“เป็นไงจ๊ะสาวๆ เสร็จงานแล้วไม่ต้องทำหน้าเหี่ยวแห้งขนาดนั้น”
ตระการ ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์บริษัทออร์แกไนซ์ซึ่งรับจัดงานนี้ เอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มให้สาวๆ ด้วยความเอ็นดู เพราะแต่ละคนก็เหน็ดเหนื่อยมาถึงหกวันเต็มๆ
“ดูเหมือนว่าแบตเตอร์รี่ในตัวของพวกเรากำลังจะหมดค่ะ” พริตตี้คนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนเพลีย
“ได้ค่าขนมแล้วจะหายเหนื่อย เรียงแถวกันเข้ามาเดี๋ยวพี่จะให้ค่าขนม” เมื่อตระการพูดจบสาวๆ ก็ต่างเดินไปรุมล้อมเขาทันที พร้อมกับรับซองเงินสดซึ่งหักค่านายหน้าเรียบร้อยแล้ว แต่ยังถือว่าค่าจ้างของสาวๆ เยอะอยู่ดี
“ขอบคุณมากค่ะพี่ตระการ” เหล่าบรรดาพริตตี้ทั้งหมดต่างพากันรับซองแล้วยกมือไหว้ชายหนุ่ม ขณะที่มีสาวสวยคนหนึ่งเดินมารับซองเป็นคนสุดท้าย
“เป็นไง เหนื่อยเหรอพิมพ์” ตระการถามด้วยความเป็นห่วงพลางยื่นซองเงินให้ แต่ความจริงก็เป็นห่วงทุกคนเนื่องจากว่าเข้างานเช้ากลับค่ำ ย่อมเหนื่อยเป็นธรรมดา
“ตอนทำ ไม่เหนื่อยเท่าไหร่ค่ะ พอทำเสร็จเท่านั้นแหละแทบหมดแรงแน่ะ” พิมพ์อัปสร ใหม่ที่สุดในบรรดาที่พริตตี้ที่ทำงานในวันนี้ เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนเพลียและยิ้มบางๆ
“นี่ครับค่าเหนื่อย คงทำให้หายเหนื่อยได้สักอาทิตย์ล่ะมั้ง”
“คงไม่ได้พักมั้งคะ วันพรุ่งนี้พิมพ์ก็ต้องไปงานอื่นต่อ”
“เอาน่าสู้ๆ คนกำลังฮอตก็อย่างนี้แหละ รับงานรับเงินแทบไม่ทัน”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นได้ก็จะดีมากเลยค่ะ อยากฮอตเหลือเกิน ทุกวันนี้ก็ยังทำงานทุกวัน วันละหลายๆ ที่เพราะค่าตัวยังไม่แพงนัก โปรไฟล์ไม่ได้เลิศเหมือนคนอื่น ประสบการณ์น้อยนิด”
“แหมถ่อมตัวเหลือเกินนะ เท่าที่เห็นนี่ประสบการณ์ไม่ได้น้อยนิดเสียหน่อย พูดถึงเรื่องค่าตัว สักวันเดี๋ยวจะนับเงินไม่ทัน” ตระการให้กำลังใจและยิ้มอย่างอ่อนโยน
“ขอบคุณมากค่ะ พิมพ์ต้องขอตัวนะคะไม่อยากกลับค่ำจนเกินไป”
“ตามสบายจ้ะ หวังว่าเราคงจะได้ร่วมงานอีก ถ้ามีงานอะไรที่เหมาะกับพิมพ์ เดี๋ยวพี่จะโทรเรียก”
“ขอบคุณอีกครั้งค่ะพี่ตระการ” พูดจบพิมพ์อัปสรก็ยกมือไหว้ชายหนุ่มอีกครั้ง ก่อนจะขอตัวเพื่อไปหยิบเอากระเป๋าสะพายซึ่งมีเสื้อผ้าเอาไว้เปลี่ยน ก่อนจะกลับออกไปจากห้าง พิมพ์อัปสรเปลี่ยนเป็นชุดธรรมดาคือเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ขาม้า รองเท้าผ้าใบสีกรมท่า แบบทะมัดทะแมงอย่างที่เธอชอบ แต่ด้วยความที่เป็นคนหุ่นดีมาก รูปร่างสูงเพรียวถึงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าเซนติเมตร ทำให้การแต่งตัวแสนธรรมดากลายเป็นดึงดูดและดูดี ไม่ต่างจากนางแบบที่มีชื่อเสียงเลยทีเดียว
พิมพ์อัปสร พราวประภัทร สาวสวยวัยยี่สิบสี่ปี เธอผู้มีความฝันว่าอยากจะเป็นนางแบบระดับซูเปอร์โมเดล ด้วยรูปร่าง หน้าตาที่ได้เปรียบผู้หญิงหลายคน ใบหน้าสวยเจิดจรัส เวลาไม่ยิ้มเธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงที่หยิ่งจองหอง ดวงตาเรียวคมหางตาเชิดขึ้นเล็กน้อย จมูกโด่งยาวได้รูปรับกับริมฝีปากรูปกระจับ ริมฝีปากด้านบนเล็กคล้ายรูปหัวใจ ด้านล่างหนากว่านิดหน่อย ใบหน้ารูปไข่ รวมๆ เมื่อยิ้มออกมาจะว่าสวยหวานก็ใช่ แต่เมื่อยอมที่ไร้รอยยิ้มเธอก็ดูสวยเก๋ แต่ผิวพรรณไม่ถึงกับขาวเว่อร์ แบบเหล่าพริตตี้ที่ฉีดผิว ฉะนั้นผิวตามธรรมชาติของเธอคือขาวกลางๆ เท่านั้น แต่นวลเนียนเพราะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี เพื่อให้พร้อมสำหรับการทำงานในทุกวัน
พิมพ์อัปสรอยู่ในฐานะหาเช้ากินค่ำตามปกติทั่วไป ไม่ได้ยากจนข้นแค้นแต่ไม่ได้ร่ำรวย ทว่าเธอก็มีฝันที่อยากจะร่ำรวย อยากจะหาเงินแค่ในเช้าค่ำนี้และกินไปได้อีกหลายมื้อหลายวัน ไม่ใช่หาเช้ากินค่ำแล้วหมดไปในแต่วัน เพราะไม่อย่างนั้นก็ต้องทำงานแลกข้าวไปจนตาย เธออยากมีอนาคตในวงการบันเทิง เพราะมองว่ามันมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ ทำงานครั้งเดียวแต่ได้เงินเยอะ และวงการบังเทิงที่เธอชอบคือนางแบบ เพราะบุคลิกภาพของเธอมาทางด้านนี้เสียมากกว่า
แต่ก่อนที่ความฝันจะเป็นจริง มันก็ต้องใช้เวลาเพราะเธอเพิ่งจะเดินตามความฝันของตัวเองได้ไม่กี่ปี ด้วยความต้องการเรียนมหาวิทยาลัยและค่าใช้จ่ายสูง ทางครอบครัวไม่มีรายได้ที่มากพอ อีกทั้งยังต้องส่งเสียน้องสาวและน้องชายเรียนมหาวิทยาลัย ทำให้พิมพ์อัปสรต้องเสียสละออกมาทำงานและเรียนไปด้วย นั่นคือการรับงานพริตตี้หารายได้ต่อวันถือว่าได้มากสำหรับเธอ แต่จะไม่รับงานที่โป๊เปลือยเป็นอันขาด ทว่ายิ่งเติบโตวงการนี้มากเท่าไหร่ยิ่งทำให้ต้องโชว์เนื้อหนังมากขึ้น อย่างเช่นงานวันนี้ มีดีอะไรก็งัดออกมาโชว์เรียกลูกค้าหมด ดีที่ชุดไม่โป๊มากเกินไป เธอคิดไปเรื่อย ตั้งแต่เริ่มทำงานจนถึงวันนี้ การเดินตามความฝันของตัวเองมันเหนื่อยเหลือเกิน
“เฮ้อ!” พิมพ์อัปสรเผลอถอนหายใจทิ้งหนักๆ ขณะที่กำลังนั่งรถแท็กซี่กลับบ้าน เหตุที่ไม่อยากนั่งรถเมย์เพราะอยากกลับถึงบ้านเร็วและจะได้พักผ่อนเร็วๆ นั่นเอง กระทั่งถึงหน้าปากซอยทางเข้าแล้ว จำเป็นต้องจอด เพราะต้องเดินเท้าเข้าไปเท่านั้น
“จอดตรงนี้แหละค่ะ ขอบคุณค่ะ” พิมพ์อัปสรบอกเสียงเรียบแต่สุภาพ แท็กซี่ก็เหยียบเบรคทันที เมื่อรถจอดสนิทเธอยื่นเงินให้ตามจำนวน ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถ แล้วเดินเข้าไปในซอยทันที โดยที่ซอยทางเข้าบ้านก็ไม่ได้แคบอะไร รถจักรยานสามารถขับเข้ามาได้ สองทางเดินเต็มไปด้วยบ้านไม้ติดกัน แต่ละหลังมีรั้วไม้กางกั้น บ้านหลังไหนมีเงินหน่อยก็ทำรั้วปูน เช่นเดียวกันบ้านของเธอเป็นรั้วไม้ แต่แข็งแรงและสูงเสมอหัวไหล่ของเธอเลยทีเดียว