1-INTRO

1805 คำ
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนก่อน.... ยัยพริ้งนะยัยพริ้ง โอเคฉันรู้แหละว่าหวังดีอยากจะช่วยคนที่ได้รับบาดเจ็บ แต่เอาผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้มาไว้ห้องฉันแถมตัวเองยังหนีกลับห้องป่านนี้ก็ยังไม่มามันน่ามั้ยเนี่ย !! ฉันได้แต่บ่นเพื่อนในใจพรางนั่งมองผู้ชายตรงหน้า ฉันนั่งเฝ้าผู้ชายแปลกหน้าคนเดียว ใช่สิ!! นี่มันห้องฉัน เขาได้รับบาดเจ็บหลายจุดตามร่างกาย ไม่รู้ว่าไปมีเรื่องกับใครมา ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าของเขาก็ยังดูดีไม่มีที่ติ ร่างหนาค่อย ๆ ขยับ ทำเอาฉันสะดุ้งทำตัวไม่ถูกเมื่อผู้ชายแปลกหน้าคนนั้นเขารู้สึกตัวแล้ว เขาตะวัดสายตามาจ้องหน้าฉัน สายตาของเขาทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองทำอะไรที่มันผิดร้ายแรงมาก ๆ มาอย่างนั้น “เธอเป็นใคร” นี่คือคำแรกที่เขาถามฉัน น้ำเสียงเย็นยะเยือกของเขาทำให้ขนฉันลุกซู่ไปทั้งตัว “นะ นี่นาย!! อย่ามองฉันแบบนี้นะ ฉันช่วยนายเอาไว้นะ” ฉันรีบพูดขึ้นทันทีเพราะกลัวว่าเขาจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่ เขาเงียบไม่พูดอะไร สายตาคมกริบมองไปรอบ ๆ ห้องก่อนจะมาหยุดตรงใบหน้าของฉันอีกครั้ง ทำไมสายตาของเขาเวลาที่มองฉันมันถึงได้น่ากลัวขนาดนี้นะ “ฉะ ฉันทำแผลให้นาย....” “อื้ม” เขาชิงตอบก่อน จากนั้นเขาก็ล้วงมือไปหยิบกระเป๋าเงินของตัวเองขึ้นมา เงินจำนวนมากถูกวางเอาไว้ ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นหันหลังให้ฉันแล้วเดินไปเปิดประตูออกไปจากห้องฉันไปเลย เฮ้ยย!! คนแบบนี้ก็มีด้วยหรอเนี่ย แม้แต่ขอบคุณยังไม่คิดจะพูดเลย ให้ตายเถอะ!! สายธารเอ้ย! ไม่น่าไปช่วยหรอกแบบนี้ เงินนั่นใครอยากได้กัน สายธารน่ะชื่อของฉันเอง คิดไปแล้วก็หงุดหงิดกับผู้ชายคนนั้นไม่หาย หลายวันผ่านไป... ฉันใช้ชีวิตตามปกติ ไปเรียนกลับมาที่ห้อง โทรศัพท์ไปคุยกับคนที่บ้านบ้าง พ่อกับแม่แล้วก็พี่ชายฉันอยู่ต่างจังหวัดน่ะ ส่วนฉันมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพกับยัยพริ้งเพื่อนสนิทที่สุดของฉัน ก๊อก ๆ (เสียงเคาะประตูห้อง) ตอนนี้ฉันกำลังแต่งหน้าแต่งตัวเพราะนัดไปเที่ยวกับพวกไอ้เตเพื่อนกลุ่มเดียวกันนี่แหละ ฉันเดินไปเปิดประตูห้องเพราะคิดว่าคงเป็นพริ้งที่มาเคาะห้องบางทีนางอาจจะเปลี่ยนใจไปกับฉันด้วยก็ได้ แต่!!! เมื่อเปิดประตูออกไปแล้วมันกลับไม่ใช่พริ้ง แต่เป็นผู้ชายแปลกหน้าคนนั้น คนที่ฉันเคยทำแผลให้เขา ในตอนนี้ใบหน้าของเขายังคงมีรอยฟกช้ำอยู่ มันไม่ได้ลดลงไปเลยสักนิด แต่เหมือนกับว่ามันจะมีรอยช้ำเพิ่มขึ้นมาซะมากกว่า “นายมีอะไรหรือเปล่า ?” ฉันถามเขาอย่างแปลกใจ เขาไม่ตอบอะไรแต่กลับเดินเข้ามาภายในห้อง เดิน ดุ่มๆ ไปนั่งบนโซฟาเฉยเลย เขาทำเหมือนห้องนี้เป็นของเขาเอง “นี่นาย ใครอนุญาตให้เข้ามาออกไปเลยนะ ถ้าไม่ออกไปฉันจะเรียก รปภ ขึ้นมาลากตัวนายออกไป” “ทำแผลให้ฉันหน่อย” เขาไม่แม้แต่จะใส่ใจคำพูดของฉันเลยสักนิด “ห๊ะ ทะ ทำแผล” “อื้ม” “แล้วทำไมนายไม่ไปโรงพยาบาล ฉันไม่ใช่หมอนะ อีกอย่างฉันมีธุระต้องไป” “ไปแรด ?” เขาเลิกคิ้วหนาขึ้นเชิงถามฉัน นี่เขารู้จักฉันดีแค่ไหนกันถึงได้มาพูดอะไรแบบนี้กับฉัน “ออกไปจากห้องฉัน !!” “ทำแผลก่อน” พูดจบก็ถอดเสื้อออก ฉันกำลังจะอ้าปากไล่เขาอีกครั้งแต่ก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นเลือดที่เปรอะเปื้อนไหลออกมาตรงหน้าท้องของเขาเต็มไปหมด เลือดออกขนาดนี้เขายังไม่มีท่าทีว่าจะเจ็บปวดอะไรเลยสักนิด ทนได้ยังไงกัน “ยืนมองทำไม รอให้เลือดฉันไหลออกมาหมดตัวก่อนว่างั้น ?” “อ่ะ ระ รอๆ แป๊บนะเดี๋ยวฉันไปเอากล่องปฐมพยาบาลมาก่อน” ฉันรีบวิ่งหน้าตั้งไปหยิบกล่องปฐมพยาบาล ถึงไม่อยากให้เขามาอยู่ในห้องแบบนี้ แต่คนบาดเจ็บมาฉันก็ต้องช่วยถูกมั้ย ยังไงผู้ชายคนนี้ฉันก็เคยทำแผลให้เขามาก่อนหน้านี้แล้วหนิ “นอนลงไปสิ” ฉันวางกล่องปฐมพยาบาลลงก่อนจะสั่งให้เขานอนลงไป เขาก็ทำตามที่ฉันบอกอย่างว่าง่ายนะ จากนั้นฉันก็เริ่มทำแผลให้เขา แต่จริง ๆ ฉันก็ทำไม่เป็นหรอกนะ แค่ความรู้พื้นฐานการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเท่านั้นแหละ แผลของเขาที่มีเลือดไหลออกมามันเป็นเหมือนรอยโดนมีดแต่แค่ถาก ๆ เท่านั้น “ทีหลังนายควรไปหาหมอนะ” ฉันบอกเขาพร้อมกับมองใบหน้าของเขาซึ่งเขาก็กำลังมองฉันอยู่เหมือนกัน “เธอก็ทำได้” “นี่!! ฉันไม่ใช่หมอและอีกอย่างนายคือคนแปลกหน้าสำหรับฉัน” “เดี๋ยวก็ชิน” คำพูดนั้นของฉันมันเหมือนว่าเขาจะเข้าใจ แต่เปล่าเลย เพราะทุกครั้งที่เขาได้รับบาดเจ็บมา ก็จะเป็นฉันที่เป็นคนทำแผลให้เขา โดยที่ฉันไม่เคยรู้เลยว่าเขาเป็นใคร ชื่ออะไร แผลที่ตัวเขาเกิดจากอะไร เขาเป็นคนดีหรือเปล่า ฉันรู้แค่ว่าผู้ชายคนนี้ เป็นคนที่เย็นชา เลือดเย็นที่สุด เท่าที่ฉันเคยเจอมาเลย ปัจจุบัน ฉันเลิกเรียนกลับมาที่ห้องสแกนคีการ์ดเข้าไปในห้อง ก็เจอกับผู้ชายที่ฉันเริ่มจะคุ้นหน้าเขาแล้วแหละ เพราะเขามาที่นี่บ่อยราวกับว่ามันคือห้องของตัวเขาเอง มาบ่อยถึงขนาดที่ว่ามีคีการ์ดห้องฉัน แต่!! อย่าคิดว่าฉันเป็นคนเอาให้เขานะ ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาไปเอามาได้ยังไง “วันนี้ไปมีเรื่องกับใครมาอีกล่ะ ?” พอเดินเข้าไปในห้องฉันก็ถามกับคนที่นั่งรออยู่บนโซฟาทันที เขาอยู่ในชุดนักศึกษาแต่ไม่ใช่มหาวิทยาลัยเดียวกันกับฉันหรอกนะ ฉันมีไปสืบมาด้วยจากเข็มที่ติดอยู่บนชุดนักศึกษาของเขา มันเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังที่มีแต่ลูกท่านหลานเธอระดับมหาเศรษฐีไปเรียนทั้งนั้น ที่ฉันต้องสืบก็เพราะว่าฉันอยากรู้อะไรเกี่ยวกับเขาบ้าง แต่ก็ไม่ได้รู้อะไรเลย รู้แค่ว่าผู้ชายคนนี้ต้องรวยมากแน่ ๆ เขาหันมามองหน้าฉันด้วยสายตาที่เย็นชาก่อนจะหันหน้ากลับไปโดยไม่พูดอะไร อะไรของเขาเนี่ย !! “นี่นาย....” “ไม่ได้มีเรื่องกับใคร” เขาตอบเพียงสั้น ๆ แค่นี้ มันเป็นปกติของเขานั่นแหละที่เขาจะพูดน้อย ๆ ฉันเริ่มชินแล้วแหละ “ไม่มีเรื่องกับใคร แล้วนายมาทำไม” ฉันถามอย่างแปลกใจ ไม่ใช่ว่าฉันไม่เคยไล่ไม่เคยบอกว่าไม่ให้เขามาที่ห้องฉันอีกนะ แต่เชื่อเถอะว่าผู้ชายคนนี้หน้าด้านกว่าที่คิด “เพื่อนยืมห้อง” “ยืมห้อง ยืมทำไม ?” ฉันถามเขาอย่างแปลกใจอีกครั้ง “อยู่กับเด็ก” เขาตอบแค่นั้น แต่ฉันก็พอจะเดาออกแล้วแหละว่ามันมีอะไรมากกว่าคำว่าอยู่กับเด็ก ฉันเดินไปหยุดตรงหน้าของเขาก่อนจะมองดูใบหน้าเขาว่ามันมีรอยฟกช้ำอะไรเพิ่มเติมมาบ้างหรือเปล่า “มองทำไม ?” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเป็นปมก่อนที่เขาจะเอ่ยถามฉันเสียงเรียบ ๆ “แค่จะดูว่านายไม่ได้ไปมีเรื่องกับใครมาจริง ๆ หรือเปล่า แต่ไม่มีก็ดีแล้วแหละ” “ห่วง ?” เขาเลิกคิ้วถามฉัน “เปล่า ฉันขี้เกียจทำแผลให้ต่างหาก” ฉันพูดจบก็หันหลังให้เขาเตรียมจะเดินเข้าไปในห้องนอนแต่นึกขึ้นได้ว่าลืมบอกอะไรเขาไปอีกอย่าง เลยหมุนตัวกลับไปเพื่อที่จะบอกเขา ไม่คิดว่าเขาจะเดินตามหลังฉันมาติด ๆ พอฉันหยุดเดินแล้วหมุนตัวกลับไปมันทำให้ใบหน้าของฉันไปชนกับแผงอกของเขาทันที ก่อนที่คนตัวสูงจะก้มหน้าลงมามองฉัน “อื้อ นี่!! นะ นายจะเดินตามฉันมาทำไม” ฉันถามพร้อมกับถอยหลังหนีเขาสองก้าว “อยากอาบน้ำ” “อยากอาบน้ำ ? นายก็รอกลับไปอาบที่ห้องนายสิเพื่อนนายคงไม่อยู่ที่ห้องนานทั้งคืนหรอกนะ นี่!! อย่าคิดที่จะมานอนห้องฉันเชียวนะ แค่ฉันให้นายเข้ามาในห้องก็มากพอแล้ว” ฉันพูดออกไปยาวเหยียด ถึงเขาจะมาที่ห้องฉันบ่อยแค่ไหน แต่เขาก็ไม่เคยได้มานอนที่ห้องของฉันหรอก “อื้ม” บางทีฉันก็หงุดหงิดกับการพูดน้อย ๆ ของเขานะ ไอ้คำว่าอื้มเนี่ยมันหมายความว่ายังไงกันล่ะ “สรุปนายเข้าใจที่ฉันพูดใช่มั้ย” “ขออาบน้ำก่อน” ฉันถอนหายใจออกมายาว ๆ อย่างหัวเสียให้กับความเย็นชาของผู้ชายคนนี้ “วันนี้ฉันจะไปคลับ ถ้าอาบน้ำเสร็จแล้วนายก็ควรจะกลับไป” “อื้ม ขอผ้าเช็ดตัว” ฉันจำใจต้องเดินเข้าไปในห้องเพื่อหยิบผ้าเช็ดตัวของตัวเองมาให้เขา เมื่อออกมาจากห้องนอนก็เห็นว่าตอนนี้เขาถอดเสื้อผ้าออกแล้ว ยังดีที่เขาไม่ถอดบ็อกเซอร์ออกด้วย จริง ๆ เขาควรจะอายฉันบ้างนะ “อ่ะ รีบ ๆ อาบฉันนัดเพื่อนเอาไว้” “ถ้ารีบมากก็มาอาบด้วยกันมั้ย” เขาพูดคำนี้ออกมาได้หน้าตายมาก นี่ชวนฉันไปอาบน้ำด้วยถูกมั้ย ก็อย่างว่าผู้ชายมีหรอจะไม่คิดเรื่องพวกนี้ ร้อยทั้งร้อย !! “อย่างนาย ไม่ใช่ทางฉันหรอก รีบ ๆ ไปอาบ” “หึ!! อย่ากลืนน้ำลายตัวเองแล้วกัน” เขาพูดทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนจะหยิบผ้าขนหนูในมือฉันเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ฉันไม่เข้าใจที่เขาบอกว่า ‘อย่ากลืนน้ำลายตัวเอง’ มันแปลว่าอะไรกัน ❤️❤️❤️ ถ้าคุณคิดว่านิยายเรื่องนี้เป็นแนวรักกันใสๆ พระเอกตามจีบนางเอก คุณคิดผิดค่ะ 5555 อัปสั้นหน่อยพอดีรีบไปธุระ พรุ่งนี้ต่อยาว ๆ เด้ออ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม