1 - ง่ายดี

906 คำ
Talk ไอริส ย้อนกลับไปกลับไปหลายเดือนก่อน.... “จู่ๆ จะให้น้องหมั้นได้ยังไง พ่อจะทำธุรกิจก็ทำไปแต่อย่าเอาน้องไปเกี่ยว” “ไม่ใช่เรื่องของแก” คุณพ่อละสายตาจากเฮียคานส์มามองฉัน “ไอริสเข้าใจพ่อใช่ไหมลูก” “....ค่ะ” ฉันได้แต่ก้มหน้ายอมรับ เพราะไม่กล้าขัด ถึงจะไม่ต้องการหมั้นกับคนที่พ่อบังคับก็ตาม “ไอริส!!” เฮียทำหน้าดุใส่ฉัน ตอนนี้เฮียคานส์กำลังทะเลาะกับคุณพ่อ เพราะจู่ๆ คุณพ่อก็กลับมาจากต่างประเทศ แถมยังมาบังคับจะให้ฉันหมั้นกับใครที่ไหนก็ไม่รู้ เฮียคานส์ไม่ยอมจึงโวยวาย เฮียคานส์คือพี่ชายแท้ๆ ของฉันเอง “ที่พ่อกลับมาจากอังกฤษเพราะเรื่องนี้เองเหรอครับ หึ!! ถ้าไม่มีผลประโยชน์อะไรผมกับน้องคงไม่มีทางได้เจอหน้าพ่องั้นสินะ” “ไอ้คานส์!! แกไม่รู้อะไรก็หุบปากไปซะ” “อยากหมั้นนักหรือไง!!” เฮียคานส์ถามฉันเสียงดุ ทำให้ฉันเงียบเม้มปากแน่นทันที “พ่อคงจะให้น้องหมั้นกับผู้ชายคนอื่นไม่ได้หรอกครับ” “แกหมายความว่าไง” “ไอริสมีคู่หมั้นอยู่แล้ว” “คู่หมั้น ตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมฉันไม่รู้เรื่อง” คุณพ่อถามเฮียด้วยสีหน้าจริงจัง ไม่ใช่แค่พ่อที่ไม่รู้เรื่อง ตัวฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันไปมีคู่หมั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ เฮียพูดอะไรของเฮียกันนะ “คู่หมั้นของไอริสคือไอ้เลย์ ลูกชายของคุณป้ารสรินไงครับ” “ฮะ เฮีย....” ฉันเบิกตากว้าง เมื่อได้ยินเฮียบอกแบบนั้น มันจะเป็นอย่างที่เฮียพูดได้ยังไง ฉันกับพี่เลย์เรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก อีกอย่างเรื่องหมั้นก็ไม่มีใครเคยพูดถึงเลยสักครั้ง เฮียเอาอะไรมาพูด “พ่อใช้น้องเป็นเครื่องมือทางธุรกิจไม่ได้แล้วนะครับ” เฮียกระตุกยิ้มมุมปาก “ทำไมฉันไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน พวกแกทำอะไรข้ามหน้าข้ามตาฉันแบบนี้ได้ยังไง!!” พ่อโวยวายเสียงดัง “ก็พ่อเอาแต่กกอยู่กับเมียใหม่ไงครับ ผมกับน้องจะเป็นยังไงพ่อเคยสนใจหรือไง” คุณพ่อพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะเดินออกไปจากบ้านด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์ ฉันคิดว่าพ่อจะอยู่กินข้าวด้วยกันสักมื้อ เพราะฉันไม่ได้เจอพ่อนานแล้ว แต่ไม่เลย คงเป็นอย่างที่เฮียว่า ถ้าไม่มีเรื่องอะไรพ่อก็คงไม่กลับไทยมาเจอเราสองคน เฮียคานส์พ่นลมหายใจออกมาแรงๆ อย่างหงุดหงิด และสบถคำหยาบออกมา “เฮียไปบอกพ่อแบบนั้นได้ไงคะ แล้วถ้าพ่อไปถามป้ารสรินขึ้นมาจะทำยังไง” “เรื่องนั้นเฮียจัดการเอง” “จัดการยังไงเหรอคะ...?” ฉันถามอย่างไม่เข้าใจ “เธอคงต้องหมั้นกับไอ้เลย์ไปก่อน” ฉันเบิกตากว้างอีกครั้งเมื่อได้ยินคำตอบและสีหน้าที่แสนจะจริงจังของเฮีย “มะ หมั้นเหรอคะ หนูไม่คิดว่าเฮียจะ...” “หรืออยากหมั้นกับคนที่พ่อหาให้ ?” เฮียถามสวนขึ้น ทำให้ฉันปิดปากเงียบทันที “ถึงไอ้เลย์มันจะไม่ใช่คนดี แต่มันก็ไว้ใจได้” “ละ แล้วพี่เลย์จะยอมเหรอคะ เขาไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย” “มันต้องยอม ยังไงมันก็ขัดคำสั่งแม่มันไม่ได้” เฮียตอบอย่างมั่นใจ ฉันได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ และยอมอยู่เฉยๆ ให้เฮียเป็นคนจัดการเรื่องทั้งหมดเอง ปัจจุบัน วันนี้พี่เลย์มารับฉันที่มหาวิทยาลัย แต่เขาไม่ได้เข้าไปรับที่หน้าคณะ ให้ฉันเดินออกมาขึ้นรถที่ด้านหน้ามหาวิทยาลัยแทน ถึงจะเดินไกลหน่อยแต่ฉันก็ไม่ได้บ่นหรือว่าอะไร ตอนนี้สถานะของฉันกับพี่เลย์ถือว่าเป็น ‘ว่าที่คู่หมั้น’ อย่างเต็มตัวแล้ว ในตอนแรกฉันก็ไม่คิดว่าเรื่องราวมันจะปานปลายและจริงจังมากขนาดนี้ “พี่เลย์จะไปส่งไอริสที่บ้านเลยเหรอคะ” ที่ถามแบบนั้นก็เพราะว่าพี่เลย์เขาเอาแต่เงียบ ชวนให้อึดอัดเวลานั่งรถด้วย ฉันก็เลยหาเรื่องคุย พี่เลย์ละสายตาออกจากถนน หันมามองฉัน “ทำไม หรืออยากจะไปนั่งเล่นที่ห้องฉันก่อน ?” ก้มหน้าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เห็นว่านี่มันก็เพิ่งจะบ่าย “ไปห้องพี่เลย์ก่อนก็ได้ค่ะ เผื่อถ้าห้องรกเดี๋ยวไอริสจะได้เก็บให้ ^_^” “หึ!! ไปกับผู้ชายง่ายดีนิ” พูดจบพี่เลย์ก็เบือนหน้าไปมองถนน ซึ่งฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ว่าที่พี่เลย์พูดมันหมายความว่ายังไง ฉันทำท่าคิด ไม่รู้ว่าคนที่เขาเป็นคู่หมั้นกันต้องทำอะไรแบบไหนบ้างนี่สิ ถึงจะเป็นการหมั้นโดยที่เราต่างไม่เต็มใจทั้งคู่ แต่ก็ควรเข้ากันได้มากกว่านี้สิเนอะ แบบนี้มันชวนอึดอัดเกินไปแล้ว ก่อนหน้าพี่เลย์ก็ยังพูดคุยกับฉันบ้าง แต่พอรู้ว่าจะได้หมั้นกัน เขากลับเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน แถมยังขี้หงุดหงิดใส่ฉันอีกต่างหาก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม