ใจเขาอยากทิ้งผู้หญิงคนนั้นเอาไว้ตรงนั้น แต่ไม่รู้ทำไมถึงตัดสินใจเดินกลับไปหาเธออีกครั้ง
เพราะยังรัก?
หึ…ไม่ใช่หรอก สงสารมากกว่า
เขาไม่ใช่คนใจร้ายไส้ระกำขนาดนั้น อีกอย่างมิวนิคเป็นคนขอร้องให้ช่วย เป็นเรื่องยากที่ผู้หญิงแบบเธอจะเอ่ยอะไรแบบนั้นออกมา
สายตาคมเข้มมองมิวนิคที่พยายามลุกขึ้นจากพื้น ตอนนี้เท้าทั้งสองเปลือยเปล่า หัวใจดวงน้อยพลันไหววูบเมื่อเห็นวาคีลเดินกลับมา ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ทำใจจืดใจดำไม่ยอมช่วย
พรึ่บ…
วาคีลช้อนร่างบางขึ้นในท่าเจ้าสาวโดยไม่พูดอะไร มือข้างหนึ่งถือรองเท้าส้นสูงตัวการเอาไว้ให้ พามิวนิคเดินไปนั่งอยู่มุมหนึ่ง
“รอตรงนี้” เขาบอกมิวนิค ก่อนจะเดินตรงไปยังร้านขายยาที่อยู่ใกล้ๆ
มิวนิคมองตามแผ่นหลังแกร่ง ซึ่งกำลังเดินตรงไปยังร้านขายยา ก้อนเนื้อข้างซ้ายพลันเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง ขอคิดเข้าข้างตัวเองก่อนว่าเขาไปซื้อยามาทาให้แน่ๆ
และมันก็จริง…
วาคีลเดินออกมาพร้อมถุงยา ใบหน้าหล่อเหลายังคงนิ่งเฉยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ความหล่อของเขาไม่เคยลดน้อยลง ไม่รู้คิดไปเองไหม เธอรู้สึกว่าวาคีลหล่อและดูดีขึ้นกว่าเดิมมากหลายเท่า เมื่อก่อนหุ่นเขาบางกว่านี้ สงสัยออกกำลังกายอย่างหนักตัวถึงดูหนาขึ้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาหล่อมาก ผิดแค่ตอนนี้ปากร้ายและเย็นชาขึ้นมาหน่อย
เมื่อก่อนคงรักเธอมากสินะ ถึงทำให้เขาเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้ จากผู้ชายแสนดีและอบอุ่น ตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับปีศาจ
ปีศาจวาคีล…
“จะ…เจ็บ..” เธอบอก เมื่อวาคีลจับเท้าของเธอขึ้นมา
“เจ็บแค่นี้ไม่ถึงกับตาย”
เธอถลึงตาใส่วาคีล เลือกที่จะไม่ต่อปากต่อคำ เพราะถึงยังไงเขาก็อุตส่าห์เดินกลับมาช่วย แถมยังซื้อยามาทาให้อีก มองวาคีลนั่งทายาให้เงียบๆ เห็นเขามุมนี้แล้วอดนึกถึงเมื่อก่อนไม่ได้
กลิ่นอายในวันวานหวนกลับมาทำให้…เผลอคิดถึง
น่าเสียดายที่เธอและเขาไม่ได้สานต่อกัน หากวันนั้นเธอไม่ขอจบความสัมพันธ์ วันนี้เธอและเขาจะเป็นอย่างไรนะ จะยังอยู่ด้วยกันในสถานะเดิม หรือสถานะใหม่?
“ฉันไม่คิดว่านายจะเดินกลับมา”
“ช่วยเหลือคน มันได้บุญ”
ถึงเป็นคำพูดที่แรงและทำร้ายจิตใจกันไปหน่อย แต่ลึกๆ เธอเชื่อว่าวาคีลคงแอบเป็นห่วง ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่เดินกลับมาช่วยเธอและซื้อยามาให้
“ขอบคุณนะ”
กึกก
มือหนาชะงัก หลังจากได้ยินมิวนิคเอ่ยคำขอโทษ ใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้นมองเจ้าของคำพูดเมื่อครู่
“อืม” เขาตอบมิวนิคกลับไปสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงในลำคอ
“ยากิน”
เธอรับถุงยามาจากวาคีล
“รถจอดอยู่ไหน”
“ตรงนั้น” เธอชี้บอกเขา
วาคีลไม่พูดอะไรนอกจากหยัดกายขึ้นเต็มความสูง แล้วอุ้มเธอในท่าเจ้าสาวเหมือนเดิม เวลาเขาอบอุ่นด้วยมันรู้สึกดีมาก เธอลอบมองใบหน้าหล่อเหลาของวาคีล เขาเป็นผู้ชายอบอุ่น ดูแล และเอาใจใส่เธอดีมาก
ตอนแรกที่ชวนเขาเข้ามาอยู่ในความสัมพันธ์คู่นอนเพราะพึงพอใจ พอเข้ามาอยู่ในความสัมพันธ์ด้วยสักพัก เธอกลับชอบนิสัยและตัวตนของวาคีล เขาไม่เหมือนผู้ชายคนอื่นที่เธอเคยเจอมา แต่น่าเสียดายที่เธอไม่ได้รู้สึกกับเขาแบบนั้น
เขามาส่งเธอจนถึงรถ
“ขับกลับได้ใช่ไหม?”
“เดี๋ยวฉันโทรบอกเพื่อนมารับ”
“อืม”
หมับ
เธอคว้ามือวาคีลที่กำลังหันหลังเดินออกไปเอาไว้ ไม่รู้อะไรดลใจให้เธอทำแบบนี้เหมือนกัน เขาหันกลับมามองเธอ และปรายสายตามองมือที่เธอกำลังจับอยู่
“ขอบคุณอีกครั้งนะ”
“…”
“ฉัน…”
“หวังว่านี่คงเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเราจะเจอกันนะ”
“…” คราวนี้เธอเป็นฝ่ายเงียบบ้าง
“ฉันไม่อยากเจอเธออีก”
“นายคงเกลียดฉันมาก”
“ใช่ ฉันเกลียดเธอ”
มิวนิคแค่นยิ้ม
“ทำไมพวกเราไม่กลับมาคุยกันดีๆ เหมือนเมื่อก่อน?” เธอเริ่มรู้สึกเสียดายวาคีลขึ้นมา ไม่อยากให้เขาเป็นของคนอื่น ไหนๆ สถานะคู่หมั้นมันก็ผูกมัดเธอและเขาไว้ด้วยกัน หากปล่อยเขาไปอีกครั้งมันคงน่าเสียดายมากจริงๆ
เขามองมิวนิคนิ่งๆ เธอไม่เคยเข้าใจความรู้สึกที่ผ่านมาของเขาเลยสินะ ประโยคนั้นไม่สมควรออกมาจากปากของเธออีกครั้งด้วยซ้ำ
“ทำไมถึงอยากกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อน?”
“ไม่รู้สิ แค่ตอนนี้กำลังรู้สึกแบบที่พูด”
“หึ เธอคิดว่าถ้าพวกเรากลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อน อะไรๆ มันจะเหมือนเดิมไหม?”
“…” เธอไม่รู้เลยว่ามันจะเป็นเหมือนเดิมได้ไหม แค่ตอนนี้อยากกลับไปเป็นเหมือนเดิมกับวาคีล
เธอกำลังเสียดายเขา…
วาคีลคงสะใจไม่ใช่น้อยถ้ารู้ว่าเธอกำลังเสียดาย บางทีผู้ชนะที่แท้จริงอาจจะเป็นเขาก็ได้
“ผู้หญิงแบบเธอ ให้ฟรีอีกครั้งฉันก็ไม่เอา”
เธออึ้งกับประโยคเมื่อครู่ของวาคีล คำพูดเขาแรงมาก ทำธอสะตั้นลงไปเลยทีเดียว ไม่เคยมีใครพูดแบบนี้กับเธอมาก่อน วาคีลคือคนแรกที่กล้าพูด เธอนั่งแค่นหัวเราะออกมา หลังจากอึ้งอยู่นานสองนาน
“นายคือคนแรกเลยนะที่พูดกับฉันแบบนี้”
ทำไมเขาจะไม่รู้ ระดับคุณหนูมิวนิคคงไม่มีใครกล้าต่อกรด้วยหรอก
เมื่อก่อนตอนที่ยังอยู่ในความสัมพันธ์กับมิวนิค หลายคนบอกกับเขาว่า เขาเก่งมากที่อยู่กับมิวนิคได้นานขนาดนี้ แถมยังกล้ากับเธอในบางเรื่องที่คนอื่นไม่กล้าทำ ต่อหน้าคนอื่นมิวนิคคือนางพญาที่ใครๆ ต่างเกรงกลัว พออยู่กับเขา มิวนิคไม่ต่างจากลูกแมวน้อย ที่ดื้อและซนนิดหน่อย
“นายจะบอกเหตุผลกับผู้ใหญ่เรื่องถอนหมั้นว่ายังไง?”
“ไม่อยากแต่งงานด้วย” ถ้าครอบครัวเขารู้ว่าผู้หญิงที่ทำให้เขาเจ็บเจียนตายคือมิวนิค รับรองเลยว่าครอบครัวเขาไม่ยอมให้แต่งงานด้วยแน่นอน ตอนนั้นมีครอบครัวคอยปลอบใจและให้กำลังใจ จนกระทั่งเขาสามารถผ่านเรื่องพวกนี้ไปได้
“นายไม่คิดอยากลองดูใหม่อีกครั้งหน่อยเหรอ?”
“เธออยากลอง?”
“จะว่างั้นก็ได้” เธอตอบวาคีลตรงๆ
“แต่ฉันไม่อยากกลับไป” เขาตอบมิวนิค
“…”
“ฉันเข็ด” เข็ดแล้วกับผู้หญิงคนนี้ ชีวิตขอไม่เจอเธออีก หวังว่านี่คงเป็นครั้งสุดท้ายที่ต้องเจอกัน