฉันเลือกในตอนที่แกอายุครบสิบแปดปี หวังว่าแกคงจะยังจำได้ใช่ไหมสาลี่!" ทรงวุฒิตวาดดังลั่นอย่างไม่อยากจะรับฟังในสิ่งที่ลูกสาวพึ่งจะเอ่ยออกมา
"แต่คุณคะ วิไลว่าเราควรรอให้สาลี่เรียนจบปริญญาตรีก่อนนะคะ" คุณหญิงวิไลแทรกอย่างกล้าๆ กลัวๆ สองมือเล็กนั้นยกขึ้นปิดบังใบหน้าที่ยังคงมีรอยช้ำจากน้ำมือของทรงวุฒิเมื่อหลายวันก่อนให้ได้เห็นอยู่จางๆ
"กระแดะ ทีเธอพ่อกับแม่ของเธอยังขายเธอให้พ่อแม่ของฉันตั้งแต่อายุสิบสี่เลย ฉันได้เธอตั้งแต่ประจำเดือนครั้งแรกของเธอยังไม่มาด้วยซ้ำวิไล!" ถ้อยคำหยาบคายของคนเป็นสามีผรุสวาทสาดใส่คนเป็นภรรยาอย่างดูถูกดูแคลน
เขาเกลียดภรรยาคนนี้ของเขาเหลือเกิน ภรรยาที่เขาไม่ได้มีความปรารถนาที่จะได้เธอมาตั้งแต่ทีแรก
ยิ่งมารู้ว่าเธอมีภาวะมีบุตรยาก ส่งผลให้วิไลพึ่งจะได้อุ้มท้องสาลี่ในวัยเกือบสี่สิบปี จนทำให้เขาพลาดโอกาสที่จะมีลูกชายเขาก็ยิ่งเกลียด แต่ถึงอย่างนั้นทรงวุฒิก็ยังไม่มีความกล้ามากพอที่จะมีบ้านหลังเล็กหลังน้อยเพราะกลัวว่าวงศ์ตระกูลของตัวเองนั้นจะมีราคีนั่นเอง
"พ่อ! พอสักทีจะได้ไหม หยุดพูดเรื่องนั้นสักทีจะได้ไหมสาลี่เบื่อ ได้ยินไหมว่าสาลี่ไม่อยากฟัง หยุดด่าว่าแม่ของสาลี่สักที!"
ที่เธอต้องโคจรตัวเองไปในบาร์โฮสต์และเข้าผับดื่มเหล้าอยู่ทุกวันนั้นก็เป็นเพราะตรรกะความคิดที่ว่าจะให้เธอแต่งงานมีสามีในตอนที่เธอมีอายุเพียงแค่สิบสี่ปีเหมือนกับแม่ของเธอในอดีตนี่อย่างไรละ
ถามว่าบาร์โฮสต์กับผับเกี่ยวอะไรกับการที่เธอไม่ต้องแต่งงานตั้งแต่อายุสิบสี่ตามข้อบังคับของพ่อ คำตอบก็คือมันจะมีไอ้บ้าสติดีที่ไหนที่อยากจะคว้าผู้หญิงที่เข้าออกผับกับบาร์โฮสต์ไปเป็นเมียบ้างเล่า...
ถ้าหากใครยังนึกภาพไม่ออก ก็ดูได้จากความคิดของไฟท์เตอร์ที่มีต่อเธอสิ ขนาดไฟท์เตอร์ยังคิดเลยว่าเธอเป็นผู้หญิงเจนจัด แล้วคนที่พ่อจัดหามานั้นจะไม่คิดถึงเรื่องนี้บ้างจริงๆนะหรือ...
และเธอเอาตัวรอดมาได้โดยการใช้วิธีนี้มาร่วมสามปีด้วยกัน...
"ทำไมฉันจะพูดไม่ได้ ฉันจะพูด! จะบอกให้นะว่าถ้าไม่ติดว่าแม่ของแกขี้โรคใกล้ตายขึ้นทุกวันก็คงไม่พ้นที่มันจะคลอดลูกตั้งแต่อายุไม่ทันได้ยี่สิบปีด้วยซ้ำ แล้วถ้าไม่เป็นเพราะความขี้โรคของมันป่านนี้ฉันก็คงจะมีลูกชายไว้สืบสานวงศ์ตระกูลอันสูงส่งของฉันไปแล้ว!"
"คุณก็หย่าให้ฉันสักทีสิทรงวุฒิ หย่าให้ฉันสักทีจะได้ไหมแล้วฉันจะจากไปแต่ตัว ฉันขอแค่ลายมือชื่อของคุณในทะเบียนหย่ามาสามสิบปีแล้วนะ เมื่อไหร่คุณถึงจะยอมหย่าให้ฉันสักที!"
