ชัยชนะยืนอ้าปากค้างหลังเห็นผู้จัดการรีสอร์ตยืนกอดเจ้านายของเขาอย่างแนบชิดท่ามกลางสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ ก่อนจะเห็นหญิงสาวรีบคลายมือออกจากเอวสอบแล้วตั้งหน้าวิ่งออกไปด้วยความเขินอายจนใบหน้าสวยแดงก่ำ
“ผู้หญิงไทยใจกล้าดีนะครับ”
“เอาไงดีชัยชนะ”
“ครับผม?”
“เธอเหมือนจะคลั่งไคล้ฉันมาก ถึงขนาดทนไม่ไหวเข้ามากอด”
มังกรแทบกุมขมับเมื่อเจอผู้หญิงที่พยายามเข้าหาตัวเขามาถึงเพียงนี้ แถมยังเป็นคนที่มีใบหน้าสวยหมดจดมองมุมไหนก็ล้วนมีเสน่ห์ ปากนิดจมูกหน่อย ผิวขาวเนียนไปทั้งตัว โดยเฉพาะเรือนร่างอรชรที่เห็นแค่ภายนอกก็จัดได้ซ่อนรูป เพียงได้แนบชิดกันเมื่อครู่ก็สัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ของหน้าอกที่ชนเข้าแนบแผ่นหลัง
“คุณเจ้าเอยคงปลื้มเจ้านายมากครับ”
ชายหนุ่มก้าวเท้าเข้ามาในบ้านพักตากอากาศมองเห็นคนตัวเล็กนั่งยิ้มเจื่อนส่งให้บนโซฟา อีกทั้งเธอยังมองซ้ายมองขวาไปทั่วบ้านอย่างวิตกกังวล
“ขอโทษนะคะ พอดีเอยจะวิ่งเข้าไปไล่แมลงให้คุณมังกร”
คำโกหกที่หญิงสาวคิดได้มีเพียงเท่านี้ เจ้าเอยโกรธเคืองผีตนนั้นเป็นที่สุดที่ทำให้เธอต้องมาอับอายแบบนี้ แถมยังถือวิสาสะไปกอดเจ้าของรีสอร์ตโชว์คนงานนับร้อยอีก
“ครับ ผมไม่ได้ว่าอะไร”
ถึงจะพูดไปแบบนั้นทว่าชายหนุ่มไม่อาจจะเชื่อได้ หากเป็นแมลงจริงแค่สาวเจ้าตะโกนเรียกเขาเพื่อบอกกล่าวก็จบเรื่อง แต่นี่ทำถึงขนาดจู่โจมเข้ามากอดอย่างใกล้ชิด
“เอ่อ ที่พักของเอยอยู่ที่ไหนเหรอคะ” ชวนคุยอีกครั้งเมื่อเห็นบรรยากาศวังเวงชอบกล
“อยู่ที่นี่ครับ คุณเจ้าเอยจะขึ้นไปดูไหม”
“ได้ค่ะ”
คนตัวเล็กลุกขึ้นเดินตามชายหนุ่มขึ้นไปด้วยความหวาดหวั่นเมื่อสัมผัสได้ถึงลมเย็นๆ ด้านบนของบ้านพักตากอากาศโล่งกว้าง มีทางเชื่อมไปหาอีกฝั่งส่วนอีกทางเป็นระเบียงยื่นออกไปที่เธอนั่งทานข้าวเมื่อตอนบ่าย
“นี่ครับห้องพัก”
เปิดประตูเข้ามาก็เห็นห้องนอนขนาดใหญ่ ด้านข้างเป็นกระจกใสมองเห็นภูเขาซ้อนทับกันอย่างสวยงาม ภายในห้องถูกตกแต่งไว้อย่างดีและความสะอาดที่แทบจะไม่มีฝุ่นละอองให้เห็น
“พออยู่ได้ไหม”
“ได้ค่ะ”
“ห้องผมจะอยู่เยี่ยงๆ กันหากมีปัญหาอะไรคุณเจ้าเอยสามารถไปเคาะเรียกได้”
“ขอบคุณค่ะ อันที่จริงคุณมังกรเรียกเอยเฉยๆ ก็ได้นะคะ”
“ครับ”
มังกรเปิดโอกาสให้หญิงสาวได้ใช้เวลาส่วนตัวในการจัดของบนห้องตัวเอง ส่วนตัวเขาเปิดประตูเดินออกไปดูคนงานที่กำลังเร่งสร้างตัวอาคารรีสอร์ตต่อ
ทันทีที่ประตูปิดลงผ้าม่านก็ปลิวสะบัดไปมาแรงลม เจ้าเอยชะงักนิ่งหลังนั่งจัดกองเสื้อผ้าใส่ตู้ กลิ่นน้ำอบไทยลอยมาแตะจมูกผสมกับกลิ่นคาวเลือด ใบหน้าสวยเงยขึ้นมองนอกระเบียงก็เห็นร่างผู้หญิงในชุดสไบเฉียงสีเขียวอ่อนนั่งทอดขามองเธออยู่
“ทำกระไรรึ” เสียงแหบพร่าเอ่ยถาม แทบอยากจะหาน้ำผึ้งมะนาวให้คุณเธอดื่ม
เจ้าเอยหยิบหูฟังไร้สายออกมาจากกระเป๋าสะพาย บรรจงใส่มันเข้ากับหูเพื่อตัดเสียงรบกวนที่ดังขึ้นออก ก่อนจะก้มหน้าจัดของในห้องต่อแม้จะแอบหวั่นๆ กับวิญญาณที่ลอยเข้ามาในห้อง
“นามว่าแม่เจ้าเอยรึ ไพเราะเชียวหนา”
“คุณเจ้าเอยครับ” ดวงตาคู่สวยมองบานประตูเปิดออกพร้อมใบหน้าของชายหนุ่มโผล่พ้นออกมา
“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณชัยชนะ”
“เจ้านายให้มาตามครับผม เห็นบอกว่าจะพาไปนั่งรถสำรวจรอบๆ รีสอร์ต”
“ได้ค่ะ”
หญิงสาวรีบนำเสื้อผ้าที่ใส่เข้ากับไม้แขวนจัดเรียงในตู้ขนาดใหญ่ ลอบถอนหายใจออกมาแผ่วเบาเมื่อเห็นผู้หญิงในชุดไทยโบราณยืนอยู่ข้างๆ
มังกรยืนพิงรถออฟโรดคันใหญ่สำหรับขับสำรวจรอบๆ บริเวณอาณาจักรของเขา มองเห็นร่างบอบบางเดินลงมาด้วยสีหน้าตื่นๆ แถมเจ้าตัวยังเอาแต่หวาดระแวงจนชายหนุ่มทำได้เพียงเลิกคิ้วมองอย่างสงสัย
เธอแปลกจนตั้งรับไม่ทันจริงๆ
“ไปกันครับ”
รีบเดินมาเปิดประตูให้หญิงสาวขึ้นไปนั่งส่วนตัวเขาเดินอ้อมมาประจำบนตำแหน่งคนขับ รถเคลื่อนออกจากบริเวณถึงได้เห็นสีหน้าคลายกังวลลงของสาวเจ้า
“ตรงนี้จะทำเป็นบังกะโลทั้งหมดห้าร้อยหลัง การตกแต่งเน้นสไตล์ยุโรป โดยภายในจะประกอบไปด้วยห้องนอน ห้องน้ำ และห้องครัวเล็กๆ และที่สำคัญด้านหลังจะมีสระน้ำไว้ให้”
เจ้าเอยจรดปากกาจดรายละเอียดลงบนสมุดบันทึก พร้อมหันมองรอบๆ บริเวณด้วยความสนใจ อีกฝั่งของบังกะโลปรากฏเต็นท์ทรงบ้านจำนวนหลายหลังยื่นออกมาจากระเบียงขนาดใหญ่
“ส่วนนั่นจะเป็นเต็นท์สีขาวสไตล์โบฮีเมียนขนาดไม่ใหญ่มาก มีพื้นที่โดยรอบสำหรับทำกิจกรรมปิ้งย่าง หรือจิบกาแฟชมจันทร์ในตอนกลางคืน ภายในมีเตียงนอนและห้องน้ำ”
“อาหารและพวกวัตถุดิบทางรีสอร์ตมีเตรียมให้ไหมคะ”
“มีครับ หรือทางลูกค้าที่เข้าพักจะนำมาเองก็ได้”
“เอยว่าหากเรามีซูเปอร์มาเก็ตใหญ่ๆ ไว้ขายพวกของสดสำหรับปิ้งย่างหรือของที่ระลึกต่างๆ ก็น่าสนนะคะ”
“เป็นความคิดที่ดีครับ” มังกรเห็นด้วยอย่างยิ่ง เขาไม่เคยคิดเรื่องพวกนี้มาก่อน หากทำได้ล้วนสร้างมูลค่าให้กับกิจการได้อย่างดีเยี่ยม
“อยากจะลงไปดูสัตว์ในฟาร์มไหม”
รถเคลื่อนมาจอดข้างรั้วสีขาวความสูงระดับอก ภายในเป็นตัวอาคารขนาดใหญ่คาดว่าเป็นสถานที่เลี้ยงม้าและวัว ส่วนอีกฝั่งมีฝูงแกะและกระต่ายจำนวนมากนอนเล็มหญ้าในคอกที่กั้นแบ่งพื้นที่ไว้อย่างเป็นระเบียบ
ร่างบอบบางเดินลงจากรถเข้าไปในบริเวณดังกล่าว สำรวจพื้นที่อย่างสนใจยิ่งได้เห็นความน่ารักและเป็นมิตรของสัตว์พวกนี้ก็ชื่อชอบไม่ใช่น้อย ก่อนจะตกใจกับเสียงคำรามดังสนั่นของสิงโตตัวใหญ่ภายในคอก
“มีสิงโตด้วยเหรอคะ”
“ครับ สัตว์เลี้ยงตัวโปรดของผม”
เจ้าเอยแอบเบ้หน้าตื่นกลัวหลังคนตรงหน้าเธอเปิดประตูเข้าไปหาสัตว์เลี้ยงตัวโปรด ได้แต่ภาวนาให้เขารอดกลับออกมาอย่างปลอดภัย ดวงตากลมโตเบิกกว้างมองหนุ่มหล่อทรุดนั่งข้างๆ สิงโตพรางใช้มือลูบหัวของมันด้วยความทะนุถนอม
รวยเวอร์ คนอื่นเลี้ยงหมาเลี้ยงแมว แต่เจ้านายเธอเลี้ยงสิงโต
“ลองไหมครับ”
“ไม่ดีกว่าค่ะ เอยยังไม่อยากตกเป็นอาหารของมัน”
“หึ ชารีฟน่ารักนะครับ มันใจดีมาก”
ว่าแล้วไอ้เจ้าชารีฟก็ลุกขึ้นเดินเข้ามาหาเธอช้าๆ แอบเห็นมันแยกเขี้ยวโชว์ทำเอาขาเล็กสั่นเทาพร้อมวิ่งแถมพ่อคุณก็ไม่ยอมปิดประตูอีก ไม่ทันจะได้ถอยหลังหนีแผ่นหลังของหญิงสาวเสมือนมีพลังงานบางอย่างผลักเข้าไปในคอกจนล้มหน้าคะมำอยู่บนตัวชายหนุ่ม
“เป็นอะไรหรือเปล่า”
มังกรถามด้วยความเป็นห่วงเมื่ออยู่ๆ ร่างบอบบางก็ลอยหวิวเข้ามาทาบทับบนตัวของเขา สัมผัสได้ถึงลมเย็นพัดผ่านเข้ามาจนขนลุกซู่
“เอยสะดุดค่ะ”
เจ้าเอยรีบดันตัวลุกขึ้นจากร่างสูง ใช้ดวงตามองตัวการอย่างคาดโทษหลังเห็นสาวในชุดสไบเฉียงสีม่วงอ่อนนั่งทอดขาอยู่บนคอกเจ้าชารีฟ รอบนี้ใบหน้าที่เคยซีดเผือดเต็มไปด้วยเลือดสีแดงสดแต่ทว่ากลับฉีกยิ้มกว้างจนปากแทบถึงหู
ชุดเปลี่ยน หน้าเปลี่ยน บรรลัยแท้!
เสียงสิงโตคำรามถึงได้เรียกความสนใจให้คนตัวเล็กหันกลับไปมอง เธอค่อยๆ ถอยหลังหนีจนแผ่นหลังชิดเข้ากับร่างกำยำของคนที่ตัวโตกว่า
“สงสัยชารีฟอยากเล่นกับเอย”
“คุณมังกรไล่มันออกไปได้ไหมคะ เอยกลัว”
เสียงสั่นเทาพูดออกมาแทบไม่เป็นภาษา ลำพังหมาตัวใหญ่พันธุ์ร็อตไวเลอร์หญิงสาวก็กลัวจนฉี่จะราดอยู่แล้ว ยิ่งมาเจอกับสัตว์กินเนื้ออย่างสิงโตเธอก็แทบจะร้องไห้ออกมาอยู่รอมร่อ
“ไม่ต้องกลัว ชารีฟไม่เคยมีประวัติกัดใครครับ”
“เอยอาจจะเป็นคนแรกก็ได้”
“ใจเย็นๆ ลองลูบหัวมันหน่อย เดี๋ยวเขาจะน้อยใจเอา”
เจ้าเอยท้อ เจ้าเอยเครียด
“ไม่ค่ะ เอยกลัวจริงๆ”
มังกรหน้าเสียขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นหญิงสาวมีน้ำตาเอ่อคลอแถมร่างกายยังเกร็งไปทุกสัดส่วน คราแรกคิดจะแกล้งเธอแต่ตอนนี้กลับขำไม่ออกรีบพาคนตัวเล็กออกมาจากคอกสิงโต
“ผมพาออกมาแล้ว”
“ปิดประตูด้วยสิคะ เดี๋ยวชารีฟตามออกมา” พูดพร้อมมองเจ้าของรีสอร์ตเดินไปล็อกประตูอย่างแน่นหนา
“กลัวรึ ตัวสั่นเชียว” เสียงเบาหวิวดังเข้าสู่โสตประสาท เจ้าเอยตัวเกร็งยิ่งกว่าเก่าเมื่อเห็นผีสาวยื่นใบหน้ามาชิดเธอ ดวงตาดำคล้ำแปรเปลี่ยนสีแดงจนน่ากลัว แถมยังมีกลิ่นสาบลอยมาแตะจมูกไม่หยุด
ยุบหนอ พองหนอ ไม่ต้องกลัวเจ้าเอย เขาทำอะไรเธอไม่ได้
“เอยครับ”
คนที่ยืนหลับตาปี๋ท่อนบนสวดในใจต้องสะดุ้งจนตัวโยนเมื่ออยู่ดีๆ ก็มีมือปริศนาก็จับบนไหล่บอบบาง เสียงเรียกแทบแยกไม่ออกว่าเป็นของใคร
“กรี๊ดด!”
มังกรยืนชูมือนิ่งค้างมองร่างบอบบางวิ่งกระโจนหนีออกไปจากบริเวณ เขาขมวดคิ้วสงสัยอย่างหนักกับท่าทีของเธอ ถึงกระนั้นก็รีบวิ่งตามหญิงสาวออกไปด้วยความเป็นห่วง