บทที่ 7
“ทำไมเข้าห้องน้ำนานจัง”
สุทธิดาตกใจเมื่อออกมาจากห้องน้ำแล้วเจอปฐพียืนรออยู่ที่ด้านหน้า และถ้าตาไม่ฝาดเธอเห็นความกังวลบนสีหน้าของเขาด้วยวูบหนึ่ง
“ก็หนูเล็กไม่ได้เดินเหินคล่องเหมือนคนอื่นนี่คะ” เธอแก้ตัวได้อย่างสวยงาม เห็นเขาพยักหน้าว่าเชื่อก็โล่งอก ภาวนาว่าอย่าให้หญิงสาวคนนั้นเดินออกมาในตอนนี้ “รีบไปกันเถอะค่ะ เดี๋ยวคุณพ่อรอนาน”
“ท่านคะ” แต่มันกลับได้ผลตรงกันข้าม
ปฐพีหันไปตามเสียงเรียก นิ่งอึ้งไปเล็กน้อยกับสายตาอาลัยอาวรณ์ และน้ำตาของหญิงสาวที่ชื่อนันทพร
“แมว..”
“ท่านยังจำแมวได้เหรอคะ”
“ฉันจำพนักงานของฉันได้ทุกคนอยู่แล้ว” เขาเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว สายตานิ่งเรียบเปลี่ยนเป็นไม่พอใจเมื่อพ้นจากสายตาของภรรยา “มีอะไรจะพูดกับฉันหรือเปล่า”
“คุณพีคะ” สุทธิดาเรียกสามี แตะแขนเขาจากด้านหลัง “คุณพ่อรออยู่นะคะ รีบไปเถอะค่ะ” เอ่ยเตือนเขาและมองหญิงสาวก่อนจะเดินจากไป
“ขอโทษนะ” เขาพูดกับภรรยาระหว่างที่โอบเอวเธอกลับไปหาบิดา
“เอาไว้ค่อยคุยกันที่บ้านนะคะ” หญิงสาวตอบ
“ท่านคะ” นันทพรยังไม่หมดอาลัยแม้เคยคิดที่จะตัดใจ รีบเดินตามและเรียกเขาเสียงสั่นเครือ.. แล้วต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อเขาหันมามองด้วยสายตาดุดัน มันทำให้เธอกลัวจนพูดต่อไม่ออก และรีบเดินหนีไปทั้งน้ำตา
เรือนหอของปฐพีและสุทธิดา
“ดูแลเมียให้ดี ๆ ล่ะไอ้ลูกชาย แล้วก็รีบมีหลานให้พ่ออุ้มสักทีล่ะ” ประมาณบอกลูกชายที่ลงจากรถพร้อมภรรยา
“ผมจะพยายามครับคุณพ่อ ผมเข้าบ้านก่อนนะครับ” ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาอุ้มภรรยามาไว้ในอ้อมแขน
ประมาณยิ้มกริ่มด้วยความพอใจกับภาพตรงหน้า “อือ”
“หนูลานะคะคุณพ่อ” สุทธิดาพยายามข่มความอาย ยกมือไหว้พ่อสามี
“จ้ะ”
“ขับรถดี ๆ นะวินัย” ปฐพีบอกกับคนขับรถของบิดา ยืนส่งจนรถขับออกไปจึงพาภรรยาเข้าบ้าน
“ขอบคุณค่ะ”
“ไม่เห็นต้องขอบคุณ ในเมื่อเราเป็นสามีภรรยากันแล้ว” บอกกับหญิงสาวที่วางลงบนโซฟา..
ตั้งแต่ที่ถูกเธอโผเข้ากอด หรืออาจจะตั้งตอนที่เห็นเธอในชุดผ้าขนหนู อารมณ์ความรู้สึกที่มีต่อเธอก็แปลก ๆ พิกล
“วันนี้ขอบคุณมากนะที่ทำดีกับคุณพ่อผมจนท่านตายใจ”
“เราเป็นพันธมิตรกันแล้วนี่คะ” เธอเอียงหน้ามองเขาและยิ้มให้เล็กน้อย “ว่าแต่คุณพีเถอะค่ะ มีเรื่องไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า”
“... คุณหมายถึงเรื่องผู้หญิงคนนั้นเหรอ”
“ค่ะ ถ้าคุณพีอยากพาเธอมาอยู่ที่บ้านก็ได้นะคะ หนูเล็กไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น..” เห็นเขามองเหมือนเธอเป็นตัวประหลาดก็ได้แต่เม้มปาก ทำไมล่ะ แปลกนักเหรอที่เธอเป็นเมียที่ใจป้ำขนาดนี้ “เรารักกันดีไม่ใช่เหรอคะ” เธอหมายถึงเวลาที่อยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่
เขาเคยต้องการให้เธอเป็นแบบนี้ ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับเรื่องส่วนตัวของเขา ต่างคนต่างอยู่กันไป แต่เมื่อเธอทำได้อย่างที่เคยพูดกันไว้ ทำไมเขากลับรู้สึกไม่พอใจเลยสักนิด ปฐพีนึกไปถึงหนุ่มฝรั่งที่เป็นคนรักของเธอ
“เรากำลังมีปัญหาใหม่คุณก็รู้”
ขมวดคิ้วสงสัยเมื่อเห็นเขาทำหน้าตาค่อนข้างเครียดขึ้นมา
“ปัญหาอะไรคะ”
“คุณพ่อผมอยากมีหลาน..” เขามองหน้าใสซื่อ ดวงตาใสแป๋วที่เหมือนจะถามว่าแล้วทำไม “เราคงต้องจัดการเรื่องนี้ให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา” เขากำลังหมายถึงเขาอยากจะปีนขึ้นเตียงของเธอ แต่ก็รู้สึกกระดากใจถ้าต้องพูดตรง ๆ เพราะเหมือนเขาเป็นคนแหกกฎที่ตั้งขึ้นมาซะเอง
แต่เขาต้องการเธอ ใจมันรู้สึกแบบนั้น
คำพูดของเขา ทำให้ใจของเธอแทบกระโดดออกมานอกอกด้วยความตื่นตระหนกตกใจ
“..ไม่มีปัญหาค่ะ” แต่ก็ตั้งสติตอบกลับไปได้อย่างรวดเร็ว
“หมายความว่า..” หลังจากที่นิ่งอึ้งไปสักครู่เธอก็ตอบกลับอย่างมั่นใจจนเขายังทึ่ง เพราะไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับเธอขนาดนี้
“คุณก็มีลูกกับผู้หญิงของคุณสักคนสิคะ ถ้าคลอดแล้วเอามาให้หนูเล็กสวมรอยเป็นแม่ให้ก็ได้ค่ะ หนูเล็กรักเด็ก ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว”
“คุณบ้าหรือเปล่า!” ตะคอกอย่างหัวเสียเมื่อได้ฟังความคิดเห็นของเธอ “ผมแต่งงานกับคุณ แต่จะให้ผมไปมีลูกกับผู้หญิงอื่น แล้วคิดหรือว่าพวกเธอจะยอมยกเฉพาะลูกให้เรา ผู้หญิงพวกนั้นก็หวังจะตกถังข้าวสารของผมกันทั้งนั้น”
“เงินทำอะไรก็ได้ไม่ใช่เหรอคะคุณพี ก็ลองเสนอเงินก้อนใหญ่ ๆ ให้เธอ รับรองว่าจะเลี้ยงดูลูกของเธออย่างดี ก็คงมีสักคนแหละที่ยอม หรือว่าคุณพีไม่กล้าพูดคะ ถ้าอย่างนั้นให้หนูเล็กออกหน้าช่วยเจรจาให้ไหมคะ”
“ต่ำที่สุด ผมไม่คิดเลยว่าคุณจะคิดได้ต่ำแบบนี้” เขามองเธอด้วยสายตาดูแคลน ก่อนจะเดินจากไปอย่างโกรธเคือง
อาการยิ้มแย้มกลายเป็นหม่นหมองทันที ที่เขาเปิดประตูกระจกเดินออกไป มองเขาเดินอ้อมสระว่ายน้ำหายเข้าไปในบ้านส่วนที่เป็นของเขา
แม้ก่อนที่จะแต่งงาน ถ้าเกิดว่าเขาไม่ยอมทำตามเงื่อนไข ไม่เดินตามหมากที่เธอตั้งใจวางเอาไว้ เธอก็ทำใจสำหรับเรื่องบนเตียงเอาไว้บ้างแล้ว แต่ก็ไม่เคยคิดถึงขั้นจะมีลูกกับเขา เพราะสิ่งที่เธอคิดมีเพียงเรื่องเดียว คือหาเรื่องทำให้เขาเบื่อและหย่าขาดจากเธอเท่านั้น
“คุณพีจะโกรธจะด่าอะไรหนูเล็กก็เชิญเลย แต่หนูเล็กมีลูกกับคุณไม่ได้จริง ๆ หนูเล็กไม่อยากมีห่วงผูกคอ ทำให้เป็นเรื่องลำบากใจเวลาต้องหย่ากัน เพราะหนูเล็กรับปากคุณแม่เอาไว้แค่หนึ่งปีเท่านั้น” เธอรำพันกับตัวเองก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องนอน และนั่งลงที่โต๊ะทำงาน ลงมือทำงานไปสักพักแต่ไม่มีสมาธิเอาเสียเลย จึงออนไลน์สายตรงไปหาเพื่อนรักที่เป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ
(ไฮที่รัก)
“ไฮมาร์คัส” หญิงสาวโบกมือใส่กล้องหน้าจอคอม เมื่อคนที่ทักทายมาก่อนไม่ใช่เพื่อนแต่เป็นคนรักของเขา “ที่รักคุณไม่อยู่เหรอ”
(เพิ่งเข้าห้องน้ำเมื่อสักครู่นี้เอง คุยกับผมไปพลาง ๆ ก่อนก็ได้นะ ผมชอบคุยกับสาวสวย)
“แต่ไม่รักคนสวย ๆ ใช่ไหม” หัวเราะเมื่อเขายักไหล่ทำหน้าตากึ่งตลก “จัสตินบอกว่าคุณติดงานเลยมากับเขาไม่ได้ เสียดายจังเลย ฉันเตรียมต้อนรับคุณเต็มที่เลยนะ”
(ผมก็เสียใจที่ไปกับเขาไม่ได้ ฝากคุณดูแลแฟนผมด้วยนะ แล้วก็..)
“แล้วก็อะไรคะ”
(ผมให้คุณยืมควงได้เต็มที่เลย แต่อย่าให้สามีคุณซ้อมเขาก็แล้วกัน)