ตอนที่ 6

1039 คำ
ป้าดาตอบ สุดท้ายฉันต้องยอมสาบานตามที่ป้าดาขอ จากนั้นก็หิ้วถุงน้ำแข็งออกมาใส่เอาไว้ในตะกร้าหน้ารถมอเตอร์ไซค์ สตาร์ทแล้วบิดเร่งเครื่องออกมาทั้งที่ใจยังเต้นแรง ให้ตายเถอะโรบิ้น… ฉันคิดไม่ถึงว่าจะได้มาเห็นเรื่องพิเรนทร์อะไรแบบนี้ สรุปว่าวันนี้ฉันเห็นเรื่องแบบนี้แล้วสองครั้ง เมื่อเช้าก็บังเอิญได้เห็นไอ้จ้อนใหญ่ยักษ์ของอีตาลุงสุดหล่อข้างบ้าน ต่อมาตอนสายๆ ก็เห็นป้าดากับลุงโชคเอากันน้ำกระจาย นึกในใจว่าพรุ่งนี้จะไปวัดรดน้ำมนต์                  ในเวลาต่อมา         กลับมาถึงบ้าน ฉันจัดการเอาน้ำแข็งแช่กุ้งไว้ในกล่องโฟมตามที่แม่สั่ง จากนั้นก็รีบคว้าปิ่นโต รีบเดินมาที่บ้านลุงฝรั่ง ป่านนี้แกคงหิวแล้วกระมัง เพราะว่าฉันมัวแต่ไปซื้อน้ำแข็งที่ร้านป้าดา         ประตูหน้าบ้านของลุงฝรั่งสุดหล่อเปิดทิ้งเอาไว้ ฉันมองซ้ายมองขวา ที่เทอเรสบริเวณด้านหน้าไม่มีใครอยู่ ครั้นเมื่อเดินเข้ามาถึงห้องรับแขกด้านใน ก็มีอันต้องตกใจแทบช็อค เมื่อเห็นลุงฝรั่งนั่งแอนหลังอยู่บนโซฟา ร่างเปลือยเปล่ากำยำไปด้วยมัดกล้ามปราศจากเสื้อผ้า มือกำลังรูดชักแก่นกายยาวใหญ่ รูดลำเอ็นขึ้นๆ ลงๆ พริ้มตาเสียวซ่าน        ‘โห… ’         ฉันตะลึง         ‘วันนี้เป็นอะไรนะ… ทำไมเจอเรื่องแบบนี้ทั้งวัน’         ฉันบ่นในใจ ทั้งที่พยายามจะชักเท้ากลับออกมา ทว่าดันเกิดอาการก้าวขาไม่ออก         สุดท้ายจำต้องยืนตัวแข็งทื่อ มองลุงฝรั่งนั่งรูดดุ้นเอ็นหึมาของตัวเองไปพลาง ก่อนที่แกจะหันขวับมาตามทิศทางที่ฉันยืนตัวสั่นงันงก ตกใจจนทำให้ปิ่นโตเหวี่ยงไปโดนขอบประตูเสียงดังโครม คนกำลังนั่งชักว่าวสะดุ้งโหยง         “ว้าย… ”         ฉันร้องตกใจ         “อุ๊ย… ”         ลุงฝรั่งก็ตกใจไม่ต่างกัน มือที่กำลังรูดสาวท่อนเอ็นหยุดชะงักลงทันที แกรีบคว้าผ้าขนหนูสีขาวที่พาดเอาไว้กับพนักโซฟา เอามาพันกาย แม้จะซ่อนท่อนเอ็นยาวใหญ่ใว้ใต้ผ้าขนหนู แต่ฉันยังเห็นมันดุนดัน ตั้งโด่ชี้หน้าฉันเหมือนจะเอาเรื่องที่มาขัดจังหวะความสำราญเมื่อครู่         “หนู… ”         ลุงฝรั่งรีบลุกขึ้นยืน พูดภาษาไทยได้ชัดเจน ร่างสูงใหญ่จ้องเขม็งมาที่ฉัน ทำเอาฉันรู้สึกอับอายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี         “เอ่อ… มะ… แม่ให้หนูเอาปิ่นโตมาส่งให้ลุงจ้ะ”         ฉันละล่ำละลักบอก เสียงติดๆ ขัดๆ พยายามมองเลยออกไปจากร่างกำยำที่ตอนนี้นุ่งผ้าขนหนูเพียงผืนเดียว ทำราวกับว่าฉันไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ทั้งที่ภาพดุ้นเอ็นมหึมา ยังติดตาตรึงใจ ชัดเจนอยู่ในหัว         “ขอโทษด้วยที่ฉันไม่ทันได้ระวัง… ”         ลุงฝรั่งมองว่าเป็นความผิดของตัวเอง         “หนูต้องขอโทษด้วยค่ะ… ที่ไม่ทันได้เคาะประตู”         ฉันหลุบตามองต่ำ         “ไม่เป็นไร… ต้องโทษฉันที่ไม่ทันระวัง”         ดูเหมือนว่าตอนนี้เราสองคนกำลังแย่งกันรับผิด เรามองตากัน ความตึงเครียดเล็กๆ จากอาการตกใจเริ่มคลายลง         “คือ… เอ่อ… แม่ให้หนูเอาปิ่นโตมาส่งคุณลุงค่ะ”         ฉันบอก รีบเปลี่ยนเรื่องคุย แก้มยังแดงก่ำ เขินไม่หาย ก็ใครจะคิดว่าจะได้มาเห็นขีปนาวุธของอีตาลุงสุดหล่ออีกครั้ง ทำเอาใจเต้นระทึก         “โอเค… นั่งก่อนสิ ลุงชื่อ ‘ทอมมี่’ เรียกลุงว่า ‘ทอม’ ก็ได้”         คุณลุงแนะนำตัว ฉันสะดุดหูกับกังวานเสียงแหบห้าว แต่ฟังแล้วอบอุ่นจนไปถึงหัวใจ เวลาไม่ยิ้มหนวดเคราบนใบหน้าคุณลุงทำให้แลดูเหมือนคนดุ แต่พอยิ้มเท่านั้นแหละ  มันทำให้ฉันรู้ว่ารอยยิ้มของคุณลุงเหมือนดอกไม้ทั้งโลกที่ผลิบานขึ้นพร้อมกัน         ฉันรู้สึกถูกชะตา แอบปิ๊งคุณลุงในระยะเวลาแสนสั้น นี่คงเป็นจุดอ่อนของลูกสาวที่เติบโตมาอย่างขาดพ่ออย่างฉัน ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ผู้ชายอายุรุ่นราวคราวพ่อ โดยเฉพาะคุณลุงหล่อๆ แบบลุงทอมคนนี้         “นั่งก่อนสิ… หนูชื่ออะไรจ๊ะ”         คุณลุงผายมือมาที่โซฟาสีน้ำตาล ฉันวางปิ่นโตลงบนโต๊ะที่ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างโซฟาสองตัวหันหน้าเข้าหากัน         “หนูชื่อ ‘เฟื่องฟ้า’ ค่ะ… เรียกว่า ‘ฟ้า’ เฉยๆ ก็ได้ค่ะ”         ฉันแนะนำตัวเอง มองหน้าคุณลุงแล้วเขิน         “เฟื่องฟ้า… ว้าว ชื่อดอกไม้นี่นา เป็นชื่อที่ไพเพราะจัง เฟื่องฟ้าเป็นดอกไม้โปรดของฉัน สีสันจัดจ้านสู้แดด ฉันชอบมาก”         ท่าทางลุงทอมคุยเก่ง         “คุณลุงอยู่คนเดียวหรือคะ”         ฉันสงสัย         “ใช่… ลุงอยู่คนเดียว”         “แล้วเมียลุง… ลูกลุงล่ะคะ”         “ลุงเป็นพ่อม่าย… ลุงไม่มีลูก เมียลุงตายไปตั้งแต่สิบปีที่แล้วละจ๊ะ”         ลุงทอมตอบ ฉันเข้าใจแล้ว ว่าทำไมแกนั่งชักว่าว คงเป็นธรรมดาของผู้ชายที่ต้องครองตัวเป็นม่ายมานาน เวลามีความต้องการถ้าไม่ออกไปหาที่ปลดเปลื้อง ก็ต้องพึ่งดัชนีทั้งห้า ใช้มือช่วยตัวเองเพื่อปลดเปลื้องราคะเป็นครั้งคราว         “เสียใจด้วยนะคะเรื่องครอบครัวของคุณลุง”         สิ่งที่ได้ยินทำให้ฉันรู้สึกเศร้า         “ครับ… ลุงอยู่คนเดียวมานานจนชินแล้วจ้ะ ต้องขอโทษที่เมื่อกี้ลุงทำเรื่องน่าอายให้หนูเห็น”         คนอะไร ยิ่งพูดยิ่งดูดี ยิ่งยิ้มยิ่งหล่อ คุณลุงจะรู้บ้างไหมว่ากำลังทำให้ฉันใจละลาย         “ค่ะ… ไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไรหรอกค่ะ”         ฉันกล่าว         “ขอบใจที่หนูเข้าใจความรู้สึกของคนโสดอย่างลุง”         คุณลุงยิ้ม เรามองตากันไปมา ฉันรู้สึกได้ถึงความเร่าร้อนบางอย่าง วูบไหวอยู่ระหว่างสายตาที่แลสบกันไปมา         “คุณลุงทั้งหล่อทั้งสมาร์ท… ทำไมไม่หาเมียสักคนล่ะคะ”         ฉันสงสัย ผู้ชายหน้าตาทั้งหล่อเหลาและหุ่นสมาร์ทแบบนี้ รับรองว่าสาวน้อยสาวใหญ่อยากวิ่งเข้าหา ฉันก็คนนึงละ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม