สายลมพัดใบไม้พริ้วลอยตามทิศคลอด้วยเสียงนกน้อยร้องปลุก แสงสุริยาทอดกระทบบ้านเรือนก่อเกิดร่มเงา รถแล่นตามเส้นทางจราจรติดขัดสร้างความท้อแท้กับผู้คนที่กำลังต่อสู้กับเส้นทางชีวิต ไม่ว่าจะรวยหรือจนคนทุกคนก็ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ถ้าหากตอนนี้กลับมีใครคนหนึ่งที่เหนื่อยล้ากับการต่อสู้กับชีวิตของตนเองเช่นกัน เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้พู่กันที่อยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาขมวดคิ้ว
"พู่กัน ตื่นได้แล้ว วันนี้มีคนมาหาลูกด้วยนะ"
เสียงผู้เป็นแม่เอ่ยบอก
"รีบลุกมาดูเร็ว ว่าใครมาหา"
ก่อนที่จะเงียบหายจากไป
พู่กันลุกขึ้นนั่งทั้งที่ตายังปิดอยู่ เมื่อคืนเธออยู่เวรจนดึก กว่าจะได้กลับบ้านก็ปาไปเกือบเที่ยงคืนแล้ว พึ่งได้นอนไม่กี่ชั่วโมงก็พบกับรุ่งเช้าของวันใหม่เสียแล้ว คิดว่าจะนอนให้สบายยาวจนถึงเที่ยงแต่สิ่งที่เคยฝันไว้ต้องพังทลายลงเมื่อคุณหญิงของบ้านบอกว่ามีคนมาหา
" ยัยมี่เหรอ ให้มี่กลับไปเลยม๊า วันนี้พู่กันไม่ว่าง"
"ไม่ใช่หนูมี่หรอกจ้ะ แต่เป็นหนุ่มหล่อที่พึ่งกลับจากนอกต่างหาก"
"พี่ภาม" ร่างบางสะดุ้งตื่นเป็นครั้งที่สอง แต่ครั้งนี้กลับเบิกตากว้างตื่นเต็มตาครั้งผู้เป็นแม่เอ่ยขนานนามลักษณะบุคคลดังกล่าว
"ใช่จ้ะ"
"ม๊าไล่เขากลับเถอะ วันนี้พู่กันไม่อยากเจอใครทั้งนั้น"
ปากบอกไม่อยากเจอ แต่ภายในใจเธอกลับตรงข้าม ในเมื่อเธอเลือกจะถอยแล้วมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องเจอเขาอีก
"ไม่สบายหรือเปล่า"
"เปล่าค่ะ พู่กันแค่อยากนอนพัก"
"อืม งั้นเดี๋ยวม๊าไปบอกพี่เขาให้.. แต่เหมือนไม่ใช่พี่เขานะที่อยากเจอหนู" คิ้วขมวดเข้าหากันทันที
"แต่เป็นหนูน้อยเด็กผู้หญิงที่ชื่อฟ้าฝน"
ฟ้าฝน!!!!!
"ม๊าให้ฟ้าฝนรอแปปหนึ่งนะ เดี๋ยวพู่กันตามลงไป" ร่างบางลุกขึ้นวิ่งเข้าห้องน้ำจัดการทำธุระส่วนตัวได้ไม่นานก็ลงไปยังด้านล่าง
ฟ้าฝนที่นั่งรออย่าใจจดใจจ่อเมื่อเธอเห็นพู่กันก็รีบลุกขึ้นวิ่งไปหาทันที
"คิดถึงพี่ใช่ไหม ถึงได้มาหาถึงบ้าน"
" พี่คนหล่อชวนฟ้าฝนกับพี่พู่กันไปเที่ยวค่ะ"
พู่กันขมวดคิ้วสงสัย ฟ้าฝนที่ไม่เคยไว้ใจใครแต่กลับไว้ใจร่างสูงตรงหน้าทั้งๆที่เคยเจอกันแค่ครั้งเดียว อีกอย่าง แล้วทำไมหมวดศิลาถึงยอมให้เขาพาน้องมา เกิดคำถามขึ้นมามากมายในหัว แต่ก็ต้องลบมันทิ้งไป
" พี่อยากพาฟ้าฝนไปเที่ยว แต่ไม่ค่อยรู้จักที่เที่ยวสักเท่าไหร่ เราคงจะรู้จักที่เที่ยวมากกว่าพี่ ยังไง.. "
"ได้ค่ะ ฉันจะไปเที่ยวกับฟ้าฝน แต่พู่กันจะชวนแฟนไปด้วย"
ร่างสูงแอบยกยิ้มก่อนจะค่อยๆดึงหน้าให้กลับนิ่งเหมือนเดิม "คงไม่ได้"
"ทำไมจะไม่ได้คะ"
"หมวดศิลาไปทำงานกับนาเดียร์ เหมือนจะเป็นงานสำคัญเสียด้วยสิ" พู่กันหันหลังให้ภามก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาเปิดอ่านข้อความ ทว่า สิ่งที่พบคือประโยคสั้นๆ
'ผมมีงานด่วนต้องไปทำ จึงไม่สามารถพาฟ้าฝนไปเที่ยวได้ บังเอิญคุณภามอาสาพาไป ยังไงก็ฝากด้วยนะครับ'
ให้ตายสิ ทำไมยิ่งหนีก็ยิ่งถูกดึงดูดเข้าไปในวังวนนั้นอีกครั้งเนี่ย
เสียงหัวเราะของห่วงเวลาของความสุขได้เกิดขึ้น คลอดังจากทั่วทุกทิศ เด็กน้อยรวมทั้งครอบครัวต่างเที่ยวเล่นเครื่องเล่นทั่วสวนสนุก พู่กันที่จูงมือสาวน้อยอย่างฟ้าฝนเดินเข้าสวนสนุกโดยมีภามเดินอยู่ไม่ห่างกาย สวนสนุกเป็นสถานที่แรกที่พู่กันคิดได้เพราะตอนเด็กๆเธอชอบมาที่นี่มาก มันทั้งสนุกและตื่นเต้นที่ได้เห็นและได้เล่นเครื่องเล่นมากมายหลายอย่าง
"ฟ้าฝนอยากเล่นอะไรคะ" พู่กันเอ่ยถามเด็กน้อยก่อนที่ดวงตากลมโตจะกวาดมองเครื่องเล่นต่างๆ
"อยากเล่นอันนั้นค่ะ"
"หืม" พู่กันขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อเห็นสิ่งที่ฟ้าฝนอยากเล่น
" อยากเข้าบ้านผีสิงเหรอครับ"
ฟ้าฝนพยักหน้าตอบร่างสูงที่มีใบหน้าหล่อเหลาจนคนที่ผ่านมาต้องหันมามองเป็นตาเดียว กลายเป็นจุดสนใจไม่น้อย บางก็แว่วได้ยินเสียงพูดคุยที่ส่อถึงพู่กันและภาม แต่จะดีมากถ้าผู้คนจะเข้าใจในทางที่ถูกต้อง ไม่ใช่พูดว่าเธอกับเขามีลูกสาวน่ารัก
ใครจะอยากไปมีลูกกับเขากัน
" หนู… อยากลองสัมผัสสักครั้ง"
เนื่องจากไม่เข้าใจว่าเด็กน้อยต้องการสื่ออะไร พู่กันจึงตัดสินใจจูงมือฟ้าฝนมุ่งตรงไปบ้านผีสิงทันที
"ราคาบัตรสำหรับผู้ใหญ่ ๑๐๐ บาท ครับ เด็ก ๕๐ บาท แต่เรามีโปรโมชั่นวันครอบครัวค่าบัตรลดเหลือ ๑๐๐ บาท สำหรับคุณพ่อคุณแม่และลูกสาว"
พู่กันเบิกตากว้างพร้อมจะยกมือปฎิเสธ เธอยังไม่มีแฟนแล้วจะมีลูกมาจากไหนกัน
"มะ.."
