บทที่ 6 ซูเฟยคนใหม่
เข้าสู่ช่วงฤดูร้อน สวีหลงเยียนจึงคิดแปรพระราชฐานออกไปพักผ่อนที่พระราชวังฤดูร้อนนอกเมืองหลวง เขาตั้งใจจะเดินทางด้วยเรือลำใหญ่ที่เพิ่งสร้างเสร็จ ล่องเรือไปตามแม่น้ำ ชมทิวทัศน์ต้นไม้รายทาง และยังได้ให้เหล่าราษฏร์ได้รอเข้าเฝ้าเชยชมพระบารมีอีกด้วย
พระราชวังฤดูร้อนอยู่ห่างจากเมืองหลวงหลายร้อยลี้ ที่นั่นจะอยู่ติดกับทะเลสาป มีต้นไม้รายล้อมให้ความร่มรื่นเป็นอย่างยิ่ง เขาชื่นชอบธรรมชาติเป็นที่สุด มันช่วยทำให้เขาคลายความตึงเครียดจากการที่ต้องทนนั่งอ่านฏีฏาจากขุนนางพวกนั้นที่คอยกวนใจเขา
หลินกุ้ยเฟยเมื่อได้ยินว่าสวีหลงเยียนกำลังจะออกไปพักผ่อนที่นอกเมือง ก็รู้สึกดีใจไม่น้อย นางตระเตรียมสิ่งของและเสื้อผ้าที่งดงามเอาไว้หลายชุด นางสนมในวังหลวงมีไม่มากเท่าใดนัก เหล่านางสนมชั้นต่ำฝ่าบาทย่อมไม่มีทางให้ตามเสด็จไปด้วยเป็นแน่ คงจะมีเพียงนางเท่านั้นที่ได้ติดตามไปด้วย
ยิ่งคิดหลินกุ้ยเฟยก็ยกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจ แต่เมื่อนึกถึงเฟิ่งฟางเซียนนางก็ต้องขมวดคิ้วมุ่น
ได้ยินมาว่าฝ่าบาทเสด็จไปค้างแรมที่ตำหนักเย็นของนางสามคืนติดแล้ว หึ!!นังจิ้งจอกเจ้าเล่ห์นั้นคงยั่วยวนฝ่าบาทจนทนไม่ไหวเป็นแน่
ยิ่งคิดนางก็ยิ่งร้อนใจไม่น้อย
ด้านสวีหลงเยียนหลังจากประชุมราชสำนักยามเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็ตรงมาที่ตำหนักเย็นของเฟิ่งฟางเซียนทันรับ แล้วจึงสะบัดมือไล่หลิวหมัวหมัวและนางกำนัลขันทีออกไปให้ไกล
เขาก้าวเท้าเดินเข้าไปประชิดร่างของเฟิ่งฟางเซียนที่กำลังยืนเช็ดเสาเตียงอย่างอารมณ์ดี
"โอะ!!"
เฟิ่งฟางเซียนสะดุ้งตัวโยนเมื่อรู้สึกว่าถูกฝ่ามือหนาใหญ่โอบรัดรอบเอวของนางเอาไว้ เมื่อหันหน้าไปมองก็พบว่าเป็นสวีหลงเยียนฮ่องเต้บ้ากามที่รังแกนางสามวันติด
"ตกใจหรือสนมของข้า?"
สวีหลงเยียนกระซิบแผ่วเบาที่ข้างใบหูขาวนวลเนียนของนางด้วยน้ำเสียงแหบพร่าจนเฟิ่งหางเซียนรู้สึกขนลุกขนชันไปหมด
"ปล่อยเพคะ หม่อมฉันเช็ดเสาเตียงอยู่"
"เจ้าไม่มีสิทธิ์มาสั่งข้า!!"
"แต่ อุ๊ย!!ฝ่าบาท!!"
"อยู่นิ่งๆ!!"