สาลี่มองมารดาที่น้ำตานองหน้าด้วยความรู้สึกสงสาร เหตุการณ์ในตอนนี้มันคงจะเกิดขึ้นกับเธอในภายหลังเป็นแน่ถ้าหากไฟท์เตอร์ยังยกใบทะเบียนสมรสขึ้นมาขู่เธออยู่แบบนี้
เพี๊ยะ!
"แม่!"
"อย่าให้ฉันต้องหมดความอดทนกับเธอวิไล"
ทรงวุฒิตวัดหลังมือลงบนใบหน้าเล็กๆ นั้นเสียจนร่างบางของคุณหญิงวิไลถลาล้มลงอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
"คุณมันเลว ทรงวุฒิ" คุณหญิงวิไลยกมือขึ้นลูบใบหน้าบวมช้ำของตัวเองด้วยความรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าว ดวงตากลมที่รื้นไปด้วยน้ำตานั้นจ้องมองไปยังลูกสาวเพียงคนเดียวที่เธอรักจนหมดทั้งหัวใจ
เธอผิดเอง... ผิดเองที่ยังทนอยู่กับคนอย่างทรงวุฒิเพียงเพราะความคิดโง่ๆ ที่ว่าสักวันหนึ่งความดีของเธอนั้นจะช่วยขัดเกลาให้เขาหันกลับมารักเธอได้
แต่ไม่เลย เขาไม่รัก เขาไม่เคยจะรักเธอเลย เธอโง่... เธอโง่เง่าเหลือเกิน...
"เลวแต่คุณก็รักผมไม่ใช่หรือไง" พูดเพียงเท่านั้นร่างสูงใหญ่ก็ก้าวออกไปจากห้องทานอาหารอย่างไม่นึกสนใจคุณหญิงวิไลที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม
"ฉันมันโง่ที่รักคุณ ทรงวุฒิ" เขาพูดถูกแล้ว เธอรัก เธอเทิดทูลและบูชาเขาจนสุดหัวใจ เธอทำทุกทางแล้วเพื่อที่จะให้เขาหันกลับมารักเธอบ้าง แต่สุดท้ายแล้วเขาก็พิสูจน์ให้เธอได้เห็นแล้วว่า...
อยู่ผิดที่ ร้อยล้านความดีก็ไร้ค่า...
เขาไม่เคยรัก ไม่คิดจะรัก และไม่มีวันจะรัก ไม่ว่าเธอจะดีหรือเพียบพร้อมสักเพียงไหน ไม่รักก็คือไม่รักอยู่ดี...
"พาเขามาหาแม่บ้างนะสาลี่" คุณหญิงวิไลเอ่ยกับลูกสาว หลังจากที่เธอรวบรวมความกล้าอยู่ครู่ใหญ่ในการเผด็จการสามีเป็นครั้งแรกในชีวิต
"แม่คะ..." สาลี่เองก็ถึงกับร้องโฮออกมาเมื่อเธอได้เห็นในสิ่งที่ปรารถนามานาน เธอต้องการเห็นแม่เข้มแข็งและรู้จักแข็งข้อกับพ่อจอมเผด็จการของเธอสักครั้ง
และตอนนี้เธอก็ได้เห็นมันแล้ว...
"แม่จะไม่ยอม จะไม่ยอมอีกแล้ว แม่จะไม่ยอมให้ลูกปวดใจเหมือนแม่ สาลี่คือแก้วตาดวงใจของแม่นะลูก แม่รักหนูนะ แม่สัญญาว่าแม่จะขัดขวางทุกทางเพื่อที่ลูกจะได้ไม่ต้องแต่งงานกับคนที่ลูกไม่ได้รัก สาลี่ แม่รักหนู คนดีของแม่"
"สาลี่รักแม่ค่ะ" สาลี่ถลาเข้าหาร่างเล็กของคนเป็นแม่ที่อ้าแขนรอรับอยู่ ก่อนสองแม่ลูกจะพากันร่ำไห้ออกมาอย่างน้อยใจในโชคชะตาของตัวเอง
"พาเขามานะลูก พาเขามาหาแม่" คุณหญิงวิไลลูบเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนนั้นแผ่วเบาอย่างทะนุถนอม
"ค่ะคุณแม่ หนูจะพาเขามา" คราแรกเธอแค่จะดึงคมสันต์มาเพื่อตลบหลังไฟท์เตอร์ หากแต่ตอนนี้เธอเปลี่ยนใจแล้ว...
เพราะถ้าหากเธอเลือกที่จะทนไฟท์เตอร์ต่อไป อนาคตข้างหน้าก็คงไม่พ้นที่เธอจะตกที่นั่งลำบากเหมือนกับแม่ของเธอ
ถึงเธอกับคมสันต์จะไม่มีใจรักกันในเชิงชู้สาว แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็มั่นใจได้ว่าเขาจะไม่ทำร้ายร่างกายและจิตใจเธอเหมือนที่ไฟท์เตอร์กระทำกับเธออย่างแน่นอน...
น้องจะหาหลัวใหม่แล้ววววววววว