"นี่ครับ ดีจังเลยนะครับที่มีโปรแบบนี้ด้วย"
พู่กันมองเงินที่ถูกยื่นให้พนักงานโดยร่างสูงข้างๆ ก่อนจะเลิกคิ้วเชิงถาม
ทำไมไม่ปฏิเสธ ปล่อยให้เขาเข้าใจผิดทำไม
" ขอบคุณครับ ขอให้สนุกนะครับ"
พนักงานที่มีหน้าที่เก็บเงินต่างมองผู้ชายกับผู้หญิงเป็นตาเดียว
ทั้งหล่อและสวยแต่ไม่น่ามีลูกเร็วขนาดนั้นเลย ดูจากอายุลูกสาวแล้วน่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะความผิดพลาดแน่ๆ
คู่พ่อแม่ลูกในความคิดของคนอื่นๆ เดินเข้าไปในบ้านที่เต็มไปด้วยความมืด สองมือบางกุมมือฟ้าฝนแน่นโดยข้างๆยังมีร่างสูงที่ยังคงมีสีหน้าเรียบนิ่ง
"แฮร่"
พู่กันตกใจก่อนจะคว้าหมับเข้าไปกอดร่างสูงข้างๆ เป็นแพทย์ทางด้านนี้แท้ๆ ดันกลัวผีไปได้
"ตกใจเหรอครับ" ร่างบางชะงักหยุดเมื่อสัมผัสถึงบางอย่างที่กำลังกอดเธออยู่
"นี่ ปล่อยนะ" คนชอบฉวยโอกาส
"ทำไมพี่ต้องเป็นคนปล่อยด้วย ในเมื่อเราเป็นคนกอดพี่"
พู่กันปล่อยมืออกจากเอวภามอย่างรวดเร็ว 'หน้าแตกไหมล่ะ'
"กะ ก็แค่ตกใจเฉยๆ"
"เหรอครับ"
"ขำอะไร" พูดจบตั้งใจจะหันไปหาฟ้าฝนแต่กลับว่างเปล่า ตอนนั้นเองพู่กันรู้สึกตกใจจนเผลอตะโกนเรียกชื่อ
" ฟ้าฝนล่ะ ฟ้าฝนอยู่ไหน ได้ยินพี่ไหม" เธอรู้สึกร้อนรนอย่างบอกไม่ถูก
หมับ!!! แต่ในขณะที่จะเดินต่อกลับต้องชะงักเมื่อแขนถูกมือหนาคว้าเอาไว้ดึงจนเธอเซไปหาเล็กน้อย
"เราเข้าไปหาข้างในกันเถอะ"
ตลอดทางไม่แม้แต่จะเห็นฟ้าฝนเลยสักนิด เธอไม่ได้รู้สึกกลัวหรือตกใจอะไรทั้งนั้นได้แต่เดินตามร่างสูงที่กุมมือเธอไม่ยอมปล่อย
เธอจึงตัดสินใจออกจากบ้านผีสิงเพื่อไปขอคนช่วยตามหา แต่สิ่งที่เธอเห็นกลับต้องทำให้ความวิตกกังวลหายไปหมดสิ้น
เด็กน้อยใบหน้าหวานกำลังนั่งกินไอศครีมกับผู้ชายร่างสูงที่เธอคุ้นเคยเขาคนนั้นก็คือหมวดศิลา
"ฟ้าฝน พี่เป็นห่วงแทบแย่จะออกมาทำไมไม่บอกพี่"
"เอ่อ คือฟ้าฝน.. ตกใจเลยวิ่งหนีออกมา ขอโทษนะคะพี่พู่กัน"
"เฮ้อ ไม่เป็นไร แล้วหมวดมาได้ไงอ่ะ ไหนบอกว่ามีธุระ"
"ฟ้าฝนโทรตามผมมา อีกอย่างก็เสร็จงานพอดี"
" น้ำเปล่ามาแล้วค่ะ" ทันไดนั้นเสียงหวานใสก็ดังขึ้น นาเดียร์ที่กำลังเดินตรงมาทางนี้ในมือถือน้ำเปล่าสองขวด พู่กันหรี่ตามองหมวดศิลากับนาเดียร์ด้วยความรู้สึกบางอย่าง
" เอ้า ออกมากันแล้วเหรอ"
ยิ่งท่าทางสดใสใบหน้ายิ้มแย้มของนาเดียร์มันทำให้ดูน่าสงสัย เธอไม่มีความหึงหวงเลยสักนิด แฟนตัวเองแอบไปเที่ยวกับคนอื่นเป็นพู่กันคงมีอาการหึงหวงเป็นแน่ แล้วยิ่งพี่ภามคือผู้ชายที่ดูดีไม่เสียทุกอย่าง เป็นที่ต้องตาสำหรับบรรดาสาวๆ อีกอย่างพู่กันและภามก็ไม่ใช่พี่น้องเชื้อสายเดียวกัน
ก็นะ เธอคงคิดว่าแฟนตัวเองแค่พาน้องสาวไปเที่ยวแค่นั้น
"เที่ยงแล้วพวกเราไปหาอะไรกินกันก่อนไหม" ฉันพยักหน้าเห็นด้วยกับผู้หมวด
สุดท้ายก้มาจบที่ร้านอาหารทั้งหรูและดูแพง พู่กันนั่งตรงข้ามกับภามโดยมีฟ้าฝนนั่งอยู่ข้างๆถัดออกไปเป็นคุณหมอนาเดียร์ที่นั่งตรงข้ามกับผู้หมวด
"อยากทานอะไรสั่งเลยนะ มื้อนี้พี่เลี้ยง" ท่าทางอ่อนโยนของภามที่มีต่อฟ้าฝนทำให้อดรู้สึกดีไม่ได้จริงๆ
เมื่อก่อนเขาก็เคยทำแบบนี้กับฉัน
"จริงเหรอคะ"
"ครับ"
ผ่านไปไม่นานอาหารก็ถูกวางเรียงอย่างเป็นระเบียบ
"ทานเยอะๆนะครับ" ในขณะที่พู่กันจะนำอาหารเข้าปาก สายตาก็เผลอไปสบเข้ากับผู้หมวด ส่งสัญญาณเป็นนัยถึงความต้องการ สุดท้ายแล้วเนื้อปลาชิ้นเล็กก็ถูกตักวางไว้บนจานของพู่กัน
"ขอบคุณนะคะที่รัก" สิ้นเสียงพู่กัน หมวดศิลาถึงกับสำลักน้ำหน้าร้อนผ่าว ถ้าหากไม่ใช่อาการเขินแต่เป็นอาการขนลุกสยอง ใครสอนให้พูดประโยคหวานเลี่ยนที่ทำให้คนฟังรู้สึกเหมือนกำลังจะถูกเชือด
" นาเดียร์ลองทานเนื้อปลาดูสิครับ" ศิลามองการกระทำของภามด้วยแววตาเจ็บปวดจนพู่กันสังเกตได้
"ขอบคุณค่ะ"
"อันนี้อร่อยนะ พู่กันชอบกินมากเลย อยากให้ที่รักลอง" อาหารจานโปรดถูกตักให้กับศิลาท่ามกลางสายตาสองคู่ที่จับจ้องอยู่ ก่อนที่พู่กันจะตักอาหารให้กับฟ้าฝน
"กินเยอะๆนะคะ"
"นาเดียร์ขอเสียมารยาทถามได้หรือเปล่า ศิลาชอบน้องพู่กันตรงไหนเหรอคะ"
เกิดอาการเงียบลงทันที เผลอสบตากับผู้หมวดรู้สึกถึงความกดดัน "พู่กันเป็นเด็กน่ารักครับ ใจดี ถึงแม้จะแข็งกระด้างไปนิด แต่สำหรับผม พู่กันเป็นผู้หญิงที่คู่ควรจะมาเป็นแม่ของลูกผมที่สุด"
เคร้ง!! เสียงช้อนกระทบจานดังขึ้นหยุดความคิดของทุกคนให้หันกลับมาจับจ้องร่างสูงที่นั่งเงียบมานาน แววตาเรียบนิ่งเมื่อก่อนตอนนี้กลับมีไอทะมึนน่ากลัวแฝงอยู่ข้างใน
"อาหารไม่อร่อยเหรอคะพี่ภาม"
"เปล่า"
"อ้อ จริงสิ นาเดียร์ลืมไปเลยว่ามีงานต้องไปจัดการต่อ ภามจะไปส่งเดียร์ที่โรงพยาบาลหรือเปล่า"
"อืม ไปพร้อมแฟนก็ดีเหมือนกัน" ทำไมต้องคอยย้ำประโยคพรรคนั้นด้วย แถมใจก็ดันเจ็บเสียด้วยสิ
หลังจากแยกย้ายกัน พู่กันกลับมาพร้อมหมวดศิลาเพื่อมาส่งฟ้าฝน
"คุณหมอพู่กันคะ"
"ว่าไงคะ"
"พรุ่งนี้ หนูจะได้กลับไปเรียนแล้วค่ะ"
" อืม แบบนี้เราก็ต้องไปซื้อชุดใหม่ใช่ไหมคะ"
"ใช่ค่ะ" ยกมือลูบผมฟ้าฝนเบาๆ
"ว่าแต่ฟ้าฝนจะเข้าโรงเรียนไหนเหรอคะ" ฉันหันไปถามผู้หมวด
"เรื่องนี้ต้องถามคุณภาม เขาเป็นคนจัดการเรื่องการเข้าเรียนของฟ้าฝนทั้งหมด" พอจะรู้สาเหตุที่ทั้งสองคนสนิทกันแล้วล่ะ
" แล้ว…โรงเรียนของฟ้าฝนเป็นยังไงบ้าง สภาพแวดล้อมเป็นยังไงบ้างคะ"
"พี่ให้เจ้าตัวเป็นคนเลือกว่าอยากจะเรียนที่ไหน ส่วนสภาพแวดล้อมดูรวมๆแล้วดีมากเลยแหละ" เฮ้อ หายห่วง
ตอนนี้ฟ้าฝนกำลังจะขึ้น ม.1 น้องต้องเจอกับสังคมใหม่ แรกฉันกลัวว่าน้องจะปรับตัวไม่ได้ แต่เห็นท่าทางดีใจของฟ้าฝนแล้วกลับรู้สึกว่าน้องเป็นคนที่แข็งแกร่งเลยทีเดียว
จากที่ไม่พูดไม่จามาเป็นเดือน