พิษรัก 3 | เจ็บให้ได้เท่าฉัน

984 คำ
ทำไมต้องมาเจอเขาอีกด้วยนะ… ทั้งที่ตัดขาดความสัมพันธ์กันไปนานแล้วแท้ๆ ทำไมต้องวนกลับมาเจอกันอีก เธอไม่เป็นอันทำอะไรแล้วตอนนี้ ถึงแม้ว่าพยายามไม่สนใจ แต่บางทีมันอดไม่ได้ที่จะเหล่สายตาไปมอง วาคีลดูดีขึ้นมากจากที่ดูดีอยู่แล้ว ยังคงมีออร่าบางอย่างเปล่งประกายออกมาดึงความสนใจจากคนรอบข้าง เมื่อก่อนแววตาคู่นั้นของเขาดูอบอุ่นและอ่อนโยน ตอนนี้น่ะเหรอ? ไร้ความรู้สึก… บางทีเธอก็แอบมีความรู้สึกเสียดายเขาอยู่ลึกๆ แต่คงทำอะไรไม่ได้ นอกจากปล่อยเขาไปเจอคนดีๆ ความรักของวาคีลถ้าให้ถูกคนมันจะมีค่ามาก แต่เขาดันเอามามอบให้คนอย่างเธอเนี่ยสิ “วาคีลหล่อมาก แกนึกเสียดายบ้างไหมมิวนิค” เรเน่ถาม “นั่นสิ เท่าที่แกเคยคุยๆ มา วาคีลเข้าท่าที่สุดแล้ว หล่อ รวย เก่ง โคตรเพอร์เฟกต์อะ” ซานพูดเสริม “ใครได้วาคีลไปโชคดีมากเลยเนอะ” โยเกิร์ตพูดพลางหันไปมองวาคีล มิวนิคพลาดที่ทิ้งผู้ชายดีๆ อย่างวาคีลไป “ใครวาคีลไปเป็นแฟน ยิ่งกว่าถูกล็อตเตอร์รีรางวัลที่หนึ่งอะ” ซานตอบ ยิ่งฟังเพื่อนพูด ความรู้สึก ‘เสียดาย’ ยิ่งมากขึ้น มือเล็กที่จับแก้วเผลอบีบเข้าหากัน ตอนนี้เริ่มเสียดายขึ้นมาจริงๆ เธอคงพลาดที่ทิ้งวาคีลจริงๆ อย่างที่เพื่อนสนิทพูด ใบหน้าสวยหวานหันไปมองวาคีลอีกครั้ง เสียงหึในลำคอดังเล็ดลอดออกมาเบาๆ เมื่อเห็นวาคีลกำลังนั่งคุยกับผู้หญิงหน้าตาสะสวยด้วยท่าทางกระหนุงกระหนิง นั่นไม่ใช่เขาในเมื่อก่อน หากแต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป เขาไม่ใช่คนเดิมที่เคยรู้จักอีกต่อไป… “เลิกพูดถึงผู้ชายคนนั้นสักที ฉันกับเขาจบกันไปแล้ว” “ตอบก่อน เสียดายไหม?” เรเน่คะยั้นคะยอให้มิวนิคตอบคำถาม เธอนิ่งเงียบ ไม่อยากตอบคำถามนี้เท่าไร ยิ่งเป็นคนมีฟอร์มอยู่ด้วย อีกอย่างทำไมเธอต้องตอบ? ในเมื่อวาคีลเป็นอดีตไปแล้ว อดีตคืออดีต เธอจะไม่กลับไปยุ่งกับมันอีก ชีวิตเขาตอนนี้คงมีความสุขมากไม่ใช่น้อย “อือ ก็เสียดาย” “คิดจะกลับไปเอาเขาคืนมาไหม?” “ฉันมีคู่หมั้นแล้ว” ไม่มีใครพูดต่อ คนอย่างมิวนิคไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ หากสิ่งนั้นคือความสนใจจริงๆ จะสู้จนกว่าได้มาครอบครอง ทว่าสำหรับวาคีลไม่ใช่แบบนั้น มิวนิคปล่อยเขาไปได้อย่างง่ายดาย ชัดเจนแล้วว่าไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยนอกเหนือจากต้องการแค่ ‘เล่นสนุก’ ••• “อยู่ไหนเนี่ย” เธอค้นหาลิปสติกตัวเองในกระเป๋าใบหรู ด้วยความเริ่มเมากรึ่มทำให้หาของไม่เจอ เธอปลีกตัวออกมาข้างนอกเพราะเมาไฟข้างใน “เจอแล้ว…” พอหยิบออกมาเท่านั้น ลิปสติกแท่งโปรดหลุดมือตกกลิ้งลงบนพื้น เธอก้มลงเก็บ และเป็นจังหวะเดียวกันที่เท้าของใครบางคนหยุดอยู่ใกล้ลิปสติก พอเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของรองเท้าคู่นี้ หัวใจที่นิ่งสงบพลันกระตุกวูบทันที วาคีล… เจอเขาอีกแล้ว แววตาตอนมองจากที่ไกลๆ ว่าเย็นชาและไร้ความรู้สึกแล้ว พอมองใกล้ๆ สัมผัสถึงเขาคนเดิมไม่ได้เลย เขาเย็นชาขึ้นมาก มากจนคิดว่านี่ไม่ใช่เขาที่เธอเคยรู้จัก วาคีลมองเธอด้วยแววตาว่างเปล่า ก่อนจะก้าวเท้าเดินออกไปโดยไม่ทักทายสักคำ แบบนี้เกินไปไหม? อย่างน้อยทักทายกันก็ยังดี “ไม่คิดจะทักทายกันหน่อยเหรอ?” เธอลุกขึ้นแล้วหันไปถามเขา วาคีลชะงักฝีเท้าลง ก่อนจะหันกลับไปมองมิวนิคด้วยท่าทางเฉยชา ยังคงไม่ปริปากพูดนอกจากมองคนตรงหน้านิ่งๆ “ตั้งใจเมินฉันเหรอ?” “…” “เงียบนี่คือ?” วาคีลไม่ตอบ เลือกที่จะหันหลังแล้วเดินออกไปจากตรงนี้ ด้วยความที่มิวนิคเป็นคนไม่ยอมอยู่แล้ว จึงพุ่งเข้าไปดึงแขนแกร่งหมายจะให้หันกลับมาอีกครั้ง แต่ทว่า… “นี่… ว้าย!!” กลับโดนอีกฝ่ายกระชากแล้วจับกระแทกใส่ผนังเย็นเฉียบจนปวดร้าวไปทั่วแผ่นหลังบาง หมับ! ปึก! “โอ๊ย!” เจ็บจนน้ำตาซึม นี่เป็นครั้งแรกที่วาคีลไม่อ่อนโยนด้วย ปกติเขาทะนุถนอมเธอมาก ครั้งนี้ไม่ใช่… เธอมองเขาด้วยแววตาไม่พอใจ พอเห็นแววตาวาคีลตอนนี้ที่กำลังมองมากลับทำให้เธอหยุดนิ่ง เพราะมันดูน่ากลัวมาก ไม่เคยเห็นเขามองเธอด้วยสายตาแบบนี้มาก่อน การกลับมาเจอกันครั้งนี้ วาคีลเปลี่ยนไปมากจริงๆ “ฉันเจ็บ!” “เจ็บให้ได้เท่าฉัน นั่นแหละถึงเรียกว่าเจ็บ…” กึก เธอนิ่งลงไปเมื่อได้ยินวาคีลตอบกลับมาแบบนั้น เขายังคงฝังใจกับอดีต แรงมหาศาลที่กดลงมาตรงต้นแขนสร้างความเจ็บปวดให้เธอไม่ใช่น้อย อยากโวยวาย ทว่าพอนึกถึงคำตอบเมื่อครู่ของวาคีล จึงทำให้เธอเลือกที่จะกัดฟันข่มความเจ็บนี้ บาดแผลที่ทิ้งไว้ให้วาคีลสาหัสมาก เจ็ยยิ่งกว่ากำลังถูกเขากระทำตอนนี้เสียอีก “ฉะ…ฉันเจ็บ” ทนความเจ็บนี้ไม่ไหวแล้วจริงๆ วาคีลกดแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนรู้สึกเหมือนกระดูกตรงต้นแขนกำลังแหลกละเอียดคามือเขา ผู้ชายแสนอบอุ่นคนนั้นหายไปไหนแล้ว นี่มัน…ปีศาจชัดๆ มุมปากหยักผุดรอยยิ้มน่ากลัว เมื่อมิวนิคแสดงท่าทีหวาดกลัวออกมาอย่างชัดเจน นี่ยังน้อยเกินไปถ้าเทียบกับสิ่งที่เธอทำกับเขาในอดีต “สำออย”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม