“แกจับฉันมาเรียกค่าไถ่ใช่ไหม อยากได้เงินเท่าไหร่ก็บอกมาสิ ฉันมีเงินนะ”
จอมขวัญเริ่มหาทางเจรจา หากพวกโจรต้องการเงิน เธอมีเงินส่วนตัวไม่น้อย อาจจะแลกอิสรภาพได้ ถ้าพวกมันยอมตกลง
“พาฉันไปกดเงินให้แกก็ได้ ไม่ต้องพามาซ่อนไกลถึงในป่าแบบนี้หรอก อยากได้กี่ล้าน ฉันจะให้”ไป
จอมขวัญยื่นข้อเสนอ หวังให้โจรเคราดก ยินดีปล่อยตัวเธอ
“แล้วคิดว่าค่าตัวเธอมันเท่าไหร่ล่ะ ลองประเมินมูลค่าของตัวเองให้ฉันดูหน่อยสิ”
เกริกกระตุกยิ้มหยัน กวาดสายตามองไปทั่วร่างงามคล้ายประเมิน สายตานั้นทำให้คนถูกมองยกมือขึ้นกอดอก เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกละอองน้ำทำให้มองเห็นผิวเนื้อรำไร ทรวงอวบงามจึงไม่รอดพ้นจากสายตาของเขา
“ใครจะตีราคาตัวเองได้ล่ะ แกอยากได้เท่าไหร่ก็บอกมาสิ”
จอมขวัญไม่กล้าตีราคาตัวเอง เธอไม่ใช่ผู้หญิงมีค่าตัวจะได้บอกถูกว่าราคาเท่าไหร่ สายตาวาววับของอีกฝ่ายที่ทอดมองมา มันทำให้คนถูกมองรู้สึกขนลุกเกรียว ภาวนาขออย่าให้มันคิดอกุศลกับเธอเลย อุตส่าห์ดูแลตัวเองมาอย่างดี ต้องมาตกเป็นเมียโจรเธอคงรับไม่ได้ ให้ตายเสียดีกว่า
“หึ ค่าตัวลูกสาวของนายเลิศ อย่าว่าแต่ล้านเลย สลึงหนึ่งยังแพงไปมั้ง”
เขาแค่นยิ้มหยัน ประเมินค่าตัวเธอต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ทำเอาคนฟัง โมโหขึ้นมา
“ไอ้บ้า ค่าหัวแกน่ะสิ สลึงหนึ่ง ตัวฉันมีค่ามากกว่าทองอีกย่ะ แกต่างหากที่เป็นคนไร้ค่า เที่ยวปล้นชาวบ้านกิน”
จอมขวัญผุดลุกขึ้นยืนประจันหน้าอย่างลืมกลัว เกิดมาไม่เคยมีใครดูถูกเหยียดหยามเธอมาก่อน บิดากับพี่ชายกับคนรับใช้ในบ้าน ล้วนยกย่องเอ็นดูเธอยิ่งกว่านางฟ้า แต่ไอ้โจรปากมอมคนนี้ บังอาจดูหมิ่นเธอ
“เหอะ ร่างกายมีค่ามากกว่าทองเหรอ”
เกริกเหยียดริมฝีปาก ปัดสายตามองหญิงสาวอย่างประเมิน แล้วยักไหล่
“ร่างกายของผู้หญิงทุกคนล้วนมีค่าดั่งทอง แต่ถ้าความสาวความสวยเปื้อนราคี ก็จะเรียกว่าผู้หญิงดอก... อืม เรียกเพราะๆ ว่าสุวรรณบุปผา”
“บ้า! แกมันถ่อย สถุน เลี้ยงหมาไว้เต็มปาก พ่อแม่ไม่สั่งสอนหรือไง ถึงได้ต่ำช้าแบบนี้”
จอมขวัญกรีดร้องด้วยความโมโหสุดขีด พลั้งปากด่าทอถึงบุพการีของอีกฝ่ายอย่างลืมตัว นั่นทำให้คนได้ยินตาลุกวาบขบกรามแน่นด้วยความโกรธ
“ใช่ ! พ่อฉันไม่มีโอกาสสั่งสอนฉัน ท่านตายไปอย่างเวทนา ชีวิตฉันถึงได้กลายเป็นไอ้ถ่อยแบบนี้ไง”
เกริกตะคอกใส่เสียงกร้าว กระชากร่างเล็กมาบีบไหล่ด้วยความโมโห ลูกสาวนายเลิศปากจัดด่าทอถึงพ่อแม่คนอื่น นี่คงตามใจกันจนเสียคน ถึงได้ปากคอเราะราย ราวกับเกิดในตลาดสด
“โอ๊ย เจ็บนะ”
จอมขวัญพยายามดิ้นหนี เอามือจิกท่อนแขนเขาให้ปล่อย ดวงตาคมดุกร้าวราวกับมีเพลิงอยู่ในลูกตาสีดำจัดนั้น มันน่ากลัวจนเธอสั่นไปทั้งตัว นึกเสียใจที่พลั้งปากด่าว่าพ่อแม่ของอีกฝ่าย
“ไอ้บ้า ปล่อยนะ!”
จอมขวัญอยากขอโทษ แต่ปากไม่ยอมพูดออกไป ท่าทางการแสดงออกยิ่งเพิ่มแรงโทสะให้อีกฝ่ายจนเหลืออด
“ปากเสียแบบนี้ มันต้องล้างปากให้สะอาด”
เกริกลากร่างเล็กของหญิงสาวมาที่ท้ายแพ จอมขวัญพยายามดิ้นหนีแต่ก็สู้แรงคนตัวโต ที่กำลังโมโหจนสติหลุดไม่ได้ เขาผลักเธอล้มลงคร่อมตัวทับบนแผ่นหลังบาง ใช้น้ำหนักตัวกดไม่ให้เธอดิ้นหนี มือขยุ้มผมยาวสลวยที่มัดเป็นเปียจับให้หันมามองเขา ใบหน้าคร้ามคมถมึงถึงราวกับอสูรร้าย ริมฝีปากกระตุกรอยยิ้มร้ายกาจ ขณะกดศีรษะของเธอจุ่มลงไปในน้ำ
“กรี๊ดดด ปล่อยฉัน แค่ก แค่ก”
จอมขวัญกรีดร้องด้วยความตกใจ แล้วก็สำลักน้ำจนแสบจมูกไปหมด เขากดศีรษะของเธอจุ่มน้ำทำให้หายใจไม่ออก หญิงสาวพยายามดิ้นใช้มือจิกมือหนาที่ขยุ้มผมให้ปล่อย แต่เขาก็ไม่เบาแรงกดศีรษะเธอให้หน้ามุดน้ำอยู่แบบนั้น
“ยายคุณหนู ล้างปากซะ ล้างความโสมมออกจากปากให้หมด ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
เกริกหัวเราะเสียงดังดวงตาวาวโรจน์ มือหนากดศีรษะเล็กให้แช่อยู่ในน้ำ มองดูเธอดิ้นทุรนทุรายอย่างสะใจ ในนาทีนี้เขาไม่มีความเห็นใจ ไม่มีความสงสารจะให้ ผู้หญิงคนนี้ร้ายกาจนัก เขาต้องสั่งสอนให้หลาบจำ เธอจะได้ไม่ปากเปราะเที่ยวด่าว่าบุพการีของคนอื่นแบบนี้
“แค่ก แค่ก ไอ้บ้า แกทำกับฉันแบบนี้ทำไม กรี๊ดดด”
พอเขาดึงเธอพ้นน้ำ ปากคมก็ด่าทอเขาอีก เกริกกดศีรษะเธอมุดน้ำอีกครั้ง มองดูร่างเล็กดิ้นกระแด่วๆ ช่วยตัวเองไม่ได้อย่างสาใจ เขาจะทำให้เธอสำนึก จะลงโทษให้หลาบจำ เธอจะได้เข็ดไม่กล้าปากร้ายอีก
“ปากเสียก็ต้องล้างปากให้สะอาด ถ้าด่าฉันอีก ฉันก็จะจับเธอล้างปากแบบนี้ไปเรื่อยๆ”
“แค่ก แค่ก ปล่อย... ฉันหายใจไม่ออก...”
เสียงนี้ดังอยู่ในคอ เจ้าของเสียงแสบจมูกหายใจไม่ออกจนอกแทบระเบิด ไอ้โจรโรคจิตมันกำลังทรมานเธอให้ตาย จอมขวัญดิ้นรนช่วยเหลือตัวเองสุดกำลัง ยิ่งดิ้นก็ยิ่งอ่อนแรง ยิ่งทรมานแทบขาดใจ มือหนากดศีรษะเธอจุ่มน้ำไม่ให้เงยหน้าหายใจ
“เฮือก แก ไอ้...”
เกริกกระชากศีรษะของจอมขวัญขึ้นพ้นน้ำ ก่อนที่เธอจะหมดลมหายใจ หญิงสาวหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก่อนจะหมดสติไป ร่างน้อยอ่อนระทวยดวงตาปิดสนิทหมดสิ้นพิษสง
“เหอะ ปากดีนัก”