สวีหลงเยียนโอบรัดเอวของนางให้แน่นยิ่งขึ้น แล้วจึงบดเบียดแท่งเอ็นร้อนในร่มผ้าถูไถกับบั้นท้ายงอนงามของนางอย่างนึกสนุก เฟิ่งฟางเซียนลอบก่นด่าเขาในใจอย่างอดไม่ได้
หื่นที่สุด!!!
"ข้ารู้ว่าเจ้าชอบ"
"ไม่ชอบเพคะ"
"หึ หน้าด้านหน้าทน เห็นๆกันอยู่ว่าเจ้าเช็ดเสาเตียงเพื่อยั่วยวนข้า"
เฟิ่งฟางเซียนคร้านที่จะโต้เถียงกับเขาแล้ว นางผละออกจากการเกาะกุมของเขา แล้วจ้องมองเขาด้วยสายตาระแวดระวัง
"มาหาหม่อมฉันด้วยเหตุใดเพคะ?"
"อีกสามวันข้าจะไปพักผ่อนที่พระราชวังฤดูร้อนนอกเมืองหลวง"
"แล้วอย่างไรเพคะ?"
"เจ้าต้องตามไปปรนเปรอรับใช้ข้าด้วย!!"
"หม่อมฉันไม่อยากไปเพคะ"
"ต้องไป!!"
"แต่ว่า อุ้ย!!อย่าบีบเพคะ!!"
สวีหลงเยียนใช้ฝ่ามือหนาใหญ่บีบเคล้นคลึงบั้นท้ายของเฟิ่งฟางเซียนอย่างเอาแต่ใจ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา ช่างหน้าไม่อายเกินทน!!!
"อย่าคิดขัดใจข้า คราวก่อนเจ้าบีบพวงไข่ข้า ข้าก็จะบีบขยำบั้นท้ายเจ้าคืน เตรียมตัวให้ดี!!!อีกสามวันตามข้าไปนอกวัง"
เจ้าคิดเจ้าแค้นเอาแต่ใจตนเองเสียจริง!!!
เฟิ่งฟางเซียนไม่อาจปฏิเสธคำสั่งของเขาได้ สามวันถัดมานางจึงเสด็จออกไปพักที่นอกวังกับสวีหลงเยียน
เฟิ่งฟางเซียนมองสำรวจภายในเรือลำใหญ่ด้วยความตื่นตะลึง มันช่างงดงามราวกับพระราชวังขนาดย่อม ตัวลำเรือก็แข็งแรงทนทานมิใช่น้อย นางเคยเขียนเอาไว้ในนิยายว่าเขาเป็นพระเอกที่ร่ำรวย เป็นฮ่องเต้ที่มั่งคั่ง แต่นางคาดไม่ถึงว่าเขาจะใช้เงินมือเติบสร้างเรือลำใหญเช่นนี้
ผิดไปจากพลอตที่วางไว้อย่างน่าตกใจ!!!
หลินกุ้ยเฟยจ้องมองเฟิ่งฟางเซียนด้วยสายตาดูแคลน เป็นเพียงสนมขั้นผินแต่คิดใฝ่สูงยั่วยวนฝ่าบาทจนพระองค์ใจอ่อนยอมให้ติดตามมาด้วย น่ารังเกลียดยิ่งนัก!!!
หลิวหมัวหมัวเอ่ยกระซิบกับเฟิ่งฟางเซียนด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา นางจึงหันไปมองหลินกุ้ยเฟย แล้วจึงย่อกายคำนับนางอย่างสง่างาม
"ถวายพระพรหลินกุ้ยเหยเพคะ"
หลินกุ้ยเฟยส่งเสียงเฮอะในลำคอด้วยความไม่พอใจ คำพูดดูถูกพรั่งพรูออกมาจากริมฝีปากสวยของนางแทบจะทันที
"เป็นเพียงนางสนมที่ถูกขับไล่ให้ไปอยู่ตำหนักเย็น แต่ยังเสนอหน้าตามมารับใช้ฝ่าบาทได้ถึงบนเรือนี่ เจ้าก็ช่างหน้าด้านหน้าทนไม่น้อย"
เฟิ่งฟางเซียนขมวดคิ้วมุ่น ยังไม่ทันที่นางจะเอ่ยสิ่งใดออกมา ก็เห็นสวีหลงเยียนกำลังเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเย็นชา ดวงตาคมกริบจ้องมองหลินกุ้ยเฟยอย่างไม่ลดละ
"ข้าจะให้นางมาคอยรับใช้ เป็นคำสั่งของข้า เจ้ามีสิทธิ์อันใดมาต่อว่านางกัน?"
หลินกุ้ยเฟยใบหน้าซีดเผือด นางรีบหันไปย่อกายถวายพระพรสวีหลงเยียนด้วยท่าทีกระอักกระอ่วน
"ขออภัยฝ่าบาท หม่อมฉันเพียงเห็นว่าตามธรรมเนียมแล้ว นางสนมที่จะตามเสด็จฝ่าบาทออกนอกวังหลวง มีเพียงตำแหน่งเฟยทั้งสี่และฮองเฮาเท่านั้นเพคะ ไม่เคยมีนางสนมขั้นผิน..."
"แล้วอย่างไร?"
"เอ่อ.."
"ราชเลขาจงฟัง!!!"
ราชเลขาซึ่งก็คือขันทีเฒ่าผู้นั้นรีบเดินเข้ามาก้มหน้าคำนับอยู่ข้างกายของสวีหลงเยียนด้วยความรวดเร็ว
"พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท"
"ถ่ายทอดราชโองการ นับแต่นี้ไปให้แต่งตั้งเฟิ่งผินขึ้นเป็นซูเฟย นางจะได้รั้งตำแหน่งเฟยทั้งสี่ ติดตามข้าไปได้ทุกที่ จะได้ไม่มีผู้ใดกล้ามาครหานางอีก หากข้าได้ยินอีกครั้งไม่ว่ามันจะเป็นผู้ใด ข้าจะดึงลิ้นมันออกมาโยนทิ้งให้กากินเสีย!!!"
"น้อมรับราชโองการพ่ะย่ะค่ะ"
เฟิ่งฟางเซียนเบิกตาโตด้วยความตกใจ นี่เขาเลื่อนตำแหน่งให้นางเป็นถึงซูเฟยเชียวหรือ
แม้จะตกใจแต่ก็ยังไม่ลืมที่จะสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่เขามอบให้แก่นาง
หลินกุ้ยเฟยใบหน้าซีดเผือด นี่ฝ่าบาทหลงใหลสตรีต่ำช้านางนี้จนถึงกับมอบตำแหน่งซููเฟยให้นางเชียวหรือ น่าเจ็บใจยิ่งนัก!!
"มานี่!!"
สวีหลงเยียนเดินเข้าไปจับมือของเฟิ่งฟางเซียนให้ตามเขาไปที่หัวเรือทันที
ยามนี้เรือได้แล่นออกจากเมืองหลวงแล้ว มันล่องไปตามแม่น้ำสายยาว ที่รายล้อมไปด้วยบ้านเรือนของราษฏรและต้นไม้ที่รายล้อมเขียวชะอุ่ม
เฟิ่งฟางเซียนสังเกตเห็นมีว่าวมังกรอยู่ในมือของสวีหลงเยียน เขาค่อยๆปล่อยมันให้ล่องลอยไปตามกระแสลมบนท้องฟ้า แล้วจึงบังคับรั้งสายของมันเอาไว้ไม่ให้ลอยไปตามทิศทางลมมากเกินไปนัก เขาชื่นชอบการละเล่นปล่อยว่าวที่สุด มันทำให้จิตใจของเขาสงบเป็นอย่างยิ่ง
"ฝ่าบาทชอบปล่อยว่าวหรือเพคะ"
"อืม ข้าชอบละเล่นปล่อยว่าวบนท้องฟ้า"
อ้อ!!ฝ่าบาทชอบชักว่าว
ไม่สิ!!ละเล่นว่าวต่างหากนี่ข้าคิดสิ่งใดอยู่กันแน่!!