น้ำเย็นเข้าลูบ

1832 คำ
เช้าวันต่อมา สถานีรถไฟ “ หนูไปก่อนนะคะคุณแม่ ฮือออออ “ หลังจากที่คุณหญิงบัวมาหาลูกชายวันนั้นระหว่างท่านก็ต้องบินไปดูงานที่จีนกับสามีอย่างเร่งด่วนเลยไม่สามารถมารับลูกสะไภ้ได้เลยจัดการให้เรื่องนี้ให้ทะนายความเป็นคนจัดการให้แต่ว่าทนายความก็ดูเหมือนจะไม่ว่างมาจัดการให้ได้แต่ให้เลขามาจัดการให้ คนฉลาดอย่างเปรมพอรู้แบบนั้นเธอรู้ได้ทันทีว่าเรื่องนี้เป็นแผนของทางนั้นที่ไม่อยากมารับเลยบ่ายเบื่องว่ายุ่งเรื่องงาน เมื่อเธอคิดได้แบบนั้นเธอก็เลยไม่อยากรบกวนให้ใครมาส่งเธอในเมื่อคนทางนั้นไม่ยินดีตอนรับเธอ ก็ดีแล้วนี่เพราะเธอก็อยากให้เรื่องแบบนี้เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว เปรมโบกมือลาพ่อกับแม่ที่มาส่งเธอที่หัวลำโพง คุณหญิงอุษามณีกับไกรสรได้แต่โบกมือลาลูกสาวที่กำลังค่อยๆจากไปช้าๆเมื่อรถไฟกำลังวิ่งออกไป “ ที่รักนี้เราทำบาปกับลูกเรารึเปล่าคะทั้งที่เรื่องเรียนของลูกไม่ได้เกี่ยวกับหนี้ที่เราเอามาเลย เงินเก็บที่เราเก็บให้ลูกเพื่อเรียนเราก็เอามาให้ลูกเรียนอย่างสบาย แต่หนี้100ล้านนั้นเราสองคนเป็นคนก่อนะคะ ฮือออออ ฮืออออ “ อุษากอดสามีทั้งน้ำตาเมื่อลูกสาวหายลับไปจากสายตา ไกรสรไม่ใช่ว่าเขาไม่เสียใจ เขาก็เสียใจไม่แพ้เมียเช่นเดียวกันแต่ว่าเขาเสียบริษัทกับบ้านไปไม่ได้อย่างน้อยๆเขาก็ยังมีที่ให้ลูกสาวกลับมาอยู่ถ้าลูกสาวไม่สามารถอยู่กับลูกชายของคุณหญิงบัวได้ เพราะในสัญญาระบุว่าภายในหนึ่งปีถ้าเด้กทั้งสองคนอยู่ด้วยกันไม่ได้รักกัน เรื่องหนี้สินเป็นอันจบกันสัญญาต่างๆก็เป็นอันยกเลิก เมื่อไกรสรคิดแบบนั้นเขาก็เลยต้องจำใจโกหกลูกสาวไป ฉึกฉัก ฉึกฉัก ฉึกฉัก ปู่นปู๊นๆ เสียงรถไฟวิ่งออกมาด้วยความเศร้าทั้งน้ำตาของเปรม หญิงสาวซื้อตัวรถไฟนอนมาด้วยความที่การเดินทางครั้งนี้ไกลมากเธอไม่อยากนั่งแบบธรรมดาเธอก็เลยซื้อแบบนอนมา เธออยากใช้ความคิดว่าจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี ในเมื่อทางนั้นเขาไม่ชอบเธอ เปรมก็เลยต้องใช่ความคิดต่างๆนานาว่าจะต้องทำยังไงดีที่จะไม่ได้ประทะกับชายคนนั้น เวลาต่อมา สถานีบ้านป่าปือ “ สวัสดีคะ หนูจะไปบ้านหลังนี้อะคะ “ เปรมเอาที่อยู่ ที่เธอเขียนในกระดาษยื่นให้ชายชราที่เป็นคนขี่สามล้อ เมื่อชายชราเห็นเขาก็ยิ้มเพราะรู้จักดีว่าเป็นบ้านใคร “ โอ้ นี้บ้านคุณเอกไปๆหนูเดี๋ยวลุงไปส่งได้ๆ “ ลุงชรา ที่ปั่นสามล้อยิ้มออกมาก่อนจะพาเธอปั่นมายังบ้านของคนที่ชื่อเอก ระหว่างทางเธอก็จะคอยสังเกตุตามทางว่ามีอะไรบ้างถ้าเธอจะไปไหนมาไหนเธอจะต้องไปมายังไง ด้วยความที่เป้นคนหัวดีหญิงสาวคอยดูว่าจะมีอะไรที่เธอพอจะทำได้บ้างบวกกับเงินเก็บที่เธอเอามาติดตัวด้วยเธอคิดว่า เธออาจจะทำธุรกิจเล็กๆที่เธอพอจะทำได้เพื่อใช่หนี้ แต่พอเธอมองไปรอบๆที่นี้ไม่มีอะไรเลยนอกจากตลาดสดที่มีแต่ผัก ปลา เนื้อสด และก็อาหารการกินเรียบง่ายเสื้อผ้าคนที่นี้ก็ใช่เสื้อผ้าพื้นเมืองของเขาเท่านั้น เมื่อเปรมเห็นแบบนั้นเธอก็เริ่มเหนื่อยใจ ระหว่างที่เธอกำลังใช้ความคิดอยู่สามล้อก็ปั่นมาถึงส่วนผักที่ยาวจนสุดลูกหูลูกตา แล้วก็มีบ้านที่มองเห็นอยู่ไกลตั้งอยู่ตรงกลางสวนผัก “ แม่หนูถึงแล้วจ๊ะ นี้แหละบ้านคุณเอก “ ลุงปั่นสามล้อจอดก่อนจะเอ้ยออกมาด้วยน้ำเสียงใจดี เปรมเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็มอเข้าไปด้านหน้าที่มีบ้านทรงไทยน่ารักตั้งเด็นเป็นสง่าอยู่ท่ามกลางสวนผักกาดที่ใหญ่จนสุดลูกหูลูกตา “ ขอบคุณคะลุง นี้คะเงินค่ารถ” เปรมยื่นแบง100ให้ลุงแล้วก็ทำท่าจะเดินเข้าบ้านไปแต่ก็ต้องหยุ่ดชะงักเมื่อเสียงของลุงเรียกไล่หลังมา “ หนูอย่าเพิ่งไปลูกเอาเงินถอนก่อน “ ลุงปั่นสามล้อเอาเงินทอนให้เธอกลับมา50บาท เปรมเห็นแบบนั้นเธอก็ตกใจเป็นอย่างมากเพราทางที่มานั้นมันทั้งขรุขระยากลำบากแต่ค่ารถกลับถูกมากขนาดนั้น เปรมหยิบเงินทอนมาจากลุงสามล้อก่อนจะลากกระเป๋าเดินทางเข้ามายังบ้านที่ดูเงียบกริบเหมือนไม่มีใครอยู่เลย “ สวัสดีคะ ขออณุญาติเข้าไปข้างในนะคะคุณเอก “ เปรมตะโกนขออณุญาติออกมาเสียงหวาน เอกที่แอบมองอยู่ภายในบ้านเพราะเขาอยากรู้ว่าเมียของเขาจะหน้าตาขี้เหร่มากแค่ไหน แต่พอเขาเห็นหญิงสาวที่ลากกระเป๋าเข้ามาเอกที่แอบดูอยู่ด้านในบ้านถึงกับตะลึงงันอย่างกับว่าโดนดึงถ่านออก ก่อนจะได้สติเมื่อเสียงหวานเรียกเขา เมื่อได้ยินเสียงเรียกแบบนั้นเขาก็เดินออกมาจากบ้าน เปรมที่เห็นแบบนั้นเธอก็ตกใจตื่นเพราะผู้ชายที่เดินออกมานั้น เขามาในชุดดูสกปรกซกหมกบวกกับหนวดเคราผมเผ้าที่รุงรังเลยทำให้เปรมถึงกับตะลึงไปด้วยความกลัว เอกเมื่อเห็นแบบนั้นเขาก็แสยะยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยันหญิงสาว ออกมาเขาคิดว่าเธอคงมองคนแค่ภายนอกเท่านั้นแหละ “ สวัสดีคะคุณใช่คุณเอกสามีของหนูใช่มั้ยคะ “ เปรมเมื่อเห็นแบบนั้นเธอที่ทำใจมาก่อนแล้วว่า ถ้าเขาไม่ชอบเธอเขาก็คงไม่แตะเนื้อต้องตัวเธอหรอก เมื่อเธอเห็นแบบนั้นเธอก็ยิ้มหวานพร้อมกับยกมือไหว้ชายหนุ่มพร้อมกับยิ้มหวานออกมา เอกที่เห็นแบบนั้นความคิดที่คิดว่าเธอดูคนแค่ภายนอกเขากลับต้องตีไฟเลี้ยวทนที เมื่อหญิงสาวยกมือไหว้พร้อมกับยิ้มหวานออกมา “ อื้ม ฉันนี้แหละเข้ามาก่อนสิ “ เอก เมื่อเห็นว่า หญิงสาวคนนี้ต่างจากผู้หญิงคนอื่นที่เห็นเขาแล้วต่างก็พากันหวาดกลัวหรือบางคนก็เบ้ปากมองเขาอย่างนึกรังเกรียจแต่กลับกันหญิงสาวคนนี้กับไม่มองแบบนั้นแถมยังยิ้มอย่างไม่กลัวเขาด้วยซ้ำ เปรมเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็ยิ้มหวานให้ชายหนุ่มแล้วก็ยกกระเป๋าเดินทางเข้ามาในบ้านทันที “ ให้หนูนอนห้องไหนเหรอคะ “ เปรมยิ้มหวานถามชายหนุ่มออกมาอย่างมีมารยาทและก็เป็นกันเอง เอกเมื่อได้ยินเสียงหวานถามแบบนั้นเขาก็ขมวดคิ้วหนามองมายังเธอด้วยความสงสัยก่อนจะพูดออกมา “ เป็นผัวเมียกันก็นอนห้องเดียวกันสิ รึว่าเธอรังเกรียจฉัน “ เอก พูดออกมาด้วยเสียงเรียบนิ่งแล้วก็อยากรองเชิงเธอ ถ้าเธอตอบออกมาเหมือนอย่างกับพวกผู้หญิงที่เขาซื้อมากินละก็งานนี้ผู้หญิงคนนี้เจอศึกหนักแน่ เปรมพอได้ยินแบบนั้นด้วยความที่เป็นเด็กนอกเธอก็เลยเอาน้ำเย็นเข้าลูบก่อนเพราะเธอไม่อยากให้เจ้าหนี้ต้องคิดมากเธอยังมีเวลาเหลือที่จะต่อรองกับเขา “ เปล่าๆคะ คือว่าหนูคิดว่าคุณอาจจะอยากอยู่คนเดียวได้สิคะอยู่ห้องเดียวกันก็ได้คะ “ เปรมยิ้มหวานบอกชายหนุ่ม เอกแทบล้มทั้งยืนเมื่อได้ยินเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าพูดแบบนั้นเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้หญิงน่ารักอย่างกับตุ๊กตาอย่างเธอจะตอบออกมาแบบนั้น เมื่อหญิงสาวยอมแล้วเขาก็เลยนำเธอเอาของเข้าไปเก็บในห้องก่อนจะพาเธอมาเดินดูว่าอะไรอยู่ตรงไหน “ นี้ห้องครัว นี้ห้องน้ำ เธอต้องอาบน้ำก่อนมืดเพราะที่นี้ไม่มีไฟฟ้า อาหารฉันก็กินตอน8โมงเช้า ตอนเที่ยงไม่สำคัญ แต่ตอนเย็นฉันกินไม่เกิน1ทุ่ม “ เอก อธิบายว่าอะไรอยู่ตรงไหนแล้วก็บอกว่าเธอต้องทำอะไรตอนไหนกี่โมง เปรมเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็พยักหน้าอย่างเข้าใจเรื่องอาหารการกินเธอไม่ติด แต่เธอติดตรงที่ไม่มีไฟนี้แหละแล้วแบบนี้เธอจะทำงานแบบไหนละทีนี้ เมื่อคิดได้แบบนั้นด้วยความที่เป็นคนตรงเมื่อสงสัยเธอก็ต้องถามออกมา “ เดี๋ยวก่อนคะคุณเอกเดี๋ยวนะคะที่นี้ไม่มีไฟแล้วคุณชาตท์โทรศัพท์ หรือว่าหุงข้าวทำกับข้าวยังไงคะ “ เรื่องไวไฟเธอยังพอเข้าใจได้แต่ว่าเรื่องไฟฟ้านี่สิไม่มีมันแปลก เอกเมื่อได้ยินแบบนั้นเขาก็ขมวดคิ้วหนามองหน้าเธอด้วยความไม่พอใจ เปรมเมื่อเห็นแบบนั้นเธอก็เลยถอนหายใจออกมา อย่างเหนื่อยหน่ายว่าคนแก่สมัยนี้ทำไมขี้หงุดหิดง่ายจัง “ ไม่ใช่อะไรคะเรื่องหุงหาอาหารหนูไม่มีปัญหา เพียงแต่ว่าฉันแค่ถามเพราะอยากรู้เฉยๆคนเดียวนี้มีด้วยเหรอไม่มีไฟฟ้าใช่ “ เปรมรีบอธิบายให้เขาเข้าใจทันทีเพราะเธฮไม่อยากให้ชายหนุ่มคิดว่าเธอเรื่องมาก ด้วยความที่เธอเป็นลูกหนี้เธอไม่มีสิทธิมีเสียงอะไร แต่แค่สงสัยเชยๆก็เลยถามก็แค่นั้น “ ก็ฉันนี่ไง ทำไมเธอถึงถามนั้นนู่นนี้นั้นจัง ฉันให้ทำอะไรหรือว่าไม่ให้ทำอะไรเธอก็ทำไปเถอะอย่าถามมากมันหน้ารำคาญ “ เอกพูดเสียงเรียบนิ่งบอกหญิงสาวให้หยุดถาม เปรมเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็นิ่งเงียบทันที เพราะเท่าที่เธอดูเขามาเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงเธอรู้แล้วว่าตาคนนี้เป็นคนรักสันโดษและก็คงมีอะไรคาใจเลยทำให้เขาเป็นคนขี้หงุดหงิดแบบนี้ “ อื้ม เข้าใจแล้วคะ “ เปรมพูดจบเธอก็เดินไปดูนั้นนู่นนี้เพื่อให้ตัวเองชินและก็รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง เพื่จะได้ไม่ถามหรือว่าคุยกับเขาเธอก็เลยต้องเดินดูเพื่อให้เธอจำได้ เอกมองหญิงสาวด้วยสายตาเรียนิ่งอย่างไม่กระพริบตาโดยไม่รู้เลยว่า เขากำลังคิดอะไรอยู่